บทที่ ๗
- 4a23b2f597c16227f1dd2e50c5076376.jpg (191.28 KiB) เปิดดู 10640 ครั้ง
ตั้งแต่บทนี้เปลี่ยนสรรพนามแทนผู้หญิงเป็น "เธอ"นะคะ
เมื่อสองหนุ่มสาวเดินผ่านบริเวณที่มีแสงแดดอุ่นเข้ามาสู่อาณาเขตของพิงครัตน์รีสอร์ตด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก็เป็นช่วงเวลาอันประจวบเหมาะกับที่เอื้องลดาเล่าเรื่องแหวนนาคของตนจบลงพอดีและทิ้งท้ายว่า “เอื้องค่อนข้างมั่นใจว่าคำพูดของคุณปู่สุนทรมักจะเป็นจริงเสมอค่ะ
“เหมือนเป็นคนที่มีซิกเซ้นส์อะไรแบบนั้นน่ะหรือครับ”
เอื้องลดาพยักหน้า “ก็อาจจะเป็นไปได้ค่ะ แต่เอื้องขอมองแบบวิทยาศาสตร์ก่อน เอื้องว่าท่านใช้เหตุผลในการคิดผนวกกับการคาดเดาสถานการณ์ได้ดีน่ะค่ะ ก็เลยตรงเผงบ่อยๆ”
“งั้นถ้าคุณได้คุยกับพ่อผมคุณคงชอบ”นทีดลชี้นำ
ดาราสาวยิ้มกว้างจนมองเห็นลักยิ้มน่ามองสองข้างแก้มก่อนรวบรัด “ก็คุณดลรับปากเอื้องเอาไว้แล้วนี่คะว่าจะให้ไปพบท่านได้ในช่วงสงกรานต์ ใจจริงก็อยากพบท่านเช้านี้เลยแต่เอื้องติดถ่ายละครช่วงเก้าโมงน่ะค่ะ ตอนนี้เราแยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหมคะ ทิ้งไว้แบบนี้คงได้จูงมือกันป่วยแน่”
“ก็ดีนะครับ ถ้าคุณจะจูงมือผมจริงๆ”เขาพูดติดตลกตรงข้ามกับแววตาซึ่งมีรอยหวานเจืออยู่ หากหญิงสาวกลับทำตาเขียวปั๊ดตอบด้วยคิดว่าเขาเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้น “ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ เดี๋ยวทำให้คิวถ่ายละครของชาวบ้านเขารวนหมด”
นทีดลยิ้ม เขารับรู้ได้ว่ากำลังมีอะไรร้อนๆวิ่งเข้าสู่หัวใจ ทำให้รู้สึกอ่อนหวานและอบอุ่นผสมผสานอย่างบอกไม่ถูก ยามนี้เขาจึงยินดีที่จะยืนมองเธอนิ่งๆมากกว่าต่อล้อต่อเถียงใดๆทั้งสิ้น แต่กระนั้นสองหูของชายหนุ่มก็ยังได้ยินเสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นถนนดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆอย่างชัดเจน
“มีความสุขจังเลยนะคะพี่ดล เอื้องลดา”เสียงเล็กแหลมดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเมรินที่กำลังเดินผ่านมุมน้ำตกจำลองออกมาด้วยใบหน้าไม่เป็นมิตรนัก
“อ้าว นี่ลิลลี่ย้ายของเสร็จตั้งแต่เช้าเลยหรือครับ”นทีดลย้อนถามธุระโดยมิได้สนใจคำพูดก่อนหน้าของผู้มาใหม่
เมรินแกล้งค้อนขวับใส่ชายหนุ่มแล้วปรายหางตามองเอื้องลดาก่อนจะตอบด้วยเสียงที่บังคับให้เรียบเย็นตรงกันข้ามกับอารมณ์แท้จริงที่เป็นอยู่ “ก็คุณนัยน่ะสิคะบอกว่าให้ลิลลี่ออกมาแต่เช้า ไม่งั้นรถจะติดแถวคูเมืองเพราะคนเล่นสงกรานต์กันเยอะ ลิลลี่ก็เลยต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า แล้วอะไรกันคะ พอมาถึงที่นี่โทร.หาพี่ดลก็ไม่มีคนรับ ที่แท้...”
“ขอตัวก่อนนะคะคุณดล เดี๋ยวเอื้องต้องรีบไปถ่ายละครอีก”เอื้องลดาพูดแทรกขึ้นเมื่อรู้ดีว่าอีกฝ่ายเจตนาว่ากระทบตน
หึ...เมรินนี่ช่างทำตัวได้ขวางโลกสมคำล่ำลือจริงๆ นี่ขนาดกับเธอที่ร่วมงานกันนับครั้งได้และไม่เคยมีปัญหากันเลยสักครั้ง ก็ยังถูกเธอฟาดงวงฟาดงาใส่จนได้
หากคนถูกแทรกกลับหัวเราะขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน “เอื้องคงยังไม่รู้มั้งว่าพี่คณินเปลี่ยนเวลาถ่ายทำเป็นช่วงบ่าย แล้วก็ย้ายไปถ่ายฉากสงกรานต์ที่วัดเจ็ดยอด เพราะเมื่อกี้ฝนตกหนัก ไม่สะดวกที่จะถ่ายทำในโบราณสถานน่ะ”
“อ้าวเหรอ ขอบคุณมากนะลิลลี่ แต่ยังไงเอื้องก็ต้องขอตัวอยู่ดีแหละ เชิญตามสบายนะ”กล่าวจบเอื้องลดาก็แกล้งส่งยิ้มให้นทีดลก่อนจะเดินลิ่วๆไปตามถนนปูด้วยอิฐอย่างไม่สนใจผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
“ว่าแต่ลิลลี่ตามหาพี่ทำไมครับ”นทีดลทำลายความเงียบขึ้นก่อนหลังจากอยู่กันตามลำพัง
เมรินจึงหันกลับมาให้ความสนใจในตัวเขาต่อ “ก็ลิลลี่อยากจะขอบคุณพี่ดลน่ะค่ะที่จัดการเรื่องที่พักเร็วทันใจจริงๆ”
“พี่แค่โทรบอกนัยกริ๊งเดียวก็เรียบร้อยแล้วล่ะครับ อีกอย่างมันเป็นหน้าที่ของทางรีสอร์ตที่ต้องดูแลลูกค้าด้วย ไม่เห็นจะต้องขอบอกขอบใจอะไรเลย”
“ค่ะ แล้วนี่พี่ดลไปไหนกันมาคะ ดูซิ เปียกมะล็อกมะแลกกันทั้งสองคนเชียว”ปากของเมรินถามขณะที่สายตามองเขาอย่างจับผิด แค่เห็นชายหนุ่มเดินมาพร้อมกับเอื้องลดาต่อมริษยาของเธอก็ทำงานอย่างเต็มพิกัดแล้ว พานให้ลืมถ้อยคำที่ตนบอกเพื่อนทั้งสองว่าจะพยายามทำตัวเป็นหญิงสาวที่น่ารักในสายตาของนทีดลจนได้
“พี่ไปไหว้กู่มาน่ะ วันนี้เป็นวันสังขารล่อง คนเหนือเขาจะทำสิ่งที่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเช่น สระเกล้าดำหัว ไหว้พระ ทำความสะอาดบ้านอะไรทำนองนี้”
“แล้วเอื้องลดาล่ะคะ”
“ไม่รู้สิ พี่บังเอิญไปเจอเธอที่นั่น...”
เมรินเบะปากแล้วจึงต่อให้เสียเอง “ก็เลยหลบฝนอยู่ด้วยกันเป็นนานสองนานใช่ไหมคะ”
นทีดลรู้ดีว่าถูกประชดแต่กลับยิ้มสู้“ครับ จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวพี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ โดนฝนแบบนี้ถ้าไม่รีบสระผมอาจจะเป็นไข้ได้”บอกพลางเขาก็แอบนึกถึงถ้อยคำของสาวอีกนางที่เพิ่งเดินจากไปแล้วหัวเราะ “จูงมือกันป่วย”ดูเธอก็มีอารมณ์ขันกับเขาเหมือนกันแฮะ
“หัวเราะอะไรคะพี่ดล”เมรินชักจะอารมณ์ไม่บรรเจิดเพราะไฟริษยากำลังลามเลียอยู่ทั่วตัวแล้วในเวลานี้
แต่แทนที่จะตอบ นทีดลกลับสั่นหน้าและย้ำ “พี่ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”
สายตาไม่พอใจจ้องตามร่างสูงที่เพิ่งเดินจากไปไม่ละ และเมื่อเขาลับหายไปหลังน้ำตกจำลองแล้ว ดาราสาวจึงระบายความโกรธด้วยการกระชากกิ่งดอกหางนกยูงเต็มแรง
ทว่ากิ่งไม้เจ้ากรรมซึ่งเพิ่งถูกตัดแต่งไปเมื่อเย็นวานกลับบาดมือเธอจนเป็นทางยาว เลือดสีแดงไหลซึมออกมาอย่างรวดเร็ว เมรินกรีดร้องเสียงหลง แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครได้ยิน เธอจึงรีบเดินแกมวิ่งออกไปทางสำนักงานรีสอร์ตด้วยสีหน้าตกใจ