วรรคทองวรรณคดีไทย

บทกวี โคลง กลอน ต่างๆ

วรรคทองวรรณคดีไทย

โพสต์โดย ภาษาสยาม » ศุกร์ 18 ก.ค. 2008 4:49 pm

เอาล่ะค่ะ เอามั่ง 555+

เมื่อแรกเชื่อว่าเนื้อทับทิมแท้


มาแปรเป็นพลอยหุงไปเสียได้


กาลวงว่าหงส์ให้ปลงใจ


ด้วยมิได้ดูหงอนแต่ก่อนมา


คิดว่าหงส์เราจึงได้หลงด้วยลายย้อม


ช่างแปลงปลอมท่าทีดีนักหนา


ดังรักถิ่นมุจรินทร์ไม่คลาดคลา


ครั้นลับตาฝูงหงส์ก็ลงโคลน

จาก เสภาขุนช้างขุนแผน
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1157
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: วรรคทองวรรณคดีไทย

โพสต์โดย ภาษาสยาม » ศุกร์ 18 ก.ค. 2008 4:52 pm

โอ้โอ๋กระไรเลย
บมิเคยณก่อนกาล
พอเห็นก็ทราบส้าน ฤดิรักบหักหาย
ยิ่งยลวะนิดา ละก็ยิ่งจะร้อนคล้าย
เพลิงรุมประชุมภาย ณ อุราบลาลด
พิศไหนบมีทราม วะธุงามสง่าหมด
จนสุดจะหาพจน์ สรเสริญเสมอใจ
องค์วิศวะกรรมัน นะสิปั้นวะธูไซร้
พอเสร็จก็เทพไท พิศะรูปสุรางค์เพลิน
ยืนเพ่งและนั่งพิศ วรพักตร์บหมางเมิน
งามใดบงามเกิน มะทะนาณโลกสาม
แลวิศวะกรรมัน ผิจะปั้นวะธูตาม
แบบอีกก็ไม่งาม ดุจะโฉมอนงค์นี้
เหตุนี้สินงคราญ ณสถานพิภพตรี
จึ่งไม่ประสพที่ สิริรูปะเทียมทัน
งามเกินมนุษจริง กละหญิงนิมิตร์ฝัน
จนแรกประสพนั้น ดนุจวนจะปลุกตัว
นึกว่าสนิธนิทร์ นยนาก็แน่วนัว
แต่นึกก็ออกกลัว จะผวาและไม่เห็น
ครั้นเมื่อสดับศัพ- ทะสำเนียงก็เยือกเย็น
ราวดื่มอุทกเพ็ญ รสะรื่นระรวยใจ
เสียงเจ้าสิเพรากว่า ดุริยางคะดีดใน
ฟากฟ้าสุราลัย สุรศัพทะเริงรมย์
ยามเดิรบเขินขัด กละนัจจะน่าชม
กรายกรก็เร้ารม- ยะประหนึ่งระบำสรวย
ยามนั่งก็นั่งเรียบ และระเบียบบเขินขวย
แขนอ่อนฤเปรียบด้วย ธนุก่งกระชับไว้
พิศโฉมและฟังเสียง ละก็เพียงจะฃาดใจ
โอ้นอนจะหลับไหล ฤฉนี้นะอกเอ๋ย
ขืนนอนก็ร่อนเร่า ฤดิเฝ้าคะนึงเชย
หากขืนจะนอนเฉย อุระอาจจะพังภิน
จำมาณที่นี้ เพราะว่ะใกล้สุนาริน
โอ้เราบสมจิน ตะนะได้ฤฉันใด
ช้าก่อน ดนูเห็น ณประตูสิรำไร
ดังหนึ่งจะมีใคร จระจากพระอาศรม
อ้าขอถวายอัญ- ชลิองค์สุโรดม
ขอให้ดนูชม วธุเลิศเถอะสักที


มัทนะพาธา
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1157
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: วรรคทองวรรณคดีไทย

โพสต์โดย ภาษาสยาม » ศุกร์ 18 ก.ค. 2008 4:54 pm

ในลักษณ์นี้ว่าน่าประหลาด

เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า

เหตุไฉนย่อท้อรอรา

ฤจะกล้าแต่เพียงวาที



เห็นแก้วแวววับที่จับจิต

ไยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่

เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี

อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ



อันของสูงแม้ปองต้องจิต

ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ

มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ

ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม



ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง

คงชวดดวงบุบผชาติสะอาดหอม

ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินดอม

จึ่งได้ออมอบกลิ่นสุมาลี

จาก..ท้าวแสนปม
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1157
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: วรรคทองวรรณคดีไทย

โพสต์โดย ภาษาสยาม » ศุกร์ 18 ก.ค. 2008 4:55 pm

เรื่อยเรื่อยมารอนรอน........ทิพากรจะตกต่ำ

สนธยาจะใกล้ค่ำ.....................คำนึงหน้าเจ้าตราตรู

เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง.........นกบินเฉียงไปทั้งหมู่

ตัวเดียวมาพลัดคู่....................เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดา ย

.......................................กาพย์เห่เรือเจ้าฟ้ากุ้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1157
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: วรรคทองวรรณคดีไทย

โพสต์โดย ภาษาสยาม » ศุกร์ 18 ก.ค. 2008 4:57 pm

จะให้เชื่อพจมานหวานถ้อย......จะได้ไปเป็นน้อยชาวหมันหยา

เขาจะเชิดชื่อฤาชา........................ว่ารักสามีท่านกว่าค วามอาย

อันความอัปยศอดสู........................จะติดตัวชั่วอยู่ไม่ร ู้หาย

ร้อนใจอะไรเล่าเจ้าเป็นชาย............ไม่เจ็บอายขายหน้าก็ว่าไ ป

.................................................จาก วรรณคดีอิเหนา
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1157
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: วรรคทองวรรณคดีไทย

โพสต์โดย ภาษาสยาม » ศุกร์ 18 ก.ค. 2008 5:00 pm

มาเอยมาถึง


เมืองหนึ่งสร้างใหม่ดูใหญ่กว้าง


ปราสาทเสาเล้าหมูอยู่กลาง


มีคอกโคอยู่ข้างกำแพงวัง


พระเยื้องย่างเข้าทางทวารา


หมู่หมาแห่ห้อมล้อมหน้าหลัง


แกว่งตระบองป้องปัดอยู่เก้กัง


พระทรงศักด์หยักรั้งคอยราญรอน



สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด

งามละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋า

พิศแต่หัวจรดเท้าขาวแต่ตา

สองแก้มกัลยาดั่งลูกยอ


................จากระเด่นลันได
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1157
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: วรรคทองวรรณคดีไทย

โพสต์โดย น้ำฟ้า » เสาร์ 19 ก.ค. 2008 1:23 pm

[center]ต้อยตะริดติดตี่เจ้าพี่เอ๋ย
จะละเลยเร่ร่อนไปนอนไหน
แอ้อีอ่อยสร้อยฟ้าสุมาลัย
แม้นเด็ดได้แล้วไม่ร้างให้ห่างเชย
ฉุ ยฉา ยชื่นรื่นรวยระทวยทอด
จะกล่อมกอดกว่าจะหลับกับเขนย
หนาวน้ำค้างพร่างพรมลมรำเพย
ใครจะเชยโฉมน้องประคองนวล
เสนาะดังวังเวงเป็นเพลงพรอด
เสียงฉอดฉอดชดช้อยละห้อยหวน
วิเวกแว่วแจ้วในใจรัญจวน
เป็นความชวนประโลมโฉมวัณฬา ฯ[/center]

พระอภัยมณี


จริงๆชอบสำนวนของทมยันตีที่บอกว่า
" หนาวน้ำค้างพร่างพรมลมลำเพย ล้วนลอยเลยลิบลับฤากลับคืน "
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am


ย้อนกลับไปยัง บทกวี

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 21 ท่าน

cron