เรื่องสั้นผีๆ

เรื่องสั้น บทความ ต่างๆ

เรื่องสั้นผีๆ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » เสาร์ 19 ก.ค. 2008 11:25 pm

มาเขียนเรื่องสั้นผีๆกันคนละเรื่องเถอะค่ะ ใครจะเริ่มก่อน อิอิ
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: เรื่องสั้นผีๆ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 20 ก.ค. 2008 8:42 am

ยี่เป็งระทึก
ยี่เป็งเป็นวันแห่งการรอคอยของเด็กๆ เพราะปีหนึ่งจะมีแค่หนเดียว พวกเราไม่ได้นึกถึงกระทงที่ลอยสว่างไสวไปตามลำน้ำ การจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย หรือการจุดประทีปรอบบ้านเลยแม้แต่น้อย แต่เรามักจะนึกถึงการเล่นดอกไม้ไฟและเครื่องเล่นมากมายต่างหาก

ผมก็เป็นเหมือนเด็กชายทั่วๆไป ที่ชอบเล่นซนไปตามประสา ยี่เป็งสำหรับผมนั้นทำให้นึกถึงความสนุกเวลาได้ช่วยพ่อทำซุ้มประตูป่า ที่ผมรู้สึกเหมือนตนเองเป็นช่างตัวเล็กๆ ที่จะตกแต่งรั้วบ้านให้สวยงามแปลกตา ปีไหนที่โชคร้ายวันยี่เป็งตรงกับวันที่ต้องไปโรงเรียนก็ยังมีโชคดี เพราะรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าวันนั้นพวกเราไม่ต้องเรียนเต็มที่ พวกครูจะต้องไปช่วยงานที่วัด วัดกับโรงเรียนเรานั้นติดกันดังนั้นทุกๆวันพระนักเรียนตัวเล็กๆอย่างพวกเราจะต้องไปฟังเทศนาที่วัดเป็นประจำ เมื่อใดมีงานที่วัดคุณครูก็จะต้องไปช่วยอย่างเต็มกำลัง และที่สำคัญสำหรับผมทุกๆวันพระพวกเรามักจะได้รับแจกขนมนมเนยจากหลวงลุงเสมอ เพราะญาติโยมทั้งหมู่บ้านจะพากันไปตักบาตรอย่างล้นเหลือ

คืนนี้...หลังจากที่ไปลอยกระทงกับแม่แล้ว ผมก็เดินเตร็ดเตร่ไปตามถนนที่ทอดยาวไปจนสุดหมู่บ้าน เพื่อไปดูงานแข่งบอกไฟดอกที่วัด ดอกไฟดอกของผมมีลักษณะคล้ายๆดอกไม้ไฟ หากแต่ทำใส่กระบอกไม่ไผ่ขนาดยักษ์ แล้วนำไปฝังดินไว้ คนในหมู่บ้านจะทำดอกไฟดอกไปแข่งกันทุกคืนวันยี่เป็ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าสะเก็ดไฟจากกระบอกไม้ไผเส้นผ่าศูนย์กลางค่สี่ห้านิ้วจะจุดประกายไฟได้โชติช่วงจนสูงกว่าวิหารเกือบเท่าตัว

นอกจากแข่งบอกไฟแล้ว สิ่งที่ผมสนใจคือการปล่อยว่าว หรือที่เรียกว่าโคมลอยนั่นเอง แต่คนเหนือจะเปลี่ยนชื่อเรื่องตามช่วงเวลา โดยกลางวันจะเรียกว่าว่าวลม ส่วนกลางคืนนั้นเรียกว่าว่าวไฟ การปล่อยว่าวนั้น แม่บอกว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ หากใครปล่อยไปแล้วตกก็ต้องเอาไปปล่อยใหม่ จึงจะทำให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข ดังนั้นเวลาที่ว่าวของใครตกแล้วมีผู้เก็บได้ เจ้าของก็มักจะให้รางวัลเป็นเงินสด โดยเฉพาะหลวงลุงเจ้าอาวาสที่วัดนั้น มักจะให้รางวัลไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ บาท

ผมนั่งดูเขาปล่อยว่าวไฟกับพวกเจ้าต้อม เจ้าอ้วน เจ้าเก่ง และน้องๆอีกเกือบสิบคน เมื่อถึงคราวที่ว่าวไฟหลวงลุงถูกปล่อยขึ้นฟ้า มันลอยขึ้นไปตามแรงลมไปทางทิศตะวันตก ผ่านศาลาไปทางแม่น้ำ แล้วลอยต่อไปยังบ้านตาบุญซึ่งบริเวณนั้นเป็นโรงฆ่าสัตว์จึงมีเนื้อที่กว้างขวาง แต่ปัจจุบันกลายเป็นป่าทอดยาวไปจนจรดทุ่งนา แม่เคยเล่าให้ฟังว่าแถบนั้นเคยเป็นสนามรบระหว่างบรรพบุรุษของเรากับพวกเงี้ยวหรือพม่า ใครขวัญอ่อนไปเดินแถวนั้นมักจะถูกทักจนเป็นไข้ทุกที

ว่าวไฟน้อยลอยเอื่อยๆ แสงไฟค่อยๆริบหรี่ลงเรื่อยๆ แล้วค่อยๆร่วงลงสู่พื้นดิน บริเวณทุ่งนาเลยบ้านตาบุญไปไม่ถึง ๑๐ เมตร
" เอาแล้วโว้ย พวกมึงได้ตังค์กินขนมกันล่ะ "
ผมซึ่งเป็นหัวโจกตะโกนบอกเพื่อนๆ และวิ่งนำไปตามถนนที่จุดประทีปสว่างไสว ผมวิ่งขึ้นสะพานสูงหน้าวัด แล้วทะลุเข้าประตูรั้วบ้านตาบุญได้ เพราะคนในชนบทไม่ต้องมีรั้วปิดตายเพราะไม่มีขโมย ตาบุญคงนอนแล้วเพราะเมียแกเพิ่งตายไปไม่นาน คงเหน็ดเหนื่อยจากงานศพที่เพิ่งผ่านพ้นไป ผมวิ่งผ่านเพิงยาวๆที่เดาเอาเองว่าคงจะเคยเป็นโรงฆ่าสัตว์ ถัดไปเป็นป่าละเมาะที่มีต้นมะพร้าว ต้นมะม่วง หมาก ฯลฯ ที่ขึ้นอย่างไม่ได้รับการดูแล ตาผมจดจ่ออยู่กับว่าวไฟที่กำลังร่วงลงสู่พื้นดิน

พวกเพื่อนๆวิ่งตามมาเป็นสาย ทุกคนรู้สึกสนุก และปรีด์เปรมกับรางวัลที่หวังว่าจะได้รับ ผมวิ่งไปจนเกือบสุดเขตรั้วต้นชาสีเขียวแก่ ก็สะดุดตากับสิ่งหนึ่ง ที่เป็นสีขาวโพลนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์อร่ามฟ้า ผมเพ่งมองแล้ววิ่งเข้าไปใกล้ๆ ไม่น่าเชื่อเลย..บนขอนไม้เก่าๆๆมีหญิงชรานั่งอยู่ ผมจึงปรี่เข้าไปถาม
" เห็นว่าวไฟตกลงมั้ยครับ "
ร่างนั้นค่อยๆหันมาทางผม ดวงตาขาวโพลนไร้แววตาดำปูดโปนออกมานอกเบ้า ผมมองไม่เห็นหน้าเพราะเป็นสีดำตัดกับสีขาวของเครื่องนุ่งห่ม กลิ่นเหม็นเน่าลอยมาคละคลุ้ง ร่างนั้นค่อยๆชี้ไปทางทุ่งนา แทนที่ผมจะวิ่งต่อไป ผมเลือกที่จะหันหลังกลับ วิ่งสุดแรงเกิดจนชนโครมกับเจ้าต้อม
" ไอ้ดำวิ่งกลับมาทำไม มาชนกู "เจ้าต้อมบอกอย่างโมโหๆแล้วลุกขึ้นทำท่าจะวิ่งต่อ
" กูเจอผะ..ผะ..ผี " ว่าแล้วผมก็วิ่งเตลิดออกมาก่อน
พอได้ยินคำว่าผีเท่านั้น เด็กอย่างพวกเราก็ขวัญหาย วิ่งหนีกันอย่างไม่คิดชีวิตตกลงคืนนั้นพวกเราก็ชวดเงิน ๕๐๐ บาท แถมผมยังจับไข้ไปอีกสามวัน คุ้มจริงๆ หุหุ
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm


ย้อนกลับไปยัง เรื่องสั้น

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 13 ท่าน

cron