Re: พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เมื่อ: พฤหัสฯ. 20 ต.ค. 2016 10:23 am
“สมเด็จพระราชินีฯ” เคยเล่าไว้ว่า ในหลวงทรงรับสั่งกับพระองค์ว่าไม่ให้ยืนค้ำหัวราษฎร ถ้ายิ่งเป็นเวลานาน ต้องให้นั่งลงพูดกับเขา
“พระเจ้าอยู่หัวไม่ยอมให้ไปยืนค้ำหัวพูดกับราษฏร ถ้ายิ่งเป็นเวลานาน ท่านต้องการให้นั่งลงพูดกับเขา ข้าพเจ้าก็คลานรับประชาชนตลอดเลย เป็นกิโลเลย ท่านมาดูหัวเข่าข้าพเจ้าเดี๋ยวนี้สิ ดำปี๋เลย” (พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๕)
ตลอด ๗๐ ปีของการครองราชย์ด้วยทศพิธราชธรรม เป็นที่ประจักษ์แก่ราษฎรไทยว่า ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงงานหนักมาโดยตลอด ท่านเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาอย่างแท้จริง ทรงห่วงใยพสกนิกรและลงไปทุกพื้นที่แม้ถิ่นทุรกันดาร เรื่องราวการทรงงานของพระองค์ล้วนถูกถ่ายทอดจากผู้ที่ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท
โดยเฉพาะ อ.ปราโมทย์ ไม้กลัด ผู้ได้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ไปศึกษาปริญญาโทวิศวกรรมชลประทาน ที่สหรัฐอเมริกา และเป็นคนที่ทำงานถวายพ่อหลวงมากว่า ๒๐ ปี ได้บอกเล่าเรื่องราวประทับใจผ่านหนังสือ "การทรงงานของพ่อในความทรงจำ" โดยตอนหนึ่งระบุว่า...
ขณะที่ในหลวงทรงงาน เพื่อหาที่สร้างฝายทดน้ำ โดยมี อ.ปราโมทย์ ช่วยถือแผนที่ให้พระองค์ ปรากฏว่ามีตัวคุ่นได้กัดที่มือของอาจารย์ แต่อาจารย์ก็ได้เก็บอาการเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าพระพักตร์ แต่อาจารย์คิดว่าพระองค์คงไม่ทรงสังเกตเห็น อาจารย์ก็ได้แต่เอามือถูเพื่อคลายความเจ็บปวดแบบเนียน ๆ
ก่อนจะเสด็จฯ กลับ ในหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปที่รถยนต์พระที่นั่ง (การเสด็จฯ ครั้งนั้น ทรงขับรถยนต์ด้วยพระองค์เอง) เหมือนทรงค้นหาอะไรบางอย่าง สักพักพระองค์ก็เสด็จพระราชดำเนินกลับไปหาอาจารย์ โดยถือหลอดยามาด้วย
"นายช่าง ยื่นมือมาสิ จะทายาให้"
อาจารย์ได้แต่ยืนตะลึง ใจมิกล้าอาจเอื้อมยื่นมือไปให้พระองค์ และไม่คิดว่าจะทรงสังเกตเห็นและมีพระเมตตาใส่พระราชหฤทัยถึงขนาดนี้... พระองค์ทรงทายาให้อาจารย์ พร้อมตรัสว่า...
"ตัวคุ่นมันกัด ถ้าแพ้จะบวม ไม่เป็นไร ทายานี้แล้วเดี๋ยวก็ค่อยยังชั่ว"
แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ แต่ยังคงติดตราตรึงใจไม่รู้ลืม พระองค์ทรงมีพระเมตตา และใส่พระราชหฤทัยกับเจ้าหน้าที่ทุกคน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงต้องทรงงานหนักตลอด ๗๐ ปีนั่นก็เพราะพระองค์ทรงรักและห่วงใยประชาชนของพระองค์ทุกคน
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก N a R a Peace ( น ร า สันติ ), หนังสือ "การทรงงานของพ่อในความทรงจำ" โดยปราโมทย์ ไม้กลัด
“พระเจ้าอยู่หัวไม่ยอมให้ไปยืนค้ำหัวพูดกับราษฏร ถ้ายิ่งเป็นเวลานาน ท่านต้องการให้นั่งลงพูดกับเขา ข้าพเจ้าก็คลานรับประชาชนตลอดเลย เป็นกิโลเลย ท่านมาดูหัวเข่าข้าพเจ้าเดี๋ยวนี้สิ ดำปี๋เลย” (พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๕)
ตลอด ๗๐ ปีของการครองราชย์ด้วยทศพิธราชธรรม เป็นที่ประจักษ์แก่ราษฎรไทยว่า ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงงานหนักมาโดยตลอด ท่านเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาอย่างแท้จริง ทรงห่วงใยพสกนิกรและลงไปทุกพื้นที่แม้ถิ่นทุรกันดาร เรื่องราวการทรงงานของพระองค์ล้วนถูกถ่ายทอดจากผู้ที่ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท
โดยเฉพาะ อ.ปราโมทย์ ไม้กลัด ผู้ได้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ไปศึกษาปริญญาโทวิศวกรรมชลประทาน ที่สหรัฐอเมริกา และเป็นคนที่ทำงานถวายพ่อหลวงมากว่า ๒๐ ปี ได้บอกเล่าเรื่องราวประทับใจผ่านหนังสือ "การทรงงานของพ่อในความทรงจำ" โดยตอนหนึ่งระบุว่า...
ขณะที่ในหลวงทรงงาน เพื่อหาที่สร้างฝายทดน้ำ โดยมี อ.ปราโมทย์ ช่วยถือแผนที่ให้พระองค์ ปรากฏว่ามีตัวคุ่นได้กัดที่มือของอาจารย์ แต่อาจารย์ก็ได้เก็บอาการเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าพระพักตร์ แต่อาจารย์คิดว่าพระองค์คงไม่ทรงสังเกตเห็น อาจารย์ก็ได้แต่เอามือถูเพื่อคลายความเจ็บปวดแบบเนียน ๆ
ก่อนจะเสด็จฯ กลับ ในหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปที่รถยนต์พระที่นั่ง (การเสด็จฯ ครั้งนั้น ทรงขับรถยนต์ด้วยพระองค์เอง) เหมือนทรงค้นหาอะไรบางอย่าง สักพักพระองค์ก็เสด็จพระราชดำเนินกลับไปหาอาจารย์ โดยถือหลอดยามาด้วย
"นายช่าง ยื่นมือมาสิ จะทายาให้"
อาจารย์ได้แต่ยืนตะลึง ใจมิกล้าอาจเอื้อมยื่นมือไปให้พระองค์ และไม่คิดว่าจะทรงสังเกตเห็นและมีพระเมตตาใส่พระราชหฤทัยถึงขนาดนี้... พระองค์ทรงทายาให้อาจารย์ พร้อมตรัสว่า...
"ตัวคุ่นมันกัด ถ้าแพ้จะบวม ไม่เป็นไร ทายานี้แล้วเดี๋ยวก็ค่อยยังชั่ว"
แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ แต่ยังคงติดตราตรึงใจไม่รู้ลืม พระองค์ทรงมีพระเมตตา และใส่พระราชหฤทัยกับเจ้าหน้าที่ทุกคน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงต้องทรงงานหนักตลอด ๗๐ ปีนั่นก็เพราะพระองค์ทรงรักและห่วงใยประชาชนของพระองค์ทุกคน
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก N a R a Peace ( น ร า สันติ ), หนังสือ "การทรงงานของพ่อในความทรงจำ" โดยปราโมทย์ ไม้กลัด