เรื่องสั้นประกอบเพลง

เรื่องสั้น บทความ ต่างๆ

เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย วิรัตต์ยา » อังคาร 15 ก.ค. 2008 6:48 pm

ฮ้าวว ง่วงนอนแบบสุดๆ เลย งือๆ ป่านนี้ยังอยู่ที่ทำงานอยู่เลย โฮ่ ทรมานที่ซู้ด กาแฟก็กินไม่ค่อยได้กับเขา กินแล้ว สั่นๆ สู้ๆ 5555555555555

อย่ากระนั้นเลย นำเรื่องสั้นมาโพสต์ดีกว่า อิอิ เป็นเรื่องยาวหน่อยนะ ค่อยๆ ละเมียดละเลียดกันไปค่ะ พี่น้องงงงงง


+ + + + + + + + + +

~วันฟ้าพราวฝน~


ฟ้ามองเห็นเขาแล้ว ผู้ชายท่าทางสุภาพ อ่อนโยน หากแต่องอาจอยู่ในที ผู้ชายเจ้าของร่างสูงที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษเพศที่หญิงใดหรือแม้แต่ชายผู้ปรารถนาชายก็มิอาจมองข้ามไปได้ง่ายนัก ผู้ชายเจ้าของวงหน้ารูปไข่ และคิ้วหนาเข้มที่ประดับอยู่เหนือดวงตาใหญ่ กว้าง สีดำสนิท จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากสีสด ที่ซ่อนเร้นไรฟันขาวสะอาดไว้เบื้องใน ผู้ชายเจ้าของวงแขนแข็งแรงแสนอบอุ่นคนนั้น


แต่มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่า ภายใต้ท่าทางแบบนั้น บุคลิกแบบนั้น คือใจดวงหนึ่งที่เว้าแหว่งวิ่นไม่เป็นชิ้นดี

แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังหล่อมาก น่ามองมากอยู่ดี ความเศร้า ความเจ็บปวดที่ครอบงำเขาอยู่ ไม่ได้ทำให้ความน่ามองลดทอนลงแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับกลายเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดใครๆ ให้สนใจและหันมามองเขามากขึ้น

อย่างน้อย ก็ฟ้าคนหนึ่งละ ที่ไม่ว่าเขาจะอยู่ในท่วงท่าไหน อารมณ์ใด ความเป็นเขาก็จับจิตฟ้าได้เสมอ


คงเป็นเพราะรอฟ้าอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงเงยหน้ามาเห็นตอนที่ฟ้าผลักประตูกระจกเข้าไป สองคนจึงได้สบตากันตรงๆ และมันก็ทำให้ฟ้าใจหายกับดวงตาคู่ที่เจ้าตัวได้ประกาศให้ใครๆ รับรู้ว่า บัดนี้โลกบางเสี้ยวของเจ้าของดวงตาได้สลายลงแล้วอย่างสิ้นเชิง

แต่แค่ชั่วที่ฟ้าหันไปยิ้มกับพนักงานต้อนรับสาว แล้วหันไปมองเขาอีกที ฟ้าก็ไม่เจอแววตาคู่นั้นอีกแล้ว มีเพียงความตื่นเต้น ดีใจ ในดวงตาคู่พราวระยับ กับริมฝีปากสีสดที่แย้มออกยิ้มกว้างเท่านั้น


เขาลุกขึ้นก้าวออกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่พร้อมกับมือแข็งแรงที่เอื้อมออกมาจับมือฟ้าบีบเบาๆ ก่อนจะปล่อยเพื่อหันไปขยับเก้าอี้ตัวฟากตรงข้ามที่เขานั่งให้

“นึกว่าฟ้าจะไม่มาซะแล้ว”

“ฮื่อ ได้ไงอ่ะ ต้องมาสิ...” ฟ้ายิ้มตอบเขาและยังไม่ยอมนั่งลง “เออนี่ มีใครเคยบอกแดนไหม แดนเป็นคนที่ยิ้มสวยมาก”

เขาชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาคู่เป็นประกายหม่นวูบลงครู่หนึ่งก็กลับเป็นดังเดิม

“แต่สู้รอยยิ้มของฟ้าไม่ได้มั้ง” เขาพูดพลางทรุดกายลงนั่ง เมื่อเห็นว่าฟ้านั่งเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเขาก็หันไปเรียกพนักงานบริการ เพื่อสั่งน้ำดื่มของโปรดของฟ้าให้ ก่อนจะหันมาสบตากัน “ฟ้ารู้ตัวหรือเปล่าล่ะ ว่า ยิ้มของฟ้า...เหมือนดอกไม้ที่สร้างสีสันให้โลกใบนี้”


ถึงคราวที่ฟ้าจะเป็นฝ่ายชะงักและเงียบไปครู่หนึ่งบ้าง...มีสิ ทำไมจะไม่มีล่ะ...ฟ้าตอบคำถามเขาในใจ เพียงแต่ตอนนี้ คนบอก...เขาจากฟ้าไปแล้ว จากไปไกลแสนไกล ทั้งที่อยู่ใกล้แค่เพียงมือเอื้อม

เพียงครู่ต่อมา ฟ้าก็หัวเราะเสียงค่อนข้างดังตามแบบฉบับ
“แหวะ น้ำเน่าสุดๆ เลย คิดได้ไงอ่ะ คนยิ้มเหมือนดอกไม้ คงน่าเกลียดพิลึก ยิ่งเป็นดอกหน้าวัวงี้ โหยยย บานอล่างฉ่าง น่าเกลี๊ยด”

คราวนี้เขาหัวเราะอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะแสร้งทำตาดุส่งมาให้
“หมดกันๆ นี่แดนกำลังจะโรแมนติกนะ ฟ้า”


“อ้าว เหรอ ไม่รู้” ฟ้าลากเสียงยาวตรงคำท้ายสุดขณะแสร้งทำหน้าเหลอออกไปให้ได้ประสานเสียงหัวเราะกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงในเสี้ยวนาทีต่อมา ไม่มีใครเอ่ยคำใด มีเพียงดวงตาสองคู่ที่มองสบกันนิ่ง ก่อนจะต่างคนต่างเมินออกไปมองยังนอกร้านซึ่งเป็นกระจกใสยาวจรดพื้น ฟ้าอาศัยสีขาวพร่างของดอกแก้วเป็นจุดวางสายตา พร้อมกันนั้นก็อยากรู้ เขาเลือกมองอะไรนะ มองจุดเดียวกันหรือเปล่า...

“ฟ้าสบายดีไหม” แล้วเขาก็เป็นคนทำลายความเงียบขึ้นก่อน
“เรื่อยๆ” ฟ้าหลุดคำพูดติดปากออกไป โดยยังคงวางสายตาที่ดอกแก้วต่ออีกครู่หนึ่ง จึงหันกลับมามองเขา “แดนล่ะ สบายดีล่ะสิ”

“เรื่อยๆ” เขายิ้มพรายอย่างให้รู้ว่าจงใจเลียนแบบ “แย่เรื่อยๆ”


ปล่อยมุกแล้วเขาก็หัวเราะนำเพื่อให้ฟ้าหัวเราะตาม แล้วก็เงียบกันไปอีกครั้ง ซึ่งเป็นช่วงที่บริกรเอาน้ำชาดำเย็นมาเสิร์ฟพอดี และฟ้าก็นึกขอบคุณบริกรสาวน้อย ที่มาถูกจังหวะ เพราะอย่างน้อย มือขวาของฟ้าก็มีที่วางแล้วละ หลังจากพยายามแย่งมือซ้ายจับกระเป๋าสะพายใบใหญ่มานาน แม้มันจะเป็นแค่หลอดพลาสติกใสที่ไม่แข็งแรงนัก แต่นาทีนี้มันกลับกลายเป็นหลักยึดให้หัวใจที่กำลังแกว่งไหวของฟ้าได้ชะงัดนัก

คนน้ำชาดำเย็นสองสามครั้ง ฟ้าจึงค่อยๆ ละเมียดกับรสชาติแสนคุ้น

“ยังเป็นชาดำเย็นที่อร่อยที่สุดในโลกอยู่เหมือนเดิม...” ฟ้าพูดพลางมองไปที่แก้วกาแฟเย็นของเขาซึ่งมีไอน้ำเกาะพราว และน้ำแข็งในแก้วก็เริ่มละลาย แล้วถามว่า “แดนล่ะ มันยังเป็นกาแฟเย็นที่อร่อยที่สุดในโลกอยู่หรือเปล่า”

“เหมือนเดิมครับ ฟ้า”

“เหมือนเดิมหรือ?...” ฟ้าเอ่ยคล้ายรำพึงกับตัวเอง และทิ้งระยะสายตาที่พื้นโต๊ะสีน้ำตาลเข้มเป็นมันวับ


ฟ้าได้ยินเสียงคนกาแฟเย็นสองสามครั้ง ก่อนจะเงียบไป
ครู่หนึ่ง ก็ดังขึ้นอีก และคราวนี้มันดังต่อเนื่อง... นาน...เมื่อเสียงนั้นเงียบลง เสียงของเขาก็ดังขึ้น


“แดนขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา แดนโง่เอง ที่เคยมองข้ามฟ้าไป...ฟ้าจะให้โอกาสแดนอีกครั้งได้ไหม...เรากลับมารักกันอีกครั้งได้ไหม” ช่วงท้ายๆ น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยการเว้าวอน และฟ้าก็ต้องสะกดใจอย่างหนัก ที่จะไม่เงยหน้าเพื่อสบตาคู่นั้น

“คิดถึงตอนที่เรามาที่นี่ครั้งแรกเนอะ” ฟ้าทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด และหันมองไปรอบๆ ร้านกาแฟชั้นเดียว ที่มีผนังเป็นกระจกโดยรอบและตกแต่งในสไตล์อบอุ่นด้วยการไล่โทนสีน้ำตาลทั่วทั้งร้าน ฟ้ากวาดตามองลูกค้าซึ่งมีอยู่เพียงสามโต๊ะแล้วก็หันกลับมามองหน้าเขา

“ตอนนั้น จู่ๆ ฝนก็ตกลงมา เราดีใจกันใหญ่เลยที่จะได้นั่งร้านเก๋ๆ แล้วจิบกาแฟ...อย่างที่แดนว่าอะไรนะ จิบกาแฟแกล้มฝนใช่ไหม นั่นละ แล้วไฟก็ดับ คราวนี้ โรแมนติกใหญ่เลย จิบกาแฟเย็นชืดท่ามกลางแสงเทียน จะสั่งแก้วใหม่ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีน้ำร้อน”


ตอนท้ายฟ้าหัวเราะน้อยๆ เขาเหลือบตามามองฟ้าแว่บหนึ่งก็หัวเราะด้วย

“แล้วตอนนั้น ฟ้าก็ไม่ยอมบอกว่า ตัวเองกินกาแฟไม่ได้ จะใจสั่น และจะนอนไม่หลับไปเป็นสองวัน ผลก็คือ แดนก็ต้องเป็นหมีแพนด้าเหมือนกัน เพราะต้องคุยโทรศัพท์เป็นเพื่อนฟ้าตลอด”

ฟ้ายิ้ม

“เบื่อจากคุยโทรศัพท์ก็ออนเอ็ม แล้วก็ส่งเพลงให้กันฟังเนอะ เพลงแรกของคืนนั้นที่แดนส่งให้ฟ้า ไม่โรแมนติกเล้ย เพลงน้ำตาฟ้าของวงสามโทน ใช่ไหม โหย เพลงซึ้งก็จริง แต่เศร้าอะไรขนาดนั้น”

“ฮะฮะ” เขาหัวเราะเสียงไม่ดังนัก “แต่ก็เข้ากับบรรยากาศฝนตกดีใช่ไหมล่ะ อย่างน้อยก็ทำให้ฟ้าน้ำตาซึมได้หรอกน่า”

“โหยย อย่ามามั่ว ฟ้าร้องไห้เพราะฟ้าอยากนอนแล้วมันนอนไม่ได้ต่างหากล่ะ” ฟ้าแย้งกลับ ก่อนจะถอนหายใจยาว พร้อมสีหน้าที่เศร้าลงเล็กน้อย “แต่ก็จริงๆ น่ะแหละ...ในที่สุด ฟ้าก็ไม่ต่างจากเพลงนั้น…น้ำตาฟ้าหลั่งมารดตัว รดหัวใจฉันจนชา...”


คราวนี้เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ได้ไหม...ฟ้ากลับมารักแดนเหมือนเดิมได้ไหม”

“ฟ้าไม่เคยไม่รักแดน” ขอบตาฟ้าร้อนผ่าว พร้อมกับรับรู้ถึงหยาดน้ำหยดอุ่นที่กำลังแข่งกันตีตื้นขึ้นมา หากแต่ฟ้าก็รีบกะพริบตาถี่ๆ เพื่อรั้งมันไว้ “จนเดี๋ยวนี้ก็ยังรัก...”

“ฟ้า” เขาอุทานเสียงเบาด้วยความดีใจ “หมายความว่า ฟ้าจะ...”

“แต่เป็นความรักที่ไม่เคยเข้าถึงแดน ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือจนกระทั่งวันนี้…” ฟ้าเอ่ยขัดคำพูดเขาด้วยเสียงที่เครือไปเล็กน้อย “แดนก็ไม่เคยรักฟ้าอยู่เหมือนเดิม”

“ไม่จริง ตอนนี้แดนรู้ตัวแล้ว แดนรักฟ้า” เขาแย้งขึ้นทันควัน “แดนรู้แล้ว ว่าไม่มีใครเข้าใจแดนได้เหมือนฟ้า ไม่มีใครทำให้แดนยิ้มหรือหัวเราะได้เหมือนที่ฟ้าทำ...” เขาเอื้อมมือมาคว้ามือฟ้าไปเกาะกุมไว้แน่น “แดนอยากให้เรามาเริ่มต้นกันใหม่ แดนสัญญา แดนจะดูแลความรักความรู้สึกฟ้าให้เท่ากับที่ฟ้ารักและดูแลความรู้สึกแดน”


ฟ้าเงียบและปล่อยมือตนให้อยู่ในอุ่นมือเขา มือที่ฟ้าโหยหาและรอคอยมาเนิ่นนาน มือที่ฟ้าเคยนึกว่า คงไม่มีโอกาสได้เจออีกแล้ว

“แดนขอโทษ แดนสัญญานะ แดนจะรักฟ้าคนเดียวตลอดไป”

ฟ้ายิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ และจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น ราวจะอ่านให้ทะลุไปถึงหัวใจ ดูทีรึ แท้จริงในใจออกเสียงเดียวกับคำที่เขาพูดออกมาไหม แต่เมื่อฟ้าจ้อง เขาก็หลุบสายตาลงมองแค่พื้นโต๊ะ สีหน้าท่าทางออกไปทางว้าวุ่น สับสนและลุ้นบางอย่างไปพร้อมๆ กัน


(มีต่อค่ะ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
วิรัตต์ยา
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 12 ก.ค. 2008 1:06 am

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย วิรัตต์ยา » อังคาร 15 ก.ค. 2008 6:53 pm

“นานแล้วนะ ฟ้าไม่ได้ยินคำนี้ ไม่นึกว่าจะได้ยินอีก” ฟ้าพูดเสียงเบา

มือที่เกาะกุมมือฟ้าอยู่บีบแน่นขึ้นทันที พร้อมกับท่าทางที่เปลี่ยนมาเป็นกระตือรือร้นจนฟ้าต้องยิ้มออกมาอีกครั้ง ตอนนี้ เขาเหมือนเด็กชายตัวเล็กๆ ที่กำลังอยากได้ของเล่นสักชิ้น

“ต่อจากนี้ไป ฟ้าจะได้ยินมันทุกวัน แดนสัญญา”

ฟ้าปล่อยมือตัวเองให้อยู่ในมือเขาต่อไปอีกพักหนึ่ง จึงค่อยๆ เงยหน้าสบตาเขา

“แดนบอกฟ้าได้ไหม ว่าทำไม...แดนถึงรักผู้หญิงคนนั้น”
เขาชะงักไปครู่หนึ่งและปล่อยมือจากฟ้า ฟ้าเม้มปากแน่น ขณะดึงมือกลับมาวางบนตักเสียทั้งสองข้าง


“...เขา...เป็นผู้หญิงในฝันของแดน เขามีทุกอย่างอย่างที่แดนต้องการ แต่มาตอนนี้ แดนก็รู้แล้วว่า คนในฝันกับคนที่จะอยู่กับเราไปจนตลอดชีวิตจริงๆ เป็นคนละคนกัน เขาเหมือนภาพฝันที่แดนแตะต้องไม่ได้ ฟ้าต่างหากคือความจริงของแดน”

“ฟ้าควรจะดีใจใช่ไหม” ฟ้าเงยหน้าสบตาเขาตรงๆ อีกครั้ง เขาพยักหน้ารับ ดวงตาเป็นประกายด้วยความหวัง

“ถ้าฟ้ายังรักแดนอยู่ เราสองคนก็จะได้ดีใจด้วยกัน”

ฟ้าก้มลงจัดการน้ำชาดำเย็นอีกครั้ง

“วันนี้ฝนคงตก” ฟ้าพึมพำออกมา เมื่อทอดสายตายังนอกร้านแล้วเห็นว่า ท้องฟ้าที่แจ่มใสเมื่อครู่กลับกลายเป็นสีหม่นมัวซัว เพราะเมฆก้อนใหญ่สีเทาหม่นแผ่ตัวเข้าครอบครอง ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างเร่งฝีเท้าของตนให้เร็วขึ้น


เขามองตามสายตาฟ้าแล้วก็ยิ้ม

“ท่าทางจะตกหนักด้วยละ ฟ้า สงสัยเราจะได้จิบกาแฟแกล้มฝนอีกแล้วละ”

ฟ้ายืดกายขึ้นตรง ถอนหายใจลึกและยาว ก่อนจะส่งยิ้มไปให้เขา

“แต่คงจะไม่เหมือนเดิมแล้วละ เนอะ อย่างน้อย เจ้าของร้านนี้ก็ไม่ใช่พี่กี้อีกต่อไปแล้ว หรือถึงวันนี้ ฝนจะตก ไฟจะดับ แต่ฟ้าก็ไม่ได้กินกาแฟ ไม่ได้ใจสั่นแล้ว แดนก็ไม่ต้องโทรฯ คุยเป็นเพื่อนฟ้า ไม่มีการออนเอ็ม และไม่มีเพลงที่มอบให้กันอีกต่อไป ถูกไหม”

เขาเงียบ ฟ้าจึงเอ่ยต่อ

“สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยน ก็คงจะเป็นความรู้สึกของเราสองคน ฟ้ารักแดน เคยรักยังไง ก็รักอยู่อย่างนั้น เพียงแต่รักในความรู้สึกที่แปลกออกไปจากเดิม ฟ้าไม่ได้ต้องการครอบครองแดนอีกต่อไปแล้ว ฟ้าปรารถนาให้แดนมีความสุข และฟ้าก็เชื่อว่า อยู่กับฟ้า แดนไม่มีโอกาสได้เจอคำนั้น เพราะแดนไม่ได้รักฟ้า ไม่ได้รักมาแต่ต้น”

“ใช่ แดนยอมรับ ไม่ได้รักมาแต่ต้น แต่มาถึงตอนนี้...แดนรักฟ้า” เขาไม่ละสายตาจากใบหน้าฟ้า


“มันไม่ใช่ความรัก!” ฟ้าโพล่งออกไปด้วยเสียงที่ไม่เบานัก เพราะสังเกตว่า หลายคนหันมามองที่โต๊ะเรามากขึ้น ฟ้าจึงต้องลดเสียงลงนิดหน่อย “...ตอนนั้น แดนอกหัก และฟ้าก็เข้าไปพอดี แดนจึงคว้าฟ้าไว้เพื่อเป็นหลักให้หัวใจตัวเอง ความรู้สึกที่แดนมีให้ฟ้า มันจึงเป็นแค่ความซาบซึ้งใจ ว่า ฟ้าช่างดีต่อแดน ไม่ทิ้งแดน แต่มันไม่ใช่ความรัก เชื่อไหม ตลอดเวลาที่เราคบกันมา ฟ้าไม่เคยเห็นท่าทางทุรนทุรายจะเป็นจะตายของแดนเวลาที่เราทะเลาะกันเลย ไม่เหมือนสิ่งที่แดนเป็นกับผู้หญิงคนนั้น เพราะแดนรู้อยู่ตลอดเวลาว่า ฟ้ารักแดน เป็นของตายของแดน...ที่แดนนึกอยากจะทิ้งไปเมื่อไรก็ได้ หรือจะกลับมาเมื่อไรก็ได้” ฟ้าพูดยืดยาวและรู้สึกว่าเสียงตัวเองออกเครือๆ เล็กน้อย

“แดนขอโทษที่เคยละเลยความรู้สึกฟ้า” เขาเอ่ยคำนั้นออกมาอีกและจนใจที่จะจับมือ เพราะฟ้ายังเก็บมันไว้บนตักเหมือนเดิม


“แดนจะขอโทษฟ้าทำไม การที่แดนทำตามความรู้สึกของตัวเอง ฟ้าไม่เรียกมันว่าเป็นการละเลยหรอกนะ และมันก็ไม่ใช่ความผิดที่ต้องมาขอโทษกัน...ความจริง ฟ้าควรจะดีใจ ที่แดนเลือกที่จะมีฟ้าในวันที่แดนไม่มีใคร แต่ฟ้าก็ดีใจไม่ออกจริงๆ ...ที่แดนนัดฟ้ามาวันนี้ ก็เพราะยังคิดว่า ฟ้ายังเป็นของตายให้แดนอีกใช่ไหม”

“ฟ้า” เขาครางชื่อฟ้าด้วยความเสียใจ “ไม่ใช่อย่างนั้นนะ แดนไม่เคยมองว่า ฟ้าเป็นของตาย แต่ฟ้าเป็นคนดี เป็นคนที่แดนรู้ว่า แดนจะมีความสุขถ้าได้อยู่ด้วย”

“ฟ้าก็เป็นได้แค่นั้นเอง ฟังนะแดน ที่ผ่านมา ฟ้าถือว่า แดนดูถูกความรู้สึกฟ้ามาก ดูถูกและไม่ให้เกียรติเลย แดนนึกอยากไป แดนก็ไป นึกอยากกลับมา แดนก็มา แต่ฟ้าเองก็โง่เหมือนกัน ที่ทำตัวให้แดนดูถูก เพราะฟ้าก็ยังอ้าแขนรับแดนกลับมาเสมอ เจ็บแต่ไม่เคยจำ ว่าแดนเคยทำอะไรไว้กับฟ้าบ้าง”


“ฟ้า...เรามาเริ่มกันใหม่เถอะนะ แดนขอร้อง มันจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว”

“ตอนนี้ แดนก็แค่เคว้งคว้างและมองว่า ฟ้าเป็นของตายเหมือนตอนนั้นน่ะแหละ เพียงแต่คราวนี้ ฟ้าไม่โง่เหมือนที่แล้วมาแล้วละ...”

“ฟ้ามีใครใหม่แล้วใช่ไหม ถึงพูดแบบนี้กับแดน” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจ น้ำเสียงและท่าทางที่เคยทำให้ใจฟ้าอ่อนยวบและกลับไปเจ็บช้ำได้

“ฟ้าไม่มีใครหรอกค่ะ และก็จะไม่ขอมีแดนเหมือนกัน...ความรัก ควรเริ่มต้นตรงความรักค่ะ แดน ไม่ใช่เพราะอกหัก ไม่ใช่เพราะดีกว่าไม่มีใคร ไม่ใช่เพราะความอ่อนไหว ไม่ใช่เพราะอยากมีแฟน เลยคว้าใครก็ได้...หรือแม้แต่ไม่ใช่เพราะบุญคุณ”


ฟ้าขยับตัวลุกขึ้น ส่งยิ้มไปให้เขาอีกครั้ง เป็นยิ้มของคนที่เบิกบานในหัวใจ แอบนึกไปเล่นๆ ว่า ถ้ายิ้มของฟ้าเหมือนดอกไม้จริงอย่างที่เขาว่า ตอนนี้ ฟ้าอาจจะเป็นดอกหน้าวัวจริงๆ ก็ได้ เพราะมันบานออกกว้างเสียขนาดนั้น

“ลาก่อนค่ะ แดน”

แถมยังรู้สึกอีกว่า เสียงบอกลาของตัวเองก็ฟังไพเราะและจับใจกว่าคำว่า รัก มากมายนัก



ทันทีที่ฟ้าเปิดประตูกระจกและก้าวออกไป ฝนก็ลงเม็ดพอดี ตามปกติ ฟ้าไม่ชอบฝนสักนิด เพราะมันทำให้เฉอะแฉะ สกปรก ไปไหนก็ไม่ได้ (แต่เคยชอบตอนที่ติดฝนอยู่กับเขาในร้านนี้ ครั้งนั้นครั้งเดียวนั่นแหละ แล้วก็เกลียดมาตลอด) แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ฟ้ารู้สึกว่า สายฝนสวยงามกว่าทุกครั้งและเมื่อฟ้าตัดสินใจก้าวเดินออกไป หยดน้ำใสๆ นั้นก็ให้ความรู้สึกเย็นชื่นไปถึงหัวใจ.



เพลงประกอบ >>>>> http://www.ijigg.com/songs/V2CADCAEPB0
ภาพประจำตัวสมาชิก
วิรัตต์ยา
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 12 ก.ค. 2008 1:06 am

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อังคาร 15 ก.ค. 2008 7:12 pm

เง้อ..นางเอก
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1157
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย วิรัตต์ยา » พุธ 16 ก.ค. 2008 4:41 am

^
^
^

นางเอกทำไมคะ คุ้ณณณ 555555555 บอกก่อนนะคะว่า เรื่องนี้แต่งก่อนรู้จักคนชื่อฟ้าแห่งภาษาสยามเวบบอร์ดนะค้า เอิ๊กกกก
ภาพประจำตัวสมาชิก
วิรัตต์ยา
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 12 ก.ค. 2008 1:06 am

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย น้ำฟ้า » พุธ 16 ก.ค. 2008 6:52 am

แหมๆ...ไม่ได้อะไรสักหน่อยนี่คะ แค่ว่านางเอกน่ารัก 555+
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย dara » พุธ 16 ก.ค. 2008 7:24 am

อืม ๆ นางเอกน่ารักเพราะชื่อฟ้า หรือเพราะอะไรคะ (ถามแทนนักเขียน :lol: ) ไหนๆ ก็แจมมันทุกหัวข้อกระทู้แล้ว ขาดแต่เรื่องสั้นนี่แระ
ไว้วันหลังมีอารมณ์ จะเอาเรื่องสั้นมาลงมั่งนะคะ :P
dara
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 ก.ค. 2008 12:52 pm

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย น้ำฟ้า » พุธ 16 ก.ค. 2008 1:13 pm

รีบเลยค่ะพี่ดารา เดี๋ยวจะได้เวลาเขียนนิยายแร่ะ
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย วิรัตต์ยา » จันทร์ 21 ก.ค. 2008 4:29 am

ไถ่บาปด้วยน้ำตา




เที่ยงแล้ว เพื่อนๆ ในแผนกต่างพร้อมใจกันละงานตรงหน้าเพื่อไปทานข้าว แต่ผมยังยินดีอยู่กับการนั่งทอดสายตาผ่านกระจกใสไปยังท้องฟ้าเบ ื้องนอกที่บัดนี้เป็นสีเทาทึมอันเป็นเครื่องหมายว่า อีกไม่นาน ฝนประจำฤดูก็จะถั่งสายลงมา

ผมละสายตาจากท้องฟ้าเพื่อลุกขึ้นไปปิดไฟ ปิดแอร์ตามนโยบายประหยัดของบริษัท เสร็จแล้วจึงกลับมาจ่อมตัวเองตรงตำแหน่งเดิม ในความรู้สึกและในความคิดเดิม

เรื่องอะไรนะหรือ?



มีกี่เรื่องที่จะรบกวนจิตใจชายหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ อย่างผมได้

การงาน การเงิน ความรัก...

นี่ผมมองอย่างหยาบๆ เผินๆ หรอกนะ เพราะแต่ละคนมักมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันไป

กลับมาที่เรื่องของผมต่อ...ตอนนี้ ผมมีการงานที่มั่นคง การเงินที่ไม่ลำบากอะไร ฉะนั้นเอง เรื่องเดียวที่รบกวนจิตใจผมได้ตอนนี้ ไม่พ้นเรื่องความรัก

และผมกำลังคิดถึงเธอ...ผมยอมรับก็ได้ว่า เพราะความคิดถึงนี่แหละที่ทำให้ผมไม่มีอารมณ์จะทานข้าว



ผมบ้าไปแล้วกระมัง? ใช่ ผมอาจจะบ้า ตรงที่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดถึงเธอ ไม่ใช่แล้ว...เรื่องของเธอกับผมมันจบไปแล้ว จบมาได้หลายปีแล้วด้วย และมันก็คงจะดีถ้าหากว่า เราจะแยกย้ายกันไปตามทางของเราอย่างที่เราตกลงกันไว้ เอ่อ พูดให้ถูกก็คือ เธอไป แต่เป็นผมเองที่ไม่ยอม

ในชีวิตหนึ่งของคนเรา จะได้เจอคนที่ถูกใจเราทุกอย่างสักกี่ครั้งกันละครับ

ผมชอบทุกอย่างในตัวเธอ



ใบหน้าที่ไม่ได้สวยจัดแต่สะดุดความรู้สึกเข้าอย่างจัง รอยยิ้มจริงใจ สำเนียงพูดที่ไพเราะ เสียงหัวเราะที่ร่าเริงสดใส สำคัญที่สุด ความคิดหลายๆ อย่างของเธอ...ผมชอบผู้หญิงกล้าคิด กล้าทำ ชัดเจนในตัวเอง

คุณเชื่อไหม แค่ครั้งที่สามที่เจอกัน เธอก็อาละวาดใส่ผมแล้ว 5555 เพราะผมบังเอิญไปเอ่ยวาจาที่ (ผมไม่ทันนึกว่า) ดูถูกเพื่อนของเธอ...คือ เพื่อนในแผนกของเธอซึ่งแต่งงานแล้ว ท้อง แล้วผมก็ดันปากพล่อยไปถามว่า ท้องกับใคร เท่านั้นแหละครับ วิญญาณนางฟ้าในตัวเธอก็สำแดงเดชทันที เธอบอกว่า ตัวเองส่ำส่อน ก็อย่าคิดว่า คนอื่น โดยเฉพาะเพื่อนของเธอจะส่ำส่อนเหมือนตัวเอง...เขาก็ต้องท้องกับ สามี เขาสิยะ

และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมมองเธอด้วยสายตาที่แปลกไป



ครั้นได้คบ ผมก็พบว่า ยายผู้หญิงปากกล้า กล้าคิด กล้าทำ แท้ที่จริงเป็นเพียงหญิงสาวแสนอ่อนไหว หัวโบราณ ซึ่งนอกจากทำให้ผมทึ่งแล้ว ผมยังหลงรักความเป็นเธอมากขึ้นทุกที...ทุกที...

และเธอเองก็รักผม ผมรู้...ดวงตาคู่นั้นไม่เคยปกปิดความในใจของเธอได้

รักของเราน่าจะดี มันควรจะดี ใช่ มันควรจะดี ถ้าหากว่า ผมจะรู้จักคำว่ายับยั้งชั่งใจ รู้จักคำว่าสติมากกว่านี้ ถ้าหากว่าผมไม่ปล่อยให้ผู้หญิงอีกคนก้าวเข้ามาในเส้นทางของเราไ ด้



เธอบอกลาผมทั้งน้ำตา หมายถึงทั้งน้ำตาของเธอและของผมเอง คำอ้อนวอน คำขอโทษของผมไปไม่ถึงเธอ เธอไม่ได้ยิน ไม่ฟัง ไม่รับรู้ ผมลืมบอกไปอย่างหนึ่งว่า เธอเป็นคนใจเด็ดมากอีกด้วย ฉะนั้นคำว่าเลิกของเธอความหมายจึงไม่เป็นอย่างอื่น ไม่ใช่การให้โอกาสหรือการหวนคืนสู่เส้นทางของกันและกัน

ไม่ใช่เลย



ผมไม่เคยลืมเธอ ตลอดระยะเวลาที่เราเลิกกัน ผมพยายามโทรศัพท์หาเธอ หวังให้ได้ยินแค่เสียงพูด เสียงหัวเราะ แต่ช่วงหลังเธอเปลี่ยนเบอร์ การติดต่อจึงขาดหาย

จวบจนผมได้เจอเพื่อนของเธอ และผมก็ได้อีเมลของเธอ...

จากคนที่ไม่ถนัดเรื่องอินเตอร์เน็ต ไม่พิสมัยการเล่นเอ็มเอสเอ็น ผมต้องเปลี่ยนความคิดและเริ่มต้นเล่นมันเพื่อเธอ และในที่สุด ผมก็ได้เจอเธออยู่อีกทางหน้าจอหนึ่ง

ผมไม่รู้ว่า ดีใจมากเพียงไหน แต่อย่างน้อยเธอก็แสดงให้ผมเห็นว่า เธอไม่ได้รังเกียจที่จะคุยกับผม และนั่นก็เท่ากับสร้างความหวังให้เรืองรองขึ้นในใจผม ว่า ว่า...บางที เส้นทางของเราอาจกลับมาบรรจบกันอีกครั้ง...เพราะผมรู้ว่าเธอก็ย ังไม่มีใคร และเธอก็ยังเป็นเธอที่น่ารักคนเดิมของผม

แม้ไม่เคยไปเดินอยู่ท่ามกลางทะเลทราย แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกของคนที่ได้เจอแหล่งน้ำได้เป็นอย่างดี


บางครั้ง ผมก็คิดว่า แค่เธอยอมพูดด้วยแค่นี้ก็ดีนักหนาแล้วสำหรับคนบัดซบอย่างผม หากแต่อีกใจก็แอบคาดหวังมากกว่านั้นเสมอ คาดหวังมาเสมอ

และในที่สุด วันนี้ผมก็รวบรวมความกล้าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พิมพ์ข้อความบอกความรู้สึกของผมไป หน้าจอโน้นเงียบไปครู่ใหญ่ในขณะที่ผมหายใจไม่ทั่วท้อง และรีบเปิดหน้างานมาบดบังหน้าจอนั้น ในใจก็แอบลุ้นไม่ต่างจากตอนทีมลิเวอร์พูลของผมลงสนามเลยทีเดียว

อ๊ะ แถบสีส้มกะพริบแล้ว แน่นอนว่าเป็นเธอ เพราะผมไม่ได้แอดใครอื่นนอกจากเธอ

ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปคลิกตรงแถบสีส้มนั้น เพื่อให้หน้าจอสี่เหลี่ยมโชว์เต็มความกว้าง


~ + ~ + ไม่เจ็บ แต่เหน็บหนาว + ~ + ~ says:

55555555555555
ขอหัวเราะให้กับโลกมนุษย์ก่อนนะคะ


~ + ~ + ไม่เจ็บ แต่เหน็บหนาว + ~ + ~ says:

นิสัยเรา พี่ก็รู้อยู่
เราเดินออกมาแล้ว เราจะไม่กลับไปอีก
แม้หัวใจเราจะอยู่ที่นั่น เราขอเจ็บครั้งเดียว


~ + ~ + ไม่เจ็บ แต่เหน็บหนาว + ~ + ~ says:

.....

~ + ~ + ไม่เจ็บ แต่เหน็บหนาว + ~ + ~ says:

.....


คำพูดหลังจากนั้นของเธอ ผมไม่ทันอ่าน เพราะต้องรีบปิดมันลง เพื่อข่มอารมณ์เจ็บปวดที่วิ่งพล่านทั่วหัวใจ

คนเลวอย่างผม ไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้วจริงๆ...

ผมควรจะทำยังไงกับความรู้สึกที่ล้นปรี่อยู่ในความรู้สึก หากแต่ถูกเมินเฉย...ผมควรจะทำยังไง???



http://doosong.exteen.com/20070621/ost

.....
.....
ผม sign out เมลที่มีแต่เธอ เพื่อ sign in อีกเมลหนึ่ง และคนแรกที่ทักมาก็ทำให้ผมต้องเปิดยิ้มกว้าง



คิดถึงสุดหัวใจ says:
รอตั้งนานแน่ะค่ะ คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า

คิดถึงสุดหัวใจ says:

แต่ก่อนจะคุยเรื่องอื่น
เย็นนี้ นัดของเรายังเป็นนัดใช่มั้ยคะ อิอิ
แต่ขอเปลี่ยนสถานที่ได้มั้ยคะ
ไปห้องเค้าดีกว่า คืนนี้เพื่อนไม่อยู่ทั้งสองคนเลย
:oops:


เพื่อนร่วมงานเริ่มทยอยกลับเข้ามา ไฟในห้องเริ่มสว่างทีละดวง จนกลายเป็นสว่างจ้า เวลางานช่วงบ่ายเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ผมไม่ได้เงยหน้าไปมองท้องฟ้าอีก เพราะใจจดจ่ออยู่กับงานและสีส้มที่กะพริบมาเป็นระยะๆ อย่างน้อย ตอนนี้ ผมก็ชอบสีส้มตรงหน้ามากกว่าสีเทาทึมของท้องฟ้าข้างนอกนั่น

+ + + + + + + +
ภาพประจำตัวสมาชิก
วิรัตต์ยา
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 12 ก.ค. 2008 1:06 am

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย น้ำฟ้า » อังคาร 22 ก.ค. 2008 4:33 pm

เพลงโปรดดดดดดดดดดดดด
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย น้ำฟ้า » เสาร์ 26 ก.ค. 2008 2:39 pm

ภรรยาน้อย ( ฉันไม่อยากเป็น )

เรื่องสั้นเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสั้นที่...สั้นจริงๆ 555+

เพลงประกอบ >>>>> http://bignose.exteen.com/20080626/entry-1
เพลงที่สอง >>>>>> http://www.tlcthai.com/webboard/view_to ... t_id=29028

" จอย..ได้ยินที่ผมพูดมั้ย..ฮัลโหลๆ...จอย..ทำไมคุณไม่รับโทรศัพท์ผม "
ฉันเงียบ...ไม่ยอมกรอกเสียงลงไป เอกจึงกดสายทิ้งแล้วโทรมาใหม่
.....ฉันวางโทรศัพท์ลงกับพื้นทรายสีขาว หวังให้เสียงคลื่นดังกลบเสียงโทรศัพย์ แต่เปล่าเลย...เสียงของเขายังดังอยู่ในหัวใจฉันตลอดเวลา
" เอก " เป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันรัก รอยยิ้มของเขา สัมผัสของเขาล้วนเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น แต่แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็พังครืน ความหวัง...ความฝัน ไม่เหลืออะไรเลย
.....ฉันทอดแผ่นหลังลงแนบกับพื้นทราย ดวงตาเหม่อมองไปสุดโค้งฟ้า แสงสีขาวปนทองอร่ามสว่างจนฉันต้องหลับตาลง โลกทั้งโลกดำมืดใต้เปลือกตาที่ปิดสนิท คงเหมือนกับฉันวันนี้ที่ไม่เหลืออะไรเลย
.........................................................


......เสียงรถแล่นเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้ฉันต้องเปลี่ยนจากท่านอนเป็นท่านั่ง แล้วหรี่เสียงโทรทัศน์ให้เบาลง เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วร่างสูงของเขาก็ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้า
" จอย เป็นอะไรไป อยู่ดีๆก็ไม่รับโทรศัพท์ งอนอะไรเอกเหรอครับ " เอกทรุดตัวนั่งลงบนที่พักแขน
" จอยไม่ได้จะมาเล่นบทนางเอกแสนงอนอะไรกับเอกทั้งสิ้น แต่เรื่องราวระหว่างเรามันควรจบลงได้แล้ว " ฉันแหวใส่
เอกโอบเอวฉันไว้จนรู้สึกอึดอัด ในขณะที่ฉันพยายามผลักไส แต่แรงผู้หญิงไหนจะสู้แรงผู้ชายได้ สุดท้ายเราก็ล้มเค้เก้ลงไปทั้งคู่ ฉันจึงสะบัดตัวหลุดจากอ้อมแขนเขาแล้วลุกขึ้น
" อย่ามาทำเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องนะเอก ออกไปจากบ้านจอยได้แล้ว "
เขาหันมามองฉันอย่างฉุนเต็มที่ แต่ก็พยายามปรับอารมณ์ตนเองแล้วเกลี้ยกล่อม
" จอยครับ เอกยังไม่รู้เลยว่าเอกผิดอะไร ทำไมจอยไม่ปล่อยให้เอกอธิบายบ้าง "
" อธิบายเหรอคะ ได้ เอกฟังเรื่องนี้ก่อนนะ แล้วเอกค่อยอธิบายมา "
.......สิ้นคำฉันก็เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วเปิดเสียงที่บันทึกเอาไว้ให้เขาฟัง
" ฮัลโหล...เอกเหรอคะ ทำไมไม่มาตามนัด " เสียงแรกเป็นเสียงของฉันเอง
เมื่ออาทิตย์ก่อนขานัดฉันที่ร้านแห่งหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มา ฉันจึงต้องโทรไปตาม
" ..คุณชื่อจอยใช่มั้ย " น้ำเสียงของสตรีผู้นั้นดูๆไม่เป็นมิตรนัก
" ค่ะ อ้าว นี่ไม่ใช่เบอร์เอกเหรอคะ " ฉันย้อนถาม
" ใช่ นี่เบอร์ของเอก แต่คนรับสายคือคนที่เธอแย่งผัวเค้าไง " ต้นเสียงใส่อารมณ์เต็มที่
" คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันไปแย่งสามีใคร " ฉันเถียง
" กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง อย่ามาทำตัวเป็นนางเอก อยากได้ผัวชั้นมากใช่มั้ย " ฝ่ายนั้นยังคงความแรง
" เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ สามีที่คุณว่านี่หมายถึงใคร " ฉันพยายามใจเย็น
" ทำเป็นไม่รู้เหรอ ถ้าไม่รู้ชั้นก็จะบอกให้เข้าใจตรงนี้เลยนะ ผู้ชายที่หล่อนควงอยู่ทุกวันที่ชื่อเอกน่ะ มันผัวชั้น เรามีลูกด้วยกันคนนึงแล้วด้วย พ่อแม่ญาติพี่น้องรับรู้ หล่อนจะดูทะเบียนสมรสมั้ย "
" เอก..เอกเหรอคะ " น้ำเสียงฉันเริ่มสั่น
" ใช่ หึหึ อย่ามาทำเป็นร้องไห้นะนังตัวดี คิดว่าชั้นไม่รู้เหรอว่าเธอมันดอกทอง "
" หัดฟังคนอื่นบ้างได้มั้ย ทำตัวแบบนี้ไงสามีคุณถึงทิ้ง ฉันยอมรับว่าได้คบกับเอกจริง แต่เขาไม่เคยบอกว่ามีภรรยาแล้ว ทุกการกระทำของเขาเหมือนตัวเองโสด ทุกๆอย่างที่ผ่านมาเขาเป็นคนเดินเข้ามา
ทั้งนั้น ที่ผ่านมาฉันผิดฉันต้องขอโทษ แต่คุณควรจะดูแลสามีตัวเองให้ดี ไม่ใช่ว่าจะมาโทษแต่ผู้หญิง แล้วเห็นสามีตัวเองเลิศลอยฟ้า "
" ตื๊ดๆๆๆ " เธอผู้นั้นวางสายไปแล้ว
" คุณจะออกไปได้หรือยังคะเอก มีอะไรแก้ตัวอีกมั้ย " ฉันยิ้มเยาะทั้งที่ร้าวไปทั้งใจ
" ผมรักคุณนะจอย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็รักคุณ " เขาทำหน้าเศร้า
" เลิกมารยาได้แล้วเอก คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย " พูดจบฉันต้องหันไปกรีดน้ำตา
ไม่มีทาง...ฉันจะไม่ยอมน้ำตาไหลให้เขาเห็น
" จอย..ผม " เขาทำท่าจะอธิบาย ฉันยกมือขวาขึ้นห้าม
" พอเถอะค่ะเอก เราเป็นมนุษย์ก็ควรจะมีสำนึก เราไม่ใช่สัตว์นี่คะ ที่ลูกใครผัวใครก็ไม่สน คุณกลับไปทำหน้าที่พ่อที่ดีของลูก สามีที่ดีของภรรยาคุณเถอะ อย่าให้ต้องเสียความรู้สึกไปกว่านี้เลย
จอยตัดสินใจแล้ว ว่าเราจะไม่เจอกันอีก ขอร้องนะคะ ..จอยไม่อยากเป็นเมียน้อยใคร "
กล่าวจบฉันก็เดินขึ้นบันไดไป ทิ้งให้เขาเผชิญความรู้สึกสับสนเพียงลำพัง
.........................................................
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย วิรัตต์ยา » จันทร์ 28 ก.ค. 2008 7:45 pm

เพิ่งเคยฟังเพลงนี้อ่ะ อิอิ ผ่านเจ๊เบียบป่าวเนี่ย เพลงอ่ะ 55555555555

เอิ่ม ถ้า...ถ้าดิฉันเป็น "จอย" นะ โดนอย่างนี้นะ ก่อนไป ต้องขอด่าอีตาผู้ชายให้เจ็บกว่านี้ เหอๆๆ เกลียดนัก เกลียดนัก

แต่ก็ปรบมือให้กับความเข้มแข็ง เด็ดขาดของ "จอย" นะคะ เพราะในชีวิตจริง เท่าที่เคยทราบมา มีผู้หญิงจำนวนมากเหลือเกินที่ยอมตกอยู่ในบ่วงอันนี้ ด้วยเหตุผลนานาประการที่สรรหามาเพิ่มความชอบธรรมให้กับตัวเอง (มันจะชอบธรรมได้ไงฟระ เง้อ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
วิรัตต์ยา
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 12 ก.ค. 2008 1:06 am

Re: เรื่องสั้นประกอบเพลง

โพสต์โดย น้ำฟ้า » จันทร์ 28 ก.ค. 2008 7:52 pm

เย้ย โหดดดดดดดดดดดดดด
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am


ย้อนกลับไปยัง เรื่องสั้น

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 20 ท่าน

cron