มารู้จักพันธุ์อะโวคาโด ผลไม้ที่มีประโยชน์ไขมันดี
-พันธุ์แฮสส์ (Hass) ผลรูปแพร์ ผิวขรุขระมาก ผิวสีเขียวเข้ม เมื่อสุกอาจเป็นสีเขียวหรือม่วงเข้ม ผลมีขนาดเล็กน้ำหนักประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ กรัม เนื้อสีเหลือง เมล็ดเล็กถึงขนาดกลาง ช่วงเก็บเกี่ยวผลเดือนธันวาคม–กุมภาพันธ์ มีไขมัน ๒๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นพันธุ์การค้าอันดับ ๑ ของโลก เหมาะที่จะนำส่งออกไปขายตลาดต่างประเทศ หรือในห้างสรรพสินค้า ในประเทศไทยสามารถปลูกได้ ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคและแมลง
-บูช ๗ (Booth-7)
ผลค่อนข้างกลม ผลขนาดกลางน้ำหนักประมาณ ๓๐๐-๕๐๐ กรัม ผิวผลขรุขระ สีเขียว เปลือกหนา เนื้อสีเหลืองอ่อน รสดี เมล็ดขนาดกลาง ติดอยู่ในช่องเมล็ดแน่น เมื่อสุกแก่จะมีรอยจุดสีน้ำตาล มีไขมัน ๗-๑๔ เปอร์เซ็นต์ ช่วงเก็บเกี่ยวผลประมาณวันที่ ตุลาคม ถึง ธันวาคม อายุ ๕ ปี ๒๔๙ ผลต่อต้น เหมาะปลูกในประเทศไทย ค่อนข้างทนต่อโรค ดูแลรักษาง่าย ออกผลดก และมีผลขนาดใหญ่ เหมาะที่จะขายในตลาดทั่วไป ตลาดท้องถิ่น ไม่เหมาะที่จะส่งออกขายไปต่างประเทศ
- ปีเตอร์สัน (Peterson)
ผลขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ผลค่อนข้างกลม น้ำหนักผล ๒๐๐ – ๓๐๐ กรัม เนื้อสีเหลืองอมเขียว เมล็ดใหญ่อยู่ในช่องเมล็ดแน่น เนื้อสีเหลืองอมเขียว รสชาติดี ช่วงเก็บเกี่ยวผล กรกฎาคม – กันยายน เหมาะปลูกในประเทศไทย ข้อดีคือสามารถเก็บเกี่ยวได้เร็ว ผลดก ปลูกและดูแลรักษาได้ง่าย เหมาะที่จะขายในตลาดทั่วไป ตลาดท้องถิ่น ไม่เหมาะที่จะส่งออก
- เฟอร์เออเต่ Fuerte
ผลรูปแพร์ ผิวขรุขระเล็กน้อย ผิวสีเขียวเข้ม เนื้อสีเหลืองครีม เมล็ดขนาดกลาง น้ำหนักผลประมาณ ๑๕๐ - ๓๐๐ กรัม รสดี ช่วงเก็บเกี่ยวผลเดือนตุลาคม – ธันวาคม ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรค เป็นพันธุ์การค้าอันดับ ๒ ของโลก เหมาะที่จะนำส่งออกไปขายตลาดต่างประเทศ หรือในห้างสรรพสินค้า
สถานีวิจัยปากช่อง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์