ถอดความศิลาจารึกด้านที่๓ พิมพ์
เขียนโดย ภาษาสยาม   
วันพฤหัสบดีที่ 06 สิงหาคม 2009 เวลา 12:45 น.

ด้านที่ 

             (งแต่)ง  เบื้องตีนนอนเมืองสุโขทัยนี้ มีตลาดปสาน มีพระอจนะ มีปราสาท

 

 มีป่าหมากพร้าว ป่าหมากกลาง มีโร่ มีนา  มีถิ่นถาน มีบ้านใหญ่บ้านเล็ก

 

 เบื้องหวนอนเมืองสุโขทัยนี้ มีกุฏีพิหาร  ปู่ครูอยู่ มีสรดีภงส มีป่าพร้าว ป่าลาง

 

มีป่าม่วง  ป่าขาม  มีน้ำโคก มีพระขพุง  ผีเทพดาในเขาอันนั้นเป็นใหญ่กว่าทุกผี

 

ในเมืองนี้

 

        ขุนผู้ใดถือเมืองสุโขทัยนี้แล้ไหว้ดีพลีถูก เมืองนี้เที่ยง เมืองนี้ดีผิไหว้บ่ดี พลีบ่ถูก

 

ผีในเขาอั้นบ่คุ้มบ่เกรง เมืองนี้หาย 

 

 

 

๑๒๑๔ ศกปีมะโรง พ่อขุนราคำแหงเจ้าเมืองศรีสัชชนาลัยสุโขทัยนี้ ปลูกไม้ตาลนี้

 

 ได้สิบสี่เข้า จึงให้ชั่งพันขดานหิน  ตั้งหว่างกลางไม้ตาลนี้วันเดือนดับ

 

เดือนโอกแปดวัน  วันเดือนเต็ม เดือนบ้างแปดวัน  ฝูงปู่ครู เถร มหาเถร

 

ขึ้นนั่งเหนือขดานหินสูดธรรมแก่อุบาสก ฝูงท่วยจำศีล ผิใช่วันสูดธรรม

 

 พ่อขุนรามคำแหง เจ้าเมืองศรีสัชชนาลัยสุโขทัย  ขึ้นนั่งเหนือขดานหิน

 

ให้ฝูงท่วยลูกเจ้าลูกขุน  ฝูงท่วยถือบ้านถือเมือง ครั้นวันเดือนดับเดือนเต็ม

 

 ท่านแต่งช้างเผือกกระพัดลยาง เที้ยรย่อมทองงา...(ซ้าย)  ขวา 

 

 

 ชื่อรูจาครี พ่อขุนรามคำแหงขึ้น  

ขี่ไปบนพระ (เถิง)  อรัญญิกแล้วเข้ามา  จารึกอันณื่ง มีในเมืองชเลียง

 

 สถาบกไว้ ด้วยพระศรีรัตนธาตุจารึกอันณื่งมีในถ้ำรัตนธาร ในกลวงป่าตาลนี้

 

มีศาลาสองอัน อันณื่งชื่อศาลาพระมาส อันณื่งชื่อพุทธศาสนา

 

 ขดานหินนี้ ชื่อมนังศิลาบาตร สถาบกไว้นี่ จึ่งทั้งหลายเห็น
แก้ไขล่าสุด ใน วันพฤหัสบดีที่ 06 สิงหาคม 2009 เวลา 12:50 น.