เที่ยวอำเภอพร้าว เชียงใหม่ ที่พัก อาหาร สถานที่น่าสนใจ

เที่ยวอำเภอพร้าว เชียงใหม่ ที่พัก อาหาร สถานที่น่าสนใจ

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 11:52 am

เราจะพาคุณไปเที่ยว พัก และกิน ในเมืองอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรม “อำเภอพร้าว”
คำขวัญ.jpg
คำขวัญ.jpg (81.36 KiB) เปิดดู 106140 ครั้ง

(คำขวัญอำเภอพร้าว)

“พร้าว” อำเภอที่มีพื้นที่ ๑,๑๔๘.๑๘๖ ตร.กม. ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของตัวเมืองเชียงใหม่ ประชากรในอำเภอแห่งนี้ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร เมื่อข้ามอุทยานศรีลานนาเข้าไปจึงมองเห็นท้องทุ่งเขียวขจีโอบล้อมไปด้วยขุนเขาเป็นแอ่งกระทะ แต่เดิมพื้นที่อำเภอพร้าวเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีการขุดพบพระพุทธรูป เครื่องมือหิน โบราณวัตถุทำจากหินและดินเผา ฯลฯ ซึ่งเป็นเครื่องยืนว่าดินแดนแห่งนี้เคยมีความรุ่งเรืองมาก่อน ต่อมาในยุคที่มีการบันทึกด้วยการจารึกได้มีการกล่าวถึงอำเภอพร้าวว่า เป็นที่ตั้งของเมืองเก่าชื่อว่า เมืองพร้าววังหิน เมืองแห่งนักรบของอาณาจักรล้านนา

แผนที่เชียงใหม่-พร้าว_resize.jpg
แผนที่เชียงใหม่-พร้าว_resize.jpg (179.28 KiB) เปิดดู 106139 ครั้ง

(แผนที่เชียงใหม่-พร้าว : Top Chiangmai)

อำเภอพร้าวมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังนี้

ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอไชยปราการ และอำเภอแม่สรวย (จังหวัดเชียงราย)

ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเวียงป่าเป้า (จังหวัดเชียงราย)

ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอดอยสะเก็ด

ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอแม่แตง และอำเภอเชียงดาว

19149185_1853608164903399_4053109408741388770_n.jpg
19149185_1853608164903399_4053109408741388770_n.jpg (45.44 KiB) เปิดดู 106140 ครั้ง

(สายรุ้งหลังฝนทอดยาวผ่านอ่างแม่สะรวม บนบ้านลีซอทุ่งกู่ อำเภอพร้าว : ภาพจากเฟซบุ๊ก)

การคมนาคมจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ไปยังอำเภอพร้าวมี ๔ เส้นทาง

เส้นทางหลัก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๐๑ เส้นทางนี้จะผ่าน อำเภอสันทราย และ อำเภอแม่แตง ถึง อำเภอพร้าว ระยะทางประมาณ ๙๖ กิโลเมตร

เส้นทางรอง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๑ เส้นทางนี้จะผ่าน อำเภอแม่ริม อำเภอแม่แตง และ อำเภอเชียงดาว โดยเดินทางถึงประมาณหลักกิโลเมตรที่ ๘๒ - ๘๓ จะมีสะพานข้ามแม่น้ำปิง เรียกว่า ปิงโค้ง จากนั้นจะพบสามแยก ประมาณหลักกิโลเมตรที่ ๘๓ ให้เลี้ยวขวา ถ้ามาจากอำเภอไชยปราการ ให้เลี้ยวซ้าย ตามถนนปิงโค้ง - เวียงป่าเป้า แยกจากทางหลวงหมายเลข ๑๐๗ ระยะทางประมาณ ๓๐ กิโลเมตร

เส้นทางรอง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๓๔๖ จะพบสามแยกประมาณหลักกิโลเมตรที่ ๑๑๙ - ๑๒๐ ถ้ามาจากอำเภอเชียงดาว ให้เลี้ยวขวา ถ้ามาจาก อำเภอฝาง ให้เลี้ยวซ้าย ตามถนนไชยปราการ-พร้าว แยกจากทางหลวงหมายเลข ๑๐๗ บริเวณบ้านศรีดงเย็น ระยะทางประมาณ ๔๔ กิโลเมตร

เส้นทางรอง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๘ เส้นทางนี้จะผ่าน อำเภอดอยสะเก็ด และ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ด้วย จะพบสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ถ้ามาจากอำเภอแม่สรวย ให้เลี้ยวขวา ตามถนนปิงโค้ง - เวียงป่าเป้า ผ่านบ้านขุนแจ๋ บ้านทุ่งห้า และบ้านต้นกอก ระยะทางประมาณ ๕๖ กิโลเมตร

อ้างอิง : รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน พ.ศ.๒๕๖๑ จังหวัดเชียงใหม่ กรมการปกครอง

รู้ไว้ใช่ว่า "หมายเลขโทรศัพท์น่ารู้ในอำเภอพร้าว"

กู้ภัยพร้าววังหิน ฮ้องเมื่อคืนตัน ฮ้องเมื่อวันได้
"ใจเขา ใจเรา" พาส่งโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย โทร.๐๙๕ – ๑๗๘ – ๙๘๙๙ หรือ ๑๖๖๙
6932_resize.jpg
6932_resize.jpg (99.91 KiB) เปิดดู 102935 ครั้ง


หมายเลขโทรศัพท์.jpg
หมายเลขโทรศัพท์.jpg (176.38 KiB) เปิดดู 105251 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 2:18 pm

เมืองพร้าว.jpg
เมืองพร้าว.jpg (44.01 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


สถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอพร้าว

ออบมืด

น้ำรู

วัดดอยแม่ปั๋ง

โบราณสถานพระธาตุดอยนะโม

ดอยม่อนล้าน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ

วัดถ้ำดอกคำ

โบราณสถานพระธาตุม่วงเนิ้ง

วัดศรีดอนไชยทรายมูล

วัดพระเจ้าตนหลวง (พระเจ้านั่งช้าง) และพระธาตุดอยกาหลง

วัดดอยแม่ปั๋ง_resize.jpg
วัดดอยแม่ปั๋ง_resize.jpg (65.66 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


วัดพระธาตุนางแล

ถ้ำหลากลาน

น้ำตกผาตั้งและวังชมภู

น้ำตกผาลาด

น้ำตกคะนึงนาง

อ่างเก็บน้ำแม่วะ

น้ำตกตาดเหมย

ประตูผาและน้ำตกตาดยาว

น้ำตกม่อนหินไหล

cm12_resize.jpg
cm12_resize.jpg (76.35 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


น้ำพุร้อนหนองครก

วัดพระเจ้าล้านทอง

วัดพระธาตุกลางใจเมือง

อ่างเก็บน้ำแม่โก๋น

[สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ที่กิน นั้นจะค่อยๆโพสต์อ่านกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีโอกาสไปเยือนเมืองอันเงียบสงบแห่งนี้]

จะอัพเดตข้อมูลใหม่ๆไปเรื่อยๆในโพสต์นี้..โดยเพิ่มไปทีละหน้าๆ
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 2:53 pm

ดอยม่อนล้าน

ม่อน01.jpg
ม่อน01.jpg (39.97 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


ดอยสูงที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ ๑,๖๙๖ เมตร นักท่องเที่ยวนิยมไปชมทะเลหมอก โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น และ พระอาทิตย์ตกจะมีความสวยงามมาก สามารถขึ้นไปกางเต็นท์รับลมหนาวในลานกางเต็นท์ ซึ่งตั้งเต็นท์ได้ ๑๐๐ หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้ ๓๐๐ คน และมีบ้านพักสถานีพัฒนาเกษตรที่สูงดอยม่อนล้าน มีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว ๑๐ หลัง สามารถพักได้หลังละ ๔ - ๕ คน ภายในบ้านมี ไฟฟ้าใช้ตลอดวันไม่จำกัดเวลา ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ค่าบริการแล้วแต่จะให้เป็นค่าบำรุงสถานที่

ดอยม่อนล้าน เป็นที่ตั้งของโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ บริเวณพระตำหนักที่ประทับมีดอกไม้เมืองหนาวนานาพรรณให้ได้สัมผัสและถ่ายภาพ บนดอยม่อนล้านจะมีจุดติดตั้งกังหันลมเพื่อการผลิตไฟฟ้า ตามโครงการศึกษาศักยภาพการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อีกด้วย
เส้นทางแรก

บ้านพักดอยม่อนล้าน_resize.jpg
บ้านพักดอยม่อนล้าน_resize.jpg (47.95 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


การเดินทางไปยังดอยม่อนล้านนั้น ขึ้นได้ ๒ ทาง

๑. เส้นอำเภอพร้าว – อำเภอเวียงป่าเป้า (เป็นถนนลาดยาง)
ระยะทางจากอำเภอพร้าวถึงจุดหมาย ๒๒ กิโลเมตร เส้นนี้จะไปทางบ้านขุนแจ๋ ผ่านโครงการหลวงแม่ปูนหลวงหน่วยจัดการต้นน้ำพร้าว บ้านแม่ปูนหลวง ถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะลวม ระยะทาง ๑๗ กิโลเมตร จากหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะลวมถึงดอยม่อนล้าน (ถนนดินแดง) ระยะทาง ๒.๕ กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ ๑.๓๐ ชั่วโมง ควรใช้รถกระบะ

๒.เส้นทางป่าไหน – ป่าหญ้าไทร
เส้นนี้เริ่มจากตัวอำเภอพร้าว ผ่านวัดกลางเวียง อ่างเก็บน้ำห้วยโก๋น และบ้านป่าหญ้าไทร ถึงสถานีเกษตรที่สูงดอยม่อนล้าน ใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาที เส้นทางดินลูกรังมีหลุมบ่อลึกและค่อนข้างชัน

แนะนำให้ไปเส้นทางที่ ๑ จะเดินทางง่ายกว่า

ชิงช้าม่อนล้าน.jpg
ชิงช้าม่อนล้าน.jpg (45.95 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


ดอยม่อนล้านเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังมีความเป็นธรรมชาติมาก อีกทั้งคนยังรู้จักไม่มากนักจึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบ ไม่วุ่นวาย ต้องการที่พัก ติดต่อสอบถาม โทร.๐๘๙-๕๕๔-๑๐๒๕ และ๐๘๑-๐๓๐-๗๘๔๖

42255205413_resize.jpg
42255205413_resize.jpg (63.6 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง

[แผนที่ดอยม่อนล้าน : ม้าแกลบ weekendhobby]
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 3:51 pm

ร้านลาบ๑๑ (ถนนเส้นธนาคารออมสิน อำเภอพร้าว)

ลาบ3_resize.jpg
ลาบ3_resize.jpg (69.36 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


ลาบ1_resize.jpg
ลาบ1_resize.jpg (66.14 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


เป็นก๋วยเตี๋ยวที่มีบรรยากาศเป็นกันเอง มีกลิ่นอายของชนบท

ลาบ2_resize.jpg
ลาบ2_resize.jpg (89.09 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


พิกัด บ้านทุ่งกู่ปากซอย๕ ทางไปเขื่อนแม่สะรวม ร้านอยู่ซ้ายมือ

ลาบ4_resize.jpg
ลาบ4_resize.jpg (74.84 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 4:05 pm

พร้าว เพลส & มาร์เก็ต

เจ้าของพร้าวเพลสส่งภาพมาให้แต่ยังไม่มีข้อมูลมากนัก เดาจากสายตา พร้าว เพลส & มาร์เก็ต น่าจะอยู่ตรงข้ามสภ.พร้าว
พร้าวเพลส_resize.jpg
พร้าวเพลส_resize.jpg (70.08 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


ด้านบนเป็นอพาร์ทเมนต์ที่พักให้เช่า ด้านล่างขายอาหารและขายของ
พร้าวเพลส2_resize.jpg
พร้าวเพลส2_resize.jpg (59.51 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


ร้านหม่าล่า #ปากชาคาเฟ่ พิกัดบ้านป่าจี้ ถนนเชียงใหม่ - พร้าว ก่อนถึงตัวอำเภอพร้าว
หม่าล่า_resize.jpg
หม่าล่า_resize.jpg (100.43 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


บรรยากาศสบายๆของ "ปากชาคาเฟ่" เมืองพร้าว
b1_resize.jpg
b1_resize.jpg (117.55 KiB) เปิดดู 106063 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 4:11 pm

บ้านพัก @แม่แวน ติดหมวดทางพร้าว ติดต่อที่พัก โทร. ๐๙๖-๗๓๗๗๔๘๓

แม่แวน๓_resize.jpg
แม่แวน๓_resize.jpg (69.17 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


ปักหมุดใกล้ Unnamed Road, ตำบล เขื่อนผาก อำเภอ พร้าว เชียงใหม่ ๕๐๑๙๐

https://maps.google.com/?q=19.317704,99.190843

แม่แวน๑_resize.jpg
แม่แวน๑_resize.jpg (54.31 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


แม่แวน๒_resize.jpg
แม่แวน๒_resize.jpg (54.93 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 4:20 pm

บ้านอุ่นไอรัก พิกัดบ้านโป่ง อ.พร้าว เชียงใหม่

ที่พัก อาหาร และบริการจัดเลี้ยงอย่างเป็นกันเอง ฟรีกาแฟ และน้ำแร่ออนเซ็น อยู่กับธรรมชาติอันแสนสงบ ด้วยราคาเพียงคืนละ ๔๐๐ บาท แช่น้ำแร่ ๓๐ บาท เมนูงานเลี้ยงตามออเดอร์ลูกค้า สั่งจอง โทร.๐๖๕ ๐๕๖๙๖๔๔
อุ่น2_resize.jpg
อุ่น2_resize.jpg (70.56 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง



ย้อนไปในอดีตนานแสนนาน บ้านโป่งคงจะเป็นพื้นที่ภูเขาไฟ เคยเห็นน้ำแร่ผุดขึ้นมาตั้งแต่แอดมินยังเด็กๆ แต่ไม่ได้พุ่งขึ้นมาเป็นนำพุนะคะ เป็นน้ำร้อนเดือดปุด บ้านอุ่นไอรักจึงมีบริการอาบน้ำแร่ออนเซ็นบริการลูกค้าด้วย ราคาถูกเป็นกันเองจริงๆค่ะ
อุ่น1_resize.jpg
อุ่น1_resize.jpg (97.98 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


มีบริการอาบน้ำแร่สมุนไพรด้วยนะคะ (ขันเงินดูโบราณมาก ชอบค่ะ)
อุ่น3_resize.jpg
อุ่น3_resize.jpg (59.56 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 4:37 pm

ร้านส้มตำออนซอน ขนมจีนน้ำเงี้ยว #พิกัด บ้านแพะพัฒนาซอย๘ หรือทางลงวัดเขื่อนผากเข้าซอยขวามือซอยแรก #ปากซอยจะมีป้ายแบบนี้ทั้งสองทาง ราคาเริ่มต้นที่ ๒๐ บาท ร้านเปิดตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ - ๒๓.๕๙ น.

เทวา1_resize.jpg
เทวา1_resize.jpg (78.91 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง


กับบรรยากาศสไตล์ลูกทุ่ง อบอุ่น สบายใจ

เทวา_resize.jpg
เทวา_resize.jpg (90.01 KiB) เปิดดู 106134 ครั้ง


จำหน่าย
ขนมจีนน้ำเงี้ยว
ส้มตำ ตำป่า ตำลาว ตำซั่ว ตำหอยแครง ตำหอยโค่ง ตำหอยแมลงภู่ ตำหมูยอ ตำแคปหมู ตำแตงหมูยอ ตำกุ้งสด-กุ้งสุก ตำถั่วพู
ลูกชิ้นทอด ปลาหมึกแห้งทอด ขนมหวาน
เครื่องดื่ม เบียร์ เหล้า น้ำอัดลม

เทวา3_resize.jpg
เทวา3_resize.jpg (57.38 KiB) เปิดดู 106137 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 8:33 pm

สวนไผ่โฮมสเตย์

a1_resize.jpg
a1_resize.jpg (115.77 KiB) เปิดดู 106072 ครั้ง


พิกัด ๒ บ้านหนองอ้อ หมู่ ๕ ต.เวียง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (ติดลำน้ำแม่สระลวม)
ห่างจากที่ว่าการอำเภอพร้าวมาทางทิศตะวันออก ๘๐๐ เมตร กาแฟ ไวไฟฟรีตลอด

a4_resize.jpg
a4_resize.jpg (91.66 KiB) เปิดดู 106072 ครั้ง


ราคาห้องละ ๕๐๐ บาท พร้อมอาหารเช้า

a2_resize.jpg
a2_resize.jpg (96.57 KiB) เปิดดู 106072 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 21 ก.ค. 2019 8:36 pm

ติดต่อจองห้องพัก สวนไผ่โฮมสเตย์ โทร.๐๘๑-๘๘๘-๖๘๕๕ /ไอดี Line santi6855

a5_resize.jpg
a5_resize.jpg (74.93 KiB) เปิดดู 106071 ครั้ง


ผ่อนคลายกับห้องพักสไตล์ลูกทุ่ง สะอาดตา สบายใจ
a3_resize.jpg
a3_resize.jpg (82.93 KiB) เปิดดู 106071 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » จันทร์ 29 ก.ค. 2019 2:55 pm

วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล (พระมหาธาตุเจดีย์ บารมี ๑๙ ยอด)อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

65669_561496730569034_1077361447_n.jpg
65669_561496730569034_1077361447_n.jpg (38.82 KiB) เปิดดู 94168 ครั้ง


วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนกำแพงเมืองโบราณของอำเภอพร้าว สร้างสมัยพระราชวงศ์มังรายมหาราชแห่งอาณาจักรล้านนาไทย มีอายุการสร้าง ๗๓๐ ปี เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคลหลังจากล่มสลายไปตามกาลเวลาเมื่อหลายร้อยปีก่อน เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๔๖ ได้มีการค้นพบวัดพระธาตุดอยเวียง มีการค้นพบพระธาตุภายในซึ่งบรรจุเส้นพระเกศาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากตำนานที่เล่าย้อนหลังถึงแบ่งเป็น ๔ ยุคในประวัติขององค์พระธาตุนี้ จากนั้นได้เริ่มพัฒนาบูรณะปฏิสังขรณ์ จนปัจจุบัน ได้ค้นพบโบราณวัตถุหลายรายการเช่น ก้อนอิฐที่จารึกตัวอักษรฝักขาม, ถ้วยชามสังคโลก, เครื่องปั้นดินเผา, ยอดฉัตรพระธาตุ (เจดีย์) ที่ทำจากทองจังโก้ และโบราณวัตถุอีกมากมาย

ประวัติพระพุทธรูปปางทรงเครื่อง (พระพุทธรูปปางโปรดพญาชมพูบดี) จำนวน ๑๐ องค์

องค์ที่ ๑ พระนามว่า พระมหาจักรพรรดิดับภยชัยมงคล (หลวงพ่อเศรษฐี) หล่อด้วยทองสำริด หน้าตัก ๘๔ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องล้านนาโบราณ
องค์ที่ ๒ พระนามว่า พระเจ้าล้านทองหล่อด้วยทองเหลือบริสุทธิ์ หน้าตัก ๔๒ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องเชียงแสนลังกาวงศ์

องค์ที่ ๓ พระนามว่า พระเจ้าแสนล้านหล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ หน้าตัก ๓๙ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องเชียงแสนสิงห์สาม

องค์ที่ ๔ พระนามว่า พระเจ้าห้ามมารบันดาลโชคหล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ ยืนสูง ๖๐ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องล้านนา

พระอัครสาวกปัจวัคคีย์ทั้ง ๕ องค์ หล่อด้วยทองเหลืองบริสุทธิ์ หน้าตัก ๒๑ นิ้ว ศิลปะล้านนาทรงเครื่องปางนั่งพนมมือ

E8496449-15.jpg
E8496449-15.jpg (77.87 KiB) เปิดดู 94168 ครั้ง


พระมหาธาตุดอยเวียงชัยมงคล เป็นธาตุเจดีย์โบราณที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอพร้าว มีขนาดความกว้างของฐานทั้งสี่ด้านรวม ๓๖ เมตร อดีตใช้เป็นที่พักทัพ ตั้งทัพของกษัตริย์ล้านนาเมื่อครั้งเดินทางผ่านเข้าออกเมืองพร้าว ในยามบ้านเมืองสงบ และยามศึกสงคราม เพราะยังปรากฏร่องรอยแนวคู่ค่ายให้เห็นรอบวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล จึงนับว่าเป็นสถานที่เก่าแก่ และสำคัญยิ่งอีกแห่งหนึ่งของอำเภอพร้าว ที่ควรค่าแก่การศึกษา อนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการะบูชาสืบไป

วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ มีพระพุทธรูปประธาน คือ พระเจ้ามหาจักรพรรดิดับภัยชัยมงคล หรือหลวงพ่อเศรษฐี หล่อด้วยทองสำริด หน้าตัก ๘๔ นิ้ว ศิลปะทรงเครื่องล้านนาโบราณ

วัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ต.โหล่งขอด เป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า ๗๓๐ ปี ในอดีตเป็นสถานที่ตั้งทัพสมัยราชวงศ์มังราย โดยพญามังรายมหาราชได้สร้างเมืองพร้าวขึ้นในปีพ.ศ.๑๘๒๔

ประวัติพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล มีเอกสารระบุไว้ โดยจัดเรียงออกเป็น ๒ ยุคได้ดังนี้

ยุคที่ ๑ กำเนิดพระธาตุดอยเวียง อ้างในตำนานพระเจ้าเลียบโลก เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จเดินทางมายังดินแดนสุวรรณภูมิเขตล้านนาไทย โดยเล่าสืบต่อกันว่า ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาพักที่บนดอยเวียงแห่งนี้พร้อมด้วยพระอานนท์ ซึ่งดอยลูกนี้ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านจึงมีชาวบ้านพากันมาใส่บาตรพระพุทธเจ้ากันอย่างมากมายทุกวัน ก่อนหน้าที่พระพุทธเจ้าจะเดินทางต่อไปได้มอบเส้นพระเกศาให้แก่ชาวบ้านไว้สักการบูชา ชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเจดีย์ครอบเส้นพระเกศาขึ้นเพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชา ซึ่งปัจจุบันคือ พระธาตุดอยเวียง

ยุคที่ ๒ สมัยราชวงศ์มังราย ในปี พ.ศ.๑๘๒๔ พญามังรายได้สร้างเมืองพร้าวขึ้นสำหรับเป็นที่ตั้งทัพและสะสมเสบียงอาหาร โดยก่อนออกจากเมืองพร้าวได้แวะพักทัพบริเวณพระธาตุดอยเวียงในชุมชนบ้านหลวง ปัจจุบันยังมีหลักฐาน คือ การขุดแนวกำแพง เรียกว่า เวียงรอบพระธาตุดอยเวียงถึงสี่ชั้น และบนพระธาตุดอยเวียงยังมีวิหาร ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ประทับของกษัตริย์สมัยราชวงศ์มังรายที่เดินทางผ่าน โดยทุกครั้งจะต้องตั้งทัพบนพระธาตุดอยเวียงมาทุกยุคทุกสมัย เพื่อใช้เป็นสถานที่กราบไหว้นมัสการพระธาตุดอยเวียง เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขา จึงเป็นชัยภูมิที่เหมาะสำหรับการพักทัพ

เมื่อปี พ.ศ.๑๙๒๘ พญากือนาธรรมมิกราช ได้เสด็จขึ้นมาเมืองพร้าวโดยทางสถลมารคนำขบวนช้าง ขบวนม้า ขบวนเดินเท้าจำนวนมาก โดยมีช้างเผือกเชือกหนึ่งบรรทุกพระธรรมคำภีร์และพระพุทธรูปสำคัญมาด้วย ซึ่งได้แวะพักและบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุดอยเวียงองค์นี้ก่อนที่จะเข้าสู่เมืองพร้าว

เนื่องจากบริเวณพระธาตุสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าวได้ทั้งหมด ในอดีตเวลาข้าศึกยกทัพมาก็สามารถมองเห็นได้โดยง่าย ปัจจุบันทางวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ได้จัดสร้างเป็นระเบียงชมวิว ให้ผู้ที่เดินทางมาสักการะ ได้ชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ผืนป่าสีเขียวของอำเภอพร้าวได้อย่างชัดเจน

E8496449-3.jpg
E8496449-3.jpg (99.9 KiB) เปิดดู 94168 ครั้ง


การเดินทางไปวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล สามารถเดินทางไปตามเส้นทางถนนเชียงใหม่-พร้าว ทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๑ ถนนทางเข้าวัดอยู่ตรงกิโลเมตรที่ ๖๑ ระยะทางจากถนนทางเข้าวัดถึงวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ประมาณ ๓ กิโลเมตร
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » จันทร์ 29 ก.ค. 2019 3:16 pm

วัดดอยแม่ปั๋ง อยู่หมู่ที่ ๕ ตำบลแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว ห่างจากตัวเมืองตามเส้นทางสายเชียงใหม่ – แม่โจ้ - พร้าว (ทางหลวงหมายเลข๑๐๐๑) เป็นระยะทางประมาณ ๗๕ กิโลเมตร วัดดอยแม่ปั๋ง เป็นวัดที่หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เคยจำพรษาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๐๐๕ จนถึงมรณภาพในปี พ.ศ.๒๕๒๘ ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ วิหารไม้ กุฏิหลวงปู่แหวน กุฏิไม้ที่เรียกว่า โรงย่างกิเลส หรือ โรงไฟ และวิหารที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่แหวนเท่าองค์จริง
วัดดอยแม่ปั๋ง_resize.png
วัดดอยแม่ปั๋ง_resize.png (346.82 KiB) เปิดดู 94168 ครั้ง


กุฎิหลวงปู่แหวน_resize.jpg
กุฎิหลวงปู่แหวน_resize.jpg (120.66 KiB) เปิดดู 94168 ครั้ง

(กุฏิหลวงปู่แหวน)

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เกิดในตระกูลของช่างตีเหล็ก เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๐ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือนยี่ ปีกุน ณ บ้านนาโป่ง ตำบลหนองใน(ปัจจุบันเป็นตำบลนาโป่ง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยเป็นบุตรของนายใสกับนางแก้ว รามศิริ โดยมีน้องสาวร่วมบิดา - มารดาอีกหนึ่งคนคือ นางเบ็ง ราชอักษร และบิดามารดาของท่านได้ ตั้งชื่อว่า ญาณ ซึ่งแปลว่า ปรีชา กำหนดรู้

พอท่านมีอายุ ได้ประมาณ ๕ ขวบเศษ โยมมารดาของท่านก็ล้มป่วย แม้จะได้รับการดูแลเยียวยารักษาเป็นอย่างดีจากสามี แต่อาการของท่านก็มีแต่ทรงกับทรุด ในที่สุดเมื่อท่านรู้ตัวว่า คงจะไม่รอดชีวิตไปได้แน่แล้วท่านจึงได้เรียกหลวงปู่แหวน เข้าไปใกล้ แล้วกล่าวความฝากฝังเอาไว้ว่า ลูกเอํย...แม่ยินดีต่อลูก สมบัติใด ๆ ในโลกนี้ล้วน กี่โกฎก็ตามแม่ไม่ยินดี แม่จะยินดีมากถ้าลูกจะบวชให้แม่ เมื่อลูกบวชแล้วก็ให้ตายกับผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมา มีลูกมีเมียนะ... หลวงปู่แหวนพยักหน้า รับคำเท่านั้น ดวงวิญญาณของท่านก็ออกจากร่างไป มาอีกไม่นาน ดึกสงัดของค่ำคืนวันหนึ่งขณะที่คุณยายของหลวงปู่แหวนกำลังนอนหลับสนิทก็เกิดฝันประหลาด อันเป็นมงคลนิมิตหมายที่ดีงาม ท่านจึงได้นำเอาความฝันมาเล่าสู่ลูกหลานและหลวงปู่แหวนฟัง ในวันรุ่งขึ้นว่า เมื่อคืนนี้ ยายนอนหลับและได้ฝันประหลาดมาก ฝันว่าเจ้าไปนอนอยู่ในดงขมิ้น จนกระทั่งเนื้อตัวของเจ้าเหลือง อร่ามไปหมด ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนัก ยายเห็นว่า เจ้านี้จะมีอุปนิสัยวาสนาในทางบวช ฉะนั้นยายขอให้เจ้าบวชตลอดชีวิต และขอให้ตายกับผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมามีลูกมีเมียเจ้าจะทำได้ไหม

paragraph__110_289.jpg
paragraph__110_289.jpg (112.93 KiB) เปิดดู 94168 ครั้ง


บรรพชา
จากนั้น วันเวลาผ่านมาจนกระทั่งถึงปี พ.ศ. ๒๔๓๙ ท่านมีอายุได้ ๙ ขวบ คุณยายของท่านที่ได้เลี้ยงดูแลเอาใจใส่มาอย่างทะนุถนอม ได้เรียกท่านพร้อมกับ หลานชายอีกคนหนึ่ง ที่เป็นญาติสนิทรุ่นราวคราวเดียวกัน เข้าไปหาแล้วพูดว่า ยายจะให้เจ้าทั้งสองบวชเป็น สามเณร เมื่อบวชแล้วไมต้องสึก เจ้าจะบวชได้ไหม ท่านหันมามองหลวงปู่แหวนอย่างตั้งใจฟังคำตอบ หลวงปู่แหวนก็พยักหน้ารับ พอใกล้เข้าพรรษา คุณยายของท่านจึงได้ตระเตรียมเครี่องบริขาร จนครบเรียบร้อยแล้ว จึงได้พาเด็กชายทั้งสองเข้าถวายตัวต่อพระอุปัชฌาย์ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้า เข้าพรรษาเป็นสามเณร ณ วัดโพธิ์ชัย พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็นเด็กชาย ญาณ เป็นสามเณร แหวนนับแต่นั้นมา

ตลอดพรรษาที่ได้บรรพชา เป็นสามเณรนั้น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ได้แต่ทำวัตร สวดมนต์ต์บ้างตามโอกาส เท่าที่พระภิกษุและ สามเณร ภายในวัดจะร่วมกันทำสังฆกรรม นอกจากนั้นก็จะใช้เวลา ไปในทางเล่นซุกซนตามประสาเด็ก ในที่สุดพระอาจารย์อ้วน ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของท่าน มองเห็นว่าหากปล่อยให้เป็นไปเช่นนี้ จะทำให้สามเณรน้อยไม่มีความรู้ จึงพาไปฝากฝังถวาย เป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม (ที่จริงน่าจะเป็นพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโลมากกว่า เพราะหลวงปู่แหวนเกิด ๑๖ มกราคม ๒๔๓๐ ส่วนพระอาจารย์สิงห์เกิด ๒๗ มกราคม ๒๔๓๒ พระอาจารย์สิงห์อ่อนกว่าหลวงปู่แหวน ๒ ปี ) ณ วัดบ้านสร้างถ่อ อำเภอกษมสีมา จังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่น่าอัศจรรย์ ขณะที่พระอาจารย์อ้วนกำลังพาสามเณรน้อย เดินฝ่าเปลวแดดสีทองมุ่งหน้าเข้าสู่บริเวณวัดในยามบ่ายนั้น พระอาจารย์สิงห์ขนัง ศิษย์สำคัญสูงสุดของพระอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานคือ พระมั่น ภูริทัตโต กำลังมองที่ร่างสามเณรน้อย พลันก็บังเกิดฤทธิ์อำนาจ แห่งอภิญญาณทำให้ท่านเห็นรัศมีเป็นแสงสว่างโอภาส เปล่งประกายออกมาจากร่างของสามเณรน้อยผู้นี้ เป็นผู้ที่มีบุญญาธิการมาเกิด ดั้งนั้นพระอาจารย์สิงห์ จึงได้ถ่ายทอดความรู้ตลอดจนข้อวัตรปฏิบัติทั้งหมดให้

การออกจาริกแสวงบุญ
ปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาธรรมกับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)

ปี พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้เข้าพบ ท่านเจ้า คุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ ที่วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ ในครั้งนี้ได้เปลี่ยนจากมหานิกายเป็น ธรรมยุติ และได้รับฉายาว่า สุจิณโณ จากนั้นได้ออกจาริกแสวงบุญต่อ ขณะที่ศึกษาธรรมกับพระอาจารย์มั่นฯ ที่ดงมะไฟ บ้านค้อ จังหวัดอุบลราชธานี มีศิษย์พระอาจารย์มั่นฯ ที่มีอัธยาศัย ที่ตรงกัน ๒ ท่านคือ พระขาว อนาลโย และ พระตื้อ อจลธัมโม เช่นเดียวกับคราวที่ จากท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ ก็ได้ พระขาว จาริกแสวงธรรมเป็นเพื่อนจนถึงเมืองหลวงพระบาง

ปีพ.ศ. ๒๔๘๙ หลวงปู่แหวนจำพรรษาที่วัดป่าบ้านปง อ.แม่แตง ในพรรษานั้นท่านอาพาธเป็นแผลที่ขาอักเสบต้องผ่าตัด โดยมีพระหนู สุจิตโต ซึ่งเดินทางมาจากดอยแม่ปั๋งพยายามอยู่ใกล้ๆ เมื่อครบ ๗ วัน ต้องกลับไปดอยแม่ปั๋ง เพราะอยู่ระหว่างพรรษา จนกระทั่งเดือนเมษายนในปีต่อมา อาการอาพาธจึงดีขึ้นแต่ก็ยังไม่หายสนิทยังเดินไปไหนไกลๆ ไม่ได้ นับแต่นั้นมาพระหนูได้พยายามอยู่ใกล้ๆ เพื่อดูแลหลวงปู่แหวน ต่อมาพระหนูได้ดำริว่า ปัจจุบันหลวงปู่แหวนมีอายุมากแล้ว ไม่มีพระภิกษุสามเณรอยู่ด้วย เพื่อเป็นอุปัฏฐาก ถ้านิมนต์มาอยู่ที่ดอยแม่ปั๋งก็จะได้ถวายการดูแลได้โดยง่ายไม่ต้องไปๆ มาๆ อยู่อย่างนี้ แต่ก็ต้องเป็นเพียงความคิดของพระหนูเท่านั้น เพราะในเวลาดังกล่าว ดอยแม่ปั๋งยังไม่มีอะไรพร้อมแม้แต่กุฏิก็ยังไม่มี

Phrao03_resize.jpg
Phrao03_resize.jpg (117.15 KiB) เปิดดู 94167 ครั้ง

(ภาพ : Maha Mai)

ปีพ.ศ. ๒๕๐๕ ขณะที่หลวงปู่แหวนมีอายุ ๗๕ ปี คืนวันหนึ่งพระหนูนั่งภาวนาอยู่เกิดเป็นเสียงหลวงปู่แหวนดังขึ้นมาที่หูว่า จะมาอยู่ด้วยคนนะ หลังจากวันที่ได้ยินเสียงหลวงปู่แหวนอีกสามวัน พระอาจารย์หนูได้ถูกนิมนต์ไปที่วัดบ้านปงสถานที่ที่หลวงปู่แหวนอยู่ และถือโอกาสนิมนต์หลวงปู่แหวนมาที่วัดดอยแม่ปั๋งด้วย

เมื่อหลวงปู่แหวนได้มาอยู่ที่วัดดอยแม่ปั๋งแล้ว ครั้งแรกท่านพักอยู่ที่กุฏิหลังเล็กๆ หลังหนึ่ง การมาอยู่ที่วัดดอยแม่ปั๋งนี้ ท่านได้มีข้อตกลงกับพระอาจารย์หนูว่า หน้าที่ต่างๆ และกิจทุกอย่างที่มีขึ้นในวัด ให้ตกเป็นภาระของพระอาจารย์หนูแต่เพียงผู้เดียว ส่วนท่านจะอยู่ในฐานะพระผู้เฒ่าผู้ปฏิบัติธรรมจะไม่มีภาระใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนั้นหลวงปู่แหวนจะไม่รับนิมนต์โดยเด็ดขาด แม้ที่สุดถึงจะเกิดอาพาธหนักเพียงใดก็ตาม ท่านไม่ยอมนอนรักษาที่โรงพยาบาล ถึงธาตุขันธ์จะทรงอยู่ต่อไปไม่ได้ก็จะให้สิ้นไปในป่าอันเป็นที่อยู่ ตามอริยโคตรอริยวงศ์ ซึ่งบูรพาจารย์ท่านเคยปฏิบัติมาแล้วในกาลก่อน

นับตั้งแต่หลวงปู่แหวนได้ขึ้นไปทางเหนือ ท่านไม่เคยไปจำพรรษาที่ภาคอื่นเลย เพราะอากาศทางภาคเหนือสัปปายะสำหรับท่าน หลวงปู่แหวนได้มรณภาพลงที่วัดดอยแม่ปั๋งแห่งนี้ เมื่อวันที่ ๒ ก.ค.๒๕๒๘ สิริอายุ ๙๘ ปี

คำสอน
อดีตก็เป็นทำเมา อนาคตก็เป็นทำเมา จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้อยู่ในปัจจุบัน ละอยู่ในปัจจุบันนี้จึงเป็นพุทโธ เป็นธัมโม ปัจจุบันก็พอแล้ว อดีต และอนาคตไม่ต้องคำนึงถึง เกิด แก่ เจ็บ ตาย วัน คืน เดือน ปี สิ้นไป หมดไป อายุเราก็หมดไป สิ้นไป หมั่นบำเพ็ญจิต บำเพ็ญทาน รักษาศีล ภาวนาต่อไป

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรโร) วัดสัมพันธวงศาราม กรุงเทพมหานคร
พระครูจิตตวิโสธนาจารย์ (พระอาจารย์หนู สุจิตฺโต) วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
พระโสภณวิสุทธิคุณ (พระอาจารย์บุญเพ็ง กปฺปโก) วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น
หลวงปู่คำพอง ขนฺติโก วัดป่าอัมพวัน จ.เลย
พระศีลสังวร (พระอาจารย์เจริญ ราหุโล) วัดพระธาตุเขาน้อย จ.ราชบุรี
พระอาจารย์คำบ่อ ฐิตปญฺโญ วัดใหม่บ้านตาล จ.สกลนคร
พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป วัดอรัญวิเวก จ.เชียงใหม่
พระอาจาย์ประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่
พระอาจารย์สมหมาย จิตฺตปาโล วัดป่าอนาลโย จ.นครปฐม
พระอาจารย์ทวี จิตฺตคุตฺโต วัดอรัญวิเวก (ป่าลัน) จ.เชียงราย
พระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสโก วัดป่านาคำน้อย จ.อุดรธานี
พระโพธิญาณมุนี (พระอาจารย์เมือง พลวฑฺโฒ) วัดป่ามัชฌิมวาส จ.กาฬสินธุ์
พระอาจาย์บุญจันทร์ จนฺทสีโล วัดป่ากิ่วดู่ จ.เชียงใหม่
พระอาจารย์ไสว วํสวโร วัดถ้ำผาบิ้ง จ.เลย
พระอาจารย์เลื่อน โอภาโส วัดพระธาตุฝุ่น จ.สกลนคร
พระอาจารย์สามดง จนฺทโชโต วัดป่าอรัญญพรหมมาราม จ.นคราชสีมา
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง แนะนำนวนิยาย

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน

cron