เป็นงานอีกชิ้นหนึ่งของช่างภาพหนุ่มค่ะ
ความสุขจากคนแปลกหน้า
เด็กน้อย...
ภาพของเธอผ่านเข้ามาในห้วงความทรงจำของฉันสำหรับบันทึกหน้านี้
เธอเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งกับเจ้าพวงมะลิมากมายในมือเธอ...
ฉันจำได้เป็นอย่างดีในวันนั้นเธอเข้ามายืนอยู่ที่กระจกรถของฉัน...
พร้อมกับแสดงท่าทางว่าอยากให้ฉันซื้อเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือเธอนั้นสักพวง...
ปรกติฉันเป็นคนไม่ชอบซื้อพวงมาลัยเหล่านี้เสียด้วย
แต่เพราะเหตุใดไม่ทราบเหมือนกัน
ที่วันนั้นฉันตัดสินใจซื้อพวงมาลัยจากเด็กน้อยคนนั้น...
.
.
.
รถวิ่งออกตัวแล้ว....
พวงมาลัยพวงนั้นถูกนำมาคล้องกับพระหน้ารถของฉัน...
พวงมาลัยดอกมะลิ ส่งกลิ่นหอมอบอวลอยู่ภายในรถ...
แต่สิ่งที่หอมยิ่งกว่านั้น...
คือรอยยิ้มของเธอ...
ใครว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้...
แต่ฉันว่า เงินบางครั้งก็ซื้อความสุขจากหัวใจของคนได้เช่นกัน...
เพราะอย่างน้อย "เงิน" ที่ฉันเสียในวันนี้เพียงเล็กน้อย ก็ซื้อความสุขให้เธอ
และ ให้ฉันได้ในเวลาเดียวกัน....
เขาและเธอ....
ภาพบางอย่างในวันนี้คลับคล้ายคลับคลาเหลือเกินสำหรับฉัน...
หากเพียงแต่ต่างกันแค่ วันนั้นเป็น ฉันกับใครคนนั้น
แต่วันนี้เป็น คุณสองคน ที่ฉันไม่รู้จักเลยสักนิด...
ฉันไม่รู้ว่าฉันเสียมารยาทแอบฟังพวกคุณตั้งแต่เมื่อไหร่...
แต่จะให้พูดไปมันก็ช่วยไม่ได้นะ ป้ายรถเมลล์แห่งนี้ ไม่ได้ห้ามใครยืนนี่นา...
และเสียงของพวกคุณฉันก็ห้ามไม่ให้ได้ยินไม่ได้เสียด้วย...
จริงๆฉันไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ เพียงแต่ภาพของพวกคุณในวันนี้...
มันเหมือนกระจกสะท้อนทรงจำของฉันเท่านั้นเอง...
บทสนทนาระหว่างคุณสองคนอาจแตกต่างกันกับของฉันและเขา...
แม้วันนี้เขาคนนั้นของฉันเขาจะจากไปแล้ว...
ในขณะที่คุณสองคนยังมีกันและกันอยู่...
แต่มันก็ทำให้ฉันอดยิ้ม และคิดถึงภาพในวันนั้นไม่ได้...
เราสองคน...
คุณสองคน...
อย่างน้อยๆ คุณสองคนกับฉัน...เราก็ได้ในห้วงรักเดียวกันใช่ไหม
อาจแต่งกันเพียงช่วงเวลาเท่านั้น...
ขอบคุณนะสำหรับความรักของพวกคุณในวันนี้...
ที่ทำให้ฉันได้มีรอยยิ้ม พร้อมไปกับพวกคุณ...
หญิงชรากับคนตาบอด...
สองฟากข้างริมถนนที่ฉันยืนนี้...
มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย...
ป้ายรถเมลล์แห่งนี้ฉันยืนคอยมาร่วม ครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว...
รถราแน่นขนัด กับการขับเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆบนทองถนน...
การจราจรที่ติดขัดในเช้าวันนี้
ทำให้ฉันตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางจากทางบกเป็นทางน้ำแทน...
ปรกติฉันเป็นคนไม่ชอบขึ้นเรือเสียเท่าไหร่นัก หากไม่จำเป็น...
แต่วันนี้คงเป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันต้องทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับความกลัวของตนเอง...
การเดินทางจากท่ารถไปท่าเรือนี้ ต้องเดินไปอีกหนึ่งป้ายรถเมลล์...
แล้วข้ามสะพานลอยเพื่อต่อรถเข้าไปที่ท่าเรือ...
ขณะที่ฉันเดินอยู่บนทางเดินยกระดับที่ใช้สำหรับการข้ามฟากถนนนั้น...
ตรงก่อนทางลงบันไดแห่งนี้ มีหญิงชรากับชายชราคู่หนึ่ง
กำลังนั่งร้องเพลงแลกเศษเงินจากผู้คนที่ผ่านไปมา...
ฉันเดินเข้าไปใกล้ แล้วอดคิดถึงเด็กน้อยในคืนนั้น...
พวงมาลัย...
รอยยิ้ม...
กับเงินเพียงเล็กน้อย...
ฉันล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า เพื่อความหาเศษเงินเล็กๆน้อยๆ...
แต่เจ้ากรรม เศษตังค์วันนี้ไม่มีอยู่ในกระเป๋าฉันเลย...
ภาพเด็กน้อยในวันนั้น...
ทำให้ฉันตัดสินใจล้วงเงินในกระเป๋าตังค์ขึ้นมายี่สิบบาท...
ฉันใส่แบงค์ยี่สิบบาทลงไปในกระป๋องเงินของ หญิงชายชราคู่นั้น...
หญิงชราเงยหน้าขึ้นมามองฉัน...
พร้อมกับแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความระคนปนแปลกใจเล็กน้อย...
เธอหันไปสะกิดชายชราผู้นั้นที่กำลังร้องเพลงอยู่อย่างตั้งใจ...
ฉันมองตาม และฉันก็พบว่า ชายชราผู้นี้ตาบอด...
ฉันไม่มีเวลาคิดมากความ เพราะถ้าฉันมัวแต่เสียเวลาอยู่ตรงที่แห่งนี้...
ฉันอาจจะไม่ท้นตอกบัตรเข้างานเป็นแน่...
ฉันจ้ำอ้าวออกจากจุดนั้นลงและก้าวเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว
พร้อมๆกับเสียงหญิงชราที่บอกกับคนตาบอดว่า มีคนให้เงินเป็นจำนวนยี่สิบบาท...
.
.
.
เรือวิ่งออกจากท่าไปแล้ว...
ลมที่พัดโชยมาปะใบหน้าของฉัน...
ความคิดของฉันล่องลอยไปสู่เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา...
ฉันอดคิดไม่ได้ว่า "ขอทานคงไม่เคยได้เงินทีนึงยี่สิบบาทจากคนคนหนึ่งหล่ะมั๊ง"
จะอย่างไรฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันพบว่า...
วันนี้ฉันได้ให้ความสุขกับคนแปลกหน้าอีกหนึ่งวัน
และฉันเองก็ได้รับความสุขจากคนแปลกหน้าด้วยเช่นกัน
หญิงสาวกับเรื่องราวในค่ำคืน...
ฉันกลับมานั่งเขียนบันทึกฉบับนี้ด้วยความรู้สึกที่อยากจะบันทึกมันไว้...
ฉันเพิ่งกลับมาจากสถานที่เที่ยวยามค่ำคืน...
ด้วยเนื่องจากว่าฉันเป็นคนไม่ชอบเที่ยว
แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง...
มันโทรมาชวนให้ฉันไปงานวันเกิดมันด้วย...
ฉันจึงต้องจำเป็นต้องไป แม้ใจจะอยากกลับมานั่งเขียนบันทึกตามใจตัวเองก็เถอะ...
ตัวเลขนาฬิกาที่มุมขวาล่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏเวลา 03:17
ในสถานที่ที่ฉันเพิ่งจากมา...
หญิงสาวคนหนึ่งกับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง...
ป่านนี้หญิงสาวคนนั้นเธอจะเป็นอย่างไรบ้างนะ...
ฉันอดคิดถึงเธอไม่ได้...
.
.
.
ภาพของเธอกับชายหนุ่มแปลกหน้าในสถานที่แห่งนั้นกับการขึ้นรถไปด้วยกันเพียงสองคน...
ฉันมองเห็นฉันมองตามรถคันนั้นไปอย่างสงสัยใคร่รู้...
เพื่อนตัวดีของฉันหันมาสังเกตุเห็นพอดี
เขาจึงถามหาสาเหตุที่ฉันเหม่อมองตามรถคันนั้นไป...
ฉันเล่าเรื่องที่ฉันสังเกตเห็นเธอตั้งแต่นั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ
และการแอบฟังบทสนทนาของชายหนุ่มแปลกหน้า...
ที่ก้าวเข้ามาสร้างสัมพันธภาพเพียงชั่วครู่ชั่วยามกับเธอคนนั้น...
จนถึงตอนที่เธอกับเขา ตัดสินใจออกไปจากสถานที่แห่งนี้ด้วยกันสองคน
ฉันอดที่จะมองโลกในแง่ดีไม่ได้ว่า เขาอาจจะขับรถไปส่งบ้านเธอเท่านั้นก็ได้...
แต่เจ้ากรรม ที่เพื่อนตัวดีของฉัน กลับบอกกับฉันว่า...
ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่มาเที่ยวในสถานที่แห่งนี้บ่อย...
เขาเองก็รู้จักเช่นกัน...
เพื่อนฉันเล่าให้ฟังว่า
ผู้หญิงคนนั้นเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ชื่อแห่งหนึ่ง...
เธอมักมาหารายได้พิเศษในสถานที่แห่งนี้อยู่เป็นประจำ...
สิ่งต่างๆถูกถ่ายทอดผ่านมาจากเพื่อนชายที่สนิทที่สุดคนหนึ่งของฉัน...
ฉันนั่งฟังมันอย่างเงียบๆ พร้อมกับความรู้สึกบางประการที่บอกไม่ถูก...
.
.
.
ฉันอดคิดถึงบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกันแต่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง...
ความสุขจากคนแปลกหน้า...
สำหรับชายคนนั้น...
คงเป็นเพียงความสุขเพียงชั่วข้ามคืนที่เกิดจากความต้องการทางเพศเท่านั้น...
ความสุขจากคนแปลกหน้า...
สำหรับเธอคนนั้น...
คงเป็นเพียงมูลค่าของกระดาษจำนวนหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับทางสังคม
และใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างอย่าง แม้แต่ร่างกายคนอย่างนั้นหรือ?
ความสุขจากคนแปลกหน้า...
สำหรับฉันหล่ะ...
เด็กน้อยที่ขายมาลัย...
คู่รักคู่หนึ่งที่ป้ายรถเมลล์...
หญิงชรากับคนตาบอด...
ความสุขจากคนแปลกหน้าของคุณหล่ะ เป็นอย่างไรกันบ้าง?