Re: นวนิยาย ตราบสิ้นอสงไขย โดย น้ำฟ้า
เมื่อ: พฤหัสฯ. 11 เม.ย. 2013 7:23 pm
“หมากแก้ว หมากคำ บ้านอยู่ไหนพี่จะไปส่ง”
“เฮาบอกแล้วว่าเฮาอยู่ตี้นี่ ในคุ้มเจ้าเอื้องฟ้าจะไดเล่า”หมากคำย้ำด้วยเสียงฉุนๆ
“พี่ไม่เชื่อ เด็กที่ไหนจะมาอยู่ในเมืองเก่าแบบนี้”
“จ้างเต๊อะ หมากคำ ไปกั๋นดีกว่า”หมากแก้วชวนน้องสาว ก่อนจะทำหน้าตกใจคล้ายเห็นอะไรบางอย่าง
ร่างของผู้เฒ่าเต็มไปด้วยหนวดเคราสีขาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์ปรากฏขึ้นในสายตาของเด็กทั้งสอง ดวงหน้าอันเหี่ยวย่นมีรอยยิ้มน้อยๆอย่างปราณี “หมากแก้ว หมากคำ เปิ้นบ่หันต๋ามตี้เจ้าสองตนบอกหรอก เปิ้นเป๋นมนุษย์”
หมากคำวิ่งเข้าไปหาชายชรา เงยหน้าขึ้นถาม “แล้วจะไดเปิ้นถึงหันข้าเจ้ากับอ้ายหมากแก้วได้เจ้าพ่อปู่”
“ก็เพราะเปิ้นกับเจ้ามีความผูกพันต่อกั๋นมาแต่เดิม”น้ำเสียงแหบๆนั้นยังเจือความเอ็นดูเด่นชัด
“ผูกพันจะได เฮาสองคนบ่เกยหันเปิ้นเลย”หมากแก้วถามบ้าง
พ่อปู่กาวินหัวเราะ “เจ้าลองเหลียวไปผ่อเปิ้นใหม่แหมครั้ง แล้วก้อยปิ๊กมาบอกพ่อปู่ว่าบ่ฮู้จักเปิ้นแต๊กา”
หมากแก้ว หมากคำทำตาม ชั่วครู่จึงเบิกตากว้าง เมื่อชายร่างสูงแปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มรูปงามในเครื่องทรงอย่างกษัตริย์ล้านนา จึงเปล่งเสียงดังลั่นและโผเข้าไปกอดชยานนท์แน่น “พ่อพญา!”
ชายหนุ่มงงงันหนักขึ้น แรกทีเดียวเขายืนฟังเด็กทั้งสองพูดกับความว่างเปล่า แล้วอยู่ดีๆกลับโผเข้ามาหาเขาและเรียกเขาว่า พ่อพญา นี่มันอะไรกัน
“ข้าเจ้ากึ๊ดเติงหาพ่อพญาเจ้า”หมากคำบอกทั้งน้ำตา
ชยานนท์ดันกายเด็กน้อยออกห่างแล้วเช็ดน้ำตาให้ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
“น้าเอื้องฟ้าของเฮาเล่าพ่อพญา”หมากแก้วถามบ้าง
ชยานนท์สั่นหน้า “นี่เด็กๆกำลังพูดอะไรกัน”
ใบหน้าเรียบเฉยของพ่อปู่มองภาพของทั้งสามด้วยความปลดปลง กาลเวลานำพาการพรากจากมาสู่ทุกผู้ทุกคน “เปิ้นยังจ๋ำเรื่องเก่าบ่ได้ดอกหลานเหย เอาไว้ถึงเวลาทุกอย่างจะคลี่คลายเอง ปิ๊กคุ้มเต๊อะ หมดเวลาของเจ้าแล้ว”
สิ้นคำพ่อปู่ ร่างเด็กน้อยทั้งสองก็หายวับไปจากสายตา
ชยานนท์ผงะ งุนงงจนต้องถอยหลังไปหลายก้าว
เขายอมรับว่าครั้งนั้นตกใจมากมายกับสิ่งที่ได้เห็น แต่เมื่อเด็กน้อยทั้งสองมาปรากฏกายต่อหน้าบ่อยขึ้น ความประหลาดใจก็กลายเป็นความเคยชิน ดังเช่นในเวลานี้
“เฮาบอกแล้วว่าเฮาอยู่ตี้นี่ ในคุ้มเจ้าเอื้องฟ้าจะไดเล่า”หมากคำย้ำด้วยเสียงฉุนๆ
“พี่ไม่เชื่อ เด็กที่ไหนจะมาอยู่ในเมืองเก่าแบบนี้”
“จ้างเต๊อะ หมากคำ ไปกั๋นดีกว่า”หมากแก้วชวนน้องสาว ก่อนจะทำหน้าตกใจคล้ายเห็นอะไรบางอย่าง
ร่างของผู้เฒ่าเต็มไปด้วยหนวดเคราสีขาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์ปรากฏขึ้นในสายตาของเด็กทั้งสอง ดวงหน้าอันเหี่ยวย่นมีรอยยิ้มน้อยๆอย่างปราณี “หมากแก้ว หมากคำ เปิ้นบ่หันต๋ามตี้เจ้าสองตนบอกหรอก เปิ้นเป๋นมนุษย์”
หมากคำวิ่งเข้าไปหาชายชรา เงยหน้าขึ้นถาม “แล้วจะไดเปิ้นถึงหันข้าเจ้ากับอ้ายหมากแก้วได้เจ้าพ่อปู่”
“ก็เพราะเปิ้นกับเจ้ามีความผูกพันต่อกั๋นมาแต่เดิม”น้ำเสียงแหบๆนั้นยังเจือความเอ็นดูเด่นชัด
“ผูกพันจะได เฮาสองคนบ่เกยหันเปิ้นเลย”หมากแก้วถามบ้าง
พ่อปู่กาวินหัวเราะ “เจ้าลองเหลียวไปผ่อเปิ้นใหม่แหมครั้ง แล้วก้อยปิ๊กมาบอกพ่อปู่ว่าบ่ฮู้จักเปิ้นแต๊กา”
หมากแก้ว หมากคำทำตาม ชั่วครู่จึงเบิกตากว้าง เมื่อชายร่างสูงแปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มรูปงามในเครื่องทรงอย่างกษัตริย์ล้านนา จึงเปล่งเสียงดังลั่นและโผเข้าไปกอดชยานนท์แน่น “พ่อพญา!”
ชายหนุ่มงงงันหนักขึ้น แรกทีเดียวเขายืนฟังเด็กทั้งสองพูดกับความว่างเปล่า แล้วอยู่ดีๆกลับโผเข้ามาหาเขาและเรียกเขาว่า พ่อพญา นี่มันอะไรกัน
“ข้าเจ้ากึ๊ดเติงหาพ่อพญาเจ้า”หมากคำบอกทั้งน้ำตา
ชยานนท์ดันกายเด็กน้อยออกห่างแล้วเช็ดน้ำตาให้ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
“น้าเอื้องฟ้าของเฮาเล่าพ่อพญา”หมากแก้วถามบ้าง
ชยานนท์สั่นหน้า “นี่เด็กๆกำลังพูดอะไรกัน”
ใบหน้าเรียบเฉยของพ่อปู่มองภาพของทั้งสามด้วยความปลดปลง กาลเวลานำพาการพรากจากมาสู่ทุกผู้ทุกคน “เปิ้นยังจ๋ำเรื่องเก่าบ่ได้ดอกหลานเหย เอาไว้ถึงเวลาทุกอย่างจะคลี่คลายเอง ปิ๊กคุ้มเต๊อะ หมดเวลาของเจ้าแล้ว”
สิ้นคำพ่อปู่ ร่างเด็กน้อยทั้งสองก็หายวับไปจากสายตา
ชยานนท์ผงะ งุนงงจนต้องถอยหลังไปหลายก้าว
เขายอมรับว่าครั้งนั้นตกใจมากมายกับสิ่งที่ได้เห็น แต่เมื่อเด็กน้อยทั้งสองมาปรากฏกายต่อหน้าบ่อยขึ้น ความประหลาดใจก็กลายเป็นความเคยชิน ดังเช่นในเวลานี้