มีแต่คนมาบอกว่า “นักกลอนครูน้ำฝนคนนี้เก่งทุกอย่าง” บั๊ม กิตติพันธ์ บุบผานนท์ บั๊มเป็นเด็กที่ฝึกกลอนตั้งแต่ ม.๑ มีพื้นฐานมาบ้างแล้วแต่ก็ต้องฝึกเพิ่ม ต้องพัฒนามากขึ้น เพราะทีมงานเราแข่งขันระดับประเทศ ซึ่งครูบอกเสมอว่า ถ้าเราพยายามเท่าคนอื่นก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จ ดูเหมือนบั๊มจะเข้าใจและขยันขันแข็ง เป็นตัวอย่างที่ดีของน้องๆ

- _MG_5467_resize.jpg (77.21 KiB) เปิดดู 47323 ครั้ง
บั๊มเป็นคู่หูกับโม แรกๆทั้งสองจะมีรุ่นพี่คอยดูแล แล้วพอทั้งสองขึ้น ม.๕ ก็กลายเป็นรุ่นใหญ่ โดยเพื่อนรุ่นเดียวกันกระจัดกระจายไปหมด แต่พอเรานัดเจอกัน..ทุกคนก็มา เป็นความน่ารักของนักกลอนที่ครูประทับใจ
บั๊มเป็นคนขยัน ด้วยที่เป็นเด็กห้องกิ๊ฟเต็ด เน้นวิทย์-คณิต จึงเรียนหนักและมีงานมากกว่าคนอื่นๆ แต่ก็ยังแบ่งเวลามาประกวดกลอนเกือบทุกงานที่มีเข้ามา

- 1118.jpg (73.43 KiB) เปิดดู 47323 ครั้ง
งานแรกที่บั๊มได้รางวัลชนะเลิศ คือ รางวัลจากการแต่งกลอนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับรางวัลเป็นถ้วยพระราชทาน และเงินรางวัล ๒๐,๐๐๐ บาท ตามมาด้วยได้รางวัลชนะเลิศระดับประเทศในการประกวดแต่งคำประพันธ์งานรักษ์ภาษาไทย ของกระทรวงศึกษา ๒ ปีซ้อน จากนั้นจึงนำทีม ม.ต้นคว้าถ้วยพระราชทานในการประชันกลอนสดของ ม.รังสิต และรวมทีมกับพี่ ม.ปลายคว้าถ้วยรางวัลพระราชทานงานประชันกลอนสด ม.ธุรกิจบัณทิตย์ และตบท้ายปีนั้นด้วยการแท็กทีมโมชนะเลิศระดับประเทศการประกวดแต่งคำประพันธ์ ระดับ ม.ต้น งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ซึ่งปีนั้นระดับประเทศคือการนำที่หนึ่งของแต่ละภาคมาแข่งขันกัน ไม่ใช่จบในภาคแล้วบอกเป็นระดับประเทศอย่างปัจจุบัน หลังจากนั้นบั๊มก็ยังประกวดแข่งขันเรื่อยมาไม่ขาด ได้เข้ารับประทานรางวัลในงานวันแม่อยู่บ่อยๆ และไม่ได้ส่งแค่ร้อยกรองนะ ร้อยแก้วก็ส่ง เคยได้รางวัลการประกวดเรียงความด้วยเช่นกัน
บั๊มเป็นคนที่ต้องไปค้างต่างจังหวัดเพื่อแข่งระดับประเทศกับครูบ่อยกว่าคนอื่น เพราะมีทั้งงานเดี่ยวและงานทีม ในการแข่งขันระดับประเทศต้องไปหลายวัน อุดร อยุธยา พิษณุโลก ไปมาแล้วทุกที่ และไม่เคยต้องผิดหวัง จำได้ว่าครูไปต่างจังหวัดทีไรก็ป่วย กินยาและนอน โดยให้หัวข้อเอาไว้ให้บั๊มแต่ง พอแต่งเสร็จบั๊มก็จะมานั่งรออยู่ข้างเตียง รอครูตื่นมาตรวจ เช้าๆเราจะตื่นมาติวกันอีกรอบ ก่อนแข่งขัน เหนื่อย กดดัน แต่สนุก และได้ประสบการณ์

- 127899.jpg (133.73 KiB) เปิดดู 47323 ครั้ง
ตอนแรกบั๊มจะเป็นทันตแพทย์ตามที่แม่บอก ครูคิดว่าบั๊มทำได้ เพราะขนาดอยู่ห้องกิ๊ฟเต็ดเรียนหนักและยากกว่าห้องธรรมดา บั๊มยังได้เกรดเฉลี่ย ๔.๐๐ หรือ ๓.๙๐ ขึ้นไปแทบทุกเทอม ถ้าขยัน แน่วแน่ คงไม่พลาดเป้า แต่ในช่วงปลายๆ ม.๕ บั๊มกับโมพากันเดินเข้ามา หัวเราะคิกคักๆ บอกว่า อยากทำอย่างที่ชอบ “อยากเป็นครู” วันก่อนคุณแม่เล่าให้ฟังว่า บั๊มไปขอก่อนมาบอกครูว่า “ขอเรียนอย่างที่ชอบได้ไหม เงินเดือนครูก็เยอะนะ” คุณแม่หัวเราะ บอกว่า แม่ได้กังวลเรื่องเงิน แค่อยากให้เขาเป็นหมอ แต่ก็ได้หมดถ้าเขาชอบ ก็น่าอยู่หรอกนะ บั๊มเก่งมาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีคนมาชมทุกเรื่อง เป็นแม่สีก็ซ้อมลีดฯ คิดท่าเอง และได้ชนะเลิศอีกด้วย ทำงานส่งครูคนอื่นก็มีมาชมเสมอๆ ว่างานดี นักเรียนแบบนี้หายาก
ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย บั๊มไม่ได้ส่ง portfolio สมัครเรียนแบบกวาดเหมือนโม บั๊มอยากเรียนที่เดียวคือ ศรีนครินทรวิโรฒ จึงส่งที่เดียว และได้เหมือนกัน เพิ่งไปสอบสัมภาษณ์มาวันเสาร์ ก่อนสัมก็โทร.มาให้ครูติวกันทั้งคู่ คิดว่าติดรอบ port ทั้งคู่แหละ เราเรียนวิเคราะห์มาขนาดนี้ เวลาตอบคำถามคงไม่ได้ขี้เหร่จนตกไป แถมรางวัลของเราก็สูงและสม่ำเสมอ
พี่บั๊มเป็นตัวอย่างที่ดีของน้องเสมอ ครูเชื่อว่าบั๊มจะเป็นครูที่ดีได้ เพราะบั๊มเป็นเด็กที่คิดตามเวลาที่..บอก..สอนอะไร ชมอะไรคนอื่นให้ได้ยิน เช่น กิริยามารยาท เขาก็จะเอาไปปรับตาม
จะจบแล้วก็สู้ต่อไปนะทาเคชิ รอวันที่จะได้เห็นพวกแกใส่ชุดปกติขาวอยู่ จะได้ไปอวดเขาต่อว่า โอ๊ยยย แก๊งร้อยฝันของเราได้ดีทุกคน โอเค้