Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง
เมื่อ: จันทร์ 29 ก.ค. 2019 2:55 pm
วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล (พระมหาธาตุเจดีย์ บารมี ๑๙ ยอด)อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนกำแพงเมืองโบราณของอำเภอพร้าว สร้างสมัยพระราชวงศ์มังรายมหาราชแห่งอาณาจักรล้านนาไทย มีอายุการสร้าง ๗๓๐ ปี เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคลหลังจากล่มสลายไปตามกาลเวลาเมื่อหลายร้อยปีก่อน เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๔๖ ได้มีการค้นพบวัดพระธาตุดอยเวียง มีการค้นพบพระธาตุภายในซึ่งบรรจุเส้นพระเกศาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากตำนานที่เล่าย้อนหลังถึงแบ่งเป็น ๔ ยุคในประวัติขององค์พระธาตุนี้ จากนั้นได้เริ่มพัฒนาบูรณะปฏิสังขรณ์ จนปัจจุบัน ได้ค้นพบโบราณวัตถุหลายรายการเช่น ก้อนอิฐที่จารึกตัวอักษรฝักขาม, ถ้วยชามสังคโลก, เครื่องปั้นดินเผา, ยอดฉัตรพระธาตุ (เจดีย์) ที่ทำจากทองจังโก้ และโบราณวัตถุอีกมากมาย
ประวัติพระพุทธรูปปางทรงเครื่อง (พระพุทธรูปปางโปรดพญาชมพูบดี) จำนวน ๑๐ องค์
องค์ที่ ๑ พระนามว่า พระมหาจักรพรรดิดับภยชัยมงคล (หลวงพ่อเศรษฐี) หล่อด้วยทองสำริด หน้าตัก ๘๔ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องล้านนาโบราณ
องค์ที่ ๒ พระนามว่า พระเจ้าล้านทองหล่อด้วยทองเหลือบริสุทธิ์ หน้าตัก ๔๒ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องเชียงแสนลังกาวงศ์
องค์ที่ ๓ พระนามว่า พระเจ้าแสนล้านหล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ หน้าตัก ๓๙ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องเชียงแสนสิงห์สาม
องค์ที่ ๔ พระนามว่า พระเจ้าห้ามมารบันดาลโชคหล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ ยืนสูง ๖๐ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องล้านนา
พระอัครสาวกปัจวัคคีย์ทั้ง ๕ องค์ หล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ หน้าตัก ๒๑ นิ้ว ศิลปะล้านนาทรงเครื่องปางนั่งพนมมือ
พระมหาธาตุดอยเวียงชัยมงคล เป็นธาตุเจดีย์โบราณที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอพร้าว มีขนาดความกว้างของฐานทั้งสี่ด้านรวม ๓๖ เมตร อดีตใช้เป็นที่พักทัพ ตั้งทัพของกษัตริย์ล้านนาเมื่อครั้งเดินทางผ่านเข้าออกเมืองพร้าว ในยามบ้านเมืองสงบ และยามศึกสงคราม เพราะยังปรากฏร่องรอยแนวคู่ค่ายให้เห็นรอบวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล จึงนับว่าเป็นสถานที่เก่าแก่ และสำคัญยิ่งอีกแห่งหนึ่งของอำเภอพร้าว ที่ควรค่าแก่การศึกษา อนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการะบูชาสืบไป
วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ มีพระพุทธรูปประธาน คือ พระเจ้ามหาจักรพรรดิดับภัยชัยมงคล หรือหลวงพ่อเศรษฐี หล่อด้วยทองสำริด หน้าตัก ๘๔ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องล้านนาโบราณ
วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ต.โหล่งขอด เป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า ๗๓๐ ปี ในอดีตเป็นสถานที่ตั้งทัพสมัยราชวงศ์มังราย โดยพญามังรายมหาราชได้สร้างเมืองพร้าวขึ้นในปีพ.ศ.๑๘๒๔
ประวัติพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล มีเอกสารระบุไว้ โดยจัดเรียงออกเป็น ๒ ยุคได้ดังนี้
ยุคที่ ๑ กำเนิดพระธาตุดอยเวียง อ้างในตำนานพระเจ้าเลียบโลก เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จเดินทางมายังดินแดนสุวรรณภูมิเขตล้านนาไทย โดยเล่าสืบต่อกันว่า ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาพักที่บนดอยเวียงแห่งนี้พร้อมด้วยพระอานนท์ ซึ่งดอยลูกนี้ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านจึงมีชาวบ้านพากันมาใส่บาตรพระพุทธเจ้ากันอย่างมากมายทุกวัน ก่อนหน้าที่พระพุทธเจ้าจะเดินทางต่อไปได้มอบเส้นพระเกศาให้แก่ชาวบ้านไว้สักการบูชา ชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเจดีย์ครอบเส้นพระเกศาขึ้นเพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชา ซึ่งปัจจุบันคือ พระธาตุดอยเวียง
ยุคที่ ๒ สมัยราชวงศ์มังราย ในปี พ.ศ.๑๘๒๔ พญามังรายได้สร้างเมืองพร้าวขึ้นสำหรับเป็นที่ตั้งทัพและสะสมเสบียงอาหาร โดยก่อนออกจากเมืองพร้าวได้แวะพักทัพบริเวณพระธาตุดอยเวียงในชุมชนบ้านหลวง ปัจจุบันยังมีหลักฐาน คือ การขุดแนวกำแพง เรียกว่า เวียงรอบพระธาตุดอยเวียงถึงสี่ชั้น และบนพระธาตุดอยเวียงยังมีวิหาร ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ประทับของกษัตริย์สมัยราชวงศ์มังรายที่เดินทางผ่าน โดยทุกครั้งจะต้องตั้งทัพบนพระธาตุดอยเวียงมาทุกยุคทุกสมัย เพื่อใช้เป็นสถานที่กราบไหว้นมัสการพระธาตุดอยเวียง เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขา จึงเป็นชัยภูมิที่เหมาะสำหรับการพักทัพ
เมื่อปี พ.ศ.๑๙๒๘ พญากือนาธรรมมิกราช ได้เสด็จขึ้นมาเมืองพร้าวโดยทางสถลมารคนำขบวนช้าง ขบวนม้า ขบวนเดินเท้าจำนวนมาก โดยมีช้างเผือกเชือกหนึ่งบรรทุกพระธรรมคำภีร์และพระพุทธรูปสำคัญมาด้วย ซึ่งได้แวะพักและบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุดอยเวียงองค์นี้ก่อนที่จะเข้าสู่เมืองพร้าว
เนื่องจากบริเวณพระธาตุสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าวได้ทั้งหมด ในอดีตเวลาข้าศึกยกทัพมาก็สามารถมองเห็นได้โดยง่าย ปัจจุบันทางวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ได้จัดสร้างเป็นระเบียงชมวิว ให้ผู้ที่เดินทางมาสักการะ ได้ชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ผืนป่าสีเขียวของอำเภอพร้าวได้อย่างชัดเจน
การเดินทางไปวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล สามารถเดินทางไปตามเส้นทางถนนเชียงใหม่-พร้าว ทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๑ ถนนทางเข้าวัดอยู่ตรงกิโลเมตรที่ ๖๑ ระยะทางจากถนนทางเข้าวัดถึงวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ประมาณ ๓ กิโลเมตร
วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนกำแพงเมืองโบราณของอำเภอพร้าว สร้างสมัยพระราชวงศ์มังรายมหาราชแห่งอาณาจักรล้านนาไทย มีอายุการสร้าง ๗๓๐ ปี เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคลหลังจากล่มสลายไปตามกาลเวลาเมื่อหลายร้อยปีก่อน เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๔๖ ได้มีการค้นพบวัดพระธาตุดอยเวียง มีการค้นพบพระธาตุภายในซึ่งบรรจุเส้นพระเกศาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากตำนานที่เล่าย้อนหลังถึงแบ่งเป็น ๔ ยุคในประวัติขององค์พระธาตุนี้ จากนั้นได้เริ่มพัฒนาบูรณะปฏิสังขรณ์ จนปัจจุบัน ได้ค้นพบโบราณวัตถุหลายรายการเช่น ก้อนอิฐที่จารึกตัวอักษรฝักขาม, ถ้วยชามสังคโลก, เครื่องปั้นดินเผา, ยอดฉัตรพระธาตุ (เจดีย์) ที่ทำจากทองจังโก้ และโบราณวัตถุอีกมากมาย
ประวัติพระพุทธรูปปางทรงเครื่อง (พระพุทธรูปปางโปรดพญาชมพูบดี) จำนวน ๑๐ องค์
องค์ที่ ๑ พระนามว่า พระมหาจักรพรรดิดับภยชัยมงคล (หลวงพ่อเศรษฐี) หล่อด้วยทองสำริด หน้าตัก ๘๔ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องล้านนาโบราณ
องค์ที่ ๒ พระนามว่า พระเจ้าล้านทองหล่อด้วยทองเหลือบริสุทธิ์ หน้าตัก ๔๒ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องเชียงแสนลังกาวงศ์
องค์ที่ ๓ พระนามว่า พระเจ้าแสนล้านหล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ หน้าตัก ๓๙ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องเชียงแสนสิงห์สาม
องค์ที่ ๔ พระนามว่า พระเจ้าห้ามมารบันดาลโชคหล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ ยืนสูง ๖๐ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องล้านนา
พระอัครสาวกปัจวัคคีย์ทั้ง ๕ องค์ หล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ หน้าตัก ๒๑ นิ้ว ศิลปะล้านนาทรงเครื่องปางนั่งพนมมือ
พระมหาธาตุดอยเวียงชัยมงคล เป็นธาตุเจดีย์โบราณที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอพร้าว มีขนาดความกว้างของฐานทั้งสี่ด้านรวม ๓๖ เมตร อดีตใช้เป็นที่พักทัพ ตั้งทัพของกษัตริย์ล้านนาเมื่อครั้งเดินทางผ่านเข้าออกเมืองพร้าว ในยามบ้านเมืองสงบ และยามศึกสงคราม เพราะยังปรากฏร่องรอยแนวคู่ค่ายให้เห็นรอบวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล จึงนับว่าเป็นสถานที่เก่าแก่ และสำคัญยิ่งอีกแห่งหนึ่งของอำเภอพร้าว ที่ควรค่าแก่การศึกษา อนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการะบูชาสืบไป
วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ มีพระพุทธรูปประธาน คือ พระเจ้ามหาจักรพรรดิดับภัยชัยมงคล หรือหลวงพ่อเศรษฐี หล่อด้วยทองสำริด หน้าตัก ๘๔ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องล้านนาโบราณ
วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ต.โหล่งขอด เป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า ๗๓๐ ปี ในอดีตเป็นสถานที่ตั้งทัพสมัยราชวงศ์มังราย โดยพญามังรายมหาราชได้สร้างเมืองพร้าวขึ้นในปีพ.ศ.๑๘๒๔
ประวัติพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล มีเอกสารระบุไว้ โดยจัดเรียงออกเป็น ๒ ยุคได้ดังนี้
ยุคที่ ๑ กำเนิดพระธาตุดอยเวียง อ้างในตำนานพระเจ้าเลียบโลก เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จเดินทางมายังดินแดนสุวรรณภูมิเขตล้านนาไทย โดยเล่าสืบต่อกันว่า ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาพักที่บนดอยเวียงแห่งนี้พร้อมด้วยพระอานนท์ ซึ่งดอยลูกนี้ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านจึงมีชาวบ้านพากันมาใส่บาตรพระพุทธเจ้ากันอย่างมากมายทุกวัน ก่อนหน้าที่พระพุทธเจ้าจะเดินทางต่อไปได้มอบเส้นพระเกศาให้แก่ชาวบ้านไว้สักการบูชา ชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเจดีย์ครอบเส้นพระเกศาขึ้นเพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชา ซึ่งปัจจุบันคือ พระธาตุดอยเวียง
ยุคที่ ๒ สมัยราชวงศ์มังราย ในปี พ.ศ.๑๘๒๔ พญามังรายได้สร้างเมืองพร้าวขึ้นสำหรับเป็นที่ตั้งทัพและสะสมเสบียงอาหาร โดยก่อนออกจากเมืองพร้าวได้แวะพักทัพบริเวณพระธาตุดอยเวียงในชุมชนบ้านหลวง ปัจจุบันยังมีหลักฐาน คือ การขุดแนวกำแพง เรียกว่า เวียงรอบพระธาตุดอยเวียงถึงสี่ชั้น และบนพระธาตุดอยเวียงยังมีวิหาร ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ประทับของกษัตริย์สมัยราชวงศ์มังรายที่เดินทางผ่าน โดยทุกครั้งจะต้องตั้งทัพบนพระธาตุดอยเวียงมาทุกยุคทุกสมัย เพื่อใช้เป็นสถานที่กราบไหว้นมัสการพระธาตุดอยเวียง เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขา จึงเป็นชัยภูมิที่เหมาะสำหรับการพักทัพ
เมื่อปี พ.ศ.๑๙๒๘ พญากือนาธรรมมิกราช ได้เสด็จขึ้นมาเมืองพร้าวโดยทางสถลมารคนำขบวนช้าง ขบวนม้า ขบวนเดินเท้าจำนวนมาก โดยมีช้างเผือกเชือกหนึ่งบรรทุกพระธรรมคำภีร์และพระพุทธรูปสำคัญมาด้วย ซึ่งได้แวะพักและบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุดอยเวียงองค์นี้ก่อนที่จะเข้าสู่เมืองพร้าว
เนื่องจากบริเวณพระธาตุสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าวได้ทั้งหมด ในอดีตเวลาข้าศึกยกทัพมาก็สามารถมองเห็นได้โดยง่าย ปัจจุบันทางวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ได้จัดสร้างเป็นระเบียงชมวิว ให้ผู้ที่เดินทางมาสักการะ ได้ชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ผืนป่าสีเขียวของอำเภอพร้าวได้อย่างชัดเจน
การเดินทางไปวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล สามารถเดินทางไปตามเส้นทางถนนเชียงใหม่-พร้าว ทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๑ ถนนทางเข้าวัดอยู่ตรงกิโลเมตรที่ ๖๑ ระยะทางจากถนนทางเข้าวัดถึงวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ประมาณ ๓ กิโลเมตร