เด็กหญิงกับว่าวสีส้ม

เรื่องสั้น บทความ ต่างๆ

เด็กหญิงกับว่าวสีส้ม

โพสต์โดย dara » ศุกร์ 29 พ.ค. 2009 9:21 pm

เด็กหญิงคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในบ้านกับคุณตา เพราะความยากจน คุณตาต้องทำมาหากินจนไม่มีเวลาเล่นด้วย วันแล้ววันเล่า เด็กหญิงตัวน้อยนั่งบนเก้าอี้ริมหน้าต่าง รอคุณตาทำงานเสร็จจะได้มาเล่นด้วย แต่ดูเหมือนงานคุณตาจะมีมากเหลือเกิน กว่าจะเสร็จสิ้นลงในแต่วัน ก็ถึงเวลาพักผ่อนเสียแล้ว เด็กหญิงได้แต่ทอดถอนใจด้วยความเหงา

และแล้ววันหนึ่ง คุณตาก็ยื่นว่าวแสนสวยให้ ว่าวนี้คุณตาทำขึ้นเพื่อจะให้หลานสาวได้เพลิดเพลินบ้าง เด็กหญิงรักว่าวแสนสวยนี้เหลือเกิน คุณตาช่วยนำว่าวขึ้นฟ้าให้ด้วย ยามเมื่อว่าวสีส้มมีหางเป็นเส้นยาว ๆ หลายเส้นหลากสีทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าสีฟ้าใส มีปุยเมฆขาวสะอาดลอยเป็นหย่อม ๆ มันเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กหญิงตัวน้อยเสียนี่กระไร

แล้วคุณตาก็ไปทำงาน เด็กหญิงวิ่งไปมา ดึงว่าวไปทางนั้นที ทางนี้ที “เธอเห็นอะไรมั่งจ๊ะว่าวสีส้ม เล่าให้ฉันฟังหน่อย” เด็กหญิงร้องถาม ว่าวก็เล่าให้ฟังถึงสิ่งที่พบเห็น เด็กหญิงก็นั่งฟังด้วยความเพลิดเพลิน ว่าวทำให้โลกกว้างมาอยู่ในการรับรู้ของเด็กหญิงตัวน้อยได้อย่างเหลือเชื่อ ชั่วโมงแล้ว ชั่วโมงเล่าผ่านไป รอยยิ้มบนดวงหน้าน้อย ๆ นั้นกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ความสุขกระจ่างใสชัดขึ้นเรื่อย ๆ เด็กหญิงคุยกับว่าวนั้นทั้งวันอย่างไม่รู้เหนื่อย รู้หน่าย

รู้อยู่แต่ว่า เด็กหญิงได้รักและผูกพันกับว่าวสีส้มอย่างเหลือเกิน

แต่แล้วจู่ ๆ ว่าวสีส้มก็บินปัดไปปัดมา จนเด็กหญิงรู้สึกถึงแรงกระชากในมือ “เกิดอะไรขึ้นกับเธอว่าวสีส้ม?” เด็กหญิงเห็นเค้าพายุที่เริ่มก่อตัว ลมแรงขึ้น ๆ ว่าวสีส้มก็เหมือนกับวิ่งหัวซุกหัวซุนหลงทางอยู่ในกระแสพายุนั้นจนเด็กหญิงกลัวเหลือเกินว่าว่าวจะขาดซะก่อน เพราะว่าวสีส้มทำจากกระดาษที่บางเหลือเกิน

เด็กหญิงพาว่าวสีส้มวิ่งหลบไปทางนั้นที ทางนี้ที ก็ดูเหมือนจะไม่พ้นกระแสลมอันแรงนั้น เมื่อลมกรีดว่าว เด็กหญิงก็รู้สึกเจ็บปวดประหนึ่งว่าโดนคมมีดกรีดผ่านผิวบางใสของตนด้วย

“ฉันควรปล่อยเธอไปไหม? หรือว่าฉันจะดึงเอาเธอมาเก็บไว้ดี?” เด็กหญิงตะโกนถาม แต่ว่าวไม่ได้ตอบ เพราะกระแสลมอันเกรี้ยวกราด “ถ้าฉันเอาเธอลงมา เธออาจจะกลับขึ้นไปบนฟ้านั้นไม่ได้อีก เพราะคุณตาจะว่างพาเธอขึ้นเมื่อไรก็ไม่รู้” เด็กหญิงคิดอย่างสับสน และกระวนกระวายด้วยความห่วงใยว่าวแสนรัก “ฉันอาจจะมีความสุข เพราะได้กอดเธอไว้ แต่เธอล่ะจะมีความสุขหรือถ้าต้องนอนอยู่นิ่ง ๆ กับฉัน? ไม่ ฉันต้องร้องไห้แน่ถ้าเห็นเธอเศร้า”

หลายครั้งที่ว่าวเหมือนจะปักหัวลงเพราะโดนมือทรงพลังของพายุตบเอา แต่ก็เชิดหัวขึ้นได้อีกในที่สุดท่ามกลางความโล่งใจของเด็กหญิง แต่เด็กหญิงก็เริ่มร้องไห้เพราะความสงสารว่าวสีส้ม

“หรือว่าฉันควรจะปล่อยเธอไป? แต่ลมแรงขนาดนี้ อาจจะพัดเธอไปตก ณ ที่ไกลแสนไกล เธออาจจะตกลงไปในมหาสมุทรแล้วถูกปลาฉลามกัดขาด หรือตกกลางถนนในเมืองให้รถจำนวนมากวิ่งทับเธอไปมา โอ...ฉันทนไม่ได้หรอกนะว่าวสีส้มจ๋า ฉันทนเห็นเธอจากไปแบบนั้นไม่ได้”

เด็กหญิงนึกได้ว่าโลกมีชั้นบรรยากาศ บางทีข้างหลังพายุอาจจะเป็นท้องฟ้าใสก็ได้ จึงวิ่งเข้าไปในบ้าน...หาเชือก ด้ายในบ้านมาต่อสายป่านให้ยาวออกไป ๆ ๆ ว่าวสีส้มเริ่มหายไปเป็นจุดสีส้มหายเข้าไปในเมฆสีเทาดำนั้น จนพ้นจากสายตาไปในที่สุด แต่เชือกในมือก็ยังคงกระชากกระชั้น เด็กหญิงแสนสงสารว่าวสีส้ม เพื่อนว่าวคงผจญกับความโหดร้ายของพายุ ป่านนี้จะเสียขวัญซะเท่าไร เด็กหญิงวิ่งหาวัสดุที่จะมาต่อความยาวให้สายป่านจนหมดบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ริบบิ้นผูกผมของตัวเองก็ถอดออกมาเพื่อช่วยว่าวเพื่อนรัก จนกระทั่งว่าวสีส้มพบกับอากาศที่ดีข้างหลังพายุ เพราะเชือกที่ต่อแล้วต่ออีกในมือเริ่มนิ่ง

คุณตากลับมาเห็นหลานสาวนั่งอยู่ที่ประตูบ้าน ที่ข้อมือพันไว้ด้วยริบบิ้นที่ต่อกับเชือกสารพัดสารพันชนิดลอยขึ้นไปบนฟ้าลิบนั่น ก็นึกรู้ว่าปลายทางนั้นต้องเป็นว่าวที่คุณตาให้ไปเมื่อเช้าแน่

เด็กหญิงยืนยันว่าจะนั่งกินข้าวตรงนั้น แม้เมื่อถึงเวลานอนก็จะขอนอนตรงนั้นเช่นกัน

“ผูกไว้กับเสาบ้านก็ได้ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาดู”
“ไม่ได้หรอกจ้ะตาจ๋า ถ้าผูกไว้กับเสา หนูจะรู้ได้ยังไงว่าว่าวสีส้มเป็นยังไงบ้าง”
“พรุ่งนี้ตาจะทำว่าวอันใหม่ให้”
“ไม่ค่ะ เพราะสำหรับหนูแล้ว ไม่มีว่าวตัวไหนที่หนูจะรักได้เท่ากับว่าวสีส้มอีกแล้ว”
“มันก็แค่ว่าว หลานเอ๊ย ว่าวไหน ๆ ก็เหมือนกัน ตาทำอันใหม่ให้สวยกว่านี้สักสิบเท่าก็ได้นะ ทำให้สิบอันเลยเอ้า”
“คุณตาอย่าพูดดังซิคะ เดี๋ยวว่าวสีส้มได้ยินจะน้อยใจ ถ้าไม่มีว่าวสีส้มแล้ว หนูก็ไม่ขอมีว่าวอื่นอีกเลย”
คุณตาจำยอมให้เด็กหญิงนอนริมประตู แต่เอาสายป่านมาผูกไว้ที่ข้อเท้าแทน เด็กหญิงนอนลืมตาโพลง สายป่านที่ตึงไม่มากนักทำให้เด็กหญิงรู้ว่าว่าวสีส้มยังคงติดลมอยู่ที่ไหนสักแห่ง แม้จะมองไม่เห็น

“เธอคงสบายขึ้นแล้วใช่ไหม? คืนนี้เธอคงได้เห็นจักรวาล ได้อยู่ในหมู่ดาว เที่ยวให้เพลินนะว่าวสีส้มที่รัก แล้วพรุ่งนี้เช้ากลับมาเล่าให้ฉันฟังด้วย ว่าแหวนของดาวเสาร์มี 3 วงจริงหรือเปล่า มันมีสีอะไรมั่ง อ้อ หลบลูกอุกกาบาตดี ๆ ล่ะ ฉันจะรอเธอกลับมา นานแค่ไหนฉันก็จะรอ เพราะ....ฉันมีเธอคนเดียวเท่านั้น ว่าวสีส้มที่รัก”

แต่ขณะที่เด็กหญิงใกล้จะหลับ เชือกที่ผูกไว้หลวม ๆ ก็คลายปม แล้วหลุดลอยไป เด็กหญิงผวาตัวลุกขึ้นด้วยความตกใจ คว้าไฟฉายออกวิ่งตามหาทันที แต่ความมืดทำให้มองไม่เห็น เด็กหญิงวิ่งพล่านไปในความมืดอย่างบ้าคลั่ง ทางแสงเล็ก ๆ จากไฟฉายไม่ได้ช่วยให้เห็นอะไรในความมืดสนิทของราตรีอันกว้างใหญ่ ในที่สุดเด็กหญิงก็นั่งลงร้องไห้

ความเศร้าในหัวใจน้อย ๆ มีมากกว่าความเหน็ดเหนื่อย และความเจ็บปวดจากบาดแผลขีดข่วนจากกิ่งไม้ เสี้ยนไม้ทิ่มตำตามเท้า และแขนมากนัก เด็กหญิงร้องไห้ และร้องไห้ และร้องไห้ ไม่คิดจะขยับเขื้อนไปไหน แม้ว่าฝนเริ่มตกแล้ว

สักพักใหญ่ คุณตาจึงมาพบแล้วพากลับบ้าน จนแสงสว่างจับฟ้า ฝนก็ยังไม่หยุดตก เหมือนจะร้องไห้เป็นเพื่อนเด็กหญิงผู้เศร้าโศกที่ร้องไห้ไปจนหลับ และเมื่อตื่นขึ้นมาก็ยังร้องไห้อยู่ ไม่ว่าคุณตาจะปลอบใจอย่างไร เด็กหญิงก็ไม่สามารถสร่างโศกได้ จนในที่สุดคุณตาต้องพาเด็กหญิงออกไปเดินหาว่าวเมื่อฝนหยุดตกในอีก 2 วันต่อมา เพราะเด็กหญิงไม่ยอมกินข้าวกินปลาเลย เอาแต่นั่งมองหาว่าวสีส้มแสนรักอยู่อย่างนั้น เหม่อมองไปก็ร้องไห้อีกครั้งแล้วครั้งเล่า สุดปัญญาที่คุณตาจะปลอบให้หายเศร้าได้

เมื่อได้รู้ว่าคุณตาจะพาไปหาว่าวสีส้ม เด็กหญิงที่เซื่องซึมก็พลันกระตือรือร้นขึ้นในทันใด ยอมกินข้าวเพราะคุณตาบอกว่าอาจจะต้องเดินไกล ถ้าหมดแรงเสียก่อนจะหาว่าวสีส้มไม่เจอ สองคนตาหลานพากันเดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย แต่มีเป้าหมายว่าจะต้องหาว่าวสีส้มนั้นให้เจอให้ได้ แม้ว่าจะเป็นการเดินทางที่น่าเหนื่อย แต่คุณตากลับไม่เบื่อ เพราะได้เห็นหลานสาวมีความกระตือรือร้น มีความมุมานะที่จะหาเพื่อนให้พบ แม้ว่าเพื่อนจะเป็นเพียง กระดาษ ไม้ไผ่ และสายป่าน ในสายตาคนอื่น

แต่สำหรับเด็กหญิงแล้ว ว่าวสีส้มไม่เพียงแต่เป็นแค่เพื่อน ยังเป็นเสมือน โลกทั้งใบ

คุณตาคิดว่าเป็นเรื่องดีสำหรับมนุษย์ที่จะรู้จักรักใครสักคนอย่างมากมาย รักในระดับที่ไม่นึกถึงตัวเอง แม้ในกรณีหลานสาว ความรักของเด็กหญิงนั้นที่มีต่อว่าวสีส้มคือความรัก ความผูกพันที่บริสุทธิ์ รักแม้ว่า... ว่าวสีส้มนั้นเป็นเพียงสิ่งไม่มีชีวิต และไม่สามารถให้ความรักตอบแทนกลับมาได้ก็ตาม

หลังจากเดินหากัน 2-3 วัน จนล้าทั้งตาและหลาน ช่วงเย็นวันหนึ่ง เด็กหญิงก็เห็นริบบิ้นของตัวที่พุ่มไม้โปร่ง! แม้ว่ามันจะดูมอมแมมไปบ้าง แต่เด็กหญิงจำริบบิ้นของตัวเองได้ดี

“ตาจ๋า ๆ นั่น ๆ ริบบิ้นหนู ริบบิ้นที่หนูผูกเป็นสายป่านให้ว่าวสีส้ม”

คุณตาต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเข้าไปถึงริบบิ้นนั้นได้ เพียงสัมผัสแรกคุณตาก็ยิ้มออก เพราะทันทีที่ปลดริบบิ้นนั้นออกจากการเกี่ยวของกิ่งไม้ ก็พบว่ามีแรงดึงเบา ๆ จากปลายทาง ว่าวสีส้มของหลานสาวยังอยู่ที่ไหนสักบนท้องฟ้านั้น

เด็กหญิงยืนลุ้นด้วยความตื่นเต้นยิ่งกว่าคนยืนลุ้นเลขตัวสุดท้ายหลังจากที่เลข 5 ตัวแรกตรงกับรางวัลที่ 1 เสียอีกขณะที่คุณตาค่อย ๆ ดึงสายป่านเข้ามาช้า ๆ และกระโดดตัวลอย ร้องอย่างดีใจเมื่อเริ่มเห็นจุดสีส้มเล็ก ๆ บนฟ้านั้น

“ว่าวสีส้มจ๋า” เด็กหญิงร้องเรียกด้วยความคิดถึงทั้งหมดจากหัวใจ “โอย..ดีใจจังที่เธอยังอยู่ดี”

“เดี๋ยวตาเอาลงมาให้นะ”

“อย่าจ้ะ..ตาจ๋า ให้มันอยู่บนฟ้าเถอะ”

“อ้าว ทำไมล่ะ ตานึกว่าหนูอยากจะเก็บมันไว้เสียอีกนะ”

“ไม่หรอกค่ะ เพราะมันคือว่าวสีส้มเพื่อนหนู ตอนที่มันอยู่บนฟ้า ถ้าเอาลงมา มันก็เป็นเพียงกระดาษทำว่าวผู้แปลกหน้าเท่านั้นเอง”

เด็กหญิงเดินไป กระโดดโลดเต้นไป มือข้างหนึ่งจูงคุณตา ส่วนอีกข้างหนึ่งจูงมือ..สายป่านของว่าวสีส้มที่ลอยฉวัดเฉวียนล้อลมไปมา

วันนั้นเป็นการเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุขเต็มหัวใจของคุณตา เด็กหญิง และว่าวสีส้ม.
dara
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 ก.ค. 2008 12:52 pm

Re: เด็กหญิงกับว่าวสีส้ม

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 31 พ.ค. 2009 9:50 am

ว้าว...สุดท้ายเด็กหญิงก็สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง

นิทานเป็นโลกแห่งจินตนาการอันสวยงาม

จำได้ว่า ตอนยังเล็กๆ ชอบฟังนิทานของคุณปู่มากที่สุด
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1160
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: เด็กหญิงกับว่าวสีส้ม

โพสต์โดย dara » อังคาร 02 มิ.ย. 2009 1:15 pm

เอ่อ...พระเอกเรื่องนี้เป็น คุณตา นะ ไม่ใช่คุณปู่ 55555555555555

ไว้วันหลังจะเอาเรื่องเก่า ๆ ที่เคยเขียนไว้ 20 ปีก่อนมาแปะ ตอนนี้ยังขี้เกียจพิมพ์ รอไปก่อน 55555 เรื่องนี้...คุณปู่เป็นพระเอกแน่นอน
dara
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 ก.ค. 2008 12:52 pm

Re: เด็กหญิงกับว่าวสีส้ม

โพสต์โดย น้ำฟ้า » พฤหัสฯ. 04 มิ.ย. 2009 6:40 pm

รออ่านอยู่ค่ะ อยากเจอพระเอกแก่ๆแต่อบอุ่น 555+
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am


ย้อนกลับไปยัง เรื่องสั้น

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน