พระอภัยมณี พิมพ์
เขียนโดย ภาษาสยาม   
วันเสาร์ที่ 06 กันยายน 2008 เวลา 14:41 น.

                                                                  พระอภัยมณี

ผู้แต่ง
                 สุนทรภู่

ลักษณะการแต่ง กลอนสุภาพ

เรื่องย่อ

                  พระอภัยมณีและศรีสุวรรณเป็นโอรสของท้าวสุทัศน์และพระนางประทุมเกสรผู้ครองกรุงรัตนา

เมื่อพระอภัยมณีและศรีสุวรรณเจริญวัยขึ้น ท้าวสุทัศน์ให้ทั้งสองพระองค์ไปแสวงหาวิชาความรู้ตามแบบอย่างของ

กษัตริย์ทั้งหลาย พระอภัยมณีและศรีสุวรรณเดินทางแสวงหาความรู้ไปจนถึงหมู่บ้านจันตคาม ได้พบทิศาปาโมกข์

์๒ คน คนหนึ่งชำนาญในทางปี่ คนหนึ่งชำนาญในทางกระบอง พระอภัยมณีเลื่อมใสในทางปี่ ส่วนศรีสุวรรณเลือก

ศึกษาทางกระบอง โดยทิศาปาโมกข์คิดค่าเรียนไว้เป็นทองแสนตำลึง ทั้งสองพระองค์ใช้แหวนทองตีราคาเป็น

ค่าเรียนและได้เป็นศิษย์ศึกษาวิชาอยู่ในสำนักนั้น


                  เมื่อเรียนสำเร็จแล้วพระอภัยมณีและศรีสุวรรณก็ลาทิศาปาโมกข์กลับเมือง ทิศาปาโมกข์มอบปี่ให้แก่

พระอภัยมณีและมอบกระบองให้แก่ศรีสุวรรณ ท้าวสุทัศน์ทรงทราบวิชาที่ทั้งสองร่ำเรียนมาก็กริ้วว่า เลือกเรียนวิชา

ชั้นต่ำไม่สมกับที่เป็นโอรสกษัตริยจึงขับไล่ออกจากบ้านเมือง โอรสทั้งสองจึงต้องเดินทางระหกระเหินไปในป่าได้รับ

ความลำบากยิ่ง จนมาถึงชายทะเลแห่งหนึ่ง ได้พบกับพราหมณ์สามคน ชื่อวิเชียร โมรา และสานน พราหมณ์วิเชียร

มีความสามารถยิงธนูได้ทีละเจ็ดดอก พราหมณ์โมรา มีความสามารถผูกหญ้าเป็นสำเภายนต์ ส่วนพราหมณ์สานนม

ีความสามารถเรียกลมเรียกฝนได้ ทั้งห้าต่างแสดงวิชาให้กันและกันชม พระอภัยมณีแสดงวิชาเป่าปี่ให้สาม-

พราหมณ์ฟังเสียงปี่ทำให้ศรีสุวรรณและสามพราหมณ์นอนหลับหมดในเวลาไม่นานนักในเวลานั้นนางผีเสื้อสมุทร

ตนหนึ่งออกหากิน ได้ยินเสียงเพลงปี่ของพระอภัยมณีก็เกิดความรู้สึกปั่นป่วนใจ จึงตามหาต้นตอของเสียงปี่ เมื่อได้

้เห็นพระอภัยมณีก็เกิดความรัก จึงอุ้มพระอภัยมณีไปไว้ในถ้ำของตนเอง แล้วแปลงกายเป็นหญิงงาม พระอภัยมณี

รู้ว่านางเป็นยักษ์ แต่ต้องจำใจอยู่กินกับนางผีเสื้อสมุทรถึงแปดปีจนเกิดโอรสคนหนึ่ง ชื่อ สินสมุทร


                  สินสมุทรเป็นเด็กที่แข็งแรงมาก วันหนึ่งขณะที่นางผีเสื้อสมุทรออกไปหากิน สินสมุทรผลักก้อนหิน

ปากถ้ำที่นางผีเสื้อปิดไว้เพื่อขังพระอภัยมณีและสินสมุทรให้อยู่ในถ้ำออก แล้วหนีไปเที่ยว พบเงือกชราตัวหนึ่ง

ไม่รู้จักว่าเป็นตัวอะไร จึงจับมาให้พระอภัยมณีดู เงือกชราอ้อนวอนขอให้พระอภัยมณีสั่งในสินสมุทรปล่อยตัวไป

โดยให้สัญญาว่าจะพาพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทรไปยังเกาะแก้วพิสดาร โดยขอให้พระอภัยมณีทำอุบายให้

นางผีเสื้อสมุทรออกจากถ้ำไปที่อื่นสามวัน พระอภัยมณีเห็นว่าเป็นช่องทางที่จะหนีจากนางผีเสื้อสมุทรได้ประกอบ

กับความสงสารเงือกชราที่ถูกสินสมุทรทรมานจึงขอให้สินสมุทรปล่อยเงือกชราไปและห้ามเล่าเรื่องนี้ให้

้นางผีเสื้อสมุทรฟัง ต่อมานางผีเสื้อสมุทรฝันว่าเทวดาที่เกาะมาควักดวงตาทั้งสองข้างเหาะหนีไป นางตกใจตื่นจึง

เล่าความฝันให้พระอภัยมณีฟัง พระอภัยมณีได้โอกาสจึงทำนายฝันว่านางผีเสื้อสมุทรกำลังมีเคราะห์จะต้องไปถือศีล

สะเดาะเคราะห์ ห้ามกินเนื้อสัตว์ และไปถือศีลอยู่บนเขาสามคืน นางผีเสื้อสมุทรเชื่อจึงออกไปถือศีลอดอาหารอยู่

บนเขา พระอภัยมณีจึงเรียกให้เงือกชราพาหนีโดยมีเมียและลูกสาวเงือกชราติดตามมาด้วย


                  ครั้นครบกำหนดสามวัน นางผีเสื้อสมุทรเลิกถือศีลกลับมายังถ้ำ ไม่เห็นพระอภัยมณีและสินสมุทร ก็รู้ว่า

มีคนพาหนีจึงออกติดตามด้วยความโกรธ เมื่อติดตามมาใกล้จะทัน เงือกชราผัวเมียออกอุบายให้พระอภัยมณีไปกับ

ลูกสาว ส่วนตนเองและสินสมุทรจะหลอกล่อถ่วงเวลาไว้ เมื่อนางผีเสื้อตามทันเงือกชราผัวเมีย นางจึงฆ่าเสีย

แล้วติดตามลูกสาวเงือกที่พาพระอภัยมณีหนีต่อไปยังเกาะแก้วพิสดาร พอดีโยคีช่วยไว้ทัน พระอภัยมณี สินสมุทร

และนางเงือกจึงอาศัยอยู่กับพระโยคีที่เกาะแก้วพิสดารนั้น ส่วนนางผีเสื้อสมุทรเข้าไปบนเกาะไม่ได้ จึงวนเวียนอยู่

ในบริเวณนั้น พระอภัยมณีและสินสมุทรได้เรียนภาษาต่าง ๆ จากผู้คนหลายชาติหลายภาษาบนเกาะจนเชี่ยวชาญ

ต่อมาพระอภัยมณีได้นางเงือกเป็นชายา และภายหลังได้บวชเป็นฤาษีพร้อมกับสินสมุทรฝ่ายศรีสุวรรณและ

พราหมณ์์ทั้งสามคน เมื่อตื่นขึ้นมาไม่พบพระอภัยมณีก็โศกเศร้า และออกติดตามหาพระอภัยมณีมาถึงเมืองรมจักร

ซึ่งมีท้าวทศวงศ์เป็นเจ้าเมือง และมีพระธิดาชื่อ เกษรา เป็นหญิงที่สวยงาม มีเจ้าเมืองแขกชวาชื่อท้าวอุเทนมาสู่ขอ

แต่ท้าวทศวงศ์ไม่ยกให้ ท้าวอุเทนจึงยกทัพมาตีเมืองรมจักร ศรีสุวรรณและพราหมณ์ทั้งสามได้อาสาออกรบได้

ชัยชนะ ท้าวทศวงศ์จึงจัดงานอภิเษกศรีสุวรรณกับพระธิดาเกษรา ทั้งสองพระองค์มีพระธิดาชื่ออรุณรัศมี


                  กล่าวถึงท้าวสิลราช เจ้าเมืองผลึก มีพระธิดาชื่อสุวรรณมาลีได้หมั้นหมายกับโอรสเจ้าเมืองลังกาชื่อ

อุศเรน เมื่อใกล้กำหนดวันอภิเษก นางสุวรรณมาลีฝันว่าได้ไปเที่ยวทะเล เห็นดวงแก้วอยู่กลางเกาะ นางเหาะ

ไปหยิบได้ โหรทายว่าจะมีเคราะห์ แต่จะได้คู่ครองที่เหมาะสม นางรู้สึกไม่สบายใจ ท้าวสิลราชจึงพาเที่ยวทะเลมา

ถึงเกาะแก้วพิสดาร พระอภัยมณีและสินสมุทรขออาศัยเรือไปด้วย เมื่อนางผีเสื้อรู้เข้าก็ทำลายเรือจนเรือแตก

ท้าวสิลราชสิ้นพระชนม์ในทะเล พระอภัยมณีว่ายน้ำหนีไปบนเกาะแห่งหนึ่ง นางผีเสื้อสมุทรติดตามพระอภัยมณี

ีไปถึงเกาะ แต่ไม่สามารถขึ้นเกาะได้เพราะมนต์วิเศษของโยคีที่ให้พระอภัยมณีไว้ป้องกันตัว นางผีเสื้อสมุทรขอร้อง

ให้พระอภัยมณีกลับไปอยู่ด้วย แต่พระอภัยมณีไม่ยอม นางผีเสื้อจึงร่ายเวทย์ให้ฝนตก พระอภัยมณีหนาวสั่นจึง

ตัดสินใจเป่าปี่สังหารนางผีเสื้อ เมื่อนางผีเสื้อตาย พระอภัยมณีรู้สึกสงสารจึงคิดจะปลงศพให้ แต่ชีปะขาวมาห้ามไว้

พระอภัยมณีจึงปล่อยนางให้เป็นหินอยู่ที่เชิงเขานั้น


                  ฝ่ายอุศเรนคู่หมั้นของนางสุวรรณมาลี เมื่อทราบว่าคู่หมั้นของตนหายไปก็นำเรือออกค้นหา มาพบ

พระอภัยมณีที่เกาะกลางทะเล จึงรับพระอภัยมณีมาด้วย ส่วนสุวรรณมาลี เมื่อเรือแตกแล้ว สินสมุทรได้ช่วยเหลือ

นางและพาว่ายน้ำมาขึ้นที่เกาะแห่งหนึ่ง พบเรือของโจรสุหรั่งจึงได้ขออาศัยเดินทางกลับเมืองผลึกระหว่างทางโจร

สุหรั่งพยายามเกี้ยวนางสุวรรณมาลี สินสมุทรโกรธจึงฆ่าโจรสุหรั่งแล้วนำเรือออกค้นหาพระอภัยมณีมาถึงเมือง

รมจักร สินสมุทรรบกับศรีสุวรรณเพราะเข้าใจผิด สินสมุทรจับศรีสุวรรณได้ แต่ภายหลังได้รู้ว่าเป็นอาหลานกัน

ศรีสุวรรณ สินสมุทร สุวรรณมาลี และอรุณรัศมี จึงออกติดตามพระอภัยมณีจนพบเรือของอุศเรน อุศเรนขอ

สุวรรณมาลีคืนจากสินสมุทร สินสมุทรไม่ยอม เพราะรักนางสุวรรณมาลีเหมือนแม่ พระอภัยมณีขอร้องให้สินสมุทร

คืนนางสุวรรณมาลีให้อุศเรนด้วยสำนึกบุญคุณที่อุศเรนให้อาศัยเรือมา แต่สินสมุทรก็ไม่ยอม การกระทำของ

พระอภัยมณีในครั้งนี้ทำให้นางสุวรรณมาลีโกรธมากในที่สุดสินสมุทรจึงรบกับอุศเรน สินสมุทรจับอุศเรนได้

พระอภัยมณีขอให้ปล่อยอุศเรนไป เมื่ออุศเรนได้รับอิสรภาพกลับยกทัพมาต่อสู้อีกจนได้รับบาดเจ็บกลับลังกาไป


                  จากนั้นพระอภัยมณี ศรีสุวรรณ สุวรรณมาลี สินสมุทร และอรุณรัศมีก็เดินทางไปเมืองผลึก มเหสี

ท้าวสิลราชทราบว่าพระสวามีจมหายไปในทะเลก็คิดจะอภิเษกพระอภัยมณีกับสุวรรณมาลีเพื่อให้ครองเมืองต่อไป

แต่สุวรรณมาลีน้อยใจพระอภัยมณีอยู่ จึงหนีไปบวชชี ต่อมามีหญิงชื่อวาลี เป็นเชื้อพราหมณ์มีความรู้ไตรเพทและ

มีความเฉลียวฉลาด แต่รูปชั่วตัวดำ ได้อาสาเข้ารับราชการเป็นสนมพระอภัยมณีและออกอุบายให้พระอภัยมณีได้

อภิเษกกับสุวรรณมาลี หลังจากนั้นศรีสุวรรณ สินสมุทร และอรุณรัศมีลาพระอภัยมณีและสุวรรณมาลีไปกรุงรัตนา

เพื่อพบท้าวสุทัศน์และนางปทุมเกสร แล้วจึงกลับเมืองรมจักร ส่วนพระอภัยมณีก็ได้พระธิดาฝาแฝดกับนางสุวรรณ-

มาลีชื่อสร้อยสุวรรณและจันทร์สุดา


                  ส่วนทางเกาะแก้วพิสดาร นางเงือกคลอดพระโอรส โยคีตั้งชื่อให้ว่า สุดสาคร เมื่อเติบโตขึ้นมาได้

ร่ำเรียนวิชากับโยคี จนเก่งกล้าได้ม้านิลมังกรเป็นพาหนะและมีอาวุธคู่กายคือไม้เท้าวิเศษที่โยคีมอบให้

เมื่อสุดสาครเจริญวัยรู้สึกคิดถึงพระบิดา จึงลาพระโยคีออกตามหาพระอภัยมณีระหว่างทางพบอันตรายต่างๆ

ต้องต่อสู้กับผีดิบและถูกชีเปลือยซึ่งต้องการม้านิลมังกรและไม้เท้าวิเศษหลอกผลักตกลงไปในเหว ชีเปลือย

ได้ม้านิลมังกรกับไม้เท้าแล้วก็เดินทางเข้าเมืองการเวก พระโยคีมาช่วยสุดสาครไว้แล้วบอกให้เดินทางติดตาม

ชีเปลือยไปเอาของคืน เมื่อได้ของคืนแล้วสุดสาครได้พบกับท้าวสุริโยทัยเจ้าเมืองการเวก ทรงรักสุดสาคร

มากตั้งให้เป็นโอรสโดยมีพระธิดาเสาวคนธ์เป็นเพื่อนเล่น


                  ฝ่ายอุศเรน เมื่อกลับมาถึงลังกาก็จัดทัพเพื่อตีเมืองผลึกด้วยความแค้น โดยมีพระบิดาเป็นทัพหลวง

ส่วนตนเองเป็นทัพหน้า การศึกครั้งนี้พระอภัยมณีได้นางวาลีเป็นกำลังสำคัญในการวางแผน กรุงผลึกจึงรบได้

ชัยชนะพระอภัยมณีจับอุศเรนได้ คิดจะปล่อยไป แต่นางวาลีเห็นว่าหากปล่อยไปภายหลังจะมารบอีก จึงใช้วาจา

ยั่วจนอุศเรนกระอักเลือดอกแตกตาย ส่วนนางวาลีก็ถูกวิญญาณของอุศเรนสิงตายตามไป ส่วนเจ้าลังกาถูกธนู

ูยิงหนีไปรวมไพร่พลเมื่อพระอภัยมณีส่งศพอุศเรนมาให้ ก็โศกเศร้าจนตายไปอีกคน ทหารจึงนำพระศพกลับไปลังกา


                  ฝ่ายละเวงวัณฬาพระธิดาเจ้าเมืองลังกา เมื่อทำพิธีศพเสร็จก็ขึ้นครองเมือง มีสังฆราชเป็นที่ปรึกษา

ช่วยกันวางแผนแก้แค้นเมืองผลึกโดยวาดรูปนางละเวงส่งไปให้เจ้าเมืองต่างๆ เพื่อขอให้มาช่วยรบ โดยมีนางละเวง

เป็นรางวัลหากรบชนะ สังฆราชสอนวิธีทำเสน่ห์ยาแฝดให้นางละเวง และให้สร้างเมืองใหม่ใกล้ทะเล มีป้อมปราการ

มั่นคงในบรรดาเจ้าเมืองที่มาอาสาช่วยนางละเวงรบ มีเจ้าละมานเจ้าเมืองทมิฬรวมอยู่ด้วย เจ้าละมานเห็นรูปนาง

ละเวงก็หลงใหล จึงจัดทัพไปรบที่เมืองผลึก ฝ่ายพระอภัยมณีได้รู้กิตติศัพท์ของทัพเจ้าละมานว่ามีความเข้มแข็ง

กว่ามนุษย์ทั่วไปจึงใช้ปี่เป่าเป็นเพลงสะกดทัพเจ้าละมานให้หลับแล้วจับตัวขังกรงไว้ เจ้าละมานเมื่อแพ้ศึก ก็พร่ำ

เพ้อถึงแต่นางละเวง นำรูปขึ้นมากอดจูบ ผู้จึงนำรูปนางละเวงไปให้พระอภัยมณี เมื่อพระอภัยมณีเห็นก็หลงรัก

พระอภัยมณีให้นำทหารทัพเจ้าละมานไปปล่อยเกาะเพื่อมิให้กลับมาทำสงครามได้อีก เจ้าละมานเสียใจมากที่

พ่ายแพ้และเสียดายรูปนางละเวงจนตาย วิญญาณจึงเข้าสิงรูป ทำให้พระอภัยมณีหลงรูปนางละเวงจนเสียจริต

สุวรรณมาลีพยายามทำลายรูป แต่รูปนั้นมีวิญญาณสิงอยู่ทำให้ทำลายรูปไม่ได้สุดสาครพักอยู่ที่เมืองการเวก

เป็นเวลานานก็รู้สึกคิดถึงบิดาจึงทูลลาท้าวสุริโยทัยเจ้าเมืองการเวกออกตามหาพระอภัยมณี การเดินทางครั้งนี้มี

เสาวคนธ์และหัสไชย ธิดาและโอรสของท้าวสุริโยทัยตามไปด้วย ระหว่างทางผ่านเกาะกาวิน ผีเสื้อยักษ์โฉบ

เสาวคนธ์และหัสไชยไป สุดสาครฆ่าผีเสื้อยักษ์ได้แก้วตาวิเศษสองดวง มอบให้น้องคนละดวงเพื่อป้องกันตัว

จากนั้นเดินทางมาถึงเมืองผลึก เป็นเวลาเดียวกับที่พระอภัยมณีกำลังหลงรูปนางละเวง และมีทัพหลายทัพ

ที่อาสานางละเวงมาตีีเมืองผลึกล้อมเมืองอยู่ สุดสาครได้ช่วยสุวรรณมาลีรบ และได้พบศรีสุวรรณและสินสมุทร

ซึ่งเดินทางมาช่วยรบและได้ แก้ไขพระอภัยมณีจนพ้นจากอาการคลุ้มคลั่งหลงรูปวาด จากนั้นทั้งหมด

ก็ได้ช่วยรบกับกองทัพอาสาของนางละเวงถึงเก้าทัพคือ ทัพวิลยา ชวา ฉวี ละเมด มลิกัน สำปันหนา กะวิน

จีนตั๋ง และอังกุลา จนได้ชัยชนะ


                  หลังเสร็จศึก สุดสาครทูลลาพระอภัยมณีกลับเมืองการเวก ส่วนพระอภัยมณียกทัพไปตีเมืองลังกา

เป็นการตอบแทน นางละเวงให้เจ้าเซ็นระด่ำและเจ้ามะหุดออกมารบ แต่ถูกทัพผลึกตีพ่ายไปสินสมุทรถูกปืนข้าศึก

ยิงตกน้ำ ครั้นน้ำขึ้นร่างกายถูกพัดไปเกยหาดเมื่อถูกแดดก็ฟื้น และลอบเข้าไปในเมืองใหม่ เห็นนางละเวงก็เข้าจับ

แต่จับไม่ได้ เพราะนางละเวงมีตราพระราหูคุ้มครอง นางละเวงหนีกลับเมืองและตั้งค่ายกลตามตำราที่

พระสังฆราชสอนไว้ และทำรถกลมีรูปนางละเวงนั่ง ศรีสุวรรณและสินสมุทรออกรบติดค่ายกลของนางละเวง

พระอภัยมณีเห็นเสียทีจึงเป่าปี่ห้ามทัพ ทหารในกองทัพทั้งสองฝ่ายได้ยินเสียงปี่ก็หลับหมด นางละเวงมีตราราหู

คุ้มกันไว้จึงไม่หลับขี่ม้าออกรบกับพระอภัยมณี พระอภัยมณีเห็นนางละเวงก็เกิดความรักจึงเป่าปี่เกี้ยวนางละเวง

นางละเวงได้ฟังเสียงปี่ก็หลงรักพระอภัยมณีแต่ก็หักใจควบม้าหนี ระหว่างทางได้ดินถนันที่เรียกว่า นมพระธรณี

ซึ่งเป็นของวิเศษหากกินเข้าไปก็จะมีผิวพรรณผ่องใส และได้พบบาทหลวงปีโปแห่งบ้านสิกคารนำ นางละเวงขอ

ยุพาผกาและสุลาลีวันซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่บาทหลวงปีโปเลี้ยงไว้ นำกลับไปเป็นลูกที่ลังกา และเมื่อเดินทางมาถึง

ป่ากาลวัน นางละเวงก็ได้อ้ายย่องตอดผีดิบมาเป็นทหารรับใช้ด้วย


                  ส่วนพระอภัยมณีหลังจากนางละเวงหนีไปแล้วก็ยึดเมืองใหม่ของลังกาได้ จากนั้นยกทัพเข้าตีด่าน

ดงตาลนายด่านเสียชีวิตรำภาสะหรีลูกสาวนายด่านหนีไปเฝ้านางละเวงที่ลังกา นางละเวงให้ยุภาผกาและสุลาลีวัน

ยกทัพไปรักษาด่านเจ้าเขาประจัน ได้สู้รบกับเมืองผลึกอย่างเป็นสามารถแต่ไม่อาจเอาชนะได้นางละเวงคิดจะ

หย่าศึกปรึกษาสังฆราช สังฆราชออกอุบายให้นางละเวงลวงพระอภัยมณีให้เป่าปี่แล้วเผากองทัพเมืองผลึกเสีย

แต่นางละเวงนั้นรักพระอภัยมณีจึงปรึกษายุภาผกา ยุภาผกาเปิดสารที่บาทหลวงปีโปให้ไว้ออกดู ก็รู้ว่าเป็นชะตา

กรรม นางละเวงจึงออกอุบายให้ยุภาผกายกทัพออกไปหาพระอภัยมณี ให้พระอภัยมณีเป่าปี่เพื่อสะกดทัพแล้วพา

พระอภัยมณีไปหา นางละเวง พระอภัยมณีจึงเป่าปี่ ทำให้ทัพทั้งหมดหลับไปแล้วพระองค์กับยุภาผกาขึ้นรถ

นางละเวงไปเมืองลังกา ส่วนนางรำภาสะหรีก็ตัดหัวทหารที่มีหน้าตาคล้ายพระอภัยมณีส่งไปให้สังฆราช

สังฆราชคิดว่าพระอภัยมณีตายก็เก็บศพไว้ แล้วส่งสารไปยังศรีสุวรรณว่าจับพระอภัยมณีได้แล้ว ให้เมืองผลึก

เลิกทัพกลับไป แล้วจะปล่อยพระอภัยมณีส่วนศรีสุวรรณเมื่อตื่นขึ้นมาไม่เห็นพี่ ก็ให้คนไปสืบและลอบเข้าไปนำศีรษะ

ที่สังฆราช เก็บไว้ออกมาได้ คิดว่าเป็นพระอภัยมณีก็เสียใจ พอดีกับที่ทูตนำหนังสือจากสังฆราชมาให้ จึงจับทูต

ขังไว้แล้วให้สินสมุทรปลอมตัวเป็นทูตเข้าด่าน สินสมุทรจุดไฟเผาด่านและเปิดประตูรับกองทัพเมืองผลึก

กองทัพลังกาแตกพ่าย สังฆราชหนีไป ศรีสุวรรณค้นหาศพที่สังฆราชเก็บไว้จนพบ ก็รู้ว่าไม่ใช่พระอภัยมณี

จึงยกทัพ ล้อมลังกาไว้ นางละเวงต้องการให้เลิกศึกจึงให้พระอภัยมณี ส่งสารไปถึงศรีสุวรรณว่าจะอยู่ลังกา

ขอให้ศรีสุวรรณนำทัพกลับเมืองผลึกไป ศรีสุวรรณกับสินสมุทร จึงออกอุบายว่าพ่อแม่ส่งสารมาถึงและขอเฝ้า

พระอภัยมณี


                 ต่อมาศรีสุวรรณและสินสมุทรได้เข้าเฝ้าพระอภัยมณีที่ลังกานางละเวงเห็นว่าทั้งสองเป็นผู้นำทัพ หากได้

้ตัวไว้ศึกก็จะสงบ จึงให้รำภาสะหรีและยุภาผกาทำเสน่ห์ไว้ไม่ให้กลับออกไปพราหมณ์ทั้งสามไม่เห็นศรีสุวรรณและ

สินสมุทรออกมาจึงส่งสารไปถึงนางสุวรรณมาลีให้ส่งคนมาช่วยนางสุวรรณมาลีส่งสารไปถึงนางเกษราและสุดสาคร

แล้วนางก็พาลูกเดินทางไปลังกาสุดสาครเมื่อได้รับสารก็รีบยกทัพไปช่วยพร้อมกับหัสไชย สุวรรณมาลีส่งสารไปถึง

พระอภัยมณี นางละเวง ศรีสุวรรณ และสินสมุทร ฝ่ายนางละเวงได้รับสารก็มีสารโต้ตอบกลับมา สุวรรณมาลีได้รับ

สารตอบก็แค้นใจจะยกทัพเข้าลังกา แต่สุดสาครห้ามไว้และอาสาเข้าไปแก้เสน่ห์ในวัง แต่กลับถูกเสน่ห์ของนาง

สุลาลีวันเข้าอีกคน สุวรรณมาลีจึงส่งสารไปเมืองการเวกและเมืองรมจักร ท้าวทศวงศ์แห่งเมืองรมจักรยกทัพมากับ

นางอรุณรัศมี ส่วนท้าวสุริโยทัยเจ้าเมืองการเวกยกทัพมาพร้อมกับเสาวคนธ์และพราหมณ์ทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์

พราหมณ์ทิศาปาโมกข์ให้หัสไชยนำธงยันต์ไปแก้เสน่ห์ พาสินสมุทร และสุดสาครออกมาได้แต่ยุภาผกาและสุลาลีวัน

ให้สังฆราชช่วยแก้ให้และให้ย่องตอดสะกดทัพลักพาสินสมุทร และสุดสาครกลับไป แล้วเขียนสารปลอมของสุดสาคร

ตัดรักนางเสาวคนธ์ ทำให้นางเสาวคนธ์โกรธมากปลอมตัวเป็นชาวสิงหลไปหน้าป้อม ยิงแก้มสุลาลีวันด้วยธนู

นางละเวงเห็นสุลาลีวันบาดเจ็บก็โกรธมากสั่งยกทัพออกตีค่ายนางสุวรรณมาลีกลางดึก ทัพเมืองการเวกเข้าช่วย

สุวรรณมาลี ตีทัพเมืองลังกาแตกพ่าย พระอภัยมณีเป่าปี่เรียกนางละเวงแล้วคบคิดกับนางละเวงตีทัพเมืองผลึก

โดยจะเป่าปี่ให้ทัพเมืองผลึกหลับแล้วเผา แต่เมื่อทัพลังกายกออกมา ทิศาปาโมกข์ให้ทหารเอาขี้ผึ้งอุดหู แล้วทำพิธ

ีอันเชิญโยคีจากเกาะแก้วพิสดารมาช่วย และในขณะที่ทหารทั้งสองฝ่ายกำลังรบกันอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น พระ

โยคีก็มาเทศนาให้สงบศึก ทุกฝ่ายสำนึกในความผิดของตน และให้สัตย์ว่าจะรักกัน นางละเวงพาทุกคนไปเที่ยวชม

เขาโคตรเพชร นางเสาวคนธ์ขอโคตรเพชรจากนางละเวง นางละเวงก็ประทานให้ ขณะที่กำลังขุดโคตรเพชร

แผ่นดินเมืองลังกาก็ไหวเพราะโคตรเพชรเป็นของดีประจำเมือง


                  เมื่อเสร็จศึกพระอภัยมณีกลับเมืองผลึก แล้วอภิเษกสินสมุทรกับอรุณรัศมี แต่อรุณรัศมีได้ให้สัตย์

ด้วยความโกรธสินสมุทรไว้ว่าจะไม่แต่งงาน นางจึงไม่ยอมเข้าหอ ทำให้สินสมุทรป่วยเป็นไข้ใจ ท้าวทศวงศ์จึงให้

้อรุณรัศมีไปพยาบาล ส่วนเสาวคนธ์เมื่อรู้ว่าจะต้องอภิเษกกับสุดสาครก็ปลอมตัวเป็นฤาษีชื่อพระอัคนี หนีไปจนถึง

เมืองวาหุโลม ได้ต่อสู้กับเจ้าเมืองและตีเมืองได้ สุดสาครติดตามเสาวคนธ์ไปถึงเมืองวาหุโลม และได้

้นางเสาวคนธ์์เป็นชายา


                ที่เมืองลังกา เมื่อพระอภัยมณีเสด็จกลับไปแล้ว นางละเวงมีโอรสชื่อมังคลา รำภาสะหรีมีโอรสชื่อวลายุดา

ยุภาผกามีโอรสชื่อว่าวายุพัฒน์ และสุลาลีวันมีโอรสชื่อว่าหัสกัน นางละเวงมอบให้มังคลาครองเมือง สังฆราชยุให้

มังคลาไปชิงโคตรเพชรคืนจากนางเสาวคนธ์ มังคลาจึงให้หัสกันและวายุพัฒน์ยกทัพไปตีเมืองการเวก และได้ชิง

โคตรเพชรคืนไปลังกา ท้าวสุริโยทัยจึงส่งสารไปแจ้งข่าวที่เมือง ผลึกขณะนั้นพระอภัยมณีไปงานศพท้าวสุทัศน์ที่

เมืองรัตนา หัสไชยซึ่งพักอยู่ที่เมืองผลึกจึงรีบกลับเมืองการเวก สุวรรณมาลีส่งสารไปถึงไปถึงนางละเวง แต่สารถูก

มังคลาชิงไป มังคลาให้วายุพัฒน์และหัสกันยกทัพไปตีเมืองผลึก ทัพลังกายกมาตีเมืองผลึกและจับสุวรรณมาลี

สร้อยสุวรรณ และจันทร์สุดา ไปกักขังไว้ที่ด่านดงตาล จากนั้นมังคลาให้วลายุดายกทัพไปตีเมืองรมจักร พระกฤษณา

โอรสของศรีสุวรรณกับนางศรีสุดา ยุขันธ์บุตรพราหมณ์สานน มะหุดบุตรพราหมณ์วิเชียรและมังกรบุตรพราหมณ์

โมรา ยกทัพต่อสู้แต่วลายุดาก็สามารถหลบหนี นำท้าวทศวงศ์และมเหสีไปขังไว้ที่ด่านดงตาลได้


                  สุดสาครและเสาวคนธ์ทราบข่าวลังกายกทัพมาเผาเมืองการเวก จึงยกทัพไปเมืองลังกา เช่นเดียวกับ

หัสไชยที่ทราบว่าสุวรรณมาลีและสร้อยสุวรรณ จันทร์สุดาถูกจับก็ยกทัพไปลังกา รบกับวายุพัฒน์และหัสกันตั้งแต่เช้า

จนค่ำไม่มีใครแพ้ชนะ ทัพลังกาจึงกลับเข้าเมืองพอตกดึกหัสไชยยกพลมาตีทัพลังกาขณะกำลังหลับ รบกันถึงรุ่งเช้า

พอดีสุดสาครยกทัพมาถึงจึงช่วยหัสไชยรบมังคลารบแพ้หนีไปอยู่ที่ด่านเขาเจ้าประจัน


                  นางละเวงเมื่อทราบข่าวศึกก็โกรธลูกมาก จึงรีบออกไปช่วยสุวรรณมาลี สร้อยสุวรรณ จันทร์สุดา ท้าว-

ทศวงศ์ และมเหสี ที่ถูกขังอยู่ แล้วเชิญไปอยู่ที่ลังกา พระอภัยมณีและศรีสุวรรณเมื่อเสร็จงานศพท้าวสุทัศน์ทราบ

ข่าวการศึกจึงยกทัพไปเมืองลังกาและส่งสารขอให้มังคลายอมแพ้แต่โดยดีแต่มังคลาไม่ยอมจึงรบกัน สังฆราช

เห็นว่ามังคลาคงจะแพ้ศึก จึงเผาเมืองลังกา แล้วออกไปพบมังคลา จากนั้นจึงวางกลหุ่นพระอภัยมณี ศรีสุวรรณ

สินสมุทร สุดสาคร และเสาวคนธ์ ผูกติดไม้กางเขนเพื่อห้ามทัพนางละเวง นางละเวงจึงถอยทัพกลับ ต่อมาวางกล

หุ่นสุวรรณมาลี สร้อยสุวรรณ จันทร์สุดา และหัสไชย เพื่อห้ามทัพพระอภัยมณี พระอภัยมณีจึงเป่าปี่เพื่อจับมังคลา

และพรรคพวกมังคลามีตราราหูจึงหนีไปสังฆราช ส่วนวลายุดา วายุพัฒน์ และหัสกันถูกจับ แต่ภายหลังพระอาจารย

์ของแต่ละคนช่วยให้หลบหนีไปได้ พระอภัยมณีเข้าเมืองลังกา อภิเษกสุดสาครกับนางเสาวคนธ์และหัสไชยกับ

สร้อยสุวรรณ จันทร์สุดา หลังงานอภิเษกศรีสุวรรณพาท้าวทศวงศ์กลับเมืองรมจักร หัสไชยพาสร้อยสุวรรณ จันทร์สุดา

กลับเมืองการเวก สินสมุทรได้ครองเมืองผลึก สุดสาครได้ครองเมืองลังกา ส่วนพระอภัยมณีน้อยใจสุวรรณมาลี

และนางละเวงจึงตัดกิเลสทางโลก ออกบวชเป็นฤาษี โดยมีนางสุวรรณมาลีและนางละเวงร่วมบวชเป็นชีรับใช้

พระอภัยมณีอยู่ที่เขาสิงคุตร

ข้อความบางตอน

                                           แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์              มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด

                            ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด                         ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

                            มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน                               บิดามารดารักมักเป็นผล

                            ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน                               เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา

                            แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ                            ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา

                            รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา                                            รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

 

ที่มา : ประวัติวรรณคดีไทยสมัยสุโขทัยและอยุธยา ของเสนีย์ วิลาวรรณ