เที่ยวอำเภอพร้าว เชียงใหม่ ที่พัก อาหาร สถานที่น่าสนใจ

เสวนาภาษาไทย

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 25 ส.ค. 2019 6:22 pm

วัดป่าอาจารย์มั่น (ภูริทัตโต) บ้านแม่กอย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

วัดป่า1_resize.jpg
วัดป่า1_resize.jpg (59.27 KiB) เปิดดู 46210 ครั้ง


ในอดีตพื้นที่วัดป่าอาจารย์มั่น ภูริทัตโต นี้ ส่วนหนึ่งเคยเป็นวัดในบวรพุทธศาสนามาก่อน ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยชาวมอญ แต่จะเป็นในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ทราบเพียงว่าวัดนี้ชาวบ้านเรียกกันต่อๆมาว่า “วัดป่าแดง” เนื่องด้วยแต่เดิมนั้นบริเวณนี้เต็มไปด้วยป่าไม้แดงเป็นจำนวนมาก ต่อมาวัดนี้ถูกทอดทิ้งอยู่กลางป่าจนกลายเป็นวัดร้าง มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมทั่วบริเวณ แต่ก็ยังมีร่องรอยซากปรักหักพังบางส่วนปรากฏให้เห็นอยู่ ในระหว่างปี พ.ศ.๒๔๗๒-๒๔๘๓ ขณะที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายสมถวิปัสสนากรรมฐาน ได้เที่ยวจาริกขึ้นมาในเขตจังหวัดต่างๆในภาคเหนือเพื่อบำเพ็ญสมณธรรมนั้น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตได้เคยมาปักกลดพักบำเพ็ญเพียร ณ บริเวณสถานที่วัดร้างป่าแดงแห่งนี้อยู่หลายครั้ง และยังได้อยู่จำพรรษาอีก ๑ พรรษา

กุฏิหลวงปู่มั่น_resize.jpg
กุฏิหลวงปู่มั่น_resize.jpg (124.03 KiB) เปิดดู 46210 ครั้ง


อนึ่งในช่วงที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้ขึ้นมาพำนักบำเพ็ญเพียรสมณธรรม ณ บริเวณวัดร้างป่าแดงนั้น บรรดาพระภิกษุที่เป็นลูกศิษย์ของท่านจำนวนมาก อาทิเช่น พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี , พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร ม พระอาจารย์อ่อน ญาณศิริ , พระอาจารย์พรหม จิรปุญโญ, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร,พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ , พระอาจารย์ขาว อนาลโย ฯลฯ ได้เคยมากราบนมัสการและรับฟังโอวาท จากท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อยู่เสมอๆอีกด้วย

กาลเวลาผ่านไป ในราวประมาณปี พ.ศ.๒๕๑๖ คณะศรัทธาในเขตอำเภอพร้าวจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้เคยอุปปัฏฐากพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต สมัยที่ท่านได้มาบำเพ็ญเพียรสมณธรรม ณ บริเวณวัดร้างป่าแดงนี้ อาทิ นายสมัย ตวละ, นายผาย (ไม่ทราบนามสกุล), นายอุดม ปันต๊ะ ฯลฯ ได้ดำริร่วมกันที่จะพัฒนาวัดร้างป่าแดงนี้ให้กลับเป็นวัดที่มีภิกษุสงฆ์เข้าจำพรรษาได้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์โบราณสถานแห่งนี้ให้คงอยู่ถาวร และอนุรักษ์สถานที่ที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้เคยมาดำนักบำเพ็ญเพียรสมณธรรมไว้เป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงท่านตลอดไป

มหาธาตุมณฑป_resize.jpg
มหาธาตุมณฑป_resize.jpg (74.83 KiB) เปิดดู 46210 ครั้ง


น่าเสียดายที่บริเวณวัดร้างป่าแดงที่เคยมีพื้นที่กว้างขวางนั้น ได้ถูกประชาชนบุกรุกเข้าไปจับจองถากถางป่าแปรสภาพเป็นเรือกสวนไร่นา รวมทั้งขอให้ราชการออกเอกสารสิทธิ์เข้าครอบครองทำกินหมดแล้ว ยังเหลือพื้นที่ที่ยังคงเป็นป่าที่มีซากปรักหักพังบริเวณที่ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เคยปักกลดพำนักบำเพ็ญเพียรสมณธรรม เนื้อที่เพียง ๑ ไร่ ยังไม่กลายเป็นทุ่งนา แต่ทางราชการก็ได้ออกเอกสารสิทธิ์ให้ประชาชนถือสิทธิ์ครอบครองไปแล้ว ทางคณะศรัทธาก็มิได้ละความพยายาม ต่างพากันไปเจรจาขอซื้อพื้นที่ดังกล่าวจากประชาชนกลับคืนมา พร้อมกับการติดต่อขอซื้อสวนลำไยที่อยู่ติดกันได้อีกประมาณ ๘ ไร่เศษ รวมแล้วก็เป็นพื้นที่ประมาณ ๙ ไร่เศษ ซึ่งก็เพียงพอที่จะดำเนินการก่อสร้างเป็นวัดขึ้นมาได้

ปลายปี พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นต้นมา ได้มีการเริ่มก่อสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นโดยความอุปถัมภ์จากท่านพระอาจารย์สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาป่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งคณะศรัทธาจากอำเภอพร้าว อำเภอเชียงดาว อำเภอเชียงใหม่ และจากกรุงเทพมหานคร ในการสร้างสำนักสงฆ์นี้ได้อาราธนาพระอาจารย์ทองสุก อุตตรปัญโญ ซึ่งท่านจำพรรษาอยู่กับพระอาจารย์สิม พุทธาโร มาเป็นประธานสงฆ์และดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ

ในปี พ.ศ.๒๕๒๗ ทางคณะสงฆ์และคณะศรัทธาของ “สำนักสงฆ์พระอาจารย์มั่น” ได้มอบหมายให้นายอุดม ปันต๊ะ ซึ่งเป็นไวยาวัจกรของสำนักสงฆ์เป็นผู้ยื่นเรื่องราวต่อทางราชการ ทำการก่อสร้างยกฐานะขึ้นเป็นวัดต่อไปและก็ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างยกฐานะขึ้นเป็นวัดได้ตามการประกาศของอธิบดีกรมการศาสนา ลงวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ และต่อมาได้มีการประกาศเป็นทางราชการตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนาขึ้น โดยมีชื่อว่า “วัดป่าอาจารย์มั่น” ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๐ พร้อมกันนี้ทางฝ่ายบริหารของคณะสงฆ์ก็ได้แต่งตั้งพระอาจารย์ทองสุก อุตตรปัญโญ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสเป็นองค์แรก เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ วัดป่าอาจารย์มั่นมีพระสงฆ์เริ่มเข้าจำพรรษาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นต้นมา

วัดป่า2_resize.jpg
วัดป่า2_resize.jpg (98.78 KiB) เปิดดู 46210 ครั้ง


อ้างอิง : http://www.dhammathai.org/

พ.ศ. ๒๔๘๑ เจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม พนฺธุโล) นิมนต์หลวงปู่มั่นกลับภาคอีสาน หลวงปู่มั่นจึงมอบหมายให้หลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ ดูแลสำนักสงฆ์บ้านแม่กอย อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ [วัดร้างป่าแดง หรือ วัดป่าอาจารย์มั่น (ภูริทตฺโต) ในปัจจุบัน] ซึ่งในอดีตชาติของหลวงปู่มั่นนั้นเคยเป็นหมูป่า มีแหล่งหากินในบริเวณดังกล่าว ต่อมาหมูป่าตัวนั้นถูกนายพรานฆ่าตาย ท่านพลัดหลงมายังหมู่บ้านนี้เพื่อมาโปรดสุนัขแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่ง เมื่อท่านแผ่เมตตาให้หมาแม่ต๊องแล้ว ๔ วันต่อมามันก็ตาย หลวงปู่บอกกับแม่อุสาที่มาส่งข่าวให้ท่านทราบว่า “พี่เอ้ย(พี่สาว)ได้พ้นวิบากกรรมแล้ว !”

หลวงปู่พรหมนั้นเป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์บ้านแม่กอยจนกระทั่งหลวงปู่ขาว ขาว อนาลโย ธุดงค์มา จึงส่งไม้ต่อให้หลวงปู่ขาวเป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์แทน แล้วหลวงปู่พรหมก็ออกธุดงค์เข้าประเทศพม่าเป็นครั้งที่ ๒ โดยไปทางเมืองโต่น(เมืองต่วน)

อ้างอิง : หนังสือ หลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ โครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่ม ที่ ๑๔
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 25 ส.ค. 2019 7:08 pm

กุฏิหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต วัดป่าเมี่ยงแม่สาย ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
อีกหนึ่งธรรมสถาน" ที่พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร ได้เที่ยวจาริกบำเพ็ญสมณธรรม ภายหลังกลายเป็น "มงคลสถาน" ให้กุลบุตรกุลธิดาได้ดำเนินรอยตามปฏิปทาของท่าน

ป่าเมี่ยง1_resize.jpg
ป่าเมี่ยง1_resize.jpg (85.92 KiB) เปิดดู 46210 ครั้ง


ณ สำนักสงฆ์ป่าเมี่ยงแม่สาย ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ แห่งนี้หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เดินทางธุดงค์มาปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ในปี พ.ศ. ๒๔๗๖ การเดินทางมาในขณะนั้นมีโยมสม ขัติแก้ว ผู้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินสวนเมี่ยงแก่หลวงปู่มั่น ต่อมาได้มีหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่ขาว อนาลโยและหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นคณะสงฆ์รับการถวายที่ดินดังกล่าว

ป่าเมี่ยง3_resize.jpg
ป่าเมี่ยง3_resize.jpg (83.97 KiB) เปิดดู 46210 ครั้ง


สถานที่แห่งนี้นับเป็นที่สัปปายะอย่างแท้จริงดังเป็นที่ประจักษ์ชัดถึงการเดินทางมาปฏิบัติธรรมธรรมของพระอริยสงฆ์สายธรรมยุตจำนวนหลายรูป ณ ที่แห่งนี้เดิมมีทั้งกุฏิของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ แต่ได้ผุพังไปกับกาลเวลา คงเหลือแต่เฉพาะกุกิหลวงปู่มั่นที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมให้มีสภาพดีขึ้นมาในปัจจุบัน


ตามที่คณะปฏิบัติการวิทยาการ อพ.สธ. ได้เดินทางไปสำรวจพันธุ์พืชบริเวณหมู่บ้านป่าเมี่ยงแม่สาย ได้มีจิตศรัทธาร่วมกันในอันที่จะเผยแพร่ปฏิปทา คุณความดีของพระอริยะสงฆ์จึงมีความเห็นร่วมกันที่จะสร้างหุ่นเหมือนเท่าองค์จริงของหลวงปู่มั่นเพื่อประดิษฐานไว้บนกุฏิ พร้อมเครื่องอัฐบริขาร ตลอดจนประวัติคุณความดีของท่านได้เป็นที่รู้จักแพร่หลายสืบไป

ป่าเมี่ยง4_resize.jpg
ป่าเมี่ยง4_resize.jpg (82.04 KiB) เปิดดู 46210 ครั้ง


ประวัติของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่แห่งกองทัพธรรมสายวัดป่า

พุทธศาสนิกชนหลายคนคงรู้จักนาม พระครูวินัยธรภูริทัตโต หรือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เนื่องจากถือกันว่าท่าน คือ พระบุพพาจารย์แห่งพระวิปัสสนากรรมฐานในประเทศไทย อันเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นศึกษาและปฏิบัติภาวนาอย่างจริงจังจนบรรลุธรรม โดยท่านจะพำนักอยู่ตามป่าเขา เป็นที่มาของชื่อที่เรียกขานกันว่า พระฝ่ายอรัญวาสี พระธุดงคกรรมฐาน หรือ พระป่า ตลอดเส้นทางธรรมของหลวงปู่มั่น ทุ่มเทชีวิตให้กับการบำเพ็ญธุดงควัตรไม่เว้นวาย จนส่งผลเป็นประสบการณ์ทางธรรมที่มีคุณค่ามากมาย

หลังจากบรรลุธรรมแล้ว หลวงปู่มั่นได้เดินทางกลับไปยังภาคอีสาน พร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดความรู้ด้านการภาวนาที่ท่านเพียรศึกษามาอย่างยาวนาน ด้วยความถึงพร้อมทั้งปฏิบัติ ปริยัติ และปฏิเวธ ของหลวงปู่มั่น จึงได้รับการยกย่องจากผู้มีศรัทธาในพุทธศาสนาทั้งหลายว่า "เป็นพระผู้เลิศทางธุดงควัตร" มีผู้ติดตามศึกษากับท่านเป็นจำนวนมาก ทำให้พระป่าสายพระอาจารย์มั่น มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกขณะ จนสามารถขยายงานการเผยแผ่ธรรมในภาคอีสานได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในจังหวัดอุดรธานี หนองคาย นครพนม สกลนคร อุบลราชธานีและขอนแก่น จากนั้นแนวทางการสอนของท่านก็แพร่กระจ่ายไปตามภูมิภาคต่าง ๆ เกิดกองทัพธรรมอันเข้มแข็ง มีศิษยานุศิษย์เป็นพระเถระซึ่งเป็นที่เคารพของสมณะ และประชาชนมากมายในทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย

เส้นทางชีวิตของ หลวงปู่มั่น ภูมิทัตโต ได้ยุติลงด้วยสิริอายุ ๗๙ ปี ๙ เดือน ๒๑ วัน รวม ๕๖ พรรษา ทว่ามรดกธรรมของท่านจะยังคงดำรงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน

ภาพ : JinnyTent
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 25 ส.ค. 2019 9:18 pm

วันชนะวิว รีสอร์ต

วันชนะ1_resize.jpg
วันชนะ1_resize.jpg (66.46 KiB) เปิดดู 45765 ครั้ง


๗๔ หมู่ ๑ ตำบลน้ำแพร่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ โทร ๐๘๖ - ๖๕๖ - ๘๔๑๗
วันชนะวิว เป็นรีสอร์ตในสวนมะม่วง ใน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ทางเข้าเป็นถนนคอนกรีต ต่อด้วยถนนดิน มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปด้วย

ฤดูหนาวอันเย็นเยียบ กับละอองหมอกที่โอบคลุมผืนดอย
วันชนะ2_resize.jpg
วันชนะ2_resize.jpg (36.33 KiB) เปิดดู 45765 ครั้ง


แดดอ่อนยามเช้าส่องลอดทิวไม้ลงมาจางๆ
วันชนะ3.jpg
วันชนะ3.jpg (94.71 KiB) เปิดดู 45765 ครั้ง


ภาพแรกในยามเช้าคือเงื้อมเงาแห่งธรรมชาติ
วันชนะ4.jpg
วันชนะ4.jpg (49.22 KiB) เปิดดู 45765 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 25 ส.ค. 2019 9:26 pm

คุ้มคำแก้วรีสอร์ท หมู่ ๑ ต. ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
จองห้องพัก โทร.๐๘๙-๙๕๕-๙๐๐๒ (พิมพิลักษณ์ ชุมบุตร)

ฟาร์มแกะ สัตว์ต่างๆ และชมสวนผักสบายตา
150052_resize.jpg
150052_resize.jpg (75.92 KiB) เปิดดู 45765 ครั้ง


บ้านพักสไตล์ล้านนา กรุ่นๆอุ่นหัวใจ
คุ้มคำแก้ว1_resize.jpg
คุ้มคำแก้ว1_resize.jpg (126.6 KiB) เปิดดู 45765 ครั้ง


วิถีธรรมชาติ วิถีชุมชน
คุ้มคำแก้ว2_resize.jpg
คุ้มคำแก้ว2_resize.jpg (186.28 KiB) เปิดดู 45765 ครั้ง


หลองข้าวล้านนา (ยุ้งข้าว)
คุ้มคำแก้ว4.jpg
คุ้มคำแก้ว4.jpg (81.37 KiB) เปิดดู 45765 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย บ้านเพียงพอ » พุธ 28 ส.ค. 2019 10:52 am

"สิริเมืองพร้าว" บริการอาหาร กาแฟ เครื่องดื่ม ห้องสมุด ผัก ผลไม้สด และสัมผัสบรรยากาศชิลๆ
ที่ตั้ง ๑๑ หมู่๑๕ ต.สันทราย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ โทร.๐๙๕ - ๔๔๖ - ๘๖๓๐
สิริ6_resize.jpg
สิริ6_resize.jpg (76.11 KiB) เปิดดู 45739 ครั้ง


บรรยากาศสบายๆกับสายน้ำรินๆ
สิริ8_resize.jpg
สิริ8_resize.jpg (97.93 KiB) เปิดดู 45739 ครั้ง


ยามค่ำกับแสงไฟสีจางๆ
สิริ1_resize.jpg
สิริ1_resize.jpg (57.46 KiB) เปิดดู 45739 ครั้ง


ผัดสวนครัวรั้วกินได้..สวยงามไปอีกแบบ
สิริ_resize.jpg
สิริ_resize.jpg (105.17 KiB) เปิดดู 45732 ครั้ง
โลกใบเก่าเหงาเหมือนเคย
ภาพประจำตัวสมาชิก
บ้านเพียงพอ
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 136
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 20 ก.ค. 2008 8:47 am

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 11:31 am

บ้านพักภูพร้าว รีสอร์ท
บ้านพักภูพร้าว อยู่ที ๑๕๔ -๑๕๕ ถนน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๕๐ ตำบล ป่าตุ้ม อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่

ภูพร้าว2_resize.jpg
ภูพร้าว2_resize.jpg (77.5 KiB) เปิดดู 45668 ครั้ง


ภูพร้าว3_resize.jpg
ภูพร้าว3_resize.jpg (83.14 KiB) เปิดดู 45668 ครั้ง


ภูพร้าว4_resize.jpg
ภูพร้าว4_resize.jpg (43.52 KiB) เปิดดู 45668 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 11:51 am

น้ำตกห้วยป่าพลู บ้านสันฮกฟ้า หมู่ ๑๑ ตำบลสันทราย อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
น้ำตกห้วยป่าพลู เป็นธารน้ำตกอยู่กลางระหว่างภูเขา มีแบ่งเป็นชั้นๆ สงบ และเต็มไปด้วยความงดงามตามระบบนิเวศ
ห้วยป่าปู1_resize.jpg
ห้วยป่าปู1_resize.jpg (127.45 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


ห้วยป่าปู3.jpg
ห้วยป่าปู3.jpg (210.34 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


ห้วยป่าปู2_resize.jpg
ห้วยป่าปู2_resize.jpg (178.49 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 12:01 pm

ถ้ำหลากลาน [ถ้ำหลักลาน]

ถ้ำหลากลาน3.jpg
ถ้ำหลากลาน3.jpg (33.63 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


ถ้ำหลากลาน เป็นถ้ำปิด ซึ่งตามตำนานเดิมเป็นถ้ำเปิด เป็นที่เก็บสมบัติ สิ่งของเครื่องใช้โบราณ แต่มีคนเข้ามาขโมยสมบัติเหล่านั้นออกไปจากถ้ำ จึงมีเหตุให้หินถล่มปิดปากถ้ำ บริเวณด้านล่างปากทางเข้าถ้ำจะมี น้ำบ่อทิพย์ เป็นน้ำบ่อขนาดเล็กที่มีน้ำซึมออกตลอดทั้งปี ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีประเพณีสรงน้ำถ้าหลากลาน ประมาณเดือนมิถุนายน ของทุกปี

ถ้ำหลากลาน4.jpg
ถ้ำหลากลาน4.jpg (14.62 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


การเดินทาง : ห่างจากที่ว่าการอำเภอพร้าว ประมาณ ๑๑ กม. ตามเส้นทางหลวง ๑๑๕๐ (สายพร้าว - เวียงป่าเป้า) ถึงสี่แยกบ้านต้นกออก เลี้ยวซ้าย ผ่านบ้านต้นรุง บ้านทุ่งกู่ บ้านสหกรณ์แปลงห้า ซึ่งเป็นถนน คสล. ระยะทางประมาณ ๔ กม. จากนั้นไปตามเส้นทางถนนเลียบลำห้วยแม่ธาตุ(ลูกรัง) ระยะทางประมาณ ๓ กม. และต้องเดินเท้าขึ้นบริเวณถ้ำประมาณ ๓๐๐ ม.
ถ้ำหลากลาน1_resize.jpg
ถ้ำหลากลาน1_resize.jpg (103.83 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


ถ้ำหลากลาน2_resize.jpg
ถ้ำหลากลาน2_resize.jpg (110.06 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


ภาพ : ไทยตำบล.คอม , ผู้หญิง กินเหล้า
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 12:24 pm

ถ้ำผาแดง ตั้งอยู่หมู่บ้านผาแดง หมู่ที่ ๑๔ ตำบลสันทราย อำเภอพร้าว เป็นถ้ำที่ลึก และภายในถ้ำกว้างใหญ่ถึงขนาดที่ว่าสามารถเล่นฟุตบอลภายในถ้ำได้ และยังมีหินย้อยหินงอกที่สวยงามเรียงรายอยู่มากมาย
ผาแดง1_resize.jpg
ผาแดง1_resize.jpg (131.03 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


486677_resize.jpg
486677_resize.jpg (114.6 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


1525096752280_resize.jpg
1525096752280_resize.jpg (77.15 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 12:43 pm

บ่อน้ำร้อนบ้านโป่งบัวบาน

โป่งบัวบาน1_resize.jpg
โป่งบัวบาน1_resize.jpg (68.14 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


ตั้งอยู่หมู่บ้านโป่งบัวบ้าน หมู่ที่ ๑๑ ตำบลแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ (เส้นทางถนนเชียงใหม่-พร้าว) เป็นสถานที่ที่มีบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นบ่อน้ำอุ่นเกิดจากร่องห้วย ลักษณะมีน้ำใส พบแร่คาร์บอเนต ก๊าซผุดขึ้นมากับน้ำร้อนอยู่บ้าง กลิ่นกำมะถันเจือจาง ไม่รุนแรง ชาวบ้านใช้น้ำจากบ่อน้ำร้อนอาบน้ำในหน้าหนาว

cm15_resize.jpg
cm15_resize.jpg (103.48 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง


ภาพ : Wongnai Team,กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ไฟล์แนป
โป่งบัวบาน2_resize.jpg
โป่งบัวบาน2_resize.jpg (62.67 KiB) เปิดดู 45544 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 9:52 pm

วัดพระธาตุขุนโก๋น วัดพระธาตุขุนโก๋น บ.ตีนธาตุ ม.๔ ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

ขุนโก๋น_resize.jpg
ขุนโก๋น_resize.jpg (41.25 KiB) เปิดดู 46522 ครั้ง


วัดพระธาตุขุนโก๋นเป็นพระธาตุเก่าแก่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองพร้าว พระธาตุแห่งนี้มีมานานจนไม่สามารถทราบได้ว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง มีข้อมูลเพียงว่าในอดีตพระธาตุขุนโก๋นมีชื่อว่า พระธาตุเจ้าหัวเมือง เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมืองเคารพนับถือกันมาก หากปีใดฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เจ้าเมืองพร้าวจะนิมนต์พระตามวัดต่างๆ และเป็นผู้นำชาวเมืองพร้าวขึ้นไปขอฝน หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ และ
พระอาจารย์เนียมเคยมาธุดงค์และภาวนาอยู่ที่นี่ ในปี พ.ศ.๒๔๘๑ ซึ่งได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นที่วิหารด้านหน้าพระบรมธาตุเจดีย์
วัดถ้ำดอกคำ เป็นวัดที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตได้ใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญเพียร จากนั้นหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ,หลวงปู่สาร,หลวงปู่เทสก์,หลวงปู่อ่อนสี ก็ได้มาร่วมบำเพ็ญเพียรด้วยระยะหนึ่ง ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ พระอาจารย์มั่นได้บรรลุธรรมชั้นสูงสุด ณ วัดแห่งนี้ ก่อนที่ท่านจะเดินทางไปธุดงค์ยังดอยมะโน

ขุนโก๋น2_resize.jpg
ขุนโก๋น2_resize.jpg (142.23 KiB) เปิดดู 46522 ครั้ง


ขุนโก๋น3_resize.jpg
ขุนโก๋น3_resize.jpg (73 KiB) เปิดดู 46522 ครั้ง

(ภาพ : pimnuttapa แดนนิพพาน)
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 10:35 pm

วัดพระเจ้าตนหลวง (พระเจ้านั่งช้าง)วัดพระเจ้าตนหลวง บ.สบปั๋ง ม.๔ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

ตนหลวง3.jpg
ตนหลวง3.jpg (70.92 KiB) เปิดดู 46522 ครั้ง


สร้างในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย รัชกาลที่ ๖ เจ้าผู้ครองเชียงใหม่ (พ.ศ.๑๙๑๐-๑๙๓๑) ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าผายู ระหว่าง พ.ศ.๑๙๒๘ พระเจ้ากือนาธรรมิกราชได้เสด็จขึ้นมาที่เวียงพร้าววังหินโดยทางสถลมารค นำขบวนช้าง ขบวนม้า ขบวนเดินเท้านับหลายหมื่นคนขึ้นมา โดยมีช้างเผือกเชือกหนึ่งได้บรรทุกพระธรรมคัมภีร์และพระพุทธรูปสำคัญมาด้วย โดยที่พระองค์มอบหมายให้ เจ้าน้อยจันต๊ะ (จันทา) เป็นผู้ควบคุมดูแลและทำหน้าที่อัญเชิญพระพุทธรูป

เมื่อไพร่พลโยธาเดินทางมาถึงหมู่บ้านสบปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ จึงได้หยุดพัก ณ สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นเชิงเขา ช้างเผือกที่บรรทุกพระธรรมคัมภีร์และพระพุทธรูปองค์สำคัญนั้น ได้มานั่งคุกเข่าหมอบลง ไม่ยอมเดินทางต่อไป พระเจ้ากือนาธรรมิกราชจึงโปรดให้สร้างวัดขึ้น โดยให้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย ประทับอยู่บนหลังช้างประดิษฐานไว้ ซึ่งต่อมาเรียกว่า วัดพระเจ้าตนหลวง หรือชาวบ้านสมัยก่อนเรียกว่า พระเจ้านั่งช้าง เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสืบต่อมา

ในปีพ.ศ.๒๕๔๒ ได้รับรองสภาพวัดและขึ้นทะเบียนเป็นวัดที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ หลังจากสภาพวัดที่ถูกร้างมาหลายร้อยปี โดยมีพระอาจารย์สมเพชร สุทธจิตโต เจ้าอาวาสวัดพระเจ้าตนหลวงในปัจจุบัน

ตนหลวง2.jpg
ตนหลวง2.jpg (126.42 KiB) เปิดดู 46522 ครั้ง


ส่วนตำนานพระเจ้าเลียบโลก กล่าวว่า

“...เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาถึงบ้านสบปั๋ง เจ้าน้อยจันต๊ะ ได้อาราธนานิมนต์ให้นั่งบนหลังช้าง บรรดาประชาชนมีจิตศรัทธาได้นำเอามะพร้าวมาถวายองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นพระองค์เสวยเสร็จแล้ว ได้โยนกะลามะพร้าว หรือที่ชาวล้านนาพาเรียกว่า กะหลัง ขึ้นบนเขาลูกหนึ่งทางทิศตะวันออก ต่อมาจึงมีชื่อว่า “ดอยกะหลัง” พร้อมทั้งทรงประทานพระเกศาธาตุไว้ ต่อมามีผู้สร้างพระเจดีย์ครอบไว้บนนั้นเรียกว่า พระธาตุดอยกะหลัง อีกชื่อหนึ่ง

เมื่อมีผู้มาร่วมสรงน้ำพระธาตุ มักจะมีการทำบุญทำทานด้วยข้าวก้อนให้แก่นกกา ซึ่งในขณะนั้นมีกาเป็นจำนวนมากอาศัยอยู่ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ากาเหล่านั้นไม่สามารถลงจิกกินข้าวที่ให้ทานได้ มีแต่ว่าบินวนเวียนไปมา ชาวบ้านจึงพูดกันว่ามันคงจะหลงทางหรือหลงทิศ ต่อมาพระธาตุดอยกะหลังนี้ จึงเรียกเพี้ยนมาเป็น “พระธาตุดอยกาหลง” จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ส่วนเมืองนี้ก็มีชื่อว่า เวียงพร้าว เพราะเหตุที่พระพุทธเจ้าเสวยผล “มะพร้าว” ณ สถานที่นี้นั่นเอง”

ภาพ : แดนนิพพาน
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง สนทนากับคนภาษาไทย

ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน

cron