โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 09 พ.ย. 2008 7:13 am
Kira :say
ผมกำลังอยู่ในห้องเรียนกับซากุระครับ เธออายุแค่สิบสองแต่เธอก็กระโดดมาเรียนชั้นม.2ซะแล้ว
-_-เก่งบรรลัย
ซึ่งผมก็มีสิทธิ์มาเรียนเหมือนกันเพราะอะไรนะเหรอ ก็ผมเก่งนะสิถามได้-_-
(ผมอายุสิบสามฮับ^_^)
ปีนี้ผมก็สิบสี่ตอนเดือนตุลาคมนี้แหละครับ
“ภาพนี้จะได้เป็นด้านมุมด้าน และภาพที่สองจะเป็นภาพอะไร”อาจารย์คณิตที่สอนอยู่
ที่มีหน้าเป็นอาวุธป้องกันตัวและแถมฆ่าคนได้อีกด้วย คงไม่ต้องอธิบายหน้าอาจารย์นะ
ว่าหน้าตาน่ากลัวแค่ไหน
ระหว่างที่ทุกคนตั้งใจกันเต็มที่แต่....ซากุระ กลับ ฮัมเพลงไปเรื่อยและอ่านหนังสือการ์ตูนใต้โต๊ะขอรับ
-_-ช่างกล้าดีแท้
“ซากุระเธอไม่ได้ฟังที่ฉันสอนรึไง!” อาจารย์สอนคณิตตวาดลั่น
“ฟังอยู่เจ้าค่ะ=O=”เธอพูดแล้วพลิกหนังการ์ตูนหน้าต่อไปเพื่ออ่านต่อ
ใครบอกว่าเธอฟังละ เธอแถบจะหลับในห้องเรียนอยู่แล้วต่างหาก
“ถ้าเธอฟังไหนบอกคำตอบทั้งหมดของแบบฝึกหัดนี้ซิ”รู้สึกว่าอาจารย์จะหมันไส้มากเลย
ให้ซากุระทำแบบฝึกหัดที่พวกเรายังเรียนไม่ถึง
ซวยแล้ว-_-
แต่ซากุระไม่มีท่าทีกลัวแม้แต่น้อย เธอหยิบหนังสือแบบฝึกหัดขึ้นมาแล้วบรรเลง วิทยายุธทันที
“ข้อหนึ่งเป็นด้านมุมด้าน ข้อสอง มุมด้านมุม.........ข้อสิบด้านด้านด้าน ค่ะอาจารย์”
แล้วทุกคนก็อึ้งไปทั้งห้องครับ รวมทั้งอาจารย์หน้าขีประนาวุธด้วย แต่ตอนนี้หน้าอาจารย์
เริ่มเหมือนอะไรซักอย่างที่กำลังเขียวขึ้น
“มีอะไรจะให้เฉลยอีกมั้ยคะ หนูจะได้ยืนรอ-_-”ซากุระทำหน้าท้าทาย
“นั่งลงไป!”อาจารย์ตอบเสียงเขียว ซากุระโค้งคำนับแบบกวนๆแล้วนั่งลงกับที่เหมือนเดิม
ดุท่าทางเธอจะไม่กลัวอะไรซักอย่างเลยนะนั่น
หลังที่ผมกับเธอเรียนด้วยกันหลายวันทำให้ได้คุยและรู้จักมากขึ้นสนิทสนมกัน
เธอรู้สึกเหมือนเด็กมากเวลาอยู่กับผม นาเสะ ซีโร่ ชีบะ และยามาดะ
และมันยิ่งทำให้ผมชอบในตัวเธอมากขึ้น
“ใครมันสูบบุหรี่แถวนี้ฟระ-_-*”เธอบ่นพึมพำขณะที่เดินกับผมผ่านห้องน้ำตึกศิลปะ
แล้วสายตาเรดาร์ของเธอก็จับจ้องไปที่ห้องน้ำชาย แล้วเท้าของเธอก็ค่อยๆย่างก้าวไปตรงห้องน้ำชาย
หะเฮ้ย O_o เธอจะเข้าจริงเหรอนั่น ห้องน้ำชายนี่นะ
สายไปแล้วครับ เธอเดินเข้าไปแล้ว>_<
แล้วเสียงที่ตามมาคือ
“พวกเมิงทำอะไรกาน.........>O<”เสียงซันไม่ผิดแน่ๆ
“เฮ้ย!”แล้วก็เสียงผู้ชายอีกหลายๆคน
“พวกเมิงออกมาที่หน้าห้องน้ำเดี๋ยวนี้ใครหนีพวกเมิงตายทั้งหมด-_-”
ตอนนี้ผมก็ยังงงกับเหตุการณ์อยู่แหละครับ
แล้วผู้ชายที่เดินออกมา ราวสิบคนก็เดินออกมาที่ละคนอย่างหงอยๆ
แล้วทุกคนก็ใส่ชุดนักเรียนประมาณปีสามปีสี่เสียด้วย
แล้วเธอก็ออกมาเป็นคนสุดท้ายพร้อมกับไม้กวาดทางมะพร้าวออกมา
ด้วยแล้วเธอมายืนข้างกระผมขอรับ ตัวเธอสูงชะมัด ประมาณร้อยหกสิบกว่าๆได้มั้ง
“ทุกคนนั่ง”เธอพูดเสียงเข้ม ทุกคนก็ทำตาม ไม่น่าเชื่อว่าคนตัวเล็กอย่างเธอ
เวลาแบบนี้ดูมีอำนาจมากขนาดนี้
“เฮ้อฉันจะทำอย่างไงกับพวกแกดีเนี่ย”เธอพูดแล้วเดินไปมองหน้าคนที่นั่งทุกคน
อย่างเอาเรื่อง
“ส่งห้องปกครองดีมั้ย-_-”
“ไม่นะครับTOT”รู้สึกเสียงจะพร้อมเพรียงกันเปะด้วยความกลัว
“แล้วใครใช้แกมาสูบบุหรี่แถวนี้เล่า เข้าห้องเรียนก็ไม่เข้า ไอ้พวกเวรนี่”เธอพูดใส่ปาวๆ
แถมเหวี่ยงไม้กวาดทางมะพร้าวร่อนผ่านหัวพวกนั้น แบบเฉียดๆ เห็นแล้วเสียวแทน-_-;;
หน้ากลัวแฮะ
“ฉันบอกแล้วว่าให้ไปสูบที่อื่นอย่ามาสูบที่โรงเรียน –O- ถ้าเมิงไปสูบใต้ต้นไม้กรูจะไม่ว่าเลย
โลกจะได้ไม่ค่อยร้อน เพราะต้นไม้ซึมซับ-_-”
น่าน...มีสอน-_-
“ฮานาเบะไอ้นี่นี่ตัวนำ เดี๋ยวแม่ตีพุงแตก”เธอใช่ไม้ชี้ไปที่คนที่ท่าทางจะอ้วนมากที่สุด
และรู้สึกจะกลัวเธอมากี่สุดเพราะสังเกตจากลักษณะตัวของมันสั่นอย่างกับแผ่นดินไหว
ป๊อก! แล้วเธอก็เคาะหัวฮานาเบะหนึ่งที
“ไปได้แล้ว เหม็นขี้หน้า”
“คร้าบ”แล้วมันก็วิ่งหนีไปราวกับพายุ
แล้วเธอก็จบลงด้วยการตีหัวทีละคนแล้วเธอปล่อยตัวไป
“เธอไม่กลัวมันจะมาทำอีกเหรอ”ผมถามเธอ
“ช่างเถอะฝ่ายปกครองเขารู้หมดแหละ เพราะในโรงเรียนมีกล้องทุกตัว”เธอว่าแล้วเดินนำหน้าผมไป
O_Oงั้นห้องน้ำที่ผมเพิ่ง เข้าไปเมื่อเช้าเขาก็รู้หมดนะสิ
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก o>O<o
“เอ๊ะ เดี๋ยวสิ”เธอดึงแขนผมมาชิดกับตัวเธอ เพราะอะไรไม่รู้ มันทำให้ผมเขินขึ้นมากะทันหัน
เธอหยิบอะไรมาไม่รู้แล้วใช้แขนคล้องจากข้างหลังของผมทำให้ผมได้กลิ่นโคโลญอ่อนๆของเธอ
ขณะที่ผมมัวแต่ดมโคโลญจากมือเธอ(แบบแอบๆ) เธอก็ใส่อะไรบางอย่างที่คอผม
มันเป็นสร้อยที่คล้องแหวนสองวง เป็นลายที่แปลกมากจนผมผมคิดว่าเป็นลายโบราณแต่ก็ดูมีสมัยเหมือนกัน
“นี่สร้อย ^^ ฉันให้พวกนายที่ละคนจนเหลือนายแล้วล่ะ”เธอว่า
ให้ตาย ผมเพิ่งเห็นเธอยิ้มก็วันนี้แหละ เธอยิ้มสวยกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก
ยิ้มที่สดใส.......จน........
ผมไม่อยากเผื่อแผ่ให้ใครเลยละ
“แค่นี่พวกนายก็เป็นเพื่อนฉันเต็มตัวแล้วนะ”พอเธอพูดเสร็จเราก็เดินกลับบ้านด้วยกัน
โดยมีผมเธอนาเสะ ชีบะ ยามาดะ ซีโร่ และรุ่นพี่โซระ
“เอ่อ ซันถามอะไรหน่อยได้มั้ยนะ”นาเสะพูดชื่อเล่นของซากุระได้อย่างสนิทสนม
เพราะเธอเป็นคนบอกพวกเราอย่างนี้ ดูไปชื่อเธอเหมือนผู้ชายเลยแฮะ-_-
“ว่า”
“ถ้าเรามีแฟนจะต้องทำอย่างไง”นาเสะว่า
“นอนกับแฟน-_-”
“O_Oเฮือก”นี่คือสีหน้าของเราเหล่าผู้ชายที่เดินรอบตัวเธอรวมถึงรุ่นพี่โซระด้วย
คำตอบสั้น ได้ใจความมาก คุณเธอ-_-
“มะไม่ใช่หมายถึงเธอจะตัดสิทธิ์ออกจากกลุ่มรึเปล่า”
“ไม่หรอกแต่ต้องขอให้เรารู้หน่อยว่าใครเป็นแฟนพวกนาย เพื่อง่ายต่อการสอบสวนเรื่องแต่ละเรื่อง
เพียงแค่นายให้แหวนที่คู่กันนั้นให้เอาแหวน หนึ่งวงมาให้แฟนพวกนายใส่ซะจะได้รู้ว่าใครเป็นสัตว์เลี้ยงใคร-_-”
ดูเธอพูด ทำอย่างกับแฟนเป็นหมา-*-
“ง่ะ-_-งั้นเธอก็ต้องให้แหวนกับแฟนเหมือนกันนะสิ”นาเสะว่า
“จำไว้มันเป็นสัญลักษณ์ประจำกลุ่มถ้ามีแฟนอยู่กลุ่มเดียวกัน ก็แลกแหวนกันคนละวง
ถ้าจะเลิกกันก็เอาแหวนคืน หวังว่าพวกนายคงจะไม่เป็นแฟนกันเองหรอกนะ-_-”
-_-ดูความคิดเธอ อยากโดดลงจากเก้าอี้นักเรียนเหลือเกิน-*-พวกผมแมนทั้งแท่งนะ
“ปากดีนะเธอ นี่เดี๋ยวปั๊ด -_-^จับจูบ”ซีโร่พูดแล้วกอดคอซันที่หัวเราะร่า
“แล้วหลังจากนั้นฉันก็จะทำนายเป็นอาหารเย็นคอยดูสิ-_-”แต่การตอบของเธอน้ำเสียงมันน่ากลัวแฮะ
“เฮือกO_O”หน้าของซีโร่
“งั้นเธอก็ให้แหวนกับผู้ชายไว้เยอะแล้วละสิ”นาเสะพูด
“ไม่หรอก.........”คำพูดของเธอทำให้เราทั้งสี่หยุดนิ่ง
“ทำไมล่ะ”ทุกคนแทบจะหยุดเดินและถามพร้อมกัน
“ก็เพราะซันไม่เคยมีความรักอย่างนั้นนะสิ”พี่โซระเดินมาโอบไหล่น้องสาวแล้วพาเดินต่อ
“และพวกนั้นรู้ดีว่าใครทำน้องสาวฉันเสียใจมันคิดผิดแล้วละ”พี่โซระพูดเหมือนเป็นเรื่องตลก
แต่บรรยากาศมันช่างตรงข้ามกับความเป็นจริง
1ปีผ่านไป
“ตรงนี้มันต้องได้สอง นายทำผิดตั้งแต่ต้นแล้วนะ เอ นายเป็นพี่ฉันนะแค่นี้ทำไมยังไม่รู้เรื่องละคิระ”
เธอทำหน้ามุ่ยขณะที่เธอกำลังสอนการบ้านให้ผมที่ห้องทำงานละครับ
ผมแทบจะไม่รู้เรื่องเสียด้วยซ้ำ ทำไมนะเหรอก็ผมมัวแต่มองหน้าเธอจนไม่ได้ฟังเลยนะสิ^^
ตอนนี้ผมย้ายมาอยู่ที่บ้านแล้วละครับแต่ผมอยากเห็นเธอทั้งวันเลยอ้อนพ่อของเธอให้มาสอนพิเศษซะเลย
ได้อยู่กับเธออย่างนี้มีความสุขจัง
“นายทำไม่อีกครั้งทั้งหมด -_- ถ้าผิดแม้แต่ข้อเดียว ก็ทำใหม่”
“อ่า.....” ทำไมโหดจังฟระT_T
“เร็ว เดือนหน้าก็จะสอบปลายภาคมอต้นแล้วตั้งใจหน่อยสิ-_-”เธอหยิบสตรอเบอร์รี่ขึ้นมากิน
นี่กะกินยั่วผมนี่นา-_- หิวด้วย
“ซากุระจ๋า+_+”
“อะไรคิระ-_-”
“*_*อยากกินสตรอเบอร์รี่อะ”
“ทำให้ถูกหมดเสียก่อนแล้วจะให้กิน-_-แล้วแถมของขวัญอีกด้วย”
“จริงนะ@_@”
“เร็ว-_-”
“คร้าบ^^V”
ผมเริ่มต้นทำด้วยความตั้งใจ ทันที
สิบนาทีผ่านไป
โอ้ยทำไมมันยากอย่างนี้นะ สมองผมจะระเบิดอยู่แล้วนะเนี่ย-_-
ยี่สิบนาที
อ้ากกกกกกกกกกก ยากโว้ย>O< แถมโดนซันเขกหัวโทษฐานแอบอู้อีกต่างหากTOT
สามสิบนาที
ทำไมยิ่งคิดยิ่งงงฟระ สมองผมนี่มันสับปะรดเน่าจริงๆ -*-
สี่สิบนาที
แล้วผมก็เสร็จ อ้ากกกกกกกกมั่วแหลก>_<
“เสร็จแล้วไหนเอามาดูซิ”เธอว่าแล้วหยิบสมุดขึ้นมาดูแล้วเธอก็ทำหน้านิ่งไปเลย
จนผมกลัว.....กลัวจะผิดเลยอะT_T
“เป็นไงบ้าง”ผมถามเธอเมื่อเธอวางสมุดลง
“ก็ดี ถูกหมด”เธอหยิบสตรอเบอร์รี่ใส่ปากแล้วพูด
จริงดิO_O
“งั้นขอของขวัญนะ”
“บอกมาสิเดี๋ยวหาให้”เธอว่า
“เหรอ...”ผมพูดแล้วหยิบสตรอเบอร์รี่ขึ้นมากิน
“อืม”เธอพยักหน้า
“งั้นเธอไม่ต้องหาหรอกมันอยู่ที่ตัวเธอแล้วละ”
ผมพูดแล้วบรรจงริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล หัวใจผมเต้นโครมครามดังกึกก้องเต็มหัวไปหมด
ผมกอดเธอจนแน่น แน่นจนจนผมได้ยินเสียงหัวใจเต้น...... ของเธอ เธอก็ใจเต้นเหมือนกับผมเลย
แล้วเวลาผ่านไปหลายนาทีจนผมละจากริมฝีปากเธอไป
“นายทำอะไรของนาย-*-”
“ของขวัญไง”
“รู้มั้ยนาย......”เมื่อฟังจากน้ำเสียงที่จริงจังของเธอทำให้ผมต้องเหลียวมอง
“นั่นมันจูบแรกในชีวิต และจูบแรกของฉันกับนาย”
“งั้นเธอเป็นแฟนกับฉันได้มั้ย”ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมไปกระซิบที่ข้างหูเธอ
แล้วผมก็ได้คำตอบของเธอในวันนั้น
แล้วผมกับเธอก็ได้เป็นแฟนกันผมทะนุถนอมเธอยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก
ทำไมไม่รู้ผมถึงรักเธอมากขนาดนี้ เพราะเธอคงเป็นคนเดียวในชีวิตของผมแล้วละมั้ง
ตอนนี้เราก็คบกันได้สองปีมาแล้ว แล้วตอนนี้ผมอายุสิบเจ็ดแล้วละ
พ่อของผมเริ่มให้ผมดูแลกิจการที่ร้านบาร์ในย่านของโรงเรียนฟุโรคินเพื่อฝึกงาน
“จ๋าจ๊ะ ตอนนี้ฉันอยู่ในห้างข้างโรงเรียนนะ จ๋า จ๊ะ”
และผมก็ต้องปิดเรื่องนี้ไว้เงียบๆเธอเพราะผมกลัวเธอเกลียดผมนะสิ
แล้วตอนนี้เราก็เปิดร้านแล้วมีวัยรุ่นเข้ามามาก ทำให้ผมต้องมาดูแลร้าน
อย่างเงียบโดยมานั่งจิบเบียร์ดูร้านอยู่เงียบๆ
“ท่านคิระครับเอ่อผู้หญิงโต๊ะนั้นเธอส่งจดหมายมาให้ครับ”
บ๋อยที่อายุแก่กว่าผมพูดแล้วส่งจดหมายมาให้ผม ผมก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันนะ
ที่เขาเรียกผมแบบนั้นแต่มันช่วยไม่ได้นี่
“ขอบคุณครับ”ผมขอบคุณเขาแล้วผมให้เขาไปทำงานตามสบาย ผมจึงเปิดการ์ดขึ้นมาอ่าน
ก็แค่การ์ดยั่วผู้ชาย ‘ชวนไปนั่งที่โต๊ะ’เรื่องอะไรที่เขาต้องไปตามเอเธอต่างหากที่ต้องตามผม
ผมมองไปที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามที่ออกไปสองสามโต๊ะ ผมได้แต่ยิ้มแล้วยกแก้วเบียร์ทักทาย
รู้สึกผู้หญิงคนนั้จะมากับเพื่อนสินะ จัดได้ว่าน่ารักทีเดียว แต่สู้ซากุระของผมไม่ได้หรอก
ผู้หญิงคนนั้นมองมาทางผม ผมก็มองเอกลับแล้วไม่นานเธอก็เดินมาที่โต๊ะของผม
“ขอนั่งด้วยได้มั้ย”
“ได้สิ”
ผู้หญิง ที่เสนอตัวให้ผมแบบนี้มีเยอะไป ถึงพวกเธอจะเคยยุ่งกับผม
แต่ผมไม่เคยเอาพวกเธอมาเก็บในสมองซักครั้ง
“เธอมีแฟนรึยัง”
“แล้วเธอคิดว่ามีมั้ยละ”
“มีสินายออกจะดูดี”
ท่าเพิ่มคามว่าหล่อจะ ยินดีเป็นอันมาก-.,-
ผมยิ้มให้เธอ หน้าที่แสนจะดื้อรั้นของเธอ ทำให้ผมนึกขำ ไม่มีใครเหมือนเธอเลยซักคนเลย
แล้วเราก็จบลงด้วยการมีอะไรกัน
วันรุ่งขึ้นผมก็มาดูแลร้านเหมือนอย่างเก่าแต่วันนี้ผู้หญิงคนนั้นก็มาอีกครั้ง
“คิดถึงคุณจัง”อยู่เธอก็มากอดแขนผมแล้วก็จูบปาก รสชาติของเธอ
มันจืดชืดจริงๆ--_
--
“วันนี้ต่ออีกมั้ย”เธอพูดออกมาแล้วคลอเคลียกับผม เหมือนแมวชะมัด
“ต่อที่โรงฆ่ามั้ยล่ะฉันแนะนำ”เสียงคุ้นๆมันทำให้ผมต้องหันไปมอง
“ซัน!” ผมร้องออกมาเมื่อเห็นร่างสูงระหง สีหน้าบูดบึ้งตลอดเวลาแต่เธอก็ยังสวย
“แปลกใจมากนักหรือไงจ๊ะคิระจ๋า-_-”ถึงคำพูดจะไม่หน้ากลัวแต่สีหน้าเธอตอนนี้หน้ากลัวมากกว่า
---___________---^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
กกกกกกกกกกกกกกก หน้าเธอนิ่งสงบสยบทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวจริงๆTOT
“ไม่ยักรู้ว่านายจะมีคู่นอนกะเขาด้วย เมนูนี้น่าสนใจนะเดี๋ยวฉันลองเอาไปใช้บ้าง-_-”
เธอพูดประมาณว่า
ถ้าลุกหนีมึงตาย!
“นังนี่มันใครค่ะ”ผู้หญิงที่นั่งข้างผมพูดอย่างถือดี แต่คุณเธอไม่รู้อะไรเสียบ้างเลยเธอกำลังคุยกับปีศาจชัดๆ
“นังคู่นอนของนายนี่ปากกล้าจริงนะ”เธอพูดยิ้มๆ แต่สำหรับผมในตอนนี้มันเหมือนยิ้มพิฆาตตายไม่เป็นศพแน่ๆ-*-
“ใครบอกเธอว่าซินดี้เป็นคู่นอนของคิระ ซินดี้เป็นแฟนของคิระ”
ผมเพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่าผู้หญิงก็โมเมเก่งเหมือนกัน แต่เอ๊ะเธอชื่อซินดี้เหรอ
(โธ่ นอนกับเขาทั้งคืนดันไม่รู้ชื่อเขาซะงั้น)
“ถ้าเธอเป็นแฟนของคิระฉันก็เป็นคู่หมั้นของคิระแล้วนะสิ”เธอพูดเหมือนจะเบื่อๆแล้วนั่งข้างผม
“อะไรนะ ไหนว่าคิระบอกว่าไม่มีแฟนไงคะ”เธอเริ่มสาวเรื่องมาถึงผมแล้วไงละ
“ใครบอกว่าคุณว่าผมไม่มีแฟน คุณคิดไปเองมากกว่า”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด”
“จะกรี๊ดหาไส้เดือนอะไรยะ!”ซันตวาดใส่ยัยซินดี้
“แก...เรื่องมันไม่จบแค่นี้หรอกอยู่ดีๆแกจะมาเอาคนของฉันไปได้ไง”
ซินดี้รู้สึกจะเสียงเหมือนนกหวีดเลยนะขี้หูผมจะเป็นไส้เดือนเต้นแทงโก้อยู่แล้ว-*-
“นายเมคยาใส่ยัยลิ้นปี่นี่รึเปล่าคิระคุง-*-ดูแปลกๆนะ”(เขาชื่อซินดี้:ผู้แต่ง)
“อีร่าน เที่ยวจับผู้ชายไปทั่ว อย่ามายุ่งกับผัวของฉัน”
เอาแล้วไงละครับยัยซินดี้หาว่าผมเป็นสามีเฉยเลย ทั้งๆที่ผมเพิ่งหมั้นกับซันเมื่อสองเดือนก่อนนี่นะ
ซ่า!
ซันสาดน้ำใส่ยัยซินดี้จนเปียกปอนเต็มไปหมด
รู้สึกว่าซันจะรู้สึกตงิดมานิดๆแล้ว ดีนะที่เธอแค่สาดน้ำ เพราะถ้าเป็นผู้ชายเธอคงเอาแก้วลอยไปด้วยแน่ๆ-*-
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
“กรี๊ดทำแรดอะไร- -”ซันพูดแล้วโยนแก้วน้ำพันช์มาที่ตักผมแล้วเท้าสะเอวท้าทายยัยสินเชื่อ
เอ๊ยเธอชื่ออะไรหว่า-_-a (กรรมจำไม่ได้ทั้งคู่)
“แกกับฉันต้องเจอดีแน่”
“มาที่บ้านฉันได้เดี๋ยวฉันจะรอ ย่านฟุโรคิน แล้วบอกว่าจะพบคนชื่อซันเพราะที่นั่นมีบ้านฉันบ้านเดียว”
ก็แหงสินั่นมันย่านแก๊งของเธอนี่-*-
“แกได้เจอดีแน่”ซินดี้พูดทิ้งท้ายแล้วเดินออกไป
“เดี๋ยวเธอก็ได้เจอตีนฉันเหมือนกัน-_-”
ซันพูดทิ้งท้าย
คราวนี้ซันเปลี่ยนจุดมาที่ผมแล้วละครับ
บรึ๋ย-_-;
“ถ้านายทำแบบนี้อีกนายเตรียมตัวยกเลิกเป็นคู่หมั้นกับฉันได้เลย”เธอพูดแล้วไม่มองหน้าผมอีก
“ซันฉันก็แค่เล่นๆนะเธออย่าโกรธฉันเลยนะ”ผมเข้าไปโอบกอดเธอแต่เธอก็แกะมือผมออก
“ถ้ายัยซินดี้อะไรนั่นทำครอบครัวฉันไปอะไรไปนายอย่าได้มายุ่งกับฉันเชียว”เธอพูดอย่างเคร่งเครียด
“ถ้านายปล่อยผู้หญิงของนายมายุ่งกับครอบครัวของฉันนายอย่าได้คุยกับฉันอีกต่อไป”
สองวันผ่านไปเสียงโทรศัพท์ก็ปลุกผมแต่เช้าผมรับโทรศัพท์อย่างช้าๆ
“ฮัลโหล”
“นี่คิระมาที่บ้านฟุโรคินเดี๋ยวนี้ซันมันจะฆ่าคนแล้ว”เสียงของพี่โซระดูเหมือนจะร้อนใจมากมันทำให้ผมตกใจ
จนกระเด้งตัวออกมาไม่ต้องคิดชีวิตเลยทีเดียว
“แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นลูกของใคร ฮะนี่แม่เหรอ สวยดีนี่แต่แม่แกจะต้องเสียดโฉมแน่ๆ”
“ทำไมเรื่องแค่นี้ทำเหมือนคนที่ขาดผู้ชายไม่ได้เสียจริง-*-”
ซันกำลังพูดเมื่อพูดคุยกันธรรมดา กับซินดี้ที่วันนี้บุกมากับพวกผู้หญิงอีกหลายคนถึงบ้านฟุโรคิน
“อย่ามาโย้เย้ถ้าเธอยอมกราบเท้าฉันแล้วยกคิระมาให้ฉันฉันจะปล่อยแม่แก”
“แก๊งกรรไกรเขาใช้วิธีนี้แย่งผู้ชายกันเหรอเนี่ยช่างน่าสมเพช”
แก๊งกรรไกร นั่นมันแก๊งของโรงเรียนตรงข้ามของโรงเรียนเราและเป็นคู่อริกับซันนี่
“เหรอ”
“แต่บ้านแกใหญ่ดีนะแสดงโกงคนอื่นเยอะละสิ”
“อย่ามาว่าครอบครัวฉัน และอย่าทำฉันโมโห”
“หรือมันไม่จริง”
“ก็ไม่ใช่นะเซ่!” อยุ่ดีเธอก็ใช่ความเร็วในการกระโดดเตะมีดทำให้ท่านญารินพ้นจากคมมีดออก
แต่ในขณะนั้นเธอก็เตะหน้ายัยซินดี้ด้วย
“แกต้องการอะไร”
“ต้องการเห็นแก๊งในโรงเรียนของแกเป็นทาสโรงเรียนฉันนะสิ”
“ฝัน”ซันพูดแล้วหันหลังเดินเข้าไปในห้อง
ปัง!
“ซันระวัง”นั่นคือเสียงของแม่ซัน
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด”เสียงนั่นต้องทำให้เธอหันไปมอง
แม่ของซากุระตาเบิกโพลง ร่างกายค้างเติ่งในอากาศท่ามกลางเสียงร้องกรี๊ดจากพวกแก๊งกรรไกร
เลือดไหลรินที่หน้าอกด้านซ้ายอย่างเหมาะเจาะ และมมันจะปลิดชิวิตเธอเพียงไม่กี่วินาทีนี้แล้ว
ซันรีบไปรับแม่ของเธอที่ทรุดตัวลงมา
“แม่ขอโทษ…ที่บังคับ…”คำพูดที่แผ่วเบาเหมือนอากาศรอบตัวไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป ผ่านไม่ถึงวิ
ร่างของเธอก็แน่นิ่งเหมือนละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง
“แม่!”ถึงเสียงของซันจะดังมากเท่าไหร่ เธอก็ไม่สามารถเรียกชีวิตแม่ของเธอกลับสู่ร่างได้
“หึๆๆ”เสียงหัวเราะอันหน้ากลัวของเธอทำให้ทุกคนในแก๊งกรรไกรต้องชะงัก
“ล้อมมันไว้ค่ะ”เธอพูดเบาราวกับเสกคาถา
พรึบเดียวบอดี้การ์ดหลายสิบคนเล็งไซเฟิลมาที่แก๊งกรรไกรจนหมด
“ไม่นึกนะว่าเธอจะใช้ปืน ทำไมไม่บอกละฉันจะได้เล่นด้วย”ซันพูดแววตาเหมือนคนไม่มีชีวิต
ไม่ใช่สิ ไม่ใช่คนมากกว่า
“กะ แกเป็นยากูซ่างั้น ระ หรอ”ซินดี้ที่ถือปืนสั่นงกๆถามอย่างกลัวๆ
“ใช่แล้ว แกฆ่าภรรยาหัวหน้าแก๊งนี่รู้มั้ยมันจะมีโทษแค่ไหน”
ซันดึงไม้จากโต๊ะขึ้นมาแล้วยืดยาวออกเป็นไม้กระบองสีดำ
ไม่ทันได้พูดซันเหวี่ยงไม้ไปโดนที่ท้องของซินดี้จนจุกแล้วจัดการกับทุกคนทีละคน
ไม่นานก็มีผู้หญิงนอนหมอบใต้แทบเท้ากันเป็นสิบ เธอเดินมาที่ซินดี้แล้วจิกหัวขึ้นมา
“แกมันสำคัญตัวผิดไป แต่แกก็ไปเคลียร์กับคิระให้จบก็แล้วกัน เพราะฉันจะไม่ยุ่งกับตานั่นเป็นอันขาด
สืบเนื่องก็เพราะเธอ! เธอทำแม่ฉันตาย ”ซันตะคอกใส่ซินดี้ที่ไหว้มือของโอกาส
แต่ซันไม่ฟังใครอีกแล้ว ซันลากเธอไปที่กำแพง ดึงหัวซินดี้ให้ไปชนกับกำแพงอย่างแรง
ปั่ก
“เป็นไงรู้สึกเข้ากะโหลกของแกบ้างมั้ย!”พูดเสียงเย็นเยียบเหมือนคนบ้าของซันนั้นมันทำซินดี้กลัวจับใจ
ปั่ก
“รสชาติของความตายของแกยังไม่มาถึงหรอก แกต้องมาทดแทนชีวิตแม่ของฉัน”
ซันพูดเบาๆที่หูของซินดี้ที่ร้องไห้อย่างเจ็บปวดที่หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน
ปั่ก ปั่ก!
เลือดไหลติดกำแพงเหมือนกับหน้าและเสียงร้องระงมของซินดี้ไม่สามารถกระทบจิตใจของซันได้เลย
ถึงเสียงจะเจ็บปวดรวดร้าวมากเพียงใดแต่มันก็สู้ความรู้สึกของซันตอนนี้ไปไม่ได้เลย เมื่อเทียบกันแล้ว
เพี๊ยะ!
“พอแล้วซัน พอแล้ว เลิกบ้าเสียทีนี่เธอกลังจะฆ่าคนอยู่แล้วนะ!”คิระที่เพิ่งมาถึงก็ดึงตัวซันไว้แต่ซันก็สะบัดตัวออก
“ไปไกลๆจากฉัน!”เธอพูดแล้วเดินไปนั่งอยู่ใกล้ๆแม่ของเธอ
“แม่จ๋าแม่ตื่นขึ้นมาสิ แม่ไม่ได้โดนยิงซะหน่อย แม่ใครทำแม่เลือดออกนะ คนนั้นใช่มั้ย
หนูอาเลือดมันมาแล้วนะแม่ แต่มันไม่ตายอะแม่ แต่ทำไมแม่ต้องไปด้วยละ แม่กลับมาลูบหัวหนูสิ แม่
แม่กลับมาสิ แม่!”
ซันใคร่ครวญน้ำตาคลอแล้วโยนข้าวของใส่พวกแก๊งกรรไกรอย่างบ้าคลั่ง
“แม่! ถ้าแม่ไม่ตื่นหนูจะไม่แต่งงานนะ หนูจะยกเลิกหมั้น สัญญาเป็นอันว่าขาดนะแม่
หนูจะหนีออกจากบ้าน แม่ ตื่นสิ!”
ถึงเสียงจะสั่นแต่เธอก็ไม่เล็ดลอดน้ำตาออกมาแม้แต่น้อยเธอกอดแม่ของเธอไว้อย่างนั้น
“มาสิแม่ตื่นขึ้นมา แม่ถ้าแม่ไม่ตื่นหนูไม่ทำตามสัญญานะ หนูทำจริงนะแม่”
ร่างอันไร้วิญญาณ นอนอย่างเงียบสงบและไม่มีสิ่งตอบรับใดๆจากท่านญาริน
ท่ามกลางเสียงร้องระงมของแก๊งกรรไกร
แต่แล้วโซระพี่ชายของเธอก็วิ่งเข้ามาแต่เมื่อเห็นสภาพของแม่ตัวเองถึงกับนิ่งแล้วเดินมาหาแม่ของเขาทันที
“แม่เราเป็นอะไรซัน แม่”โซระพูดเหมือนคนใจลอย น้ำตาลูกผู้ชายรินไหลออกมาเป็นสายเมื่อเห็นร่างอันแน่นิ่ง
ของผู้เป็นมารดา
“แม่ของเราตายแล้วพี่โซระ ลูกของแก๊งกรรไกรมันยิงแม่ของเรา”น้ำเสียงนิ่งสงบของซัน
มันทำให้ความโกรธของโซระครุกกรุ่นดั่งเพลิงเผาผลาญ
“มันเป็นใคร!”เสียงดังของโซระทำให้ผู้หญิงของพวกแก๊งกรรไกรยิ่งร้องไห้หนักของไปอีก
ซันค่อยๆเดินไปที่ซินดี้ที่นอนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด จากบาดแผลตามร่างกายที่บอบช้ำ
“โอ๊ย ฮึก ฮือซากุระ”
“ไม่ต้องบอก ฉันรู้ชื่อตัวเองดีว่าฉันเป็นใคร ก็ดีกว่าคนที่ไม่เจียมแล้ว ทำตัวก่อเรื่อง”
ซันพูดที่ข้างหูของซินดี้นั้นเยียบเย็บจับใจ
“พ่อ....”แต่เสียงก็แข็งกระด้างอย่างพยาบาทเมื่อคิดว่าพ่อจะช่วยเธอได้
“อ๋อจะให้พ่อมาเคลียร์ ไม่ต้องกลัวฉันเรียกแน่ แกโทรหาพ่อแกเลยมั้ย โทรสิ แล้วฉันจะคุยให้”
ตรงกันข้ามเธอไม่กลัวเลยซักนิด คำพูดที่เหมือนปีศาจของเธอทำให้ซินดี้ที่ยืนสั่นอยู่ต้องรีบติดต่อทันที
“ฮัลโหล.........ฉันเป็นใครนะเหรอ ฉันซากุระ ฟุโรคิน แกน่าจะรู้ว่าฉันเป็นใคร
และแกคงไม่อยากยุ่งกับฉันใช่ม้า แต่ความสงบสุขของแกมันคงไม่มีอีกแล้วละ
ลูกแก อยู่ในโรงเรียนตรงข้ามกับโรงเรียนฉันใช่มั้ย ลูกแกตั้งแก๊งเหมือนแก๊งพ่อมันด้วยแหละ
น่าสมเพช ตอนนี้ลูกแกจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ในบ้านของฉันแล้ว รีบมานะหัวหน้าแก๊งกรรไกร หึ”
แล้วซันก็เขวี้ยงโทรศัพท์ของซินดี้ใส่คนที่พยายามจะหนีออกไปจากบ้านฟุโรคินอย่างแรง
“ไม่ดี ไม่ดีทิ้งเพื่อนของเธอกันได้อย่างไรเนี่ย ซิดี้เหงาแย่”ซันพูดหัวเราะเหมือนคนบ้า
แล้วเธอก็ลากซินดี้มาที่โซระและร่างอันแน่นิ่งที่นอนอยู่บนพื้น
ปั่ก
ซันเหวี่ยงหัวซินดี้กระทบกับพื้นกระเบื้องอย่างแรงและพอดีที่เท้าแม่ของเธอก็อยู่ตรงนั้น
“นี่แม่ฉัน แกจำไว้ด้วยเนี่ยแหละภรรยาหัวหน้าแก๊งฟุโรคินที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น หึ รู้ไหม
แกทำอะไรลงไป ฉันฟันหัวแกออกมาอยู่กับแม่ของฉันดีมั้ย ฉันจะได้ขวักมันสมองของแกออกมา
ว่าแกคิดบ้างรึเปล่าว่าการใช้ปืนมันรุนแรงแค่ไหน”
พลั่ก!
แล้วเธอก็เตะเสยข้างซินดี้ที่ร้องไห้อย่างดังจนมันสลบไป
“รำคาญ ร้องอยู่ได้-_-พี่แจซุคะไปเรียกรถพยาบาลแล้วกักตัวยัยพวกนี้ไว้ด้วยโดยเฉพาะยัยสิ้นคิด
พ่อฉันจะมาพรุ่งนี้พร้อมกับพ่อของมัน แล้วคิดบัญชีทีเดียว ใครยึกยักซ้อมให้สลบแล้วหมายหัว
รุมโทรมได้เลย”ซันพูดแล้วเธอผ่านคิระไปเหมือนกับเขาที่ไม่มีตัวตน
“ซัน”คิระพยายามดึงตัวซันไว้
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้