ความทรงจำของคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ ปัณยวณิช สาวน้อยล้านนา

เสวนาภาษาไทย

ความทรงจำของคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ ปัณยวณิช สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 1:57 pm

ที่นี่คือเรื่องราวของ "น้องปัณณ์" ปัณณ์รวีย์ หรือที่หลายๆท่านรู้จักในนาม น้องคำแก้ว
เป็นบันทึกการเลี้ยงลูก บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงปัจจุบัน โดยคัดลอกมาจากบทความในเฟซบุ๊ก Namfar Takonkit อัลบั้ม คำแก้ว ลิงก์ https://www.facebook.com/media/set/?set ... 745&type=3

:mrgreen: :mrgreen: ติดตามน้องคำแก้วได้ที่ กลุ่ม คำแก้วสาวน้อยล้านนา กดลิงก์ https://www.facebook.com/groups/164893523594805

#จดหมายถึงคำแก้ว
166536_2_2.jpg
166536_2_2.jpg (31.76 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง


๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๓

คำแก้ว..ลูกรัก

เดือนเต็มๆแล้วนะที่เราได้เห็นหน้า และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวัน หนูคือความงดงาม ความมหัศจรรย์ในชีวิตแม่ รู้ไหม..เพียงแค่รับรู้ว่ามีหนูอยู่ในท้องความตั้งใจอันแรงกล้าบางอย่างก็ถูกลบไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม่เฝ้ารอวันเวลา เฝ้าสังเกตการเติบโต และดูแลทารกในครรภ์ เหมือนสำนวนที่ว่า ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ไม่ว่าชีวิตจะต้องเปลี่ยนแปลงสักแค่ไหน จะต้องอดทนสักเท่าไร จะต้องพยายามสักเพียงใด ทำได้หมด ขอเพียงให้หนูปลอดภัย เติบโตมาเป็นสาวน้อยตาโตคนนี้ แม่มั่นใจว่าทำได้ทุกอย่าง...

การมีหนูไม่ใช่ 'อยากมีเพราะทุกคนมีกัน' ไม่ใช่ 'อยากมีเพื่อจะได้มีคนเลี้ยงตอนแก่' แต่เป็นเพราะถึงเวลาที่ควรมีลูกได้แล้ว พร้อมแล้ว อยากเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ อยากมีชีวิตน้อยๆเป็นพันธะให้ชีวิตมีเป้าหมาย พ่อแม่เตรียมร่างกายให้สมบูรณ์ ออกกำลังกาย กินอาหารดีๆ นอนให้เต็มที่ โชคดีที่แม่ไม่กินยาคุมจึงทำให้หนูถือกำเนิดขึ้นได้ไม่ยากนัก พอพูดเล่นว่าให้พ่อขอลูกกับคุณเทียด..ปลายเดือนนั้นหนูก็มา..เทียดของหนูเป็นคุณพระ ตำแหน่งพระพิจารณ์พาณิชย์ เป็นข้าราชการโบราณที่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีที่หนูควรเอาอย่างนะลูก

เรื่องราวของคุณเทียดของคำแก้ว พระพิจารณ์พาณิชย์ viewtopic.php?f=6&t=643

166530_2_2.jpg
166530_2_2.jpg (34.16 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

แม่เป็นคนที่แพ้ท้องหนักมาก แพ้ยันคลอดกันเลยทีเดียว แต่ก็ทน และพยายามกินอาหารให้ครบ ๕ หมู่ กินอาหารที่เหมาะสำหรับบำรุงครรภ์แต่ละช่วงๆ ที่เคยกลัวว่าถ้าท้องแล้วจะท้องลาย ร่างกายจะเผละ ฯลฯ ไม่มีอยู่ในหัว กลัวอย่างเดียว กลัวจะลื่นล้ม กลัวทำอะไรที่จะเป็นอันตรายต่อตัวหนู ระหว่างที่รอก็วางแผนชีวิตว่าจะเลี้ยงลูกอย่างไร จะสอนลูกอย่างไร วางแผนการเงินอย่างไร ทำอย่างไรให้ลูกเป็นคนดี เป็นที่รัก และเป็นที่ชื่นชมของคนอื่น แม่ไม่ได้ต้องการให้หนูเก่ง หรือเด่นดัง ให้คนอื่นยอมรับ แต่เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของตนเอง เราเกิดมาเป็นคนทั้งที ควรทำตัวให้มีค่า ให้เป็นที่รัก ที่ชื่นชมของคนอื่น หากทำได้ ย่อมแปลว่า ความดี และคุณธรรมในใจเรามีมากพอ นั่นย่อมมากพอที่จะภาคภูมิในเกียรติศักดิ์ความเป็นมนุษย์ของตนเอง แต่ถึงแม้จะแพ้หนักอย่างไร ข้อดีของการที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนก็คือ โรคปวดไมเกรนหายไป หายไปตั้งแต่เริ่มท้อง ยาไมเกรนมีฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบตัว ตอนแรกแม่จึงกังวลมากเพราะถ้าปวดแล้วไม่กินยามันจะไม่ยอมหาย และทรมานมาก กินก็มีผลต่อลูก ซึ่งแม่ได้ข้อสรุปว่าถ้าเป็นจะไม่กิน ปล่อยให้มันปวดไป ๓ -๔ วัน เดี๋ยวก็หายเอง แล้วมันก็หายจริง ไม่ใช่หายปวด แต่อาการไมเกรนหายไป อีกอย่างคืออาการปวดหลัง แม่คิดว่าตนเองใกล้เป็นโรคออฟฟิศซินโดรมเต็มที เพราะนั่งทำงานนานๆมาหลายปี แต่พอแพ้ท้อง ในทุกๆวันจะมีแค่อาเจียนกับนอน ทำงานไม่ได้ อาการเหล่านั้นก็หายไปเอง เห็นไหมหนูคือสิ่งวิเศษและมหัศจรรย์สำหรับแม่จริงๆ

คำแก้ว ในชีวิตแม่ไม่เคยเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล การคลอดหนูเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากสำหรับแม่ แต่คิดว่าอย่างไรก็ยอมได้หมดขอแค่ให้ลูกคลอดออกมาปลอดภัย วันที่คลอดลูก “เจ็บมากจริงๆ” แต่โชคดีที่มีคนดูแลคืออุ๊ยตองกับพ่อ อุ๊ยตองเป็นคนดูแลหนูในช่วงที่แม่ลุกไม่ไหว ส่วนพ่อเป็นคนพยุง และทำธุระแทนแม่ วันที่ต้องผ่าคลอดยอมรับว่ากลัว ก็ด้วยความที่ไม่ชินกับการเข้าโรงพยาบาลนั่นแหละ การผ่าตัดเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก กลั้นใจเดินไปหาหมอ ปล่อยให้เขาทำการผ่าตัด สิ่งที่กลัว สิ่งที่อาย ต้องยอมปล่อยวาง แต่พอได้ยินเสียงร้องของหนูดังก้องโสตประสาทแม่ก็ลืมทุกๆอย่างรอบตัว เงี่ยหูฟังแต่เสียงลูก ยิ่งตอนพยาบาลอุ้มหนูเข้ามาหา พยาบาลบอกว่า “จุ๊บคุณแม่หน่อย” แล้วยื่นหน้าหนูเข้ามาใกล้ แม่เห็นหน้าหนูครั้งแรกแค่เสี้ยววินาที ได้ยื่นหน้าไปหอมแก้มเบาๆ แล้วพยาบาลก็พาหนูออกไป หลังจากนั้นในหัวแม่ก็อื้ออึงด้วยถ้อยคำ นั่นลูกเราหรือ เด็กที่อยู่ในท้องเรามา ๙ เดือน เด็กที่ทุกคืนเรากับพ่อของเขาจะคอยสังเกตการดิ้น จะพากันคลำดู ถ้าเขาดิ้นเราจะตื่นเต้น หัวเราะ เปิดเพลงให้ฟัง และพูดคุยกับเขา ทุกๆถ้อยคำที่คิดนั้นทำให้น้ำตาแม่ริ้นขอบตา แหม..คนเข้มแข็งถ้าเจออะไรซึ้งๆก็มีน้ำตาได้เหมือนกัน
166529_2.jpg
166529_2.jpg (71.82 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

คำแก้วหนูโชคดีมาก โชคดีที่พี่ป้าน้าอาลุงปู่ย่าตายายในเฟซบุ๊ก และคนรอบข้างของแม่เอ็นดูหนู ที่โรงเรียนเขาบอกว่าพอมีหนู แม่อารมณ์ดี อ่อนโยนขึ้น ใจเย็นมากขึ้นด้วยนะ หนูได้รับของรับขวัญและของใช้มากมายจากทุกคน ทุกครั้งที่ลงภาพหรือเรื่องราวของหนู ยอดไลก์ ยอดคอมเมนต์จะเยอะมาก มากจนแม่ตอบไม่ไหว ต้องรอมาเปิดคอมพ์ฯถึงจะตอบหมด นี่แหละความเมตตานะลูก แม่ไม่คาดหวังว่าหนูจะทำให้ทุกคนภูมิใจ แต่อยากให้รู้ว่า “หนูเกิดมาห้อมล้อมด้วยความรัก” หนูโชคดีกว่าอีกหลายๆคนบนโลกใบนี้ หนูมีทุนรอนเป็นความร้กความเมตตา แม่อยากให้หนูได้ทำดี ได้ช่วยเหลือคนอื่นที่ลำบากกว่าเรา จึงตั้งชื่อหนูว่า “ปัณณ์” เป็นคำพ้องเสียงกับ “ปัน” หมายถึง แบ่ง ส่วนปัณณ์รวีย์ ปัณณ์ แปลว่า หนังสือ รวี หมายถึง พระอาทิตย์ แม่เติม ย์ เพิ่มเข้าไปเพื่อเสริมดวงชะตา ปัณณ์วรีย์ ของแม่จึงแปลว่า หนังสือเกี่ยวกับพระอาทิตย์ ความรู้เกี่ยวกับพระอาทิตย์ มันคือเรื่องราวของพระอาทิตย์นั่นเอง

คำแก้ว หนูอายุครบเดือนแล้วนะ ทุกวันทุกคืนแม่พยายามเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ให้นมเอง เพื่อเติมเต็มความอบอุ่นในช่วงที่เราได้อยู่ด้วยกัน ทุกคนมีหน้าที่ต้องทำ แม่เองก็เช่นกัน ในฐานะแม่ของลูก ภรรยาของสามี หลานของญาติผู้ใหญ่ ลูกของตากับยาย ฯลฯ แม่ก็ยังมีหน้าที่เป็นครูของนักเรียน ต้องทำงาน และงานทำให้เรามีเวลาให้กันน้อยลง แต่หนูต้องเข้มแข็งเหมือนแม่ อดทนเหมือนพ่อ คิดและทำด้วยเหตุผลเป็นหลัก ต่อไปลูกต้องฝึกจิตใจอีกมากมาย เพื่อให้แกร่ง ให้กล้า ให้มีคุณธรรม จริยธรรม แล้วความเก่งมันจะมาเอง แม่เชื่อว่าลูกของแม่ สายเลือดในอก เป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้น ลูกรู้ไหมช่วงที่ลูกคลอดใหม่ๆมีรอยเลือดติดผ้าอ้อมอยู่ อุ๊ยตองตกใจว่าทำไมฉี่ของหนูมีเลือดออก พยาบาลบอกว่า “เป็นเรื่องธรรมดาที่ฮอร์โมนของแม่จะติดมาอยู่ในตัวลูก”

คำแก้ว แม่พยายามคัดสรรสิ่งดีๆให้หนูมาตลอด ป้ากุ้งป้าแก้วยังบอกเลยว่า “คำแก้วสมบูรณ์ในทุกๆด้านเพราะพ่อและแม่ช่วยกันเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ มีลูกสอนลูกมีหลานสอนหลาน ว่าทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ไม่ต้องรอโชคช่วย” แม่เชื่อว่าทุกอย่างที่หนูได้รับมันสามารถสื่อไปถึงหนูได้ ชีวิตของหนูแม่ให้หนูเลือกเส้นทางของตนเองนะลูก และแม่เชื่อใจเสมอว่าลูกของแม่จะใช้เหตุผลในการตัดสินใจทุกๆเส้นทางที่ก้าวเดิน

รักลูกเสมอ

แม่

ป.ล.ภาพในวันคลอด ให้นมลูกครั้งแรก มือยังต่อสายน้ำเกลือ
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: น้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 3:08 pm

จากบันทึกในเฟซบุ๊ก วันที่ ๒๒ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๖๓
10999_2.jpg
10999_2.jpg (42.07 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

ให้ภาพเล่าเรื่อง ตอบโจทย์ทุกคำถาม 'ซ่อนเรื่องครอบครัวเก่ง'หลังจากมั่นใจว่าตนเองประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ชื่อเสียง ความเชื่อถือ ก็เริ่มคิดถึงความสมบูรณ์ของครอบครัว จึงคิดจะมีลูก

นี่คือคำตอบที่หลายๆท่านถามว่าทำไมผอมลง 'เป็นเพราะแพ้ท้อง' กินอะไรก็อาเจียน หน้าที่มีแค่อาเจียนกับนอน ตั้งใจจะเขียนม่านรักนิรมิตจึงหยุดไว้ก่อน โชคดีที่เปิดเทอมมานี้อาการดีขึ้นจึงทำงานได้ปกติ อาการเลี่ยนยังมีก็ทนเอา..

สำหรับ 'น้อง' เป็นเพศหญิง ทราบเพศไวตั้งแต่ ๓ เดือน ที่จัดการนายทะเบียนเรื่องเปลี่ยนนามสกุลก็ทำให้แม่สาวน้อยคนนี้แหละ เพราะก่อนจะท้องได้พูดกึ่งเล่นกึ่งจริง ขอลูกกับทวดของสามี ถ้าได้จะให้ใช้นามสกุลท่าน ก็เลยต้องดำเนินการตามที่ลั่นวาจาไว้ ในลิงก์นี้คือประวัติทวด..เก็บไว้ให้นางเป็นข้อมูลตนเอง..ตอนโต..ว่าที่มานามสกุลมาจากไหน


ขอบพระคุณทุกท่านที่เป็นห่วงค่ะ ไม่ได้ป่วยไข้อะไร ทุกวันนี้งานบ้านก็ไม่ต้องทำ ที่โรงเรียน ผอ.ก็สั่งว่าให้ดูแลเราด้วย..แต่ทำไม้ทำไมงานยังเยอะเหมือนเดิมก็ไม่รู้ ก็ทำหน้าที่กันไป

ดังนั้นเคสขอความช่วยเหลือเอย บอกบุญเอย ขอให้ท่านโพสต์เองก่อน..จะช่วยแชร์ ถ้าเราบอกบุญเองก็ต้องตามเช็ก ทำบัญชีแสดงหน้าเฟซ ช่วงนี้ไม่ค่อยไหว ขอใช้ชีวิตอย่างสบายใจๆก่อน เพราะงานส่วนตัวก็เยอะพออยู่แล้ว
166589_2.jpg
166589_2.jpg (49.99 KiB) เปิดดู 82373 ครั้ง

ก่อนท้องฝันเห็นปู่ให้พระ และมีงูตัวใหญ่มากๆนอนเฝ้าอยู่ข้างๆ (ที่มาของเลข ๐๙๕) ประกอบกับช่วงแรกๆแพ้หนักมาก ทุกคนจึงคิดว่าน้องเป็นผู้ชาย แต่พอซาวด์ และตรวจจากโครโมโซม ชัวร์ว่าเป็นผู้หญิง ก็เลยเรียกกันลำลองว่า คำแก้ว แต่จริงๆน้องมีชื่อแล้วค่ะ ทุกวันนี้นางทำให้ไม่ค่อยเหวี่ยงใคร ชอบฟังเพลงบรรเลง ดูคลิปธรรมชาติ ไม่ชอบกินเผ็ด และชอบพาหลงเข้าวัดบ่อย ตอนนี้มีหลายๆคนมาขอหมั้นไว้แล้ว..กำลังพิจารณาจะเอาใครเป็นลูกเขย

สุขภาพเราแข็งแรงดี หมอชมว่าเลือดโอเคมาก คงเพราะชอบออกกำลังกาย และไม่ชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ด..เฉลยคำตอบให้แล้ว หลายท่านอาจจะเดาถูก ขอบคุณที่ห่วงใยกันตลอดมานะคะ
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: น้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 3:16 pm

ปัญหามีลูกยาก
ในที่ทำงานของอิฉันมักจะมีคนบ่นเรื่องนี้บ่อยมาก เหมือนที่ชอบกล่าวกันว่า คนที่ลำบากๆมักจะมีลูกง่าย ส่วนคนที่พร้อมและอยากมีกลับไม่มี เท่าที่ฟังและสังเกตจะมีอยู่ ๒ ประเภท
117599_2.jpg
117599_2.jpg (24.79 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง


๑.อายุยังไม่มากแต่สุขภาพไม่ดี กลุ่มนี้จะมีปัญหาเรื่องโรคในร่างกาย บางคนต้องกินยาวันละหลายๆเม็ด บางคนมีซีสต์ในมดลูก บางคนประจำเดือนมาไม่ปกติ หนักสุดคือ เป็นหมัน

๒.อายุมากจึงมีลูกยากกว่าคนอายุน้อย เพราะเรียนจบมาก็พยายามทำงาน ทำตนเองให้มั่นคง ทำให้บางทีก็ล่วงเลยวัยไป

สำหรับอิฉันนั้นอยู่ในเกณฑ์บ้างาน ไม่รู้หรอกว่าพ่อคำแก้วเขาอยากมีลูกไหม เพราะปกติเขามักจะให้เราตัดสินใจในเรื่องต่างๆของครอบครัวอยู่แล้ว จนมีอยู่คืนหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์รายการของพี่กฤตชัยจบไป ก็มีความรู้สึกว่า เรานี่ก็ไล่ตามฝันได้หมดแล้วเนาะ งาน ชื่อเสียง ความเชื่อถือ การดูแลครอบครัว ฯลฯ แต่ครอบครัวเราขาดสีสัน ควรมีลูกได้แล้ว จำได้ว่าพ่อคำแก้วเคยชวนปรึกษาแพทย์..แต่อิฉันไม่ไป ตอบว่าเห็นคนไปกันเยอะแล้ว..หมดเงินหลายแสน แต่ก็ไม่ได้

เริ่มตั้งใจจะมีลูกใน ๒๕๖๒ ก็แค่ปล่อยไปตามธรรมชาติ ที่พิเศษขึ้นมาคือ กินโฟลิค (อาหารเสริมสำหรับคนเตรียมมีลูก) แต่ก็กินบ้างไม่กินบ้าง เพราะหมอหมาเพื่อนพ่อคำแก้วบอกว่ารอกินจริงจังตอนท้องก็ได้ (อินี่ไม่ปรึกษาสูติแพทย์นะ ฟังหมอสัตว์) แต่สิ่งที่เราทำมา ๒ - ๓ ปีแล้ว คือการออกกำลังกาย

เรามักจะพากันไปวิ่งแทบทุกวันที่ว่าง เพราะอิฉันเองก็มองเห็นว่า มันทำให้สุขภาพดีขึ้น พอร่ำๆจะเป็นไข้..ไปวิ่งก็หาย ประกอบกับธรรมชาติในสวนสาธารณะทำให้สุขภาพจิตดี เราจึงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การรับประทานอาหาร ไม่ได้เคร่งครัด แต่บังเอิญเป็นคนไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ (แต่กินได้นะ) หรืออาหารฟาสต์ฟูด และไม่ชอบขนมหวาน จึงเหมือนเป็นคนกินเพื่อสุขภาพ โดยนิสัยชอบกินนมจืดทุกเช้า
1200399_3.jpg
1200399_3.jpg (48.29 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

มองว่าสุขภาพสำคัญที่สุดสำหรับคนอยากมีลูก อิฉันประจำเดือนมาเป็นปกติ ตรงทุกเดือน เกิดมาไม่เคยกินยาคุม ไม่เคยมีปัญหาเรื่องมดลูก หรืออื่นๆ ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย จนนึกว่าตนเองกลัวเข็ม แรกๆที่ไปฝากครรภ์กลัวโดนฉีดยาและเจาะเลือดมากๆ แต่ไม่รอดหรอก รับรองว่าพรุน จึงได้รู้ว่าไม่กลัวเข็มเลย แค่ไม่โดนนานเท่านั้นเอง

เราใช้ชีวิตปกติ ไม่เครียด บางทีเห็นเหวี่ยงๆในเฟซ ไม่ได้เครียดนะ แต่เป็นคนใช้ภาษาหนัก..แต่อารมณ์ไม่มีอะไรเลย ยิ่งตอนคุมพฤติกรรมนักเรียน..อารมณ์เรียบมาก ไม่เคยตีเพราะโกรธ..ยังยิ้มได้ จากที่ฟังคนรอบข้างที่ไปหาหมอแล้วไม่ท้องมาเยอะบางคนไปหาหมอแพงๆที่ดาราไปกันแล้วไม่ท้อง ก็แอบคิดว่าเราอาจจะไม่มีลูกก็ได้ แต่พอถึงเวลาเขาก็มาเอง #เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวที่อยากมีลูกค่ะ

๙ สิงหาคม ๒๕๖๓
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: น้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 3:20 pm

#ชอบเล่าประสบการณ์ความรักแต่ทำไมไม่เล่าเรื่องพ่อคำแก้ว เอาสิ..วันนี้จะเล่าให้ฟัง เชิญทัศนา..
11899_2.jpg
11899_2.jpg (43.58 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

เริ่มจากแต่ก่อนอิฉันชอบเล่นโปรแกรมแชท เล่นทุกโปรแกรม ไม่ใช่แค่เล่นเฉยๆ เป็นเจ้าของห้องด้วย เรารู้จักกัน คุยเล่น ไม่คิดว่าจะได้เจอกันจริงๆเพราะมันไกล แต่แล้วหลังจากนั้นสองปีก็ได้เจอกันจริงๆ แรกๆก็มีดราม่าแฟนเก่าที่เลิกกันไป ๓ เดือนหาว่าเราไปแย่ง (ที่เคยเล่าไปก่อนหน้านั่นแหละค่ะ ว่าพอเคลียร์กันต่อหน้า สรุปนางบอกเลิกเอง)

เราผ่านวันเวลา ผ่านร้อน หนาว อุปสรรคมากมาย ผ่านการปรับ จูน หลายครั้ง เพราะเรามีความต่างทางสังคมอย่างยากที่เส้นทางจะเชื่อมกันได้ เคยผ่านจุดที่ขาดผึง..ต่างเคยลองคบคนอื่น แต่เจ้าทรงที่เชียงใหม่กลับบอกว่า 'เลิกกันไม่ได้หรอก เป็นเนื้อคู่กัน' เราไม่ได้เชื่อ แต่เวลาผ่านไปเขาก็พยายามปรับ..ไม่ใช่ตามใจเราดะหรอกนะ เขาอยากทำให้ดี เราเองก็พูดเสมอว่า เรากลัวคนดี เราจะไม่กล้าทำร้ายจิตใจ แต่ถ้าเลวมานี่ชอบ เพราะจะซัดกลับไป ไม่มีวันยอม

เรา..ผู้หญิงที่ทำงานหลายอย่าง แต่ทำคอมฯไม่เป็น

เขา..ผู้ชายที่คอยซัพพอร์ต ดูแลให้ เพราะเขาทำเป็น

เรา..เวิร์คกิ้งวูแมน ทำงานบ้านได้ ทำกับข้าวไม่เป็น

เขา..ก็ทำไม่ค่อยเป็น แต่ก็ฝึกจนเป็นเชฟประจำบ้าน

เรา..มีความฝันให้ไขว่คว้ามากมาย

เขา..เป็นผู้ชายที่คอยดูแล เคียงข้าง

เรา..เป็นคนที่ไม่ยอมคน ซัดทุกเรื่อง ไม่ไว้หน้า

เขา..ใจดี อ่อนไหว แต่ถ้าเรามีเรื่องก็พร้อมลุย เพราะเรื่องต่อสู้เขาถนัดอยู่มากพอสมควร

เรา..จะไม่คบผู้ชายที่พ่อแม่ ญาติไม่ปลื้ม ไม่ชอบที่จะเกิดปัญหา

เขา..เข้ากับพ่อแม่ ญาติๆก็เอื้อเอ็นดู
20959_2.jpg
20959_2.jpg (39.53 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

เรา..ผู้หญิงที่ทำทุกอย่างด้วยสองมือตนเอง อะไรทำได้ จะไม่ง้อผู้ชาย จนมีคำแก้วที่ใจเย็น และมีคนบอกว่าอ่อนโยนมากขึ้น..อ่อนแอบ้างในบางเวลา

ส่วนเขาก็เพิ่งมีช่วงเวลานี้ที่ได้ดูแลเราอย่างเต็มที่ ทุกอย่าง ทุกเรื่อง..แม้บางเรื่องไม่เคยทำก็ได้ทำ ดูเขามีความสุขกับการเปลี่ยนแปลงนี้

เรา..เป้าหมายคือครอบครัว คือสงบสุขในบั้นปลายชีวิต คือความภูมิใจ ความปรารถนาดีต่อกัน

เขา..ยอมรับและเข้าใจ ยอมปรับ จูนตาม ในสิ่งที่วิเคราะห์แล้วว่าดี และเป็นการเชื่อมสายใยครอบครัว

เรา..ก็ยังเป็นเราที่พร้อมรับทุกสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลง เราฝึกความเข้มแข็ง การยอมรับความจริง ไม่ว่าจะดี ร้าย ทุกข์ สุข

เขา..บอกว่า 'อยากเป็นคนที่ดี' เส้นทางชีวิตแสนยาวไกล เขาฝึกอะไรหลายๆอย่างตามแบบคนมีศีลธรรม แม้ชีวิตวัยรุ่นจะเคยสนุกสนาน..หลงระเริงชีวิต แต่ก็ตามเราเข้าวัด ทำกิจกรรมเพื่อสังคม

หากวิถีชีวิตที่ได้เลือกไว้ คือความสุขของคนสองคนเหมือนๆกัน มันคือทางรำไรสู่ปลายฝัน..บั้นปลายชีวิตที่ดีงาม

๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๓
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: น้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 3:39 pm

ความทรงจำวันเก่าเล่าเรื่องวันวิวาห์
121099_3.jpg
121099_3.jpg (88.68 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

วันนั้นได้เซ็ตงานให้เป็นแบบโบราณ ตัดพิธีการวุ่นวาย ฟุ่มเฟือยออก นับตั้งแต่การถ่ายพรีเวดดิง พิธีหมั้น การแต่งงานของเราเริ่มจากตอนเช้าไปทำบุญตักบาตร ถวายเจ้าที่ การเรียกขวัญ งานเลี้ยง และปิดท้ายด้วยการเข้าหอ โดยในพิธีเรียกขวัญเราใส่ชุดแบบล้านนาก่อนจึงไปเปลี่ยนชุดราตรีสีขาวมาตอนงานเลี้ยง

ปัจจุบันชุดทั้งหมดยังเก็บไว้ เพราะไม่ได้เช่า ไม่เช่า..แพงไหม..ชุดล้านนามีพี่ที่รู้จักกันตัดให้ในราคาหนึ่งพันบาทรวมค่าผ้า มีผ้าซิ่นทอมือที่แพงหน่อยผืนละสองพัน ส่วนชุดราตรีสั่งซื้อออนไลน์ เป็นชุดที่ลดราคาจากสามพันกว่าบาทเหลือ ๙๙๙ บาท เพราะเหลือแค่ไซส์ S และมีเพียงตัวเดียว เราใส่ได้ ชุดเจ้าบ่าวนั้น ชุดแบบล้านนา..งบไม่เกินห้าร้อย ส่วนสูทมีผู้ใหญ่ที่นับถือมอบให้ เครื่องประดับทั้งหมดต้องแบบล้านนาๆ ช่างแต่งหน้าเอาของใหม่แกะกล่องให้ยืม รักจัง

วันงานเราปิดรีสอร์ตให้แขกเข้าพัก เนื่องจากแขกเหมารถมาจาก กทม. บ้างก็ขึ้นเครื่องมา เยอะมาก แต่ปิดรีสอร์ตไม่ได้แพงนะคะ บ้านหนึ่งหลังราคาเพียง ๔๐๐ บาท อาหารเป็นโต๊ะจีน ไม่คิดค่าเช่าสถานที่คิดแค่ค่าอาหารรวมๆค่าอาหารเครื่องดื่มตกไม่เกินเจ็ดหมื่น รสมือพ่อครัวเป็นที่ถูกใจแขกมาก สั่งโต๊ะจีนแต่ให้ลงอาหารพร้อมกันหมด ชอบอะไรเลือกได้เลย แขกชมว่าอร่อยเด็ด

ซุ้มถ่ายรูป มาลัย บายศรี ป้ายฉากงานแต่ง มีพี่ที่เคารพนับถือพ่อทำให้ในราคาเพียงเจ็ดพันบาท ทุกอย่าง..ทุกคน..ทุกฝ่าย เมตตาเรามาก จนไม่ทำให้ราคาบานปลาย

อย่างที่บอกว่าตอนคุยกันเรื่องสินสอดพ่อแม่พูดว่า ไม่ได้ขายลูกกิน เราภูมิใจในตัวพ่อแม่มากๆที่มองอนาคตมากกว่าหน้าตา ไม่มัวนั่งอวดสินสอดกัน ทั้งๆที่บางงานวางสินสอดมหาศาล..เสร็จงานต้องคืนเจ้าของ บ้านเราเลือกที่จะทำตามจริง เจ้าบ่าวนั้นใช้เงินไปกับการดูแลครอบครัวเรา รวมไปถึงเรื่องที่ทางก่อนหน้านี้หลายแสน เราจึงซื้อสร้อยไว้เป็นที่ระลึกก็พอ ส่วนเงินที่เตรียมมาก็เก็บไว้ดูแลพ่อแม่ และเป็นเงินสำรอง ดีกว่าละลายแม่น้ำ

งานแต่งของเรามีผู้ใหญ่ให้ความเมตตามาร่วมงานอย่างอบอุ่น รวมถึงครูบาอาจารย์ที่เคยสอน ท่านมาเป็นเกียรติ และอยู่จนงานเลิก จำนวนแขกบานปลายจนต้องเอาการ์ดไปถ่ายเอกสารเพิ่ม ในวันงานที่เซ็ตที่นั่งไว้ในอาคารหลังใหม่ของรีสอร์ตซึ่งมี ๒ ชั้น ปรากฏว่าคนเต็ม ต้องจัดโต๊ะในอาคารหลังเก่าเพิ่มก็เต็มเช่นกัน

ซองงานแต่ง ด้วยความที่เราจัดในอำเภอบ้านเกิด คนแถวบ้านจึงใส่ซองไม่มากนัก ต่ำสุด ๖๐ บาท ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ ๑๐๐ บาท แต่ไม่ว่ากี่บาทเราก็ไม่ซีเรียส แสนจะดีใจที่เขามาเป็นเกียรติ เงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ มิตรภาพในวันต่อไปสิสำคัญ ถามว่ารวมๆแล้วเข้าเนื้อไหม ไม่เลย ผู้ใหญ่ที่นับถือหลายท่านใส่ซองหลักพัน มีหลักหมื่นด้วย

เราจัดงานตามสไตล์เรา..ไม่สนความคิด สายตาใคร เราเอาความสบายใจ และพอผ่านไปนานๆจึงรู้ว่า 'คิดถูก' เพราะไม่เดือดร้อนต้องมาใช้หนี้มหาศาล ญาติผู้ใหญ่สองฝ่ายก็รักและดูแลกันดี

ส่วนการวางแผนมีลูกนั้น แรกๆเรายังไม่มีความคิดที่จะมีลูก เพราะต้องออกงาน ทั้งเป็นวิทยากร ให้สัมภาษณ์โน่นนี่ จะมาท้อง..โอย..ไหนจะท้องโย้ไปทำงาน สภาพจะเป็นไง ท้องจะลายไหม น้ำหนักจะลดได้ไหม

จนวันหนึ่งที่มันอิ่มตัว เราพร้อม พอใจในความสำเร็จของตนเองแล้วจึงอยากมีลูกขึ้นมาเพื่อเติมเต็มครอบครัว น้องคำแก้วก็มาในช่วงเวลาที่เหมาะสม แพ้หนักมาก..อาเจียนวันละหลายรอบ บางวันถึงกับปวดต้นคอ เลือดกำเดาไหล เพื่อนเป็นเภสัชบอกว่า หมอทำวิจัยพบว่า คนแพ้หนักๆรกจะแข็งแรง ลูกไอคิวดี คำแก้วแข็งแรงมาก ไม่เคยมีภาวะแท้งคุกคาม ผลเลือดก็ไม่ทำให้หมอหนักใจ ติดเรื่องเดียวคือกินไม่ค่อยได้..ตอนนี้ห้าเดือนกว่าดีขึ้นแล้ว ยังไม่หาย แต่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ๘๐%

เล่างานแต่งงานของเราไปแล้ว..มาดูพิธีล้านนาแท้ๆกันบ้าง..ทำอย่างไร..ตามลำดับ
1164399_2.jpg
1164399_2.jpg (68.97 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

การจ๋าเติง คือการสู่ขอ พูดคุยตกลงในเรื่องพิธีการ โดยทั่วไปจะหมั้นกันตอนอู้จ๋า ของหมั้นมักจะเป็นสร้อย เงิน ดาบยศ ตามสมควร

การใส่ผี เจ้าบ่าวต้องนำเงินค่าเสียผีใส่ขันพร้อมข้าวตอกดอกไม้ไปไหว้สาญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวเรียกว่าเงินเสียผีหรือเงินใส่ผี เป็นเงื่อนไขว่าได้เป็นผีในครัวเรือนเดียวกันแล้ว ภาษาล้านนาว่า" ผีตั๋วเดียวกั๋น" คือต้องเป็นญาติเครือเดียวกันนั่นเอง

เช้าวันแต่งงานจะต้องมีพิธีขึ้นท้าวทั้งสี่ (จตุโลกบาล) ซึ่งเป็นพิธีสำคัญของชาวล้านนาในการคุ้มครองบ้านเรือน โดยปู่อาจารย์ซึ่งอาจเป็นผู้อาวุโสที่คนในหมู่บ้านเคารพเป็นผู้ประกอบพิธี ส่วนเครื่องพลีกรรมในพิธี ปู่อาจารย์ผู้ประกอบพิธีเป็นผู้จัดเตรียม

พิธีแต่งงานล้านนา เริ่มจากการขอเขย ฝ่ายเจ้าสาวจะนำคณะไปขอเจ้าบ่าวที่บ้านเจ้าบ่าว เรียกว่า ไปขอเขย ซึ่งการขอเจ้าบ่าวจะต้องมีพานดอกไม้ธูปเทียน ไปพูดเชิญพ่อแม่เจ้าบ่าวด้วยถ้อยคำอันเป็นมงคล เพื่อเชิญผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวแห่ขบวนขันหมากไปยังบ้านเจ้าสาวให้ทันตามฤกษ์ที่กำหนด

เรียกขวัญ ผูกข้อมือคู่บ่าวสาว
การเรียกขวัญแต่งงาน เป็นการสร้างกำลังใจและเตือนสติให้ผู้ได้รับการเรียกขวัญด้วยว่า ในวาระนั้น ๆ ผู้ได้รับการเรียกขวัญกำลังจะย่างเข้าสู่ชีวิตอีกแบบหนึ่งคือ ทั้งคู่กำลังจะเป็นพ่อเรือนแม่เรือน จะต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับชีวิต ชาวล้านนามีความเชื่อว่า คนเรามีขวัญอยู่ ๓๒ ขวัญ อยู่ประจำอวัยวะต่าง ๆ ประจำตัว เพื่อปกปักรักษาผู้เป็นเจ้าของขวัญให้มีความสุข ไม่เจ็บป่วย แต่ถ้าขวัญออกจากร่างกาย จะมีผลทำให้ผู้นั้นเจ็บป่วย มีความทุกข์หรือเกิดเรื่องร้ายต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อให้ขวัญอยู่ที่เดิม จึงจำเป็นต้องจัดพิธีเรียกขวัญหรือผูกข้อไม้ข้อมือกันนั่นเอง

การส่งตัวเข้าหอ ก่อนส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ จะต้องมีการมัดมือคู่เจ้าบ่าวสาวให้ติดกันก่อน โดยมีพ่อแม่หรือบุคคลที่เคารพนับถือ บุคคลที่มีชื่อเป็นมงคลเป็นผู้จูงคู่บ่าวสาวเข้าห้อง โดยต้องถือบายศรีนำหน้า ตามด้วยน้ำบ่อแก้ว คือสลุงที่ใส่เงินทองที่แขกผู้มาร่วมงานได้มอบให้ตอนผูกข้อมือคู่บ่าวสาว การจูงเข้าห้องโดยญาติฝ่ายเจ้าสาวจูงมือเจ้าสาว ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวจูงมือเจ้าบ่าว ซึ่งบนเตียงนอนมีกลีบดอกไม้โปรยไว้

พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่แต่งงานครั้งเดียวจะนอนให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน แล้วให้คู่บ่าวสาวนอนด้วยกันเป็นพิธี และมีการให้โอวาทในการครองเรือน เรียกว่า สอนบ่าว สอนสาว เช่น ให้ผัวเป็นแก้ว เมียเป็นแสง บ่ดีหื้อเป็นผัวเผต เมียยักษ์ หื้อมีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง หื้อฮักกั๋นแพงกั๋นอยู่ตราบเสี้ยงชีวิต ถ้าผัวเป็นไฟ หื้อเมียเป็นน้ำ หื้อพ่อชายเป็นหิง แม่ญิงเป็นข้อง (สรุปสั้น ๆ คือ ขอให้ผู้ชายเป็นคนหาเงินทอง ส่วนผู้หญิงเป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์สมบัติ)
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: น้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 3:50 pm

พ่อคำแก้วถามว่า ลุงคนที่ดูแลวัดที่อยุธยาเคยบอกเราใช่ไหมว่าจะมีลูกผู้หญิง จึงนึกได้ว่าจริงแฮะ ๒ ปีที่แล้ว เราหลงทางไปเจอวัดนี้ เป็นวัดที่อยู่นอกเมือง ลุงที่ดูแลวัดมาคุยด้วย และให้เราขึ้นไปกราบพระด้านบน เราไม่กล้าเพราะเป็นผู้หญิง แต่ลุงบอกว่าไปเถอะ แล้วทักว่า "ต่อไปจะได้ลูกผู้หญิงนะ"...
3848_2.jpg
3848_2.jpg (62.6 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

วัดกระซ้าย หรือวัดกระชาย หรือวัดเจ้าชาย เป็นวัดที่พระเอกาทศรถ ได้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำพระองค์ พระเอกาทศรถ คือพระอนุชาผู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพระนเรศวรมหาราช ชาวตะวันตกเรียกขานพระองค์ว่า พระองค์ขาว ตามสีพระวรกาย พระองค์เสด็จพระราชสมภพที่เมืองพิษณุโลกในปี พ.ศ. ๒๑๐๓ เป็นพระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชกับพระวิสุทธิกษัตรีย์ เป็นพระอนุชาของพระสุพรรณกัลยาและสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

สมเด็จพระเอกาทศรถได้ตามเสด็จสมเด็จพระนเรศวรมหาราชออกรบอยู่เสมอจนเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสวยราชสมบัติกรุงศรีอยุธยา จึงทรงสถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๒ เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. ๒๑๔๘ โดยไม่มีพระราชโอรส บรรดาเสนาอำมาตย์จึงอัญเชิญพระองค์ขึ้นครองราชย์แต่พระองค์เดียว ทรงพระนามว่า พระศรีสรรเพชญ์ สมเด็จบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรมหาจักรพรรดิสร บวรราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช รัตนากาษภาษกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศ ตรีภูวเนศวรวรนาถนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวศัย สมุทยตโรมนต์ สากฬจักรพาฬาธิเบนทร์ สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทรา ธาดาธิบดีวิบุลย์ คุณรุจิตฤทธิราเมศวร ธรรมิกราชเดโชชัย พรหมเทพาดิเทพ ตรีภูวนาธิเบศ โลกเชษฐวิสุทธ์ มกุฎประเทศคตามหาพุทธางกูร บรมบพิตร

กรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยของพระองค์ไม่มีข้าศึกเข้าประชิดพระนคร แต่มีต่างชาติเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารมากยิ่งกว่าแต่ก่อน เช่น พระเจ้าเชียงใหม่นรธาเมงสอ พญาตองอู พญาล้านช้าง นอกจากนี้ยังมีพระราชสาส์นติดต่อกับอุปราชโปรตุเกสประจำเมืองกัวด้วย

สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. ๒๑๕๓ อยู่ในราชสมบัติได้ ๕ ปี สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ซึ่งเป็นพระราชโอรสจึงได้สืบเสวยราชสมบัติต่อ

“วัดกระซ้าย” สันนิษฐานว่า ช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๓๑๐ แถบวัดกระซ้าย วัดเต่า วัดสุเรนทร์ เป็นที่ตั้งทัพของพม่า จากการขุดแต่งพบโบราณวัตถุประเภทอาวุธ เช่น มีด หอก ดาบ ทวน ลูกกระสุนปืนใหญ่ เป็นหลักฐานสำคัญที่สนับสนุนข้อมูล ทางประวัติศาสตร์ว่าวัดกระซาย ใช้เป็นที่ตั้งทัพสงคราม คราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒

๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๓

#ภาพหลังจากเข้าไปเตรียมผ่าตัดในห้องคลอด..
166580_2.jpg
166580_2.jpg (56.12 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

๑๘ พฤศจิกายน หลังห้องสูติส่งตัวไปทำคลอด จุดแรกที่เจ้าหน้าที่รถเข็นพาไปก็คือห้องคลอด เพื่อเข้าไปเตรียมความพร้อมของร่างกายและสวนปัสสาวะเพื่อต่อถุงปัสสาวะ เพราะนับจากนี้จะปัสสาวะเองไม่ได้ไปอีก ๑ วัน เสร็จสรรพก็ให้เจ้าหน้าที่เปลก็พาออกไปห้องผ่าตัด

จังหวะที่ออกจากห้องคลอด ป้าของเรา และพ่อของคำแก้วที่รออยู่ก็รีบเดินเข้ามาหา โดยพ่อคำแก้วเป็นคนถามว่า "ลูกออกมาหรือยัง" โธ่! ยังไม่ได้ทำคลอดเลยเนี่ยย..จากนั้นทั้งหมดก็เดินตามกันมาที่ห้องผ่าตัด

เราถูกเข็นเข้าไปนอนรอเคียงกับผู้หญิงอีกคนที่รออยู่ก่อน แต่เราได้เข้าไปก่อน ได้ยินพยาบาลบอกหญิงคนนั้นว่าต้องรอหมอคนอื่น เพราะหมอที่นั่งรออยู่เป็นหมอของเรา

ในห้องผ่าตัดคนเยอะมากกว่าห้องคลอด มีหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ชายหญิงเกินสิบชีวิต เราถูกเปลี่ยนเตียงแล้วพาไปนอนในห้องที่มีแสงไฟสว่างไสว ความอลหม่านเริ่มเข้ามาแทนที่ความเงียบสงบ มีคนเข้ามาจับเรานอนตะแคงแล้วให้งอตัวและเข่าขณะที่จะทำการบลอกหลัง สักพักชายคนหนึ่งก็เอาสำลีมาเช็ดแขน สลับคอเรา ถามว่า 'เย็นไหม' จนขาเริ่มหนัก ยกไม่ขึ้น ทุกคนจึงเข้ามามุงเรา และเอาผ้ามาบังรัศมีสายตาเอาไว้ ได้ยินแต่เสียงคุยกัน

ผ่านไปราวสิบนาทีได้ยินเสียงเด็กร้อง ไม่แน่ใจว่าลูกใคร จนพยาบาลพามาหา บอก 'จุ๊บแม่ก่อน' นั่นคือการหอมแก้มลูกครั้งแรก เสี้ยววินาทีแต่ก็น้ำตาซึมได้..

หมอเย็บแผลอีกพักใหญ่ จึงให้เจ้าหน้าที่เปลพาออกไปอีกห้อง ซึ่งป้าเตียงข้างๆผุดลุกผุดนั่งตลอดเวลา อยู่ในห้องนั้นนานร่วมชั่วโมงจึงถูกพาออกไปส่งห้องพิเศษที่จองไว้

โผล่พ้นประตูออกไปผู้ที่เดินมาหาคือพ่อของคำแก้ว เขาเดินมาบีบมือเบาๆหนึ่งที แล้วจึงถามถึงลูกอีกครั้ง เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายตอบว่าเดี๋ยวจะมีคนพาไปที่ห้องพิเศษ พ่อคำแก้วตามออกมาพร้อมกัน ไปยังห้อง ๖๔๑๓ ตึกพรีเมี่ยม ที่แห่งนี้คือที่แรกที่เราได้อยู่กันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก

เป็นคนที่ไม่เคยเข้าโรงพยาบาล ป่วยอาการเล็กน้อยก็ไม่มี นี่เป็นครั้งแรกที่นอนโรงพยาบาล และนับว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ของชีวิต #บันทึกของคำแก้ว
166588.jpg
166588.jpg (22.28 KiB) เปิดดู 82373 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: น้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 4:06 pm

เมื่อทวดและปู่กับย่ามาหาหนู ๑๒ - ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๓
80425.jpg
80425.jpg (207.5 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

166532_2.jpg
166532_2.jpg (73.24 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

166535_2.jpg
166535_2.jpg (75.75 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

166534_2.jpg
166534_2.jpg (54.55 KiB) เปิดดู 82373 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: น้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 4:20 pm

รับขวัญหลานสาวคนใหม่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓
อุ๊ยหม่อนศรี
20201122_083011_2.jpg
20201122_083011_2.jpg (36.27 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

อุ๊ยตอง
20201122_083127_2.jpg
20201122_083127_2.jpg (31.33 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

ครอบครัวน้อยหนูจัตุรัส
20201120_163827_3.jpg
20201120_163827_3.jpg (35.69 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

อาจารย์สายพิณ ศรีเพ็ง หัวหน้ากลุ่มสาระฯภาษาไทย โรงเรียนปากเกร็ด
20201120_191435_2.jpg
20201120_191435_2.jpg (34.99 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: น้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 5:20 pm

คุณยายเรียม ป้ารจ และน้าเกด (โรงเรียนสุเหร่าคลองหนึ่ง)มาเยี่ยม พร้อมด้วย เด็กหญิงปภาวรินทร์ แก้วคำ นักเรียนทุนการศึกษาโครงการเพื่อนน้ำฟ้า เดินทางมาเยี่ยมถึงพัทยา และผูกข้อมือคำแก้ว สุเหร่าคลองหนึ่งเป็นโรงเรียนแรกที่แม่บรรจุเข้ารับราชการ ผ่านไปเกือบสิบปียังมีพี่ๆน้องๆเพื่อนๆอยู่ที่นั่นจำนวนหนึ่ง และแน่นอนมิตรภาพไม่เคยจืดจาง
166586_2.jpg
166586_2.jpg (51.2 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

ป้าเบียร์กับลุงอ๊อฟ เพื่อนแม่ตั้งแต่เรียนห้อง ม.๑/๑ มารับขวัญหลาน ไม่ได้เดินทางมาจากเชียงใหม่หรอกนะ ป้าเบียร์ทำงานอยู่ที่พัทยา ส่วนลุงอ๊อฟทำธุรกิจร้านทองอยู่ในพัทยาเช่นกัน
166584_3.jpg
166584_3.jpg (58.27 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

166528_3.jpg
166528_3.jpg (56.71 KiB) เปิดดู 82373 ครั้ง

166585_2.jpg
166585_2.jpg (33.39 KiB) เปิดดู 82373 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: น้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อังคาร 22 ธ.ค. 2020 5:29 pm

๑๒ วันของปัณณ์รวีย์ น้ำหนักมากกว่าวันออกจากโรงพยาบาล ๖ ขีด ถ้าเปิดเพลงจะนิ่งฟัง เวลาพาไปเดินเล่นที่สนามหญ้าก็จะมองดอกไม้ หากยื่นมือให้ก็จะกำแน่น
166583_2.jpg
166583_2.jpg (40.4 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

การใช้ชีวิตของแม่หลังคลอด คิดว่าตนเองไม่มีภาวะซึมเศร้า สุขภาพจิตยังดี เข้าสู่ช่วง "อยู่เดือน" ได้อย่างปกติสุข

การอยู่เดือนเป็นการดูแลตนเองหลังคลอดลูกแบบคนล้านนา แตกต่างจากการ 'อยู่ไฟ' โดยคนผ่าคลอดก็สามารถอยู่เดือนได้ เป็นการคุมอาหาร..ไม่กินของแสลง กินน้ำอุ่น คุมการแต่งกายให้มิดชิด สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ถุงเท้า ถุงมือ สวมหมวก อาบน้ำอุ่น มักอาบยาสมุนไพร ไม่ได้นอนบนไฟเหมือนอยู่ไฟ เราจะทำกันประมาณนี้..

หลังอยู่เดือนจนครบมักจะมีการ 'หลอนเดือน' คนหลอนเดือนจะมาถามว่า 'ออกเดือนแล้วหรือ' เป็นความเชื่อว่าใครหลอนเดือนลูกจะนิสัยเหมือนคนนั้น
166582_2.jpg
166582_2.jpg (45.2 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

หลังจากอยู่เดือนเสร็จ น้าได้ไปคุยกับ รพ.สต.ละแวกบ้านไว้แล้วว่าให้ดูแลเรากับลูก ทาง รพ.จึงวางแผนจะดูแลหลังคลอดแบบแพทย์แผนไทยให้ ซึ่งเราก็ยินดี สุขภาพหลังคลอดสำคัญมาก..ดูแลให้ดี จะดีกับตัวเรา

กลับมาหาลูกสาว ทุกวันนี้น้องเป็นเหมือนเพื่อนครูในโรงเรียนคาดเดาไว้ ว่าตอนท้องแม่อารมณ์ดี ลูกคลอดมาคงอารมณ์ดี ดูยิ้มง่าย ไม่งอแง แข็งแรง และน่าจะซนใช้ได้

ตอนนี้เริ่มนำประวัติน้องเข้าระบบแล้ว ยังไม่เรียบร้อยดี เพราะมีเยอะ ทั้งทางพ่อ..ทางแม่ ค่อยๆทำกันไป

ตอนที่พิมพ์อยู่นี่น้องยังไม่นอน..คงต้องร้องเพลงกล่อม เพลงโปรดคือเพลงกล่อมเด็ก นกกาเหว่า และ ล่องแม่ปิง ล่องแม่ปิงนี่อยากให้น้องฟังจนจำเนื้อได้ พอโตขึ้นจะสอนให้ตระหนักในคำสอนในเนื้อเพลง
166581_2.jpg
166581_2.jpg (44.73 KiB) เปิดดู 82377 ครั้ง

“คนงามงามต้องงามคู่ความเด่นดี ต้องฮักศักดิ์ศรีของกุลสตรีแม่ญ่าแม่ญิง”

คุณค่าของลูกผู้หญิงอยู่ที่การวางตัว ซึ่งแม่เชื่อว่าตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน แนวทางของลูกมีพ่อแม่เป็นต้นแบบ ลูกจงอ่อนในเวลาที่ควรอ่อน แข็งในเวลาที่ควรแข็ง มองโลกให้สมดุล มองคนอย่างเข้าใจ จงสร้างชีวิตตนด้วยลำแข้ง ด้วยความแกร่ง ด้วยประสบการณ์..แล้วค่อยมองไปรอบตัว..เผื่อแผ่แก่คนที่ลำบากบ้าง..หากเราสามารถทำได้


๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓

166587_2.jpg
166587_2.jpg (33.18 KiB) เปิดดู 82373 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: บันทึกความทรงจำน้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » พุธ 30 ธ.ค. 2020 9:49 pm

ผูกข้อมือน้องคำแก้ว วันออกเดือน ทางภาคเหนือนั้นแม่หลังคลอดจะต้องอยู่เดือนเป็นเวลา ๑ เดือน หนึ่งวันหลังครบเดือนคือวันออกเดือน คือสามารถกินอยู่อย่างปกติได้ ในวันออกเดือนจะมีการหลอนเดือน เป็นความเชื่อว่าเด็กจะมีนิสัยเหมือนคนที่มาถามว่า "ออกเดือนหรือยัง"
20201219_074148_3.jpg
20201219_074148_3.jpg (80.13 KiB) เปิดดู 79397 ครั้ง

อุ๊ยหม่อนศรีและอุ๊ยตองผูกข้อมือวันออกเดือน
20201219_074139_2.jpg
20201219_074139_2.jpg (88.79 KiB) เปิดดู 79397 ครั้ง

20201219_074254_2.jpg
20201219_074254_2.jpg (90.88 KiB) เปิดดู 79397 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: บันทึกความทรงจำน้องคำแก้ว ปัณณ์รวีย์ สาวน้อยล้านนา

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » พุธ 30 ธ.ค. 2020 9:53 pm

ถึงเวลาที่น้องต้องนอนอู่ ญาติผู้ใหญ่ก็มาช่วยกันผูกอู่และพาลงนอนเป็นสิริมงคล
20201217_170845_2.jpg
20201217_170845_2.jpg (43.54 KiB) เปิดดู 79397 ครั้ง

20201217_171008_2.jpg
20201217_171008_2.jpg (42.61 KiB) เปิดดู 79397 ครั้ง

20201217_171505_2.jpg
20201217_171505_2.jpg (40.4 KiB) เปิดดู 79397 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง สนทนากับคนภาษาไทย

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน

cron