เกือบไปแล้ว โดย สุดที่รัก

เรื่องสั้น บทความ ต่างๆ

เกือบไปแล้ว โดย สุดที่รัก

โพสต์โดย บ้านเพียงพอ » เสาร์ 26 ก.ค. 2008 11:45 pm

ปลายเป็นผู้หญิงที่สวยมาก หุ่นดีบุคลิกดี และมีฐานะดี
และด้วยความสวยของเธอจึงทำให้เธอได้เป็นดาวประจำมหาวิทยาลัยใน
กรุงเทพฯ แห่งหนึ่ง
เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อและอนงค์ซึ่งเป็นแม่ของเธอ
จึงทำให้พ่อและแม่ตามใจเธอมาก
แต่พ่อของเธอต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ ไปทีละเป็นเดือน
นานๆทีจะกลับบ้าน จึงทำให้ปลายต้องอาศัยอยู่กับแม่ของเธอ ๒
คนแม่ลูกตามลำพัง
“ แม่ๆเสร็จยังหนูต้องรีบไปวิทยาลัยแล้ว ”
ปลายตะโกนบอกอนงค์ด้วยน้ำเสียงตะหวาดนิดๆ
“ จะรีบไปทำไมเร็วละลูกนี่พึ่งตี ๕ ครึ่งเอง ”
อนงค์พูดกับลูกด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ เหอะแม่ เร็วๆสิเดี๋ยวไม่ทัน ” ปลายพูดย้ำกับอนงค์อีกครั้ง
อนงค์ขับรถออกจากบ้านไปส่งปลายที่มหาวิทยาลัยตี ๕ ครึ่ง
ทุกวันเป็นเวลาเกือบ ๑ ปีแล้ว โดยที่อนงค์ไม่เคยหยุดความสงสัยเลย
ว่าทำไมลูกของตนต้องไปมหาวิทยาลัยแต่เช้าทุกวันทั้งๆที่มหาวิทยาลัย
ก็ไม่ได้อยู่ไกลจากบ้านเท่าไรนัก
“ ตั้งใจเรียนนะลูก ตอนเย็นเดี่ยวแม่มารับนะ ” อนงค์บอกปลาย
“ ไม่ต้อง...แม่เดี๋ยวหนูนั่งรถกลับเองคืนนี้คงกลับดึก ”
ปลายตะโกนบอกอนงค์ที่นั่งอยู่ในรถด้วยน้ำเสียงรีบร้อน
“ จ้า...ถ้างั้นกลับบ้านดีๆและอย่าดึกมากนะลูกนะ แม่เป็นห่วง ”
ประโยคสุดท้ายที่อนงค์ตะโกนบอกปลายแล้วจึงขับรถไปทำงาน
?????????

๓ เดือนต่อมา
อนงค์ก็เริ่มสงสัยพฤติกรรมของปลายมากขึ้นๆทุกวัน มีอยู่วันหนึ่ง
อนงค์ได้ตัดสินใจลาหยุดงานเพื่อติดตามพฤติกรรมของปลาย
โดยที่อนงค์ทำตัวตามปกติไม่ให้ปลายสงสัย
“ ตั้งใจเรียนนะลูก ตอนเย็นแม่จะมารับนะลูกนะ ”
อนงค์พูดประโยคนี้และทำตัวปกติโดยที่ปลายไม่ทันสงสัย
พอปลายลงจากรถ อนงค์ก็ได้ขับรถไปทำงานตามปกติ
แต่แท้จริงแล้วอนงค์ได้ขับรถวนกลับมาจอดข้างมหาวิทยาลัยของปลาย
อนงค์ได้รอดูปลายซักพัก เวลาผ่านไปไม่ถึง ๕ นาที
ก็มีรถเก๋งสีบอลคันหนึ่งขับมาจอดตรงหน้าที่ปลายยืนอยู่
ปลายได้เปิดประตูและเดินขึ้นไป นั่งคู่กับผู้ชายลักษณะภูมิฐาน
และนั่งคุยกันอย่างสนิทสนม
?????????

“ โถ่...ปลายลูกแม่ไม่น่าทำอย่างนี้เลย ”
อนงค์พูดอยู่ในใจ พร้อมกับน้ำตาไหลออกมาอาบสองแก้ม
“ คงไม่เป็นอย่างที่เราคิดมั้ง...คงไม่ใช่อะ ”
อนงค์พูดออกมาคนเดียวแล้วเอามือปาดน้ำตาจนแห้ง
“ ลองตามไปดูดีกว่า...ลูกอาจจะไม่ได้ทำอะไรเกินเลยก็ได้ ” อนงค์ตั้งสติ
และได้ขับรถตามปลายไประยะหนึ่ง จนถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
ทั้งคู่ได้เดินลงจากรถและได้เดินซื้อของซักพักหนึ่ง
ทั้งคู่ก็พากันเดินเข้าไปในโรงหนังทั้งคู่หายหายไปกันนานสองนาน โดยที่ไม่รู้เลยว่าอนงค์ได้แอบนั่งรอทั้งคู่ออกมาจาโรงหนังนานเท่าไร

“ จะเป็นไงบ้างนะลูกเอ้ย ” อนงค์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน
เวลาได้ผ่านไปซักพัก ปลายก็เดินจับมือกับผู้ชายคนนั้นออกมา
และทั้งคู่ก็ขึ้นรถ ผู้ชายคนนั้นได้ขับรถไปส่งปลายที่มหาวิทยาลัยตามปกติ
อนงค์คอยติดตามดูพฤติกรรมของปลายมาในระยะหนึ่ง
จึงสามารถรวบรวม หลักฐานหลายๆอย่างเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นได้ว่า
ผู้ชายคนนั้นชื่อนาย เหมือนจะดี นามสกุล แต่แสนเลว อายุโตกว่าปลาย
๒ ปี ฐานะทางบ้านดีมากแต่ไม่เรียนหนังสือและไม่ได้ทำงาน
ชอบเรื่องผู้หญิง การพนันไปวันๆ
?????????

“ ปลาย ถ้าจะคบใครก็ดูให้ดีๆนะลูกนะ ”
อนงค์พูดหลังจากจอดรถเสร็จหลังจากที่ไปรับปลายที่มหาวิทยาลัย
“ อะไรอีกละแม่ฮะ...หนูเหนื่อยอยากนอนจะตายอยู่แล้ว ”
ปลายพูดด้วยน้ำเสียงตะหวาดอนงค์ และทำสีหน้าไม่พอใจ
“ แม่รู้นะว่าหนูทำอะไร เพียงแต่แม่ไม่อยากพูด ”
“ มีอะไรก็ถามแม่ได้นะ ไม่ต้องกลัว ” อนงค์พูดกับปลาย
“ อะไรพูดเรื่องอะไร หนูไม่รู้เรื่อง ” ปลายทำสีหน้าตกใจ
และยังไม่ยอมเปิดปากยอมรับ
“ รู้จักกันมานานแล้วเหรอลูก ”
“ ไม่ต้องปิดบังแม่หรอก...แม่ถามว่ารู้จักกันมานานแล้วเหรอ ”
อนงค์พูดด้วยน้ำเสียงเข้าใจปลายและพร้อมที่จะให้คำปรึกษา
“ รู้ไว้ก็ดีและ...หนูก็ขี้เกียจโกหกและ ”
“ ไม่ต้องถามอะไรหนูแล้วนะ หนูง่วงอยากนอน ”
ปลายพูดด้วยกริยาไม่รู้ร้อนรู้หนาว
และปลายก็เดินขึ้นห้องนอนปิดประตูเสียงดังลั่นบ้าน
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นปลายก็เริ่มมีพฤติกรรมแย่ลงทุกวันๆ
อนงค์ต้องข่มใจดูอยู่ห่างๆเพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งอะไรมาก
อนงค์ได้แต่คอยตักเตือนปลายทุกวันๆ
และบอกกับปลายเสมอว่าจะคุยกันหรือคบกันแม่ไม่ห้าม
แต่อย่าออกนอกลู่นอกทางและอย่าไปไว้ใจใครมาก
เพราะเราไม่รู้ว่าใจเขาคิดอะไร
?????????

“ ทำไมปิดโทรศัพท์นะลูก...รู้มั้ยว่าแม่เป็นห่วง ”
“ จะทำอะไรอยู่ หรือเป็นอะไรไปหรือเปล่า ”
อนงค์เดินวนไปวนมาอยู่หน้าบ้าน พร้อมแสดงอาการวิตกกังวล ด้วยความเป็นห่วงปลาย

“ ขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้มครองปลายลูกแม่ด้วยเถอะสาธุ ”
เสียงอนงค์พูดในใจและยกมือไหว้ไปทางศาลพระภูมิหน้าบ้าน
ปกติปลายไม่เคยกลับบ้านดึกมากขนาดนี้ นี่ก็ตี ๑
กว่าแล้วและถ้าโทรไปก็ไม่เคยปิดเครื่อง
อนงค์มีรางสังหลน์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับปลาย
จึงตัดสินใจขับรถออกไปตามหา
อนงค์ได้ขับรถออกตามหาทุกๆที่
ที่ปลายเคยไปกับผู้ชายคนนั้นอยู่ประมาณสองสามชั่วโมง
อนงค์ก็ไม่หยุดตามหา จนกระทั้งอนงค์ขับรถสวนทางกับรถอีกคันหนึ่ง
ด้วยความเร็วพอประมาณ พอที่จะเห็นว่าผู้หญิงที่นั่งรถคันที่สวนไป
คือปลายลูกสาวของตน อนงค์ได้ขับรถกลับและขับตามไปอย่างรวดเร็ว
และขับตามไปจนถึงโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง
“ มาจะที่รัก...พี่จะพาน้องไปขึ้นสวรรค์กับพี่ ๒ คน ” นาย เหมือนจะดี
ได้อุ้มปลายออกจากรถและเข้าห้องไป
“ นอนนิ่งๆนะน้องปลาย พี่จะถอดเสื้อผ้าให้...โฮ้...โฮ้ ” นาย
เหมือนจะดีพูดไปพรางถอดเสื้อผ้าของตัวเองทีละชิ้นและได้เข้าไปอาบน้ำ
อย่างสุขใจ
“ คุณตำรวจคะ...ช่วยมาที่โรงแรมม่านรูดแถว ส.น ด้วยคะ ”
อนงค์ได้โทรไปแจ้งตำรวจและรอตำรวจอยู่หน้าห้องที่ปลายถูกอุ้มเข้าไป
แต่ด้วยความมีสติจึงแอบดูอยู่หน้าห้อง
รอดูว่าผู้ชายคนนั้นจะทำอะไรปลายหรือยัง
ในใจอนงค์ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าจะต้องเข้าไปช่วยปลายออกมาให้ได้
แต่ถ้าเข้าไปคนเดียวก็เสียเปรียบแน่นอน
“ พี่มาแล้วจะน้องปลายที่รัก ” นาย
เหมือนจะดีพูดไปพรางเอามือปลดกระดุมเสื้อของปลายออกทีละเม็ดจนถึง
กระดุมเม็ดสุดท้าย แล้วหอมแก้มปลายทั้ง ๒ ข้าง
และก็กำลังจะลงมือทำเรื่องเลวกับปลาย เขาเอาหน้าไซ้ซอกคอของปลาย
“ หยุดนะไอ้คนเลว...ลุกขึ้นมาจากตัวปลายเดี๋ยวนี้ ”
อนงค์เปิดประตูเข้าไปพร้อมกับตำรวจ ๒ นาย
เข้าไปในห้องทันเหตุการณ์พอดี
“ ปลายลูก...ตื่นเถอะลูก...ปลาย...ปลาย...ปลาย ”
อนงค์ได้เรียกปลุกปลายให้ตื่น
“ เกิดอะไรขึ้นแม่...หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ” ปลายพูดทั้งอาการมึนงงและพร้อมลืมตาขึ้นรางๆมองไปรอบห้อง
“ ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนี้มันกำลังจะ...จะทำมิดีมิร้ายกับลูก ”
“ แต่ไม่เป็นไรแล้วนะลูก แม่มาช่วยหนูแล้วปลอดภัยแล้วนะลูก ”
อนงค์พูดปลอบขวัญปลายพร้อมกับโอบกอดแล้วเอามือลูบหัวปลายเบาๆ
ทั้งคู่นั่งร้องไห้และโอบกอดกันด้วยความในใจที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่
ได้ เพราะมันเกิดจากความรู้สึกของความเป็นแม่ลูก
“ เดินไป อย่าตุกติก ” ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเหมือนจะดีไป
และหลังจากนั้นเขาก็ได้รับโทษตามกฎหมาย
“ ไม่เป็นไรแล้วนะลูก หมดทุกข์หมดโศกซะทีนะ ”
“ แม่ แล้วแม่รู้ได้ไงว่าหนูถูกมอมยานอนหลับ และถูกพาเข้าโรงแรมม่านรูด
และแม่มาช่วยหนูได้ยังไง ” ปลายถามอนงค์ด้วยความสงสัยอย่างมาก
อนงค์ได้เล่าทุกอย่างให้ปลายฟังจนปลายหายสงสัย
แต่อยู่ดีๆปลายก็พูดถามอนงค์ขึ้นมาว่า
“ ทำไมแม่ถึงคิดว่าหนูถูกมอมยาละ แม่ไม่ได้นึกว่าหนูอาจจะนอนหลับหรืออาจจะสมยอมเขาก็ได้ ”
“ ไม่หรอกลูกถึงแม้ลูกจะดื้อกับแม่ไปบ้างแต่แม่ก็เลี้ยงลูกมากับมือ
ทำไมแม่จะไม่รู้ละ...จริงไหม ”
“ ไม่มีแม่คนไหน ที่ไม่รู้จักนิสัยของลูกตัวเองหรอกลูก ”
อนงค์พูดตอบปลายและยิ้มให้ปลายรู้ว่า
แม่ทุกคนรักลูกและพร้อมที่จะให้อภัยลูกเสมอ
ไม่ว่าลูกจะทำอะไรผิดร้ายแรงแค่ไหน
“ ขอบคุณคะแม่...ต่อไปถ้าหนูมีปัญหาอะไรหนูจะบอกแม่ทุกเรื่องเลย ”
หลังจากนั้นมา ปลายก็ปรึกษาอนงค์ทุกเรื่อง และไม่เคยปิดบังอนงค์
ทำให้ทั้งสองคนรักและสนิทกันมาก
และปลายก็ไม่เคยลืมคำที่อนงค์พูดไว้เลยว่า
แม่ทุกคนย่อมรักลูกและพร้อมที่จะให้อภัยลูกเสมอ
โลกใบเก่าเหงาเหมือนเคย
ภาพประจำตัวสมาชิก
บ้านเพียงพอ
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 136
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 20 ก.ค. 2008 8:47 am

ย้อนกลับไปยัง เรื่องสั้น

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 20 ท่าน

cron