Re: เรื่องสั้นผลงานนักเรียน ม.๔ สอนโดย ครูน้ำฝน ทะกลกิจ
เมื่อ: เสาร์ 04 มี.ค. 2017 4:10 pm
ณ ห้องอาหาร
“ ท่านพี่!! ” เสียงใสหนึ่งดังขึ้นพร้อมร่างหญิงสาวที่กระโดดไปกอดผู้เป็นพี่ชาย
“ เดี๋ยวสิ ‘ชาล็อตเต้!’ กระโดดมาแบบนี้พี่ตกใจนะ “ ฟรีดเอ่ยพร้อมวางน้องสาวลงบนพื้น
“ ก็คิดถึงท่านพี่นิ นานๆทีจะได้กลับบ้าน “ สาวน้อมนาม ‘ชาล็อตเต้’ อ้อนแก่ผู้เป็นพี่
ชาล็อตเต้เป็นเด็กสาวอายุราว 17-18 ปี มีหน้าตาน่ารัก แก้วอมชมพู ดวงตากลมโตสีเหลืองและผมยาวสีเขียวถึงก้นเช่นเดียวกับฟรีด รูปร่างตัวเล็กแบบผู้หญิงทั่วไป ชาล็อตเต้มีนิสัยเป็นเด็กสาวขี้เล่น พูดจาน่ารักน่าเอ็นดู เธอรักพี่และน้องของตัวเองมาก แต่จะติดนิสัยขี้อ้อนเป็นประจำ
“ เดี๋ยวเถอะ! ชาล็อตทำตัวแบบนั้นไม่สมกับเป็นเลดี้เลยนะ ” เสียงหญิงสาวทรงอำนาจคนหนึ่งดังขึ้น
“ ก็แหม่ท่านแม่ ลูกอุสาห์ได้กลับมาจากโรงเรียนประจำคิดถึงท่านพี่จะตายไป “ ชาร็อตเต้ยังแสดงท่าทีอ้อน
“ ให้ตายสิส่งให้ไปเรียนประจำสอนเลดี้จะได้ดูสมกับเป็นเลดี้ขึ้นมาหน่อยแต่นี้กลับไม่เลย “ ผู้เป็นแม่เอ่ยตำหนิลูกของตน
ผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงที่มีอำนาจที่สุดในบ้าน ‘โอเรียนน่า เรจินีส’ แม้อายุจะใกล้ขึ้นเลขห้าแต่หน้าตาก็ยังคงความสาวเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ เธอมีดวงตาสีแดงเลือดและผมสีนิลเช่นเดียวกับมาร์คัสคงไม่ต้องบอกว่ามาร์คัสได้พันธุกรรมมาจากใคร เธอค่อนข้างเป็นคนเข้มงวด ไม่ชอบให้ใครแหกกฎระเบียบ เธอขึ้นชื่อว่าเป็นมาดามที่ใครๆต่างชื่นชมในกริยา มารยาทที่ดูสง่างาม อีกอย่างเธอค่อนข้างขี้หวงด้วยโดยเฉพาะสามี
“ ไม่เป็นไรหรอกครับท่านแม่ “ ฟรีดเอ่ยช่วยผู้เป็นน้องสาว
“ เฮ้อ... งั้นอย่าตามใจมากล่ะ เดี๋ยวชาร็อตจะเคยตัว “ โอเรียนน่าถอนหายใจเมื่อเห็นว่าผู้เป็นลูกชายช่วยพูด
“ ครับ “ ฟรีดเอ่ยตอบ
“ อ่ะ! พี่ชาร็อตกลับมาแล้วเหรอ “
“ ไหนบอกจะกลับอาทิตย์หน้า “ สองเสียงเอ่ยดังขึ้น
“ ก็พี่คิดถึงบ้านนิ ‘เอริซาเบ็ธ’ กับ ‘คันทาเรียล’ ไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอ? “ ชาร็อตเต้ถาม
“ ไม่/ไม่ “ สองเสียงต่างตอบเป็นเสียงเดียวกัน
“ ใจร้าย “ ชาร็อตเต้เอ่ยด้วยความน้อยใจ
‘เอริซาเบ็ธ’ กับ ‘คันทาเรียล’ ทั้งสองคนเป็นแฝดคู่ชายหญิงซึ่งหน้าตาคล้ายกัน ทั้งสองคนอายุราวๆ 15-16 ปี มีดวงตาสีแดงเลือดและผมสีดำนิลเช่นเดียวกับผู้เป็นแม่และมาร์คัส แต่นิสัยนั้นต่างสุดขั้ว เอริซาเบ็ธเป็นแฝดคนพี่ผมของเธอยาวเป็นลอน เธอชอบที่จะอยู่ในที่สงบๆ เธอค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่คนเดียวยกเว้นคันทาเรียลผู้เป็นแฝดคนน้องแต่ต้องไม่ไปรบกวนเธอในการแต่งหนังสือนิยายซึ่งได้ข่าวว่าคันทาเรียลไปแอบอ่านของเธอเกือบโดนฆ่า เอริซาเบ็ธโกรธไม่คุยด้วยหนึ่งเดือนเต็มๆยอมรับว่าคันทาเรียลเป็นพวกขี้ตื้อเธอถึงยอมแพ้คืนดีด้วย ซึ่งก็อย่างที่บอกคันทาเรียลนั้นผมสั้นติดหนังหัว นิสัยตรงกันข้ามเลยเป็นพวกขี้เล่น ขี้แกล้ง ร่าเริงจนเกินเหตุ เป็นมิตรใครๆก็ชอบคุยด้วยแถมเล่นกีฬาก็เก่งโดยเฉพาะขี้ม้า ม้าตัวโปรดของเขาชื่อ ‘เรซิ่ง‘ เจ้าตัวนี้พยศพอตัว
“ ไง โทษทีนะที่มาช้า “ มาร์คัสเอ่ยขณะที่เข้ามาที่ห้องอาหาร
“ ท่านพี่มาร์คัส “ ชาร็อตเต้เข้าไปกอดมาร์คัส
“ ไง ยัยตัวแสบกลับมาแล้วเหรอ “ มาร์คัสกอดชาร็อตเต้ตอบ
“ มากันพร้อมหน้าเลยสินะ “ เสียงใหญ่ทรงอำนาจดังขึ้น
“ ท่านพ่อ “ ฟรีดเอ่ยขึ้น
ชายคนนี้คือผู้เป็นหัวหน้าตระกูล ผู้ที่มีอำนาจใหญ่เด็ดขาดที่สุดในบ้าน ‘นีอ้อน เรจินีส’ แม้อายุจะขึ้นใกล้ขึ้นเลขห้าเช่นเดียวกับท่านแม่แต่ร่ากายยังแข็งแรงเหมือนหนุ่มอายุ 20 ส่วนหน้าตาสีผมเหมือนฟรีดอย่างกับแกะ เรียกได้ว่าฟรีดได้พันธุกรรมจากเขามาเต็มๆ เรื่องนิสัยหรืออย่างอื่นไม่ค่อยมีใครทราบเพราะเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในการทำงานจนคิดว่าสนใจลูกตนเองด้วยเหรอ
“ นานๆทีจะได้กินอาหารกันพร้อมหน้าเอาล่ะมาทานกันเถอะ “ ดีอ้อนเอ่ยแก่ทุกคนในครอบครัวให้เริ่มรับประทานอาหาร
“ ชาร็อตเต้ ได้ข่าวว่าช่วงนี้เจ้าชายโดมินิกชอบมาชวนลูกไปดื่มน้ำชาด้วยนิ ลูกถูกใจเขาไหม? “ ดีอ้อนเอ่ยถามชาร็อตเต้
“ ลูกก็โอเคค่ะ ท่านก็ทรงเป็นคนดีคุยด้วยสนุก “ ชาร็อตเต้เอ่ยตอบ
“ แม่ว่าอีกนานคงได้มีการหมั้นหมายถ้าเห็นว่าลูกถูกใจท่าน “ โอเรียนน่าเอ่ย เธอเองก็ยินดีเช่นกันถ้าลูกสาวแต่งงานกับคนที่ดี เหมาะสมกับตระกูล
“ ทาคันเรียล ลูกเองช่วงนี้ก็ต้องหมั่นฝึกขี่ม้าด้วยล่ะ ใกล้การแข่งขันแล้วไม่ใช่เหรอ “ ดีอ้อนเอ่ยแก่ทาคัลเรียล
“ ไม่ต้องห่วงท่านพ่อ ผมเองฝึกฝนทุกวันชนะได้แน่นอน “ คันทาเรียลเอ่ยแบบมั่นใจ
“ แพ้แล้วอย่ามาร้องไห้ซบอกฉันล่ะ “ เอริซาเบ็ธเอ่ยแทงใจดำ
“ เอริซอย่าใจร้ายกันสิ “ คันทาเรียลทำหน้าอย่างกับคนร้องไห้
“ หึ หึ หึ “ ฟรีดถึงกับหลุดหัวเราะ นานๆทีจะได้อยู่พร้อมหน้ากันเขาเองเป็นพี่ชายคนโตก็มักจะต้องทำงานไม่ค่อยมีเวลาว่างถึงว่างก็มักจะไปหาแต่ลูอัส ส่วนมาร์คัสถึงเห็นเป็นคนเจ้าเล่ห์ปากร้ายแบบนั้นแต่จริงจังกับงานพอตัวส่วนใหญ่มาร์คัสจะทำงานข้างนอกนานๆทีกลับมา ชาร็อตเต้เองก็เรียนโรงเรียนประจำสอนเลดี้ปิดเทอมถึงจะได้กลับมาแต่คุณเธอชอบกลับมาก่อนเพราะคิดถึงบ้านไม่ไหว เอริซาเบ็ธเอาแต่หมกตัวเขียนนิยายเธอชอบเขียนเรียกได้ว่ากี่เรื่องแล้วก็ไม่รู้แต่เธอไม่เคยคิดจะเอาไปตีพิมพ์เลยนี่สิ คันทาเรียลก็มักจะไปเล่นกีฬาประจำมันก็เลยรู้สึกเหงา
หลังจากที่รับประทานเสร็จฟรีดเองก็คิดจะไปหาลูอัสแต่เมื่อถึงห้องดูเหมือนว่าจะมีคนมาถึงก่อนเขา
“ ลูอัส ลูกชั่งงดงามเหมือนโซเฟียจริงๆ “ เสียงที่ลอดผ่านจากประตู ใช่เขาจำมันได้ดีเสียงนี้คือท่านพ่อของเขา
“ ฉันไม่อยากให้ใครมาเห็นเธอเลย ฉันกลัวคนอื่นจะมาแย่งไป “ ท่านพ่อยังเอ่ยเพ้อต่อไปทำให้ฟรีดถึงกับกำหมัดแน่น
สาเหตุที่ลูอัสไม่ได้ออกไปไหนคือท่านพ่อ ท่านพ่อหลงรัก ‘ท่านโซเฟีย’ แม่ของลูอัสมาก แต่ท่านไม่ยอมทำใจกับเรื่องที่เธอนั้นจากไปนานแล้วเมื่อลูอัสหน้าตาคล้ายกับผู้เป็นแม่ทุกประการเขารักความหึงหวงที่สะสมมาจึงหนักขึ้น ขังไม่ให้ไปไหนเพราะกลัวหนีตัวเอง กลัวคนอื่นจะแย่งไปจนไม่คิดถึงความรู้สึกของลูอัส เป็นพ่อที่แย่ชะมัดเขาเองก็นึกสงสารทั้งท่านโซเฟียและลูอัสที่ต้องมาเจอผู้ชายคนนี้ แต่ถ้าจำไม่ผิดเขาก็ได้เจอท่านโซเฟียครั้งแรกเมื่อ 14 ปีก่อน
“ นี่โซเฟีย เธอจะมาเป็นภรรยาคนใหม่ของฉัน “ ดีอ้อนเอ่ยแก่ทุกคนในครอบครัว
“ ดีอ้อนคุณทำอะไร คุณบอกว่ารักฉันคนเดียวไง ยัยชั้นต่ำเนี่ยใครกัน! ” โอเรี่ยนน่าเอ่ยด้วยความโกรธ
“ หยุดพูดจาแบบนั้นเลย โอเรี่ยนน่า! “ ดีอ้อนเองก็เอ่ยด้วยความไม่พอใจเช่นกันที่โอเรี่ยนน่าพูดจาไม่ดีกับโซเฟีย
“ ทำไม ฉันจะพูดคุณมีสิทธิห้ามอะไร! “ โอเรี่ยนน่าดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
เรียกได้ว่าวันนั้นบ้านแตกมาก ท่านพ่อท่านแม่ทะเลาะกันไม่หยุดและดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใครแต่แล้วท่านแม่ก็ต้องยอมเมื่อท่านพ่อยกเรื่องหย่าขึ้นมาท่านแม่จึงแพ้หมดรูป ด้วยเหตุนี้ท่านโซเฟียก็ขึ้นมาเป็นภรรยาแม้จะไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมายท่ามกลางความดูหมิ่นของคนในตระกูล
“ อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงชั้นต่ำเข้าใจไหม “
ท่านแม่ถึงกับเอ่ยมาแบบนั้นคงแค้นมากๆซึ่งมาร์คัสก็รับส่วนนั้นมาเต็มๆเรียกได้ว่าฝังเข้าไปในสมองแต่พวกน้องๆที่เหลือด้วยความเป็นเด็กคงไม่คิดอะไรกันมากนัก แต่เขาสัมผัสได้ว่าท่านโซเฟียไม่ใช่คนเช่นนั้น
“ วันนี้ชะมัด ” ฟรีดพลางบ่นขณะกำลังเดินไปที่สวนของตระกูลที่ประจำที่เขามักไปพักผ่อนอยู่เสมอ สวนแห่งนี้เป็นสวนที่ร่มรื่นและเงียบสงบมีต้นไม้และดอกไม้หลากสีสันสัตว์ตัวน้อยๆอย่างเช่น กระรอก ผีเสื้อ นก กระต่าย จึงชอบมาอยู่อาศัยเขาเองก็ชอบที่จะดูพวกมัน แต่ที่เขาชอบที่สุดคงเป็นเจ้ากระต่ายขาวแต่ที่มันแปลกและโดดเด่นคือมันตัวกลมและขนพองกว่ากระต่ายตัวอื่นๆแถมมันยังขี้เล่น กินจุอีกต่างหาก เขาเลยตั้งชื่อมันว่า ‘ สโนว์ ’ ด้วยความที่มันรูปร่างคล้ายๆหิมะ แล้ววันนี้เองภารกิจของเขาก็เช่นเดิมให้อาหารเจ้าสโนว์และสัตว์ตัวอื่นๆ ส่วนเรื่องอาหารเขามักจะไปของพวกผลไม้จากพ่อครัวที่คฤหาสน์
เมื่อเข้าไปถึงเขากลับได้ยินเสียงร้องเพลงของผู้หญิงคนหนึ่ง เขาแอบหลังต้นไม้แล้วชะโงกไปมอง เขาเห็นผมสีขาวยาวปลิวไปกับสายลม เหล่าสัตว์ตัวน้อยต่างล้อมตัวเธอเอาไว้ยังกับเพลิดเพลินกับบทเพลงที่เธอร้องออกมา เธอคือ...
“ ท่านพี่!! ” เสียงใสหนึ่งดังขึ้นพร้อมร่างหญิงสาวที่กระโดดไปกอดผู้เป็นพี่ชาย
“ เดี๋ยวสิ ‘ชาล็อตเต้!’ กระโดดมาแบบนี้พี่ตกใจนะ “ ฟรีดเอ่ยพร้อมวางน้องสาวลงบนพื้น
“ ก็คิดถึงท่านพี่นิ นานๆทีจะได้กลับบ้าน “ สาวน้อมนาม ‘ชาล็อตเต้’ อ้อนแก่ผู้เป็นพี่
ชาล็อตเต้เป็นเด็กสาวอายุราว 17-18 ปี มีหน้าตาน่ารัก แก้วอมชมพู ดวงตากลมโตสีเหลืองและผมยาวสีเขียวถึงก้นเช่นเดียวกับฟรีด รูปร่างตัวเล็กแบบผู้หญิงทั่วไป ชาล็อตเต้มีนิสัยเป็นเด็กสาวขี้เล่น พูดจาน่ารักน่าเอ็นดู เธอรักพี่และน้องของตัวเองมาก แต่จะติดนิสัยขี้อ้อนเป็นประจำ
“ เดี๋ยวเถอะ! ชาล็อตทำตัวแบบนั้นไม่สมกับเป็นเลดี้เลยนะ ” เสียงหญิงสาวทรงอำนาจคนหนึ่งดังขึ้น
“ ก็แหม่ท่านแม่ ลูกอุสาห์ได้กลับมาจากโรงเรียนประจำคิดถึงท่านพี่จะตายไป “ ชาร็อตเต้ยังแสดงท่าทีอ้อน
“ ให้ตายสิส่งให้ไปเรียนประจำสอนเลดี้จะได้ดูสมกับเป็นเลดี้ขึ้นมาหน่อยแต่นี้กลับไม่เลย “ ผู้เป็นแม่เอ่ยตำหนิลูกของตน
ผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงที่มีอำนาจที่สุดในบ้าน ‘โอเรียนน่า เรจินีส’ แม้อายุจะใกล้ขึ้นเลขห้าแต่หน้าตาก็ยังคงความสาวเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ เธอมีดวงตาสีแดงเลือดและผมสีนิลเช่นเดียวกับมาร์คัสคงไม่ต้องบอกว่ามาร์คัสได้พันธุกรรมมาจากใคร เธอค่อนข้างเป็นคนเข้มงวด ไม่ชอบให้ใครแหกกฎระเบียบ เธอขึ้นชื่อว่าเป็นมาดามที่ใครๆต่างชื่นชมในกริยา มารยาทที่ดูสง่างาม อีกอย่างเธอค่อนข้างขี้หวงด้วยโดยเฉพาะสามี
“ ไม่เป็นไรหรอกครับท่านแม่ “ ฟรีดเอ่ยช่วยผู้เป็นน้องสาว
“ เฮ้อ... งั้นอย่าตามใจมากล่ะ เดี๋ยวชาร็อตจะเคยตัว “ โอเรียนน่าถอนหายใจเมื่อเห็นว่าผู้เป็นลูกชายช่วยพูด
“ ครับ “ ฟรีดเอ่ยตอบ
“ อ่ะ! พี่ชาร็อตกลับมาแล้วเหรอ “
“ ไหนบอกจะกลับอาทิตย์หน้า “ สองเสียงเอ่ยดังขึ้น
“ ก็พี่คิดถึงบ้านนิ ‘เอริซาเบ็ธ’ กับ ‘คันทาเรียล’ ไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอ? “ ชาร็อตเต้ถาม
“ ไม่/ไม่ “ สองเสียงต่างตอบเป็นเสียงเดียวกัน
“ ใจร้าย “ ชาร็อตเต้เอ่ยด้วยความน้อยใจ
‘เอริซาเบ็ธ’ กับ ‘คันทาเรียล’ ทั้งสองคนเป็นแฝดคู่ชายหญิงซึ่งหน้าตาคล้ายกัน ทั้งสองคนอายุราวๆ 15-16 ปี มีดวงตาสีแดงเลือดและผมสีดำนิลเช่นเดียวกับผู้เป็นแม่และมาร์คัส แต่นิสัยนั้นต่างสุดขั้ว เอริซาเบ็ธเป็นแฝดคนพี่ผมของเธอยาวเป็นลอน เธอชอบที่จะอยู่ในที่สงบๆ เธอค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่คนเดียวยกเว้นคันทาเรียลผู้เป็นแฝดคนน้องแต่ต้องไม่ไปรบกวนเธอในการแต่งหนังสือนิยายซึ่งได้ข่าวว่าคันทาเรียลไปแอบอ่านของเธอเกือบโดนฆ่า เอริซาเบ็ธโกรธไม่คุยด้วยหนึ่งเดือนเต็มๆยอมรับว่าคันทาเรียลเป็นพวกขี้ตื้อเธอถึงยอมแพ้คืนดีด้วย ซึ่งก็อย่างที่บอกคันทาเรียลนั้นผมสั้นติดหนังหัว นิสัยตรงกันข้ามเลยเป็นพวกขี้เล่น ขี้แกล้ง ร่าเริงจนเกินเหตุ เป็นมิตรใครๆก็ชอบคุยด้วยแถมเล่นกีฬาก็เก่งโดยเฉพาะขี้ม้า ม้าตัวโปรดของเขาชื่อ ‘เรซิ่ง‘ เจ้าตัวนี้พยศพอตัว
“ ไง โทษทีนะที่มาช้า “ มาร์คัสเอ่ยขณะที่เข้ามาที่ห้องอาหาร
“ ท่านพี่มาร์คัส “ ชาร็อตเต้เข้าไปกอดมาร์คัส
“ ไง ยัยตัวแสบกลับมาแล้วเหรอ “ มาร์คัสกอดชาร็อตเต้ตอบ
“ มากันพร้อมหน้าเลยสินะ “ เสียงใหญ่ทรงอำนาจดังขึ้น
“ ท่านพ่อ “ ฟรีดเอ่ยขึ้น
ชายคนนี้คือผู้เป็นหัวหน้าตระกูล ผู้ที่มีอำนาจใหญ่เด็ดขาดที่สุดในบ้าน ‘นีอ้อน เรจินีส’ แม้อายุจะขึ้นใกล้ขึ้นเลขห้าเช่นเดียวกับท่านแม่แต่ร่ากายยังแข็งแรงเหมือนหนุ่มอายุ 20 ส่วนหน้าตาสีผมเหมือนฟรีดอย่างกับแกะ เรียกได้ว่าฟรีดได้พันธุกรรมจากเขามาเต็มๆ เรื่องนิสัยหรืออย่างอื่นไม่ค่อยมีใครทราบเพราะเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในการทำงานจนคิดว่าสนใจลูกตนเองด้วยเหรอ
“ นานๆทีจะได้กินอาหารกันพร้อมหน้าเอาล่ะมาทานกันเถอะ “ ดีอ้อนเอ่ยแก่ทุกคนในครอบครัวให้เริ่มรับประทานอาหาร
“ ชาร็อตเต้ ได้ข่าวว่าช่วงนี้เจ้าชายโดมินิกชอบมาชวนลูกไปดื่มน้ำชาด้วยนิ ลูกถูกใจเขาไหม? “ ดีอ้อนเอ่ยถามชาร็อตเต้
“ ลูกก็โอเคค่ะ ท่านก็ทรงเป็นคนดีคุยด้วยสนุก “ ชาร็อตเต้เอ่ยตอบ
“ แม่ว่าอีกนานคงได้มีการหมั้นหมายถ้าเห็นว่าลูกถูกใจท่าน “ โอเรียนน่าเอ่ย เธอเองก็ยินดีเช่นกันถ้าลูกสาวแต่งงานกับคนที่ดี เหมาะสมกับตระกูล
“ ทาคันเรียล ลูกเองช่วงนี้ก็ต้องหมั่นฝึกขี่ม้าด้วยล่ะ ใกล้การแข่งขันแล้วไม่ใช่เหรอ “ ดีอ้อนเอ่ยแก่ทาคัลเรียล
“ ไม่ต้องห่วงท่านพ่อ ผมเองฝึกฝนทุกวันชนะได้แน่นอน “ คันทาเรียลเอ่ยแบบมั่นใจ
“ แพ้แล้วอย่ามาร้องไห้ซบอกฉันล่ะ “ เอริซาเบ็ธเอ่ยแทงใจดำ
“ เอริซอย่าใจร้ายกันสิ “ คันทาเรียลทำหน้าอย่างกับคนร้องไห้
“ หึ หึ หึ “ ฟรีดถึงกับหลุดหัวเราะ นานๆทีจะได้อยู่พร้อมหน้ากันเขาเองเป็นพี่ชายคนโตก็มักจะต้องทำงานไม่ค่อยมีเวลาว่างถึงว่างก็มักจะไปหาแต่ลูอัส ส่วนมาร์คัสถึงเห็นเป็นคนเจ้าเล่ห์ปากร้ายแบบนั้นแต่จริงจังกับงานพอตัวส่วนใหญ่มาร์คัสจะทำงานข้างนอกนานๆทีกลับมา ชาร็อตเต้เองก็เรียนโรงเรียนประจำสอนเลดี้ปิดเทอมถึงจะได้กลับมาแต่คุณเธอชอบกลับมาก่อนเพราะคิดถึงบ้านไม่ไหว เอริซาเบ็ธเอาแต่หมกตัวเขียนนิยายเธอชอบเขียนเรียกได้ว่ากี่เรื่องแล้วก็ไม่รู้แต่เธอไม่เคยคิดจะเอาไปตีพิมพ์เลยนี่สิ คันทาเรียลก็มักจะไปเล่นกีฬาประจำมันก็เลยรู้สึกเหงา
หลังจากที่รับประทานเสร็จฟรีดเองก็คิดจะไปหาลูอัสแต่เมื่อถึงห้องดูเหมือนว่าจะมีคนมาถึงก่อนเขา
“ ลูอัส ลูกชั่งงดงามเหมือนโซเฟียจริงๆ “ เสียงที่ลอดผ่านจากประตู ใช่เขาจำมันได้ดีเสียงนี้คือท่านพ่อของเขา
“ ฉันไม่อยากให้ใครมาเห็นเธอเลย ฉันกลัวคนอื่นจะมาแย่งไป “ ท่านพ่อยังเอ่ยเพ้อต่อไปทำให้ฟรีดถึงกับกำหมัดแน่น
สาเหตุที่ลูอัสไม่ได้ออกไปไหนคือท่านพ่อ ท่านพ่อหลงรัก ‘ท่านโซเฟีย’ แม่ของลูอัสมาก แต่ท่านไม่ยอมทำใจกับเรื่องที่เธอนั้นจากไปนานแล้วเมื่อลูอัสหน้าตาคล้ายกับผู้เป็นแม่ทุกประการเขารักความหึงหวงที่สะสมมาจึงหนักขึ้น ขังไม่ให้ไปไหนเพราะกลัวหนีตัวเอง กลัวคนอื่นจะแย่งไปจนไม่คิดถึงความรู้สึกของลูอัส เป็นพ่อที่แย่ชะมัดเขาเองก็นึกสงสารทั้งท่านโซเฟียและลูอัสที่ต้องมาเจอผู้ชายคนนี้ แต่ถ้าจำไม่ผิดเขาก็ได้เจอท่านโซเฟียครั้งแรกเมื่อ 14 ปีก่อน
“ นี่โซเฟีย เธอจะมาเป็นภรรยาคนใหม่ของฉัน “ ดีอ้อนเอ่ยแก่ทุกคนในครอบครัว
“ ดีอ้อนคุณทำอะไร คุณบอกว่ารักฉันคนเดียวไง ยัยชั้นต่ำเนี่ยใครกัน! ” โอเรี่ยนน่าเอ่ยด้วยความโกรธ
“ หยุดพูดจาแบบนั้นเลย โอเรี่ยนน่า! “ ดีอ้อนเองก็เอ่ยด้วยความไม่พอใจเช่นกันที่โอเรี่ยนน่าพูดจาไม่ดีกับโซเฟีย
“ ทำไม ฉันจะพูดคุณมีสิทธิห้ามอะไร! “ โอเรี่ยนน่าดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
เรียกได้ว่าวันนั้นบ้านแตกมาก ท่านพ่อท่านแม่ทะเลาะกันไม่หยุดและดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใครแต่แล้วท่านแม่ก็ต้องยอมเมื่อท่านพ่อยกเรื่องหย่าขึ้นมาท่านแม่จึงแพ้หมดรูป ด้วยเหตุนี้ท่านโซเฟียก็ขึ้นมาเป็นภรรยาแม้จะไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมายท่ามกลางความดูหมิ่นของคนในตระกูล
“ อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงชั้นต่ำเข้าใจไหม “
ท่านแม่ถึงกับเอ่ยมาแบบนั้นคงแค้นมากๆซึ่งมาร์คัสก็รับส่วนนั้นมาเต็มๆเรียกได้ว่าฝังเข้าไปในสมองแต่พวกน้องๆที่เหลือด้วยความเป็นเด็กคงไม่คิดอะไรกันมากนัก แต่เขาสัมผัสได้ว่าท่านโซเฟียไม่ใช่คนเช่นนั้น
“ วันนี้ชะมัด ” ฟรีดพลางบ่นขณะกำลังเดินไปที่สวนของตระกูลที่ประจำที่เขามักไปพักผ่อนอยู่เสมอ สวนแห่งนี้เป็นสวนที่ร่มรื่นและเงียบสงบมีต้นไม้และดอกไม้หลากสีสันสัตว์ตัวน้อยๆอย่างเช่น กระรอก ผีเสื้อ นก กระต่าย จึงชอบมาอยู่อาศัยเขาเองก็ชอบที่จะดูพวกมัน แต่ที่เขาชอบที่สุดคงเป็นเจ้ากระต่ายขาวแต่ที่มันแปลกและโดดเด่นคือมันตัวกลมและขนพองกว่ากระต่ายตัวอื่นๆแถมมันยังขี้เล่น กินจุอีกต่างหาก เขาเลยตั้งชื่อมันว่า ‘ สโนว์ ’ ด้วยความที่มันรูปร่างคล้ายๆหิมะ แล้ววันนี้เองภารกิจของเขาก็เช่นเดิมให้อาหารเจ้าสโนว์และสัตว์ตัวอื่นๆ ส่วนเรื่องอาหารเขามักจะไปของพวกผลไม้จากพ่อครัวที่คฤหาสน์
เมื่อเข้าไปถึงเขากลับได้ยินเสียงร้องเพลงของผู้หญิงคนหนึ่ง เขาแอบหลังต้นไม้แล้วชะโงกไปมอง เขาเห็นผมสีขาวยาวปลิวไปกับสายลม เหล่าสัตว์ตัวน้อยต่างล้อมตัวเธอเอาไว้ยังกับเพลิดเพลินกับบทเพลงที่เธอร้องออกมา เธอคือ...