ประวัติกู่เจ้านายฝ่ายเหนือวัดสวนดอก พิมพ์
เขียนโดย ภาษาสยาม   
วันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2014 เวลา 10:30 น.

 

พระเมรุพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่๗บริเวณข่วงเมรุ (ปัจจุบันคือกาดหลวง)

 



      สำหรับกู่เจ้านายฝ่ายเหนือวัดสวนดอกนั้นเป็นที่บรรจุอัฐิ พระอัฐิของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่

 

และเจ้านายฝ่ายเหนือ เดิมเคยตั้งอยู่บริเวณ ข่วงเมรุ ซึ่งเป็นสนามโล่งสำหรับเผาพระศพของเจ้า

 

ผู้ครองนครเชียงใหม่ ดุจเดียวกับทุ่งพระเมรุหรือสนามหลวงในปัจจุบัน และเมื่อเผาแล้วก็จะสร้างกู่

 

หรือที่เก็บกระดูกขึ้นในบริเวณนั้น ซึ่งเจ้าองค์สุดท้ายที่มีการสร้างเมรุขึ้นคือพระเจ้าอินทวิชยานนท์

 

เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๗ ผู้ซึ่งเป็นพระบิดา ของพระราชายาเจ้าดารารัศมี

 

 

 

หลังจากงานของพระเจ้าอินทวิชยานนท์แล้ว บริเวณรอบๆข่วงเมรุได้เริ่มมีการสร้างบ้านเรือนขึ้น

 

โดยบางส่วนบุกรุกเข้าไปในบริเวณข่วงเมรุ เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๙

 

ต้องจ่ายเงินถึง ๑๓,๐๐๐ รูเปียเป็นค่ารื้อย้ายบ้านเรือนที่บุกรุกเข้าไปข่วงเมรุและจัดสรรพื้นที่นี้

 

เป็นกาด หรือ ตลาด (บริเวณตลาดวโรรส ในปัจจุบัน) ต่อมา พระราชายาเจ้าดารารัศมีได้สด็จ

 

กลับเชียงใหม่ ทรงเห็นว่ากู่ ต่างๆนั้นกระจัดกระจายอยู่บริเวณกาด ดูไม่เป็นระเบียบไม่เหมาะสม

 

จึงพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ในการรื้อย้าย กู่บริเวณนั้นทั้งหมด และโปรดให้สร้างกู่ใหม่

 

ขึ้นในบริเวณวัดสวนดอก โดยมีแนวคิดมาจากสุสานหลวงวัดราชบพิธที่กรุงเทพฯ และ ให้ช่างจาก

 

กรุงเทพฯเป็นคนออกแบบและสร้างกู่โดยกู่ในยุคแรกนั้นเป็นสถาปัตยกรรมไทย-ล้านนา-ยุโรป

 

ผสมผสานกันหลากหลายโดยก่อนที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้เสด็จเชียงใหม่ครั้งหลังสุดนั้น

 

ยังโปรดให้ช่างของกรมศิลปากรออกแบบกู่ของพระองค์และถวายให้กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์

 

ทรงตรวจแก้ด้วย กู่ที่สร้างในยุคต่อๆมาจึงต้องอ้างอิงจากศิลปกรรมของกู่เดิมที่มีเมื่อแรกสร้าง

 

 

        เมื่อสร้างกู่และรื้อย้ายอัฐิมาไว้ ณ วัดสวนดอกแล้ว ทรงโปรดให้จัดงานเฉลิมฉลอง ๕ วัน ๕ คืน

 

และเป็นครั้งแรกที่มีการนำศิลปะการแสดงจากเมืองหลวงมาเผยแพร่ยังเชียงใหม่ด้วย คือ การแสดงละคร

 

เรื่องสาวเครือฟ้าซึ่งเป็นพระนิพนธ์ของกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์

 

 

  1. รูปภาพ : หมู่เฮาจาวสมาคมคนเหนือขอไหว้สา

....รำลึกเชียงใหม่แก้ว ............นคร..พิงค์เฮย
เมืองเอกเลิศอมร....................ยิ่งฟ้า
ยืนหยัดสถาพร.......................ยศยิ่ง..ล้ำแฮ
คงอยู่คู่ผืนหล้า ......................แว่นแคว้นแดนดิน

......สองมือขอกราบก้ม...........พนม..กรเอย
ผองเผ่าขอบังคม....................ราชเจ้า
ปวงข้าสมาคม.......................ของถิ่น..เฮานา
ขอนบถึงองค์เจ้า....................ผ่านภพเวียงเหนือ

                           (โคลงสี่สุภาพ โดย สมาคมคนเหนือ)

 

....รำลึกเชียงใหม่แก้ว ............นคร..พิงค์เฮย

เมืองเอกเลิศอมร....................ยิ่งฟ้า

ยืนหยัดสถาพร.......................ยศยิ่ง..ล้ำแฮ

คงอยู่คู่ผืนหล้า ......................แว่นแคว้นแดนดิน

 

.....

แก้ไขล่าสุด ใน วันจันทร์ที่ 01 ธันวาคม 2014 เวลา 08:34 น.