เจ้านายฝ่ายเหนือ พิมพ์
เขียนโดย ภาษาสยาม   
วันพุธที่ 17 มิถุนายน 2009 เวลา 13:59 น.

เจ้านา
เจ้านายฝ่ายเหนือ

 

                                                                                      ขอขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต


          จากความตอนหนึ่งของพระนิพนธ์คำปรารภใน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ทรงประทานไว้ในหนังสือดารารัศมีว่า “คนภาคกลางส่วนหนึ่งมีความรู้เรื่องล้านนาน้อยมาก ไม่เคยนึกว่าเป็นเสมือนอีกประเทศหนึ่งที่มีวัฒนธรรมอันต่างกันฯ” ชี้ชัดให้เห็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าทางภาคเหนือของประเทศไทยนั้นเมื่อมีอดีตที่ควรค่าแก่การศึกษาและเป็นต้นกำเนิดแห่งราชวงศ์ฝ่ายเหนือ “ทิพย์จักราธิวงศ์” อันเป็นที่มาของเจ้านายฝ่ายเหนือที่ผู้อ่านสกุลไทยท่านหนึ่งสนใจและเขียนเป็นจดหมายมาถามท่านดังที่ท่านเคยได้ตอบผ่านทางคอลัมน์เวียงวังดังกล่าว และจากการที่ท่านได้ตอบจดหมายดังความที่ปรากฏแล้วนั้น พบว่ามีข้อความบางตอนที่ท่านนำลงเผยแพร่นั้นไม่ถูกต้องเริ่มตั้งแต่ลำปางในสมัยที่เจ้าพระญาสุลวฤาไชยสงครามหรือเจ้าทิพช้างปราบดาภิเษกเป็น พระเจ้าเหนือชีวิต พระเจ้าเหนือแผ่นดินล้านนานั้น นครเขลางค์หรือนครลำปางไม่ได้ขึ้นตรงต่อฝ่ายไหนทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นทางสยามและพม่า นครเขลางค์เป็นนครอิสระ แต่มีอาณาเขตใกล้กับทางพม่ามากกว่าทางสยาม ดังนั้นเจ้าพระยาสุลวฤาไชยสงครามจึงจัดเครื่องราชบรรณาการไปผูกสัมพันธ์กับทางพม่าทั้งนี้ เพื่อเป็นการปกป้องตนเองเกรงอิทธิพลพม่าที่มีกำลังแข็งกว่าจะเข้ามาครอบงำอีก ดังนั้นที่ท่านกล่าวว่านครลำปางในสมัยนั้นขึ้นต่อพม่าจึงผิดจากความเป็นจริง เพราะที่จริงแล้วนครลำปางผูกพันธ์กับพม่าก็เพื่อเป็นวิธีการเอาตัวรอดจากการเข้าครอบงำของพม่านั่นเอง

 

           

                         เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่

         อีกตอนหนึ่งที่ท่านกล่าวว่า ในสมัยรัชกาลที่นั้นได้โปรดให้เจ้ากาวิละไปครองนครเชียงใหม่ และโปรดให้เจ้าน้องอีก ๖ องค์ ไปครองนครลำพูนและลำปางในปี พ.ศ.๒๓๒๔ นั้น ขอเรียนให้พิจารณาแก้ไขเป็นในปี พ.ศ.๒๓๒๕ ภายหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ทรงปราบดาภิเษกเป็นองค์ปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีแล้ว ทรงโปรดเกล้าให้เจ้ากาวิละเจ้านครลำปาง  องค์ที่ไปครองนครเชียงใหม่เป็นพระเจ้านครเชียงใหม่องค์แรกโปรดให้เจ้าคำโสมอนุชา องค์ที่ครองนครลำปางสืบแทนเป็นเจ้านครลำปาง องค์ที่ ๔ และโปรดให้อนุชาอีก ๕ องค์ เป็นเจ้าอุปราช เจ้าราชวงศ์ และยังไม่มีการตั้งเมืองนครลำพูนในครั้งนี้

        เจ้านายพี่น้องทั้งองค์ นี้เป็นพระโอรสของเจ้าฟ้าสิงหราชธานีหลวงชายแก้วกับแม่เจ้าจันตาเทวี ซึ่งเจ้านายพี่น้องทั้ง ๗ องค์ นี้ทรงได้เป็นผู้นำทัพล้านนาเข้าร่วมกับทัพหลวงกรุงธนบุรีทำการกวาดล้างพม่าให้ออกไปจากดินแดนล้านนา มหาชนชาวล้านนาทั้งปวงจึงพร้อมใจกันขนานนามเจ้านายพี่น้องทั้ง ๗ องค์ ว่า “เจ้าเจ็ดตน ผู้ฟื้นแผ่นน้ำหนังดินล้านนา” ซึ่งคำว่าตนนั้นหมายถึง องค์ ของทางไทยสยามนั่นเองและเจ้านายพี่น้องทั้ง ๗ องค์ ดังกล่าวทรงมีพระนามดังนี้

๑. เจ้าชายกาวิละ เป็นเจ้านครลำปาง องค์ที่ ๓ และเป็นพระเจ้านครเชียงใหม่ องค์ที่เหล่าบรรดาเจ้านายบุตรหลานในพระองค์ต่างสืบเชื้อสายมาถึงปัจจุบัน เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือในราชสกุล ณ เชียงใหม่

๒. เจ้าชายคำโสม เป็นพระเจ้านครลำปาง องค์ที่เหล่าบรรดาเจ้านายบุตรหลานในพระองค์ต่างสืบเชื้อสายมาถึงปัจจุบัน เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือในราชสกุล ณ ลำปาง

๓. เจ้าชายธรรมลังกา เป็นพระเจ้านครเชียงใหม่ องค์ที่เหล่าบรรดาเจ้านายบุตรหลานในพระองค์ต่างสืบเชื้อสายมาถึงปัจจุบันเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือในราชสกุล ณ เชียงใหม่

๔. เจ้าชายดวงทิพ เป็นพระเจ้านครลำปาง องค์ที่เหล่าบรรดาเจ้านายบุตรหลานในพระองค์ต่างสืบเชื้อสายมาถึงปัจจุบัน เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือในราชสกุล ณ ลำปาง

๕. เจ้าชายหมูหล้า เป็นเจ้าอุปราชเมืองนครลำปาง ถึงพิราลัยในตำแหน่งเจ้าอุปราช เหล่าบรรดาเจ้านายบุตรหลานในพระองค์ต่างสืบเชื้อสายมาถึงปัจจุบัน เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือในราชสกุล ณ ลำปาง

๖. เจ้าชายคำฝั้น เป็นเจ้านครลำพูน องค์ที่ ๑ และเป็นพระเจ้านครเชียงใหม่ องค์ที่เหล่าบรรดาเจ้านายบุตรหลานในพระองค์ต่างสืบเชื้อสายมาถึงปัจจุบัน เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือในราชสกุลลำพูน และ ณ เชียงใหม่

๗. เจ้าชายบุญมา เป็นพระเจ้านครลำพูน เหล่าบรรดาเจ้านายบุตรหลานในพระองค์ต่างสืบเชื้อสายมาถึงปัจจุบัน เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือในราชสกุลลำพูน และเชื้อเจ็ดตน

         สำหรับในกรณีของผู้ที่มีสิทธิ์ใช้คำนำหน้านามว่า “เจ้า” ที่ท่านได้กล่าวไว้นั้นถูกต้องแล้ว และจากที่ได้อ้างถึงหนังสือเจ้าหลวงเชียงใหม่ ที่ได้อธิบายถึงคำว่า “เจ้า” นั้นก็ถูกต้องตามโบราณราชประเพณีและประการสำคัญการที่จะดำรงตนในวิถีชีวิตปัจจุบันนั้น ผู้ที่สืบเชื้อสายลงมาเป็น “เจ้า” จะต้องวางตัวในสถานะที่เหมาะสมรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีล้านนา มิใช่เพียงแค่ได้เป็นแต่เพียงผู้สืบเชื้อสายแล้วถูกเรียกขานนำหน้านามว่า “เจ้า” เท่านั้น ดังนั้นจากคำอธิบายถึงคำว่า “เจ้า” ในหนังสือเจ้าหลวงเชียงใหม่นั้น ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนดีที่สุด

         อีกประการหนึ่งที่ท่านได้กล่าวถึงว่าพบว่ามีการเรียกขาน “เจ้าหญิง” บางท่านว่า “เจ้าแม่” นั้นตามคำอธิบายที่ท่านกล่าวไว้ก็ถูกต้องด้วยประการทั้งปวง

         ในปัจจุบันนี้ เจ้านายฝ่ายเหนือ ที่ได้สืบเชื้อสายลงมาแต่เจ้าผู้ครองนครหรือเจ้าหลวงนั้นพบว่า ทั้งสามเมืองนครอันได้แก่ นครลำปาง นครลำพูนและนครเชียงใหม่นั้น ปัจจุบันยังคงเหลือเพียงแต่เจ้าหญิงบุษบงลำปาง เจ้าหญิงชราวัย ๙๐ ปี ธิดาของมหาอำมาตย์โท พลตรีเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิตฯ เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้ายอีกเพียงหนึ่งองค์เท่านั้น นอกเหนือจากนั้นนับว่าเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือที่ได้สืบเชื้อสายต่อมาในระดับชั้นหลานของเจ้าผู้ครองนครทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเจ้านายจากเมืองนครเชียงใหม่ นครลำปาง และนครลำพูน ทั้งนี้ผมได้หมายความรวมไปถึง “เจ้า” ที่มีชื่อเสียงปรากฏในวงสังคมและข่าวสารต่างๆ ในปัจจุบันและ “เจ้า” ที่ดำรงตนแบบเรียบง่ายที่มีอยู่อีกหลายท่านในประเทศ
ไทย

ที่มา ที่มาhttp://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.aspstcolumnid=489&;stissueid=2419&stcolcatid=2&stauthorid=13

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2011 เวลา 08:16 น.