หน้า 1 จากทั้งหมด 4

เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: อังคาร 15 ก.ค. 2008 2:08 pm
โดย วิรัตต์ยา
อิอิ เคยตั้งที่บอร์ดอื่นมาแล้วค่ะ แล้วก็พบว่าสนุกพอใช้ได้นะ แต่ละคนปล่อยจินตนาการ ปล่อยฝีมือเต็มที่

ไม่แน่นะ ถ้าหากว่ารอบนี้เรื่องเข้าที ดิฉันจะทำเป็นหนังสือทำมือแจกทุกคนไว้เป็นที่ระทึกก็ได้ ดีมั้ยคะ...ดีใช่มั้ย

จะต่อคนละประโยคหรือคนละ 1ย่อหน้าก็ได้ ตามแต่ถนัดและเห็นว่าเหมาะสมนะคะ

งั้นเริ่มกันเลยค่ะ ดิฉันขอเป็นคนตัดริบบิ้นก็แล้วกันค่ะ :lol: :lol: :lol: (จะมีคนมาร่วมด้วยมั้ยเนี่ย :roll: :roll: )


+ + + + + + + + + +



บนหาดทรายเนื้อละมุนของชายทะเลที่กำลังส่งคลื่นใหญ่น้อยซัดสาดเข้าหาฝั่งคลื่นแล้วคลื่นเล่า...




ใครก็ได้มาต่อที เร้ว)))

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: อังคาร 15 ก.ค. 2008 2:15 pm
โดย dara
คลื่นแรกนั้นเป็นสี ฟ้า คลื่นที่สองแปลกมาก ๆ เป็นสี ส้ม[/color] ผู้คนต่างมาจากทุกมุมโลกเพื่อมาชมคลื่นสีประหลาดที่หาดมหัศจรรย์ :lol:

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: อังคาร 15 ก.ค. 2008 3:59 pm
โดย น้ำฟ้า
ขอเวลาคิดนิดนึงคะพี่ อิอิ ตอนนี้สมองบวม เพิ่งเคลียร์งานราษฎร์งานหลวงเสร็จ พี่ฝนคะ ต่อให้สองยก อิอิ
พี่ดาราพาเป็นคลื่นมหัศจรรย์ซะงั้น 555+ ไปไม่เป็นเลย

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: อังคาร 15 ก.ค. 2008 4:20 pm
โดย น้ำฟ้า
แดดยามบ่ายสาดแสงกระทบเกลียวคลื่นดูระยิบระยับราวกับดาวนับพันดวง โลกนี้มีสิ่งมหัศจรรย์ซ่อนอยู่เสมอ เหมือนดังหาดลึกลับที่เพิ่งถูกค้นพบ หากไม่มีหนุ่มชาวเลผู้รักการค้นหาผู้นั้น หาดแห่งนี้อาจจะดับสูญไปพร้อมๆกับการอวสานของโลกในอีกหลายล้านปี

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: อังคาร 15 ก.ค. 2008 11:55 pm
โดย Gorakot
หนุ่มชาวเลคนผมยาวที่ครั้งหนึ่งฉันเคยเห็นเขานั่งมองดวงอาทิตย์ตกอยู่บนสะพานไม้ที่ทอดยาวออกสู่ทะเลกว้าง และร้องเพลงเศร้าๆที่บรรยายถึงการพรัดพรากจากคนรัก ความโดดเดี่ยวสิ้นหวังที่กำลังเผชิญ จนฉันอดที่จะหยุดฟังเพลงที่เขากำลังร้องท่ามกลางเสียงลมเสียงคลื่นที่เป็นเหมือนเสียงดนตรีประกอบ :mrgreen:

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: พุธ 16 ก.ค. 2008 5:04 am
โดย วิรัตต์ยา
คนบางคนกรุณาแต่งให้มันเป็นเรื่องเป็นราวด้วยนะคะ 55555555 อย่าพาออกทะเลไปไกลมาก แค่ริมๆ ชายหาดก็พอ

มาต่อจากคุณ Gorakot ค่ะ :D



ดูเหมือนกระแสจิตฉันจะแรงพอสมควร คนที่นั่งหันหน้าออกทะเลและหันหลังให้ผู้คน จู่ๆ ก็หันขวับมามองฉัน เราสบตากันนิ่งอยู่ครู่...เขานิ่งไปเพราะอะไรฉันก็ไม่อาจรู้ แต่สำหรับตัวฉันเอง ฉันบอกได้ไม่อายปากเลยว่า ฉันหลงรักดวงตาคู่นั้นเสียแล้ว ดวงตาคมกล้าทว่าเศร้าลึกล้ำ ขณะเดียวกันก็มีความเอาจริงเอาจังฉาบทาอยู่ด้วย

และตอนที่ฉันหันหลังเดินจากมา บทเพลงจากเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง หากแต่คราวนี้ ฉันแน่ใจว่า ทั้งเนื้อเพลงและท่วงทำนองต่างออกไปจากเดิมที่เคยได้ยินนะ...

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: พุธ 16 ก.ค. 2008 6:47 am
โดย น้ำฟ้า
แปลกนะ..ทำไมฉันถึงรู้สึกผูกพันกับเขา ชายแปลกหน้าที่เพิ่งพบเจอครั้งแรกในวันนี้ อาจจะเป็นแววตาเปล่งประกายคู่นั้น หรือว่าเพราะเรามีบางสิ่งบางอย่างคล้ายๆกัน
ฉันก้าวจากการเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากรั้วมหาวิทยาลัยที่ใครๆก็ใฝ่ฝัน สู่หน้าที่การงานระดับสูงควบคู่ไปกับการเรียนต่อ จน ณ วันนี้ ฉันมีทุกอย่างที่ใครๆอิจฉา คงไม่ต้องแปลกใจว่า ผู้หญิงอย่างฉันจะมีความมั่นใจในตัวเองขนาดไหน ไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะต้องมาพลาดพลั้งสูญเสียชายที่เคยรักสุดหัวใจ ให้แก่หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรสู้ฉันได้เลย แต่สิ่งหนึ่งที่ออกมาจากปากของเขา นั่นก็คือ " ฉันไม่มีเวลาให้ " ผิดด้วยหรือทั้งๆที่ฉันมุ่งมั่นเพื่ออนาคตของเราทั้งสองคน ฉันอยากมีครอบครัวเล็กๆที่อบอุ่น แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไปสร้างครอบครัวกับหญิงคนใหม่ ที่มีสิ่งเดียวให้เขาได้นั่นคือ คำว่า " ความอบอุ่น " ฉัน..ผิดหรือชานนท์

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: พุธ 16 ก.ค. 2008 7:13 am
โดย dara
:roll: (ดูเหมือนพระ-นางคู่นี้จะไม่มีใครสนใจคลื่นมหัศจรรย์เลยนะ :lol: )

มาต่อด้วย......
หัวใจฉันเต้นแรง และดัง เมื่อเขาเดินตรงเข้ามาหา สายตาคมกล้าที่แลตรงมาช่างเร้าใจอย่างรุนแรง ฉันหลุบตาลงต่ำ ไมกล้าสบตาด้วย ไม่แน่ใจว่า..เขินอายตามประสาหญิง หรือไม่อยากให้เขารู้ความในใจว่าฉันเริ่มปิ๊งเขาให้ซะแล้ว ชายหนุ่มแปลกหน้าผินหน้าไปทางหาดมหัศจรรย์นั้น แล้วเอื้อนเอ่ย

"คุณเป็นคนแถวนี้ใช่ไหมครับ? ช่วยตอบผมทีเถอะครับ ทำไมทะเลนี้มีคลื่นสีฟ้า กับคลื่นสีส้ม? ทำไมมันจึงไม่ละลายผสมกันเป็นสีม่วง? ป้าผมท่านเป็นปรมาจารย์ทำผ้าบาติก :lol: ผมโตมากับป้า ทำบาติกมาแต่เล็ก พอจะรู้กฎของสีน้ำอยู่บ้าง แต่นี่...ทำไม..ที่นี่จึงเป็นเช่นนี้ได้?"

ฉันยืนอึ้ง ปลายคลื่นสีส้มซ้ดหาดมาไกลจนถึงบริเวณที่เราสองคนยืนอยู่.... :mrgreen:

ปล. ถ้าจะมีคนพาออกทะเล ก็คุณฝนนะแระ พาออกตั้งแต่ปฐมฤกษ์ :lol:

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: พุธ 16 ก.ค. 2008 6:13 pm
โดย Gorakot
มาต่อจากคุณdaraค่ะ :P
ฉันยืนอึ้ง ปลายคลื่นสีส้มซ้ดหาดมาไกลจนถึงบริเวณที่เราสองคนยืนอยู่....


เอาแล้วไง...กับคำถามหลายคำถามที่เขาระดมใส่ฉัน ทำเอาฉันเกือบตั้งหลักแทบไม่ถูกใจที่เต้นระทึกเมื่อสักครู่กลับทุเลาเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อ

ฉันมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผิวขาวอมชมพูต่อต้านแดด แววตาระริกระรี้ของเขาภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนอาจารย์นักวิชาการ ช่างเหมือนชานนท์คนนั้นนัก
ชานนท์คนที่ดูมากความรู้ความสามารถยามปรากฎตัวต่อแวดวงสังคมคนมีความรู้ของเขา คนที่สามารถรับมือกับทุกสถานการณ์อย่างแนบเนียนดูเป็นธรรมชาติ แต่เมื่อยามใดที่เราอยู่กันลำพัง สิ่งที่เขาเล่าเขาถาม กลับฟังดูไม่ประติดประต่อ ยุ่งเหยิงวุ่นวาย แค่เรื่องที่ต้องบอกเล่าง่ายๆกลับเต็มไปด้วยประโยคคำถามทำไม?ทำไม? ย้อนกลับมาถามคนฟังอย่างฉัน ช่างน่าระอายิ่งนัก

"อุกาฟ้าเหลืองไงคะ เคยได้ยินไหมล่ะ? เป็นชื่อเรียกเวลาที่บรรยากาศคลื่นลมสงบ สภาพท้องฟ้าสีเหลืองแสด ก่อนที่จะมีพายุใหญ่ตามมา พวกชาวทะเลรับรู้กันว่ามันเป็นสัญญาณเตือนอันตรายว่าพวกเขาจะไม่ออกทะเลไปหาปลา และตอนนี้เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกทำให้เกิดการหักเหของแสง สะท้อนลงทะเลทำให้เห็นน้ำทะเลเป็นสีส้มปนครามไงล่ะคะ"

บัดนี้ฉันตระหนักแล้วว่าชานนท์ชายหนุ่มรูปงามคนที่ต้องการความรักมากกว่าความผูกพันได้ตายไปจากชีวิตฉันเสียแล้ว หนุ่มชาวเลผมยาวที่นั่งทอดอารมณ์หันหลังแต่เหมือนจะแอบฟังบทสนทนาของฉันกับชายแปลกหน้า พร้อมกันนั้นฉันได้ยินเสียงแว่วหัวเราะจากชายดวงตาคมกล้าทว่าเศร้าลึกเจ้าของบทเพลงเศร้าทว่าเมื่อคล้อยหลังฉันกลับเปลี่ยนท่วงทำนองคนนั้นตะหากเป็นใคร?ฉันจะต้องสืบค้นหาให้ได้ :lol:

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: พุธ 16 ก.ค. 2008 7:39 pm
โดย ภาษาสยาม
เย้ย! นางเอกใจง่ายจัง 555555

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: พฤหัสฯ. 17 ก.ค. 2008 3:14 am
โดย วิรัตต์ยา
มาตบมือให้คุณ Gorakot ที่หาทางออกให้กับ ทะเลสีส้ม ได้อย่างงดงามมากๆ 55555555555555

เอิ่ม...ตกลงว่า ตอนนี้มีชานนท์เพิ่มเข้ามาจาก ชายหนุ่มชาวเลคนนั้น ใช่มั้ยคะ ถ้าดิฉันอ่านไม่ผิด อิอิ

Re: เขียนนิยายต่อกันดีมั้ยคะ

โพสต์เมื่อ: พฤหัสฯ. 17 ก.ค. 2008 9:31 am
โดย น้ำฟ้า
[left]ฉันเดินทอดน่องไปบนหาดทรายสีขาวด้วยความรู้สึกล่องลอย ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์สามารถพลิกผันชีวิตคนให้งดงามราวกับตกอยู่ในห้วงฝัน หรือจมดิ่งลงสู่ห้วงเหวได้ในพริบตา การที่ฉันต้องระเห็จจากเมืองหลวงมาภูเก็ตด้วยหัวใจที่ร้าวระบม ก็เพราะคำว่ารักเพียงคำเดียว เสียงคลื่นยังคงกระทบฝั่งไม่ขาดสาย คงคล้ายความรู้สึกของฉันที่ยังตัดชานนท์ไม่ขาด แต่ไม่มีวันที่ฉันจะลดศักดิ์ศรีของตนเองไปงอนง้อชายไร้ค่า ที่มองไม่เห็นค่าความรักความจริงใจที่ฉันมอบให้ สายลมอ่อนๆเมื่อชั่วครู่กลับทวีความรุนแรงขึ้น ต้นมะพร้าวที่อยู่ริมทะเลโอนเอนราวกับเป็นต้นหญ้าเล็กๆ ฉันเพิ่งรู้สึกตัวว่าท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆทะมึน ฉันพยายามสาวเท้าให้เร็วขึ้น แม้ตนเองจะบอบช้ำทางใจสักแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากตากฝนบนเกาะที่เต็มไปด้วยป่าละเมาะเช่นนี้[/left]