บทความเรื่อง การแสดงออกของเด็กไทยบนโลกไร้พรมแดน |
เขียนโดย ภาษาสยาม |
วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2013 เวลา 18:26 น. |
บทความเรื่อง การแสดงออกของเด็กไทยบนโลกไร้พรมแดน
โดย น้ำฝน ทะกลกิจ (น้ำฟ้า)
คงปฏิเสธไม่ได้ ว่าในปัจจุบัน “อาเซียน”เป็นคำที่ฮิตติดหูคนไทยมากกว่าคำใดๆ จึงทำให้สื่อหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นหนังสือ วิทยุ โทรทัศน์ฯลฯต่างก็ประโคมข่าวเรื่องประชาคมอาเซียนกันครึกโครม เพื่อให้คนไทยทุกคนได้รู้จักอาเซียน และเรียนรู้วิถีชีวิตแบบใหม่ที่จะต้องผสมผสานความเป็นไทยกับความเป็นอาเซียนให้ลงตัวที่สุด
ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาความเจริญของเทคโนโลยีต่างก็ไหลบ่าเข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างรวดเร็ว จวบจนทุกวันนี้ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน เวลาใด เราก็สามารถใช้อินเทอร์เน็ตเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง แช็ท เล่นเฟซบุ๊กหรือหาข้อมูลความรู้ได้อย่างสะดวก ทำให้สังคมไทยในปัจจุบันกลายเป็นสังคมโซเซียลเน็ตเวิร์คไปโดยปริยาย
เทคโนโลยีเอื้อให้มีการเข้าถึงได้ง่ายที่สุด จากคอมพิวเตอร์มาสู่โทรศัพท์มือถือซึ่งสามารถพกพาได้สะดวกกว่า และส่งผลให้เด็กไทยสามารถแสดงความคิด ความสามารถได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกัน จึงทำให้เราพบเห็นการแสดงออกของเด็กไทยจากยูทูป เฟซบุ๊กฯลฯได้โดยง่ายเพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส
แรกทีเดียวการแสดงออกของเด็กไทยมักจะเป็นการแสดงความสามารถพิเศษ ผู้ใหญ่จึงพากันส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ จนเกิดการเลียนแบบ อีกทั้งนำไปปรับใช้ ทว่าเป็นการปรับที่ต่างจากเดิมราวหน้ามือเป็นหลังมือ เหตุเพราะเด็กไทยบางคนมีความเชื่อและค่านิยมที่ผิด คิดเพียงว่าทำอย่างไรก็ได้ให้เกิดการแชร์ในเฟสบุ๊กหรือมียอดวิวในยูทูปมากๆเพื่อเป็นบันไดก้าวไปสู่ความเด่นดังและได้เป็นไอดอลของคนอื่นๆ เขาเหล่านั้นจึงกล้าที่จะโพสต์คลิปเสพยาบ้า คลิปแก้ผ้าโชว์ เปิดเผยของสงวนฯลฯให้ปรากฏแก่สายตาบุคคลทั่วไปอย่างไร้ความละอาย
นอกจากการถ่ายคลิปเพื่อโพสต์ลงในยูทูปแล้ว การให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งของการแสดงออกทางความคิดเด็กไทย เมื่อกระทรวงศึกษาธิการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ จนเป็นที่มาของการยกเลิกระเบียบตัดผมเกรียนในที่สุด หากก็ยังไม่เป็นที่พอใจ เมื่อพวกเขาถูกเชิญมาเป็นแขกรับเชิญในรายการโทรทัศน์อีกครั้ง ผู้เป็นตัวแทนพยายามเรียกร้องให้มากยิ่งขึ้น เช่น ให้ยกเลิกการสอบ ยกเลิกการใส่ชุดนักเรียน ยกเลิกการส่งเสริมความเป็นไทย และแนะนำให้มีการทำรัฐประหารในโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่านำมาวิเคราะห์ว่า เด็กเหล่านี้มีแรงบันดาลใจจากอะไร อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบไหน และได้รับการเลี้ยงดูอย่างไร จึงทำให้มีวิธีการคิดที่แตกต่างจากคนอื่นอีกทั้งเป็นไปในทางลบเช่นนี้
คลิปเด็กชายในชุดนักเรียนนั่งด่าคนขับรถแท็กซี่อยู่กลางถนน เหตุเพราะแท็กซี่ไม่รับ ซึ่งมีคนให้คำชื่นชมมากมายว่าเป็นคนกล้า คล้ายกับว่านั่นเป็นการกระทำที่ถูกต้อง ทั้งๆที่เป็นสิ่งผิดและเป็นนิสัยที่ควรปรับปรุงอย่างมาก หากปล่อยให้ติดนิสัยนี้ไปจนโต เด็กจะอยู่ในสังคมลำบาก แท็กซี่ไม่ใช่คนรับใช้ในบ้านที่จะสั่งการอะไรเขาก็ต้องทำตาม เขาเป็นคนขับรถรับจ้างซึ่งมีหลากหลายเหตุผลที่เขาจะรับหรือไม่รับเราขึ้นรถก็ได้ ถ้าอยากกลับบ้านเหมือนที่โวยวายในคลิปก็มีอีกหลายวิธีเช่นกันที่จะแก้ปัญหานี้ แต่เด็กชายกลับเลือกที่นั่งจะนั่งด่าแท็กซี่ เห็นแล้วทอดถอนใจ สังคมไทยป่วยขนาดนี้เลยหรือ
การคิดต่าง เป็นวิธีการคิดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมก็จริงอยู่ แต่ผู้คิดควรมีข้อมูล มีหลักการคิดวิเคราะห์ที่สมเหตุสมผล มิใช่ใช้อารมณ์และความต้องการของตนเองเป็นหลัก เมื่อคิดขึ้นมาแล้วควรมีการค้นคว้าวิจัยให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงก่อนนำมาเผยแพร่ ไม่ควรนำความคิดของตนออกมาอุปโลกน์ว่าคนอื่นๆก็เห็นด้วยอย่างเลื่อนลอยไร้หลักฐาน
เด็กไทย คือ อนาคตของชาติ หากเขาเหล่านั้นยังมีความคิดและความเชื่อผิดๆย่อมส่งผลร้ายต่อประเทศชาติมากกว่าผลดี การเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทันสมัยไม่ได้แปลว่า จะต้องหลงลืมรากเหง้าของตน หรือดูถูกความคิดความเชื่อแบบดั้งเดิมแล้วไปเชิดชูค่านิยมของต่างชาติขึ้นมาแทน เมื่อเด็กไทยจะก้าวไปสู่อาเซียนจึงควรรักษาความเป็นไทยควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตตามยุคสมัยอย่างมีเหตุผลให้ได้ การกระทำเช่นนี้ต่างหากที่จะเรียกว่า เป็นคนรุ่นใหม่ที่ฉลาดคิดอย่างแท้จริง |
แก้ไขล่าสุด ใน วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2014 เวลา 07:00 น. |