ความทรงจำแห่งความรัก โดย กันย์นิกา

เรื่องสั้น บทความ ต่างๆ

ความทรงจำแห่งความรัก โดย กันย์นิกา

โพสต์โดย ภาษาสยาม » พุธ 09 ก.ค. 2008 1:09 pm

ความทรงจำแห่งความรัก
สัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม
ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนฤดูกาลทั้งเขตโตเกียวกำลังรอคอยวันที่ี่
ซากุระ...เทพีสีชมพูแห่งฤดูใบไม้ผลิ จะบานสะพรั่งอวดสีสันอ่อนหวาน
ท้องฟ้าสีครามปราศจากปุยเมฆสีขาว ไม่เห็นพระอาทิตย์
ฉันอดคิดไม่ได้ว่าท้องฟ้าดูสะอาดตาจนเกินไป บนถนนเต็มไปด้วย
ความวุ่นวายผู้คนมากมายกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดหมายของตนเอง
คงมีเพียงฉันยืนหยุดนิ่งท่ามกลางความเคลื่อนไหวไม่รู้จบของฝูงชน
ฉันค่อยๆดึกสายตาลงมาจากฟ้าเท้าที่หยุดนิ่งนานกว่าห้านาที
ีเริ่มเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิมฉันเริ่มเดินไปเรื่อยๆ
กลมกลืนไปกับฝูงชนที่กำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
ปัจจุบันฉันเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้นที่ยังคงมีชีวิตและหน้าที่
ที่นี่คือโทได (มหาวิทยาลัยโตเกียว) สีสันและความมีชีวิตชีวาบังเกิดขึ้น
เมื่ออาจารย์ผู้สอนเก็บตำราและเดินออกไปจากห้อง
ฉันมองไปที่หน้าห้อง เข็มนาฬิกาบอกเวลาสี่โมงเย็น
บ่ายจัดขนาดนี้ คิดว่าคงไม่มีใครโชคร้ายมีคาบเรียนต่ออีก
นักศึกษาทยอยเดินออกจากห้อง ในขณะที่ฉันเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า
นักศึกษาสาวกลุ่มหนึ่งซึ่งยังไม่ออกจากห้องพูดคุยกันอย่างไม่
เกรงอกเกรงใจใคร เสียงดังและสดชื่นแจ่มใสจนฉันเองอดไม่ฟังไม่ได้
พวกนั้นกำลังจับกลุ่มมุ่งดูนิตยสารร็อกสตาร์ แถมวิพากษ์วิจารณ์กัน
อย่างเมามัน
" หล่อจริงๆเลยนะเธอ ถ่ายรูปนี้ออกมาแล้ว เท่มากเลย "
"เคยเห็นที่คอนเสิร์ตไหม ตอนนั้นฉันว่าเท่กว่า"
นี่ๆฉันเห็นใกล้ๆแล้วหล่อใจแทบละลาย ฉันกรี๊ดแทบสลบ
เป็นนักร้องนำ แต่เขาว่าเขียนเพลงและเล่นดนตรีเก่งน่าดูเลยนี่"
"ใช่ๆ ตอนเขาเล่นกีตาร์นะ ใจฉันจะละลายเสียให้ได้"
"ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อไร้เทียมทาน แถมเสียงร้องของเขายังไพเราะสุดๆอีก "
ฉันรีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋าพร้อมเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
ฉันสอบเข้าโทไดได้เมื่อสามปีก่อน พ่อบอกว่าการสอบเข้าเรียนที่นี่ได้
คือความใฝ่ฝันของนักเรียนชั้นมัธยมปลายทั่วประเทศ
เพราะโทไดหรือมหาวิทยาลัยโตเกียว คือมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น
เด็กโทไดที่ศึกษาออกไปล้วนได้ทำงานดีๆ ได้เงินเดือนสูง
และมีเกียรติยศทางสังคมรอต้อนรับ
ฉันไม่เคยคิดอะไรเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองเลย
ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความต้องการของพ่อ
ฉันทำตามคำสั่งของพ่อเท่านั้น
ฉันมายืนริมถนนหน้ามหาวิทยาลัย
ที่นี่น่าจะหาแท็กซี่สักคันได้ง่ายกว่ายืนรอหน้าห้องสมุด
แต่ยังไม่มีวี่แววของรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลแล่นมา ฉันยืนรออยู่ห้านาที
พลันได้ยินเสียงรถเบรกกระชั้นชิด
เอี๊ยด !
ล้อยางสมรรถภาพการเกาะผิวถนนชั้นเลิศร้องออกมาสั้นๆก่อนจะหยุดรถนิ่ง
สนิท แม้ว่ามันจะวิ่งมาความเร็วราวกับพายุ
รถยนต์เฟอร์รารีสีดำคันหนึ่งแล่นปราดมาจอดตรงหน้า ฉันสะดุ้งเฮือก
ถอยหลังไปถึงสามเก้าทั้งที่ยืนอยู่บนทางเท้า
ประตูด้านคนขับซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเปิดออก คนขับรถก้าวลงมา
ผมสีน้ำตาลแทรกเส้นสีทองระยับดัดเป็นลอยยาวสลวยสะท้อนแสงตะวัน
แว่นกันแดดสีดำพาดผ่านผิดหน้าขาวอมเหลืองราวกับสีน้ำนมผสมน้ำผึ้ง
เค้าโครงหน้าได้รูปทรงสวย
สวยจนทั้งเพศหญิงและเพศชายคงสะท้านใจยามพบเห็น
ใบหน้านั้นหันมามองทางฉัน
ดวงตาหลังเลนส์สีดำคงมองฉันด้วยความรู้สึกราบเรียบ
แต่ฉันเหมือนใจจะละลายลงต่อหน้าเค้าในบัดดล
ใบหน้านั้นยังคงคุ้นเคยชินตา และจดจำได้ภายในวินาทีเดียว
ความรู้สึกในตอนนั้นคือเย็นวาบและชาตั้งแต่หัวจรดเท้า
เสียงสุดท้ายที่โสตประสาทรับรู้ในตอนนั้นคือ
เสียงกระเป๋าและกองหนังสือหล่นโครมใส่พื้นข้างล่าง
แล้วเสียงรอบข้างก้เงียบสงัดรวมทั้งแสงสว่างทั้งปวงดับวูบลง
ฉันมารู้ทีหลังว่า ตัวเองถึงกลับเป็นลมล้มพับไป
ไม่เคยคิดว่าเขาจะมาปรากฏตัวตัวที่โทได
ฉันเห็นเขาอยู่หน้าโรงเรียนมัธยมปลายซึ้งตั้งอยู่ไม่ห่างกันนักฉันวิ่งหน้าตั้งไป
สู่จุดมุ้งหมายคือโรงเรียนมัธยมปลาย
ท่ามกลางนักเรียนมากหน้าหลายตาที่เดินออกมาหน้าประตูโรงเรียน
ไม่ว่าท่ามกลางผู้คนมากมายเท่าไหร่ ฉันก็รู้สึกว่าเขาโดดเด่นกว่าใครทั้งหมด
ทุกคนเรียกเขาว่า...ไฮด์
เจ้าของเรือนร่างสูงโปร่งในชุดนักเรียนมัธยมปลายสีดำติดกระดุมต้นคอและ
ผมสีน้ำตาลแกมสีน้ำตาลแกมทองดัดเป็นลอนสลวยยาวถึงกลางหลัง
กำลังยืนพิงประตูอีกด้านอย่างเดียวดาย
ดวงตาสีดำสนิทของเขามักจะเหม่อมองท้องฟ้า
สายตาราบเรียบดูแล้วช่างเวิ้งว้าง แววตาเย็นชากับทุกสิ่งที่เขามองเห็น
ราวกับว่าทุกสิ่งไม่มีสิ่งใดที่จะดึงดูดความสนใจของเขาได้
ทุกครั้งที่ฉันเจอเขา(รวมทั้งครั้งนี้)ไฮด์มักจะปรากฏตัวอย่างเดียวดาย เขาแบกถุงกีตาร์ไว้บนบ่าซ้าย
ยืนมองท้องฟ้านิ่งๆไม่ทักทายหรือพูดคุยกับใคร
สายลมเย็นพัดผ่านหน้าเบาๆและเสียงนกนางนวลกำลังร่ำร้องขณะบินกลับรัง
เป็นเช้าที่อากาศดีเป็นพิเศษ ฉันตัดสินใจเดินไปมหาลัยบ้านฉันไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก
ฉันเดินไปตามทางเดินเท้า ฉันถึงกับอึ้งหยุดนิ่งเมื่อคนที่กำลังเดินมาทางนี้
เขาคือไฮด์ วันนี้ไฮด์เดินงั้นหรอฉันสงสัยอย่างบอกไม่ถูก
เขาคิดอะไรของเขา ในทุกครั้งที่ฉันพบเจอเขา
เขาจะต้องมาพร้อมกับรถต์สีดำคู่ใจ ภายใน ๕ วินาทีที่ฉันเดินผ่านเขา
ฉันอยากจะถามเหลือเกิน แต่ปากฉันมันแข็งขยับไม่ได้ อยากทักเขาเหลือเกิน
"ไฮด์" เสียงตะโกนเรียกชื่อเขาแสนจะตื่นเต้นเล็ดลอดออกมาจากลิมฝีปากฉัน
เขาหันกลับมาด้วยสายตาที่ตื่นเต้นเพราะคงไม่เคยมีใครเรียกเขาหรือแม้แต่จะ
กล้าพูดคุยกับเขา สายตาที่เย็นชาแฝงด้วยความน่ากลัวคู่นั้นทำให้หลายต่อหลายคน
ไม่กล้าที่จะพูดคุยกับเขา เขาเดินตรงเข้ามาที่ฉันพร้อมพยุดที่ตรงหน้า
ในใจฉันมีคำทักทายมากมายที่อยากพูดมันออกมา
แต่ทำไมนะมันพูดไม่ออกจริงๆ
"อรุณสวัสดิ์ครับ ผมเคยเจอพี่ที่มหาวิทยาลัยโทไดใช่ไหม "
"อรุณสวัสดิ์ ใช่เราเคยเจอกันที่มหาวิทยาลัยเธอช่วยฉันเอาไว้ "
"ผมชื่อ ไฮด์ แล้วพี่ชื่ออะไรครับ "
"พี่ชื่อ ไอ ยินดีที่ได้รู้จักนะ "
" เช่นกับครับ"
เพียงคำพูดทักทายไม่กี่คำ ฉันรู้ได้ถึงความอบอุ่นภายในใจ
ฉันยิ่งหลงใหลกับหนุ่มน้อยคนนี้ซะแล้วเกินที่ฉันจะหักห้ามใจตัวเองเอาไว้ได้
หลังจากวันที่เราได้พบพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด
ก็นัดเจอกันหลังจากเลิกเรียนทุกวัน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เราทั้งสองต่างไม่เคยรู้ใจตัวเองเลยว่าเรานั้นมีความผูกพันกันจนเกิดเป็น
ความรัก ความห่วงใยต่อกัน
เสียงนาฬิกาดังขึ้นเตือนว่าเป็นเวลา4โมงเย็น ฉันรีบเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า
วิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
ไฮด์ยืนรอฉันที่หน้ามหาวิทยาลัย วันนี้แววตาของไฮด์ดูแปลกตาไป
ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรภายในดวงตาสีดำนั้น ฉันเดาไม่ออกจริงๆ
เราเดินกันมาเรื่อยๆฉันรู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูกฉันเงียบไม่กล้าพูดอะไรออก
ไฮด์เองก็ไม่พูดอะไรกับฉันสักคำ มาถึงหน้าบ้านแล้วเขาพูดขึ้นคำนึงว่า
" เราเป็นแฟนกันนะ "
โอ้ว! จริงหรือคำนั้นเร็ดรอดออกมาจากปากของไฮด์ ฉันดีใจปนอึ้ง
ค่ำคืนนี้ช่างยาวนาน คำคำนั้นที่ไฮด์พูดฉันยังจำได้ขึ้นใจ ฉันฝันไปหรือเปล่า
นั่งคิดนอนคิดยังไงก็ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย
๔ปีผ่านไป ฉันกับไฮด์ยังคงมีความสุขกับชีวิตคู่ของสองเรา
วันนี้ไฮด์นัดฉันออกมาดินเนอร์ที่ร้านสุดแสนจะโรแมนติก
ค่ำคืนที่มีดวงดาวเปร่งประกายทอแสงสว่างไสวเต็มท้องฟ้า
ฉันนั่งกับไฮด์สองต่อสอง นั่งมองตากันอย่างมีความสุข
"ไอ วันนี้ไฮด์ดีใจมากนะที่ได้มานั่งอยู่กับไออย่างนี้ "
"ทำไมพูดแบบนี้ล่ะไฮด์ ยังมีโอกาสที่เราจะมานั่งแบบนี้อีกนะ "
"ไอ ฟังไฮด์ให้ดีนะ คำพูดที่ไฮด์จะพูดต่อไปนี้ มันอาจทำร้ายจิตใจของไอ
แต่ไฮด์จำเป็นต้องบอกไอ "
"มีอะไรหรือไอด์" ทำหน้าเคร่งเครียดเลย
ไฮด์คงอยู่กับไอได้ไม่นานมากนัก
"ทำไม!" ฉันพูดขึ้นมาอย่างเสียงแข็ง เหตุผลอะไรที่ทำให้ไฮด์พูดแบบนี้ออกมา
"ไฮด์เป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายแล้ว ไฮด์คงอยู่ได้ไม่ถึงเดือน"
ห้าๆฉันหัวเราะออกมาพร้อมทั้งน้ำตาคลอ
ไฮด์หายไปหลายวัน ฉันคิดถึงเขาเหลือเกิน
การติดต่อกันหายไปหลายวันแล้ว ฉันคิดอยู่เสมอว่าเขายังคงสบายดี
สวัสดีค่ะ ฉันโทรจากโรงพยาบาล ตอนนี้คุณไอด์ต้องการพบคุณมาก
ฉันวิ่งออกจากบ้าน เรียกแท็กซี่บึ่งรถไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
ไฮด์ ฉันมาแล้ว ไฮด์เป็นไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม ฉันโผลเข้าไปกอดไฮด์
ไฮด์จับมือฉันไปแนบอกแล้วสวมแหวนที่มูลค่านั้นอาจไม่มากเท่ากับความรัก
ที่ไฮด์มีให้กับฉัน ไฮด์กระซิบข้างหูฉันเบาๆว่า
รักฉันตลอดมาและจะรักฉันตลอดไป แล้ว
ไฮด์ก็สิ้นลมจากฉันไป
ฉันร้องเรียกเสียงดังเขยาตัวไฮด์น้ำตาที่ไหลออกมามันมากจนเกินจะหยุดมัน
เช้าที่สดใสท้องฟ้าสีครามเต็มไปด้วยปุยเมฆขาวเต็มท้องฟ้า
มีแสงแดดอ่อนๆรอดผ่านพื้นผิวเมฆ
ฉันยืนมองท้องฟ้าและนึกภาพที่เคยอยู่กับไฮด์
และยังไม่ลืมคำสุดท้ายที่ไฮด์บอกกับฉันว่า
รักฉันตลอดมาและจะรักฉันตลอดไป
นี่คือความทรงจำของความรัก ที่ฉันไม่มีวันลืม
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1160
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: ความทรงจำแห่งความรัก โดย กันย์นิกา

โพสต์โดย ภาษาสยาม » พุธ 09 ก.ค. 2008 1:10 pm

กันย์นิกา

ชื่อจริง กมลวรรณ ศรีคำทา ( กันย์ )

สาวม.ต้น ผู้รักการเขียน

เกิด ๒๐ กันยายน ๒๕๓๖

สาวม.ต้น ผู้มีความตั้งใจจริง สู้ๆนะคะ

E -mai kukan_0981@hotmail.com
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1160
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm


ย้อนกลับไปยัง เรื่องสั้น

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน

cron