การคัดลอกนิยาย นำไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่
ถือเป็นการกระทำผิดกฏหมายตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗
บทนำ
รถตู้คันใหญ่จอดติดไฟแดงอยู่บนถนนย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร บรรยากาศในรถค่อนข้างอึมครึม เนื่องจากทุกคนต่างก็ดูเคร่งเครียดและกังวลอยู่ลึกๆ โดยเฉพาะหญิงสาวผู้มีดวงตากลมโต จมูกโด่งเล็กได้รูปรับกับริมฝีปากเรียวบางสีชมพูระเรื่อ แต่ดวงหน้าขาวผ่องภายใต้กรอบผมซอยสั้นนั้นก็ดูผุดผาดนักยามที่อยู่ในชุดสีดำสนิทเช่นเดียวกับทุกคนบนรถที่กำลังเดินทางกลับจากงานเผาศพคุณประไพ จันทรานนท์ ซึ่งเป็นย่าของหญิงสาวนั่นเอง
“พี่ซัน นุอยากรู้เรื่องเอ่อ...เรื่องคุณพ่อ” ชัยพล น้องชายคนเดียวของเธอชะโงกหน้าเข้ามากระซิบกระซาบ ขณะที่สายตาลอบมองไปยังบิดา มารดาที่นั่งอยู่ด้านหน้าอย่างระวัง
“เอาไว้ถึงบ้านค่อยคุยกัน พี่ไม่อยากให้คนขับรถได้ยิน” ซันดาตอบเสียงเบา
หลังได้คำตอบแล้วชัยพลจึงขยับตัวนั่งมองออกไปนอกตัวรถเช่นเดิม ปล่อยให้พี่สาวจมอยู่กับความนึกคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
เสียงสวดอภิธรรมยังดังก้องหูขณะที่ซันดาเดินลงจากเมรุเผาศพพร้อมกับมารดาและน้องชาย ส่วนบิดาของเธอนั้นยังคงยืนประคองคุณย่าน้อยอยู่ด้านบน เพื่อดูการเผาจริงจนเสร็จสิ้นพิธีการ
ทั้งสามนั่งลงบนเก้าอี้แถวแรกที่เรียงรายอยู่ในศาลา และต่างก็เงยหน้าขึ้นไปมองภาพเหตุการณ์บนเมรุเผาศพ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ควันไฟสีขาวลอยเอื่อยออกมาจากปล่องไฟด้านหลังเมรุ เสียงพระสวดเงียบลงแล้ว เสียงคุยกันของญาติผู้ตายจึงดังขึ้นแทนที่
ด้วยบรรยากาศอันเศร้าสร้อยทำให้ซันดาต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาที่เอ่อคลอใกล้จะหยาดหยด ถึงแม้เธอจะได้อยู่ใกล้ชิดคุณย่าเพียงช่วงบั้นปลายชีวิตของท่าน แต่สายสัมพันธ์ก็ทำให้เกิดความรู้สึกอาลัยอย่างสุดซึ้ง เธออยากจะเก็บภาพทุกภาพในวันนี้เอาไว้เพราะเป็นความทรงจำสุดท้ายที่เธอและท่านจะมีร่วมกัน
ในวัยเด็กซันดาจำได้ว่าคุณย่าเป็นผู้ดูแลเธอแทนจักรภพและรยา บิดามารดาของเธอซึ่งต้องไปทำงานในเวลากลางวัน เมื่อเธออายุได้ 6 ขวบบิดาจึงพาครอบครัวย้ายไปตั้งรกรากอยู่จังหวัดเชียงใหม่ จนเธอเข้ามาทำงานหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วจึงได้กลับมาอาศัยอยู่กับคุณย่าอีกครั้งหนึ่ง
“ผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับซันที่แต่งหน้าจัดๆยืนอยู่ข้างหลังคุณพ่อนั่นเป็นใครกัน ทำไมอยู่รอจนเผาจริงเสร็จ” มารดาของเธอถามขึ้น
ซันดามองตามด้วยใจที่บังคับไม่ให้สั่น แล้วหันไปตอบด้วยเสียงที่เบาปานกระซิบ “ซันก็เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นญาติกับเราค่ะคุณแม่ ผู้หญิงคนนี้ชื่อฟ้ารุ่ง ซันรู้จักกับเขาตอนไปเรียนมหา’ลัยที่เชียงใหม่”
“ก่อนช่วงพิธีนุก็เห็นเขาคุยกับคุณพ่ออย่างสนิทสนมเชียว”ชัยพลฟ้อง
“ตั้งแต่พ่อกับแม่ย้ายไปอยู่เชียงใหม่ก็แทบไม่ได้ติดต่อกับญาติทางนี้เลย บางทีหนูฟ้ารุ่งอาจจะเป็นลูกของใครสักคนก็ได้ เดี๋ยวคุณพ่อคงพามาแนะนำเองแหละ” รยาสรุปก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนสนิทของสามีที่มานั่งอยู่ใกล้ๆ โดยไม่ทันสังเกตว่าซันดามีท่าทีแปลกไปเมื่อได้เห็นหญิงสาวผู้เป็นหัวข้อสนทนาเมื่อครู่
“คุณพ่อจะลงจากเมรุแล้ว นุไปช่วยประคองคุณย่าน้อยสิ ท่าทางท่านจะไม่ไหว” ซันดาบอกน้องชาย แล้วจึงยื่นมือไปรับกรอบรูปหน้าศพของคุณย่ามาถือไว้เสียเอง เมื่อน้องชายทำตามที่สั่งเธอก็มองตามพลางถอนหายใจ ไม่เป็นผลดีเลยที่เธอได้มาพบฟ้ารุ่งอีกครั้ง ทั้งๆที่เธอเกือบจะลืมเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตแล้ว ‘ไม่ว่าจะเกิดอะไร เธอจะต้องเข้มแข็งนะซันดา’ หญิงสาวเตือนสติตนเองในใจ
ชัยพลเดินขึ้นไปบนบันไดเมรุก่อนจะหยุดอยู่กลางบันได เนื่องจากเห็นว่าฟ้ารุ่งเข้ามาประคองคุณย่าด้วยอีกแรงหนึ่ง เขาจึงรอให้ทั้งสามเดินผ่านไปก่อน จึงค่อยก้าวตาม
ซันดาจับจ้องร่างระหงในชุดเดรสสีดำสนิทอย่างจดจ่อ ฟ้ารุ่งดูเป็นสาวเต็มตัวและสวยขึ้นมากกว่าตอนเป็นนักศึกษา แต่สิ่งที่รับรู้ได้ตั้งแต่แวบแรกที่สบตากันคือ หญิงสาวผู้นั้นไม่มีความเป็นมิตรต่อเธอเลยแม้สักนิดเดียว
“คุณน้าเข้าไปนั่งในศาลาเถอะค่ะ ตรงนี้แดดร้อนเดี๋ยวจะไม่สบาย” มารดาของเธอนั่นเองที่เป็นคนพูดและเข้าไปประคองผู้ชราแทนสามี เมื่อทั้งสี่คนเดินเข้ามาใกล้
ซันดาก้าวตามคนทั้งหมดเข้าไปในศาลาอย่างเงียบๆ แวบหนึ่งเธอเห็นฟ้ารุ่งมองมาและยิ้มน้อยๆที่มุมปาก แค่เพียงนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกหนาวๆร้อนๆ ความกังวลใจเล่นปรี่เข้ามาในอกตามประสาวัวสันหลังหวะที่มีอะไรเล็กน้อยมากระทบก็ย่อมเจ็บขึ้นมาทันที
“ทุกคน...นี่ฟ้ารุ่ง” หลังนั่งลงบนเก้าอี้ข้างภรรยา จักรภพก็นิ่งไปครู่หนึ่งพร้อมกับจ้องหน้าภรรยาพลางถอนใจก่อนจะเอ่ยปากแนะนำต่อ “ เอ่อ ฟ้าเป็นลูกสาวของผมที่เกิดกับพลอยแสง”
“คุณพ่อ!” ด้วยความตกใจ ซันดาหลุดเสียงเรียกบิดาออกมาดังลั่น พลางเอื้อมมือไปรวบมือมารดาของตนไว้ มือเย็นเฉียบนั้นทำให้หญิงสาวเข้าใจความรู้สึกของมารดาดี แต่กลับไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากของรยาสักคำ
“ทุกคนเป็นพี่น้องกัน ต้องรักกันไว้นะลูก แม่รยาน้าขอฝากหลานไว้อีกสักคนนะ แม่พลอยแสงเขาเสียไปนานแล้ว ถือเสียว่าฟ้าเป็นลูกของเราอีกคนหนึ่ง” คุณย่าน้อยฝากฝัง ซึ่งอีกนัยหนึ่งน่าจะเป็นการผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียดที่เป็นอยู่
“ค่ะ คุณน้า” น้ำเสียงตอบนั้นสั่นน้อยๆ ซันดาคิดว่ามารดาคงกำลังพยายามควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติ
“สวัสดีค่ะคุณป้า” ฟ้ารุ่งเอ่ยทักทายรยาพร้อมกับยกมือไหว้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายยกมือขึ้นรับไหว้จึงละสายตามามองซันดาบ้าง ผู้ถูกมองรีบเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยไม่อยากเห็นอะไรที่รกสายตา
“ฟ้าเป็นพี่คนโต เกิดก่อนซันประมาณสิบวัน” บิดาบอกคล้ายจะเตือนซันดาไปในตัว เธอจึงหันกลับมาตอบเบาๆว่า “ค่ะ”
“สบายดีนะฟ้ารุ่ง” ซันดาเอ่ยทักแกนๆ ไม่ยอมยกมือขึ้นไหว้หรือแม้แต่จะเรียกพี่ ส่วนชัยพลนั้นข่มใจยกมือไหว้อย่างลวกๆ เขาไม่ได้อคติใดๆทั้งสิ้น แต่มันเร็วเกินไปกับสิ่งที่ได้รับรู้ ตั้งแต่เกิดมาเขาก็มีพี่สาวเพียงคนเดียวคือซันดา แล้วอยู่ๆดีจะให้ทำใจได้อย่างไร
“เจอกันอีกจนได้นะซัน แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปมาก จนแทบจะจำไม่ได้แน่ะ” ฟ้ารุ่งตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ ไม่สิ รอยยิ้มมุมปากนั่นดูจะเยาะเสียมากกว่า
“แต่ฉันจำเธอได้ดี” ซันดาตอบเสียงหนักแล้วจึงหันไปทางมารดา“เราจะกลับกันหรือยังคะ”
“อ้าว จะกลับกันแล้วหรือคะ ฟ้าก็กำลังจะกลับอยู่เหมือนกัน ซันเดินไปส่งที่รถหน่อยสิ ในฐานะเพื่อนเก่าและพี่สาวคนใหม่” ประโยคท้ายฟ้ารุ่งพยายามเน้นหนัก
“อืม ซันไปส่งพี่เขาสิ เดี๋ยวพ่อแม่นั่งรอที่นี่แหละ” จักรภพส่งเสริม
ซันดาจึงจำเป็นต้องเดินออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก แต่เธอก็พยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติ เพื่อไม่ให้บิดากังวล
“ตั้งแต่เกิดเรื่องเธอก็ตัดผมสั้น ทำตัวเป็นทอมแบบนี้เลยสินะ” ฟ้ารุ่งเอ่ยขึ้นลอยๆ สายตาของเธอมองไปยังที่จอดรถ แต่ซันดาก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายพูดกับตน “ไม่คิดเลยว่า เรื่องนั้นจะทำให้เธอต้องเปลี่ยนตัวเองขนาดนี้ คงเสียใจมากสินะ”
ซันดาหันขวับไปมองด้วยแววตาแค้นเคือง “ไม่ต้องเสแสร้งเป็นพี่สาวที่แสนดี ตอนนี้มีแค่ฉันกับเธอไม่ต้องตีสองหน้าก็ได้ เพราะยังไงฉันก็รู้ว่าเธอมันปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ”
ฟ้ารุ่งหัวเราะ “แหม พูดแรงจัง ถ้ารู้ว่าเธอเป็นน้องพ่อเดียวกันฉันคงไม่...เอ่อ ไปมีส่วนทำให้ชีวิตเธอย่ำแย่แบบนี้”
“หยุดพูดเถอะ เธอคงเดินไปที่รถเองได้นะ” ซันดาตัดบทก่อนจะหันหลังกลับ เนื่องจากขอบตาของเธอกำลังร้อนผ่าว เมื่อความทรงจำเก่าๆกลับมาทำร้ายเธออีกครั้ง เวลาผ่านไปนานมากแล้ว เธอไม่ต้องการรื้อฟื้นอดีตใดๆทั้งสิ้น ในเมื่อเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นความทรงจำที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต
ฟ้ารุ่งหยุดเดิน มองตามอีกฝ่ายยิ้มๆ พลางตะโกนตามหลัง “เราคงได้พบกันอีกนะซันดา เธอเตรียมตัวเอาไว้ได้เลย”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่หันมาตอบ สาวสวยร่างระหงจึงก้าวลิ่วๆไปที่รถด้วยสีหน้าพึงพอใจ และเมื่อก้าวเข้าไปนั่งประจำที่คนขับแล้ว ฟ้ารุ่งจึงเปรยกับสายลมว่า “ฉันมีเรื่องสนุกๆที่จะทำร่วมกับเธออีกหลายเรื่อง ซันดา”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++