.....................................
ทริปจำเพาะเหมาะสมโต้ลมหนาว
ร่วมกับหมู่เพื่อนพ้องฉลองยาว
ก่อนพ้นคราวสิ้นศกจึงยกพล
กำหนดกัน วันศุกร์ ได้ฉุกคิด
บอกมวลมิตรเตรียมของที่ต้องขน
ทั้งอาหาร ภัณฑ์แพร แต่ละคน
ไปตั้งต้นเสาร์เช้ารับหนาวกราย
วันจะจรดั่งจินต์ถวิลเทวษ
ต้องร้างเนตรนุชขวัญเป็นมั่นหมาย
ไปอยู่ดงโดดเดี่ยวเปลี่ยวจิตกาย
แม้นจะรายแวดล้อมเพื่อนพร้อมพรัก
คิดถึงนุชนวลใจเมื่อได้จาก
ยามจะพรากแม้นคำล้ำสลัก
ขาดทั้งถ้อยร้อยพันมาสรรค์รัก
ยิ่งทุกข์หนักอกหนาวถึงคราวไกล
จรจาก อยุธเยศ ปลายเขตแคว้น
ผ่านถึงแดนหนองแซงแหนงไฉน
เช่นชายอื่นหมื่นแว้งมาแซงใจ
สลักในทรวงศรี ให้พี่ช้ำ
ผ่าน บ้านไร่กาแฟ ชะแง้เห็น
กำแพงเด่นสวยสม ดูคมขำ
ทั้งโรงคั่ว กรุ่นกลิ่น ประทิ่นทำ
ก็เลิศล้ำ เลอค่า บ้านกาแฟ
จากหนองแซงเลยผ่านถึงย่านข้าว
พันธุ์สีขาวนวลส่องดั่งต้องแข
เมืองเสาไห้ นาเขียว เลี้ยวไปแล
ยังไม่แปรเปลี่ยนแปลกเมื่อแรกเยือน
ผ่านไปไหว้เสาตะเคียนที่วัดสูง
เขาลากจูงจากนาวาจึงคลาเคลื่อน
จากตำนานนับทวีหลายปีเดือน
ยังมิเฟือนความไขที่ได้ยิน
ตะเคียนทองล่องชลเป็นต้นเค้า
เมื่อแรกเนาเฉลิมฉัตรรัตนโกสินทร์
สร้างหลักเมืองเรืองรุจน์สุดโสภิณ
ทั่วแดนดินคัดไม้มาใช้งาน
ตะเคียนทองล่องผ่านถึงย่านนี้
สองร้อยปีลับเรื่องราวคนกล่าวขาน
สำแดงเดชให้ประสบคนพบพาน
จนถึงกาลเชิญมา ยังอาราม
จากวัดสูงเสาไห้จึงได้เลี้ยว
สู่เมืองเพรียว สระบุรี ศรีสยาม
จนถึงแยกพิชัยรณรงค์สงคราม
เลี้ยวขวาข้ามสะพานมายังธานี
เป็นเมืองใหญ่ เมืองงาม นามไพเราะ
ชัยภูมิเหมาะตามตำรับประดับศรี
ค่ายอดิศร ทหารม้า คู่พระบารมี
ท่ามคีรี ธรรมชาติ วิลาศทัศน์
ผ่านแก่งคอย ยินนาม ในยามนี้
ดั่งอกพี่ เฝ้าคอย เช่นสร้อยรหัส
ต้องร้างขวัญชีวาอุราพลัด
เพียงจะลัดข้ามฟ้าไปหาเธอ
ผ่าน มวกเหล็ก เด็กผู้ใหญ่ ยังไม่รู้
เรียก หมวก อยู่ สับสนปะปนเสมอ
อันว่าแท้ มวกเหล็ก ไซร้ใช่ละเมอ
มิได้เพ้อ คือสมุนไพร ของไทยเรา
ผ่านมาถึงเขตแคว้นแดนโคราช
มิได้ขาดเรียงริ้วเลยทิวเขา
สู่ปากช่องธรรมชาติพิลาสเนา
น้ำและเขา งามตา ได้มาเยือน
ลำตะคองงดงามอร่ามฟ้า
แลชลาคุ้งขวางเป็นทางเขื่อน
แหล่งต้นน้ำ ไฟฟ้ามี นับปีเดือน
สิ่งย้ำเตือน พระกรุณา ประชาไทย
จากปากช่อง ยูเทิร์น ขึ้นเหินฟ้า
เคียงนภา ทริปเรา ที่เขาใหญ่
เลี้ยวลัดเลาะป่าเขาอย่าเบาใจ
ระวังไว้ขับขี่อย่ารี่รุด
ตามทางแถวแนวไม้ให้ร่มเรื้อ
เหมือนโอบเอื้ออุ่นไอมิได้หยุด
เหล่าลิงน้อยยืนริมทางบ้างหมอบมุด
เปรียบประดุจป่าเปิดให้เพลิดเพลิน
มาถึงผากล้วยไม้ที่หมายยั้ง
ต่างก็ตั้งเต๊นท์จัดไม่ขัดเขิน
ก่อไฟ ปิ้งย่างเผื่อต่างเชื้อเชิญ
หนุ่มสาวเพลินปรุงอาหารไม่นานรอ
บาบีคิว ช่วยกันหมัก ซักพักปิ้ง
กุ้งย่างจริงรสดีตามที่ขอ
ต้มยำปลาหมึกนี้รสดีพอ
ปิ้งปลาหมอ น่องไก่ทอด ยอดเมนู
สารพันสรรมาหลากอาหาร
ล้อมวงทานอย่างสนิทกับมิตรหมู่
จวบตะวันลับฟ้าช่างตราตรู
แลเลิศหรูป่าดงพงพนา
ลมหนาวล่องพัดผ่านในม่านหมอก
หลายระลอกพัดพลิ้วผ่านทิวผา
จนตะวันลับหายจากสายตา
ยังหนาวพาชุ่มชื้นทั่วผืนไพร
ตะวันดับลับลาจากฟ้าแล้ว
ยังแสงแผ้วงามแท้นะแขไข
หนาวสะท้านม่านหมอกให้ยอกใน
ถวิลใจถึงนุชสุดระทม
เจ้าแอบอุ่นหนุนหมอนอยู่ตอนนี้
ห่มผ้าสีแพรเพลาะอย่างเหมาะสม
พี่นอนเปลี่ยวเอกาอุราตรม
มิได้ห่มเช่นเจ้าเมื่อเข้าไพร
เสียงกวางเดินกลางดึกให้นึกพรั่น
เกรงว่ามันมุ่งหมายทำร้ายไฉน
มาแอบกินข้าวปลาจนสาใจ
แล้วจรไกลจากกันไม่ทันลา
เห็นเม่นใหญ่ขวางทางระหว่างเต้นท์
มองขะเม้นเหมือนมุ่งจะพุ่งหา
จึงเดินเลี่ยงลัดไปเสียไกลตา
ห้องสุขาริมทางระหว่างคลอง
ยิ่งดึกยิ่งหนาวจับพยับหมอก
หลายระลอกปรกหลังเต้นท์ทั้งผอง
หนาวน้ำค้างพร่างพรมให้สมปอง
ทริปที่จองรับหนาวในคราวนี้
อรุณรุ่งเยือนหล้าอุสาสาง
ก็ตื่นพลางก่อไฟใช้ที่นี่
ข้าวต้มร้อนหม้อใหญ่ไม่เสียที
จนอิ่มปรีดิ์แล้วล่องเดินท่องไพร
เที่ยวน้ำตก ชมดง ในพงพฤกษ์
ลืมเลยตึกระฟ้า เข้าป่าใหญ่
สายน้ำตกไหลเลาะช่างเหมาะใจ
ผากล้วยไม้ งดงามท่ามคีรี
กลับขึ้นมาเก็บของเตรียมล่องกลับ
มิอยาก ลับ พฤกษา พนาศรี
ถ่ายรูปรวมหมู่มือตรจิตอารี
ถ้วนน้องพี่ ไกลตา ที่มาเยือน
ขับรถเที่ยวหลายที่ ถึง พรีโม่(โพสโต้)
ร้านอิตาเลี่ยนโชว์จัดไว้หาใครเหมือน
สวนองุ่น มวลบุปผา ไม่ราเลือน
ยังย้ำเตือนมั่นคงในทรงจำ
จบทริปที่เขาใหญ่ด้วยใจสุข
ลืมความทุกข์ที่เร้าทั้งเช้าค่ำ
อันว่าเที่ยวสุขขีเช่นชี้นำ
สนุกล้ำเลิศกว่าไหนถิ่นไทยเอย.
ภาพ จากเนต
เพลง เขาใหญ่ พงษ์เทพ
