ความเชื่อดั้งเดิมปลูกแล้วรวย
ว่านมงคล ๗ ชนิด ปลูกไว้ มีลาภลอย มีความโชคดี ในการเสี่ยงโชคสูง
เมื่อพูดถึง “ว่าน” ก็ต้องนึกถึงเรื่องดี ๆ ที่จะตามหลังการปลูกและสรรพคุณอีกมากมายที่หลายคนให้ความสนใจ เอาเป็นว่าวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับว่านมงคลระดับแถวหน้า ที่คัดมาแล้วว่าดีจริงพร้อมทั้งวิธีในการปลูก หากใครที่กำลังมองหาต้นไม้งาม ๆ มาปลูกไว้ที่บ้านสักต้น ก็น่าจะเริ่มที่ว่านมงคลเหล่านี้เพื่อเสริมโชคลาภให้กับตัวเองพร้อมทั้งคนในครอบครัว

- 729823_DRIMIOPSIS_MACULATA.jpg (69.67 KiB) เปิดดู 6412 ครั้ง
๑. ว่านรวยไม่เลิก
ใบของว่านนี้จะมีลักษณะเรียวยาวหนานุ่มและมีจุดตามใบ ก้านดอกสีขาวจะออกตลอดทั้งปีแสดงถึงความมั่นคงทางการเงิน ปลูกโดยการแตกหน่อและตัดใบปักชำ เป็นพืชที่ชอบน้ำมากแต่ต้องตั้งอยู่ในที่แดดรำไรและอากาศถ่ายเทสะดวกไม่เช่นนั้นจะเน่าเอาง่าย ๆ
๒. ว่านกวักนางพญามหาเศรษฐี
ลักษณะของใบทั้งกว้างและใหญ่ ปลายเรียวแหลมและก้านใบสูง ออกดอกเป็นช่อสีขาวแบ่งเป็นช่อละ ๘-๙ ดอก ใช้หัวปลูกลงในดินร่วนปนทรายผสมเศษอิฐและใบก้ามปู รดน้ำปานกลาง ตั้งไว้ในที่สูงที่มีแดดรำไร จะช่วยเรียกโชคลาภให้เข้ามาไม่ขาดสายและถูกหลักตามฮวงจุ้ยที่ควรจะเป็นอีกด้วย

- 6-13(2).jpg (276.58 KiB) เปิดดู 6412 ครั้ง
๓. ว่านเศรษฐีก้านทอง
ไม้ล้มลุกที่มีใบยาวปลายแหลมและขอบใบทั้ง ๒ ข้าง พลิ้วเป็นคลื่น มีเส้นกลางเป็นสีน้ำตาลเหลืองอ่อน ออกดอกเป็นช่อสีขาวนวล ควรใช้หัวปลูกลงในดินร่วนปนทรายผสมแกลบเผา ให้ตั้งไว้ในที่แดดรำไรและรดน้ำพอชุ่มเพราะชอบความชื้น สรรพคุณคือใช้เป็นเมตตามหานิยมเรียกเงินทองให้กับผู้ปลูกจึงเหมาะกับร้านค้าหรือคนทำธุรกิจ
๔. ว่านเศรษฐีเรือนนอก
เป็นพืชล้มลุกแตกกอคล้ายเศรษฐีเรือนใน มีใบยาวเรียวแต่ขอบใบทั้งสองข้างจะเป็นสีขาว หากออกดอกจะถือว่าเจ้าของนั้นมีโชคลาภและช่วยป้องกันอันตรายทั้งปวง ให้ปลูกโดยการแยกหน่อหรือนำไหลมาปลูกลงดินร่วนปนทรายใหม่ ตั้งอยู่ในที่แดดไม่มาก รดน้ำพอชุ่มแต่ไม่ต้องเปียกโชก
๕. ว่านเศรษฐีเรือนใน
จุดเด่นของว่านนี้คือใบเรียวยาวขอบสีเขียวและมีเส้นสีขาวตรงกลาง มีสรรพคุณที่ช่วยดูดสารพิษภายในอาคารที่พักอาศัย ต้องปลูกโดยการเอาต้นอ่อนเอามาลงดินร่วนปนทรายที่ผสมเศษอิฐ ไม่ค่อยชอบน้ำให้รดแค่สัปดาห์ละครั้งและตั้งอยู่ในที่แดดรำไร เชื่อกันว่าจะช่วยป้องกันอันตรายและเสี่ยงทายเรื่องโชคลาภ

- khjkhjl2.jpg (269.53 KiB) เปิดดู 6412 ครั้ง
๖. ว่านกุมารทอง
ว่านชนิดนี้จะเป็นพืชล้มลุกที่มีหัวคล้ายกับเด็กนั่งอยู่บนแท่น จึงขนานนามว่าเป็น “ว่านกุมารทอง” ออกดอกเป็นพุ่มทรงกลมปีละครั้ง เมื่อดอกออกแล้วใบจะค่อย ๆ แทงยอดออกมามีลักษณะเรียวยาวปลายไม่แหลมมาก นิยมปลูกไว้เพื่อช่วยในเรื่องอยู่ยงคงกระพัน เสริมอำนาจและบารมี ทำมาค้าขายคล่องตัว แนะนำให้ปลูกไว้หน้าบ้านหรือบริเวณศาลพระภูมิ นำหัวมาปลูกในดินปนทรายระบายน้ำได้ดีจะวางไว้กลางแจ้งหรือแดดรำไรก็ได้
๗. ว่านกวักโพธิ์เงิน-โพธิ์ทอง
ว่านทั้งสองชนิดนี้ต่างกันตรงที่ลายบนหน้าใบ ถ้าเป็นกวักโพธิ์เงินจะมีลายสีขาวและกวักโพธิ์ทองมีสีแดงอมชมพู ลักษณะใบกว้างคล้ายใบโพธิ์เพราะอยู่ในตระกูลเดียวกับบอน ให้ใช้หัวหรือหน่อปลูกลงดินร่วนปนทรายผสมใบไม้แห้งและฟางข้าวหรือใบจามจุรีก็ได้ เคล็ดลับในการรดน้ำหากจะรดในตอนเย็นต้องรอให้กระถางเย็นตัวซะก่อนจึงจะรดได้ ว่านนี้ใช้ในการกวักเงินกวักทองและเสริมเสน่ห์ให้กับผู้ปลูก และยังนำหัวว่านมาพอกแผลช่วยให้หายเร็วได้อีกด้วย
.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : kapook, thaiherbtherapy, Blogging, Kabilawan, Panmai, Saimherba, Wunjun, Panmai, Somwungsamunpai, Rmuti
“ว่านแสงอาทิตย์” (Blood lily) หรือ”ว่านกุมารทอง” หรือ “ว่านพฤษภา”

- 3632721499_d66129e9d3.jpg (133.52 KiB) เปิดดู 6412 ครั้ง
นับเป็นไม้ประดับที่สวยมากอีกชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาออกดอกสีแดงก่ำราวกับแสงอาทิตย์ โบราณเชื่อว่า เป็นไม้มงคล อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ”ว่านนางคุม”และ”ว่านนกคุ้ม” ที่นิยมปลูกกันมาก เพราะเชื่อว่าช่วยคุ้มภัย มีอำนาจ และเมตามหานิยม เนื่องจากเป็นว่านของกุมารทอง หรือมีกุมารทองสิงสถิตอยู่ ที่จะช่วยเฝ้าบ้านช่วยให้คนปลูก และคนในครอบครัว พ้นจากภัยอันตรายต่าง มีอำนาจวาสนา และช่วยให้ทำมาค้าขายร่ำรวย
บางคนนิยมนำหัว”ว่านแสงอาทิตย์” พกติดตัวเวลาเดินทางไกล เชื่อจะช่วยคุ้มครองให้พ้นภัยอันตรายทั้งปวง ถ้าเป็นชาวพุทธถือศีล ๕ ด้วยยิ่งดี ส่วนดอกจะนำมาบดใช้ผสมกับเครื่องรางของขลัง นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยาด้วยคือ ดอก นิยมนำมาผสมกับน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพร สำหรับใช้ทานวดลำตัวเพื่อช่วย และบรรเทาอาการเมื่อยล้า รวมถึงความเชื่อที่ว่าช่วยให้มีความคงกระพัน มีอายุยืนยาว กระนั้นบนความสวยงามของ”ว่านแสงพระอาทิตย์” มันก็มีอันตรายแอบแฝงคือทั้งหัว ใบ และดอก มีพิษ หากรับประทานอาจทำให้ท้องเดิน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ห้ามรับประทานอย่างเด็ดขาด
ว่านกุมารทอง หรือดอกพฤษภา เป็นว่านที่มีอิทธิคุณคล้ายๆว่านนางล้อม(นางคุม) หรือผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน นิยมปลูกคู่กัน มีความเชื่อว่าจะช่วยคุ้มครองป้องกันภัยสถานที่และผู้อยู่อาศัย แถมยังให้โชคลาภอีกด้วย และยังเป็นว่านเสี่ยงทายโดยเชื่อว่าหากผู้ใดปลูกในกระถางแล้วว่านเจริญงอกงามดี ออกดอกบานสะพรั่ง แสดงว่าเจ้าของกำลังจะโชคดี ถ้าเก็บดอกขณะบานแล้วนำไปแช่ในน้ำมันที่ไม่ใช่น้ำมันจากสัตว์ และน้ำมันที่สกัดมาจากเกสรดอกไม้ ปลุกเสกด้วยพระคาถาทรหดแล้วนำมาทาตัวจะทำให้อยู่ยงคงกระพันยิ่งนัก ว่านนี้มีหัวคล้ายหัวหอมอยู่ใต้ดิน มีใบขนาดเท่าฝ่ามือหรือใหญ่กว่า ใบแข็งหนาเป็นมัน ออกดอกช่วงเดือนพฤษภาคมจึงเป็นที่มาของชื่อดอกพฤษภา ปลูกในวันพฤหัสบดี พร้อมเสกน้ำรดด้วยคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์และหัวใจธาตุทั้ง ๔ คือ "นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ"รดลงไปและเสกทุกครั้งที่รดน้ำในครั้งต่อไป
ที่มา เกษตรทำกิน , Charoenporn Kaewthong