หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

เรื่องราวของอาณาจักรล้านนา

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » เสาร์ 30 มี.ค. 2013 9:18 am

***เรื่องราวพระอรหันต์ทั้งสอง กับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ***

พระคุณเจ้าทั้งสองทั้งองค์หลวงปู่แหวน และองค์หลวงปู่หลุย ล้วนแล้วเป็นศิษย์เอกหลวงปู่มั่นทั้งสิ้น ได้อบรมธรรมจากหลวงปู่มั่นมาอย่างเข้มแข็ง ท่านทั้งสองเป็นพระหมดกิเลสแล้วสาธุ

คัดจากหนังสือชีวประวัติหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต
วัดอรัญญวิเวก (ป่าลัน)
ต.ปงน้อย กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย

เรื่องของหลวงปู่หลุย จันทสาโร

มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่หลุยท่านได้มาพักที่วัดดอยแม่ปั๋ง กะว่าจะอยู่กับหลวงปู่แหวนไปสักพักนึงก่อน เพราะว่าเป็นคนจังหวัดเลยด้วยกัน พออยู่ต่อมาหลวงปู่หลุยได้ยินข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จมากราบหลวงปู่แหวน หลวงปู่หลุยได้ยินดังนั้นก็รีบไปอยู่ที่อื่น ไปอยู่ที่อำเภอแม่แตง หลวงปู่หลุยท่านกลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น หลวงปู่หลุยท่านพูดว่า "พูดกับพระราชาไม่เป็น นี่คอขาดบาดตายนะเรา เป็นพระป่าพระดงไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร"

ท่านพูดเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแล้ว หลวงปู่แหวนท่านก็พูดกับในหลวงว่า "ท่านหลุยก็มาอยู่นี่แหละ แต่หนีไปอยู่ที่แม่แตงแล้ว กลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น กลัวคอขาดบาดตาย ว่าอย่างนั้น"

สมเด็จพระราชินีก็พูดออกมาว่า "ไม่เป็นอย่างนั้นดอกพระเจ้าข้า พวกดิฉันไม่ได้ถือยศฐาบรรดาศักดิ์อะไรหรอกเจ้าข้า พูดแบบนี้เป็นกันเองนี้แหละเจ้าข้า" แล้วพระราชินีก็พูดกับหลวงปู่แหวนว่า "เมื่อดิฉันกลับจากที่นี้ไปแล้ว จะไปกราบหลวงปู่หลุยให้ได้ ไม่ต้องกลัวเจ้าข้า"

ในหลวงท่านเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแต่ละครั้ง ตั้งแต่บ่ายสองโมง จนถึงหนึ่งทุ่มสองทุ่มเป็นประจำ การเสด็จมาวัดดอยแม่ปั๋ง แต่ละครั้ง ถือเป็นการส่วนตัวพระองค์เอง

ครั้นต่อมาสมเด็จพระราชินีได้ให้ราชเลขาไปตามหาหลวงปู่หลุย ว่าท่านอยู่ที่ไหน ก็ทราบว่าหลวงปู่หลุยท่านไปพักอยู่ที่วัดหลวงปู่ตื้อ หรือว่าวัดพระอาจารย์เปลี่ยน ผู้เขียนก็จำไม่ค่อยได้ สมเด็จพระราชินีก็ได้เสด็จไปกราบหลวงปู่หลุย ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่หลุยก็ได้เข้าๆ ออกๆ อยู่กับพระราชวังตลอดมา ตราบเท่าหลวงปู่หลุยมรณภาพ

อันนี้คือด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมที่เป็นพระมหากษัตริย์ไทยของเรา ได้เข้าไปถึงประชาชนทุกที่ทุกแห่งหนตำบลใดก็ตาม มีพระเจ้าพระสงฆ์ที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในป่าในเขาที่ไหนๆ ก็ตาม ท่านก็ย่อมเข้าถึงที่ทุกๆ แห่ง


เรื่องของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ

หลวงปู่แหวนได้ป่วยหนัก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้อาราธนาให้ หลวงปู่แหวนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ ตึกสุจิณฺโณ ในหลวงท่านได้รับเอาหลวงปู่ไว้เป็นคนไข้ของพระองค์เอง จนในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2528 หลวงปู่แหวนท่านก็ได้ละขันธ์อย่างสงบนิ่ง ในเวลา 21.53 น.

ข่าวการมรณภาพของหลวงปู่แหวน ซึ่งตรงกับวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2528 ก็ได้ทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราและพระบรม ราชินีนาถ เหมือนกับว่าดินฟ้าถล่มไปทั่วเมืองไทย ในหลวงก็ได้พระราชทานโกศหลวง และรดน้ำอาบศพ ที่สถานพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้นก็ได้มี บุคคลทั่วทิศานุทิศ ไปเคารพศพหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็ได้นำศพของหลวงปู่แหวนมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดดอยแม่ปั๋ง ตามเดิม

สิริอายุหลวงปู่แหวนได้ 99 ปี ในหลวงท่านขออายุหลวงปู่แหวนให้ได้ 120 ปี แต่หลวงปู่ก็พูดกับในหลวงว่า เอาเพียง 99 ปี ก็พอเถอะ มันลำบากผู้อยู่ แล้วก็ได้ 99 ปี ตามที่ว่าเอาไว้จริงๆ อันนี้คือพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามธรรมวินัยของพระพุทธศาสนาแท้จริง ขอให้พวกเราทุกๆ คน จงนำเอาเป็นตัวอย่างของหลวงปู่แหวนนี้ ไว้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ศาสนาของเราจะได้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปข้างหน้า
ไฟล์แนป
untitled.png
untitled.png (222.54 KiB) เปิดดู 17935 ครั้ง
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » เสาร์ 30 มี.ค. 2013 9:20 am

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ และหลวงปู่หลุย จันทสาโร
ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์เอกหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตทั้งสิ้น
พระคุณเจ้าทั้งสององค์ได้เพียรอบรมธรรม
จากองค์หลวงปู่มั่นมาอย่างเข้มแข็ง
กระทั่งท่านทั้งสองสิ้นอาสวะกิเลส ถึงที่สุดแห่งธรรม

มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่หลุยท่านได้มาพักที่วัดดอยแม่ปั๋ง
กะว่าจะอยู่กับหลวงปู่แหวนไปสักพักนึงก่อน
เพราะว่าเป็นคนจังหวัดเลยด้วยกัน
พออยู่ต่อมาหลวงปู่หลุยได้ยินข่าวว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จมากราบหลวงปู่แหวน
หลวงปู่หลุยได้ยินดังนั้นก็รีบไปอยู่ที่อื่น ไปอยู่ที่อำเภอแม่แตง
หลวงปู่หลุยท่านกลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น

หลวงปู่หลุยท่านพูดว่า
“พูดกับพระราชาไม่เป็น นี่คอขาดบาดตายนะเรา
เป็นพระป่าพระดงไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร”

ท่านพูดเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแล้ว

หลวงปู่แหวนท่านก็พูดกับในหลวงว่า
“ท่านหลุยก็มาอยู่นี่แหละ แต่หนีไปอยู่ที่แม่แตงแล้ว
กลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น
กลัวคอขาดบาดตาย ว่าอย่างนั้น”

สมเด็จพระราชินีก็พูดออกมาว่า
“ไม่เป็นอย่างนั้นดอกพระเจ้าข้า
พวกดิฉันไม่ได้ถือยศฐาบรรดาศักดิ์อะไรหรอกเจ้าข้า
พูดแบบนี้เป็นกันเองนี้แหละเจ้าข้า”

แล้วพระราชินีก็พูดกับหลวงปู่แหวนว่า
“เมื่อดิฉันกลับจากที่นี้ไปแล้ว
จะไปกราบหลวงปู่หลุยให้ได้ ไม่ต้องกลัวเจ้าข้า”

ในหลวงท่านเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแต่ละครั้ง
ตั้งแต่บ่ายสองโมง จนถึงหนึ่งทุ่มสองทุ่มเป็นประจำ
การเสด็จมาวัดดอยแม่ปั๋งแต่ละครั้ง ถือเป็นการส่วนตัวพระองค์เอง

ครั้นต่อมาสมเด็จพระราชินีได้ให้ราชเลขาไปตามหาหลวงปู่หลุย
ว่าท่านอยู่ที่ไหน ก็ทราบว่าหลวงปู่หลุยท่านไปพักอยู่ที่วัดหลวงปู่ตื้อ
หรือว่าวัดพระอาจารย์เปลี่ยน ผู้เขียนก็จำไม่ค่อยได้
สมเด็จพระราชินีก็ได้เสด็จไปกราบหลวงปู่หลุย
ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่หลุยก็ได้เข้าๆ ออกๆ อยู่กับพระราชวังตลอดมา
ตราบเท่าหลวงปู่หลุยมรณภาพ

อันนี้คือด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม
ที่เป็นพระมหากษัตริย์ไทยของเรา
ได้เข้าไปถึงประชาชนทุกที่ทุกแห่งหนตำบลใดก็ตาม
มีพระเจ้าพระสงฆ์ที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติ
อยู่ในป่าในเขาที่ไหนๆ ก็ตาม ท่านก็ย่อมเข้าถึงที่ทุกๆ แห่ง



เมื่อครั้งหลวงปู่แหวนอาพาธหนัก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้อาราธนาให้หลวงปู่
ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ตึกสุจิณฺโณ
ในหลวงได้รับเอาหลวงปู่ไว้เป็นคนไข้ของพระองค์เอง
ที่สุดเมื่อวันอังคารที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘
หลวงปู่แหวนก็ได้ละขันธ์อย่างสงบนิ่ง ในเวลา ๒๑.๕๓ น.

ข่าวการมรณภาพของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
ความก็ได้ทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาท
ในหลวงของเรา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เหมือนกับว่าดินฟ้าถล่มไปทั่วเมืองไทย
ในหลวงก็ได้พระราชทานโกศหลวง และน้ำหลวงอาบศพ
ที่สถานพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้น
ก็ได้มีบุคคลทั่วทิศานุทิศไปเคารพศพหลวงปู่แหวน เป็นครั้งสุดท้าย
แล้วก็ได้นำศพของหลวงปู่มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดดอยแม่ปั๋งตามเดิม

สิริอายุหลวงปู่แหวนได้ ๙๙ ปี
ในหลวงท่านขออายุหลวงปู่แหวนให้ได้ ๑๒๐ ปี
แต่หลวงปู่ก็พูดกับในหลวงว่า เอาเพียง ๙๙ ปี ก็พอเถอะ
มันลำบากผู้อยู่ แล้วก็ได้ ๙๙ ปี ตามที่ว่าเอาไว้จริงๆ
อันนี้คือพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามธรรมวินัยของพระพุทธศาสนาแท้จริง
ขอให้พวกเราทุกๆ คน จงนำเอาเป็นตัวอย่างของหลวงปู่แหวนนี้
ไว้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป
ศาสนาของเราจะได้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปข้างหน้า


คัดบางตอนมาจาก : หนังสือชีวประวัติหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต
วัดป่าอรัญญวิเวก (ป่าลัน) ต.ปงน้อย กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=5816
ไฟล์แนป
paragraph__110_289.jpg
paragraph__110_289.jpg (106.16 KiB) เปิดดู 17935 ครั้ง
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » เสาร์ 30 มี.ค. 2013 9:21 am

ภาพประทับใจของเรา
ไฟล์แนป
paragraph__112_126.jpg
paragraph__112_126.jpg (95.19 KiB) เปิดดู 10943 ครั้ง
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » เสาร์ 30 มี.ค. 2013 9:22 am

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ
และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานน้ำสรงศพ
พระราชทานผ้าไตรห่มสรีระสังขารหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
ณ ศาลาอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เมื่อวันพุธที่ ๓ กรกฎาคม ปีพุทธศักราช ๒๕๒๘
ไฟล์แนป
paragraph__115_186.jpg
paragraph__115_186.jpg (210.77 KiB) เปิดดู 10943 ครั้ง
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย Namfar » อาทิตย์ 02 มี.ค. 2014 10:02 pm

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เดินทางมากราบนมัสการเยี่ยมหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ณ วัดดอยแม่ปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เมื่อครั้งที่ท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่

110630188.jpg
110630188.jpg (45.78 KiB) เปิดดู 10556 ครั้ง
Namfar
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 499
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 20 พ.ย. 2013 5:56 pm

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย Namfar » อาทิตย์ 02 มี.ค. 2014 10:03 pm

paragraph__paragraph_11_166.jpg
paragraph__paragraph_11_166.jpg (135.66 KiB) เปิดดู 10556 ครั้ง
Namfar
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 499
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 20 พ.ย. 2013 5:56 pm

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย Namfar » จันทร์ 03 มี.ค. 2014 9:28 am

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ เสด็จติดตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงเยี่ยมอาการหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

rimg0678.jpg
rimg0678.jpg (68.76 KiB) เปิดดู 10550 ครั้ง
ไฟล์แนป
7477.png
7477.png (110.94 KiB) เปิดดู 10550 ครั้ง
Namfar
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 499
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 20 พ.ย. 2013 5:56 pm

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » จันทร์ 29 ก.ย. 2014 6:26 am

" สาธุการแด่องค์พระอริยสงฆ์เจ้า "

11008604_910436102341760_1526079079243462777_n_resize.jpg
11008604_910436102341760_1526079079243462777_n_resize.jpg (40.97 KiB) เปิดดู 10069 ครั้ง


เรื่องราวปาฏิหารย์ของหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ

ในปี พ.ศ.๒๕๑๔ หนังสือพิมพ์ได้พาดหัวข่าวใหญ่ ถึงเรื่องราวของหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณลอยอยู่บนก้อนเมฆ

กล่าวคือ มีนักบินขับเครื่องบินบินผ่านน่านฟ้าวัดดอยแม่ปั๋ง แต่กลับต้องบังคับเครื่องหลบอย่างกะทันหัน เพราะเบื้องหน้าเห็นภาพพระสงฆ์นั่งอยู่บนก้อนเมฆ เมื่อนักบินลงจอดแล้วก็ได้ตระเวนถามหาพระที่สร้างปาฏิหารย์นี้จากคณะสงฆ์และชาวบ้านละแวกนั้น จนได้ทราบว่าเป็นหลวงปู่แหวน จึงเฝ้าไปรอกราบอยู่หลายครั้งถึงจะเจอและมั่นใจว่าพระสงฆ์รูปนั้นคือหลวงปู่อย่างแน่นอน

ต่อมามีนักข่าวต่างประเทศไปขอสัมภาษณ์หลวงปู่และถามท่านว่า จริงหรือไม่ที่ท่านไปนั่งอยู่บนก้อนเมฆ ท่านกรุณาตอบว่า ท่านไม่ใช่นก สั้นๆ ง่ายๆ ไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ใช่คำปฏิเสธ

ข่าวนี้จึงเป็นที่กล่าวขวัญถึงกันอยู่นานเมื่ออดีตที่ผ่านมา


ข้อมูลจาก ‎พันโทณัฐวุธ ประสิทธิ์‬
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย Namfar » อาทิตย์ 26 เม.ย. 2015 4:57 pm

พระภิกษุทั้งหลายช่วยกันปลงผมหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ

#วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่


10445128_671709386279293_2739996808066890119_n_resize.jpg
10445128_671709386279293_2739996808066890119_n_resize.jpg (37.64 KiB) เปิดดู 10070 ครั้ง
Namfar
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 499
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 20 พ.ย. 2013 5:56 pm

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 10 พ.ค. 2015 11:18 am

11151052_784764818304794_7924677067548557881_n.jpg
11151052_784764818304794_7924677067548557881_n.jpg (96.68 KiB) เปิดดู 10055 ครั้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย Namfar » ศุกร์ 30 ต.ค. 2015 4:40 pm




ขอขอบพระคุณผู้จัดทำสารคดีชุดนี้ที่ได้นำมาเผยแพร่ให้ได้รับชมกันค่ะ


สารคดีชีวประวัติหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ พระอริยสงฆ์แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่


หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ พระสงฆ์องค์แรกในประเทศไทยที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงส่ง และนอกจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระบรมราชินีนาถแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ได้ทรงพระกรุณา เสด็จเยี่ยมหลวงปู่อยู่เนืองๆ

นับแต่โบราณกาลมาจนถึงยุคปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า ยังไม่มีพระคณาจารย์รูปใดที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เท่าหลวงปู่แหวน ในระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ในหลวงท่านเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแต่ละครั้ง ตั้งแต่บ่ายสองโมง จนถึงหนึ่งทุ่มสองทุ่มเป็นประจำ การเสด็จมาวัดดอยแม่ปั๋งแต่ละครั้ง ถือเป็นการส่วนตัวพระองค์เอง


นอกเหนือจากการเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดดอยแม่ปั๋ง เพื่อนมัสการและสนทนาธรรม กับหลวงปู่หลายครั้งหลายครา แล้วยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จัดสร้างสิ่งมงคล โดยใช้รูปของหลวงปู่ นำมาแจกในพระราชพิธีสำคัญ



ข้าราชบริพารผู้หนึ่ง ได้เปิดเผยถึงหลวงปู่กับล้นเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ภายหลังจากที่ข่าวพระองค์ทรงประชวรและประทับที่เชียงใหม่แล้ว หลังจากนั้น ก็เสด็จดอยแม่ปั๋ง หลวงปู่แหวนได้กราบบังคมทูลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตอนหนึ่งว่า

" พระองค์นั้นมัวแต่ห่วงคนอื่น ไม่ห่วงพระองค์เองเลย"

เมื่อได้ฟังหลวงปู่กล่าวเช่นนั้น ล้นเกล้าฯ ทรงพระสรวลด้วยความพอพระทัย

มีข่าวอีกครั้งหนึ่งว่า สมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวรและประทับรักษาพระองค์ที่เชียงใหม่นั้น ข้าราชบริพาร ได้นำเฮลิคอบเตอร์มานิมนต์หลวงปู่ให้ไปที่พระตำหนักเพื่อแผ่พลังจิต ช่วยรักษาอาการประชวรของพระองค์ท่าน

หลวงปู่ท่านปฎิเสธการนิมนต์ และได้บอกว่า “อยู่ที่ไหน ฮาก็ส่งใจไปถึงพระองค์ได้ ก็ส่งไป ทุกวันอยู่แล้ว”

หลวง ปู่แหวน ท่านตั้งสัจจธิษฐานว่า แม้ท่านจะเจ็บป่วยก็ไม่ยอมไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ในช่วงท้ายของชีวิต เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอาราธนา ท่านจึงยอมทำตาม และบอกว่า ในฐานะประชาชน หลวงปู่จึงไม่กล้าขัดพระราชประสงค์ได้

ต่อมาเมื่อหลวงปู่แหวนอาพาธหนัก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้อาราธนาให้ หลวงปู่แหวนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ ตึกสุจิณฺโณ ในหลวงท่านได้รับเอาหลวงปู่ไว้เป็นคนไข้ของพระองค์เอง จนในวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ หลวงปู่แหวนท่านก็ได้ละขันธ์อย่างสงบนิ่ง ในเวลา ๒๑.๕๓ น.

ข่าวการมรณภาพของหลวงปู่แหวน ซึ่งตรงกับวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๘ ก็ได้ทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราและพระบรมราชินีนาถ เหมือนกับว่าดินฟ้าถล่มไปทั่วเมืองไทย ในหลวงก็ได้พระราชทานโกศหลวง และรดน้ำอาบศพ ที่สถานพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้นก็ได้มี บุคคลทั่วทิศานุทิศ ไปเคารพศพหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็ได้นำศพของหลวงปู่แหวนมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดดอยแม่ปั๋ง ตามเดิม

สิริอายุหลวงปู่แหวนได้ ๙๙ ปี ในหลวงท่านขออายุหลวงปู่แหวนให้ได้ ๑๒๐ ปี แต่หลวงปู่ก็พูดกับในหลวงว่า เอาเพียง ๙๙ ปี ก็พอเถอะ มันลำบากผู้อยู่ แล้วก็ได้ ๙๙ ปี ตามที่ว่าเอาไว้จริงๆ อันนี้คือพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามธรรมวินัยของพระพุทธศาสนาแท้จริง ขอให้พวกเราทุกๆ คน จงนำเอาเป็นตัวอย่างของหลวงปู่แหวนนี้ ไว้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ศาสนาของเราจะได้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

ที่มา คัดบางตอนมาจาก : หนังสือชีวประวัติหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต
แก้ไขล่าสุดโดย Namfar เมื่อ อาทิตย์ 14 พ.ค. 2017 10:00 pm, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
Namfar
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 499
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 20 พ.ย. 2013 5:56 pm

Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » ศุกร์ 30 ต.ค. 2015 5:05 pm

ปาฏิหารย์หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ


ziy.1.jpg
ziy.1.jpg (21.32 KiB) เปิดดู 10858 ครั้ง



หลวงปู่แหวน ท่านท่องเที่ยวธุดงค์อยู่ตามป่าเขาลำเนาไพรอยู่นานกว่า ๕๐ ปีประชาชนทั่วไปจึงไม่รู้จักท่าน เพิ่งจะมาได้ข่าวคราวและรู้จักหลวงปู่ ก็ประมาณปลายปี ๒๕๑๖ เมื่อหนังสือพิมพ์นำประวัติและเรื่องราวอภินิหารต่างๆ ของหลวงปู่มาเผยแพร่

ในหนังสือ พระธาตุปาฎิหาริย์ ของนิตยสารโลกทิพย์ ได้นำลงเรื่องคำบอกเล่าของ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี เกี่ยวกับเรื่องราวของหลวงปู่แหวน ตอนที่ท่านเริ่มดัง

" หลวงพ่อฤาษี เล่าว่า มีทหารอากาศ ขับเครื่องบินเหาะข้ามวัดดอยแม่ปั๋งไป นักบิน คนนั้นตกใจจนหูตาเหลือก เพราะพบหลวงปู่ผู้เฒ่านั่งอยู่บนก้อนเมฆขวางทางบินอยู่ ต้องรีบบังคับเครื่องหลบ ตาลีตาเหลือก ขาบินกลับก็พบหลวงปู่องค์เดิมอยู่บนก้อนเมฆอีก

เมื่อนำเครื่องบินร่อนลงสนามแล้ว นักบินนายนั้นได้ไปกราบนมัสการ เจ้าคณะเชียงใหม่ เรียนถามว่า ที่เชียงใหม่มีพระองค์ไหนดีบ้าง ที่มีปาฎิหาริย์พิเศษ

เจ้าคณะจังหวัดบอกว่า เห็นมีอยู่องค์หนึ่ง คือหลวงปู่แหวนวัดดอยแม่ปั๋ง หรือดอยสีม่วง (ปั๋ง ภาษาเหนือแปลว่า สีม่วง) เพื่อที่จะพิสูจน์ดูให้เห็นกับตา เมื่อไปถึงวัดก็พบว่า มีผู้คนมากมาย จากทั่วสารทิศ มารอพบหลวงปู่แหวน เต็มวัดไปหมด

ปกติหลวงปู่แหวน ไม่ยอมออกมาพบปะผู้ใดง่ายๆ แม้แต่งานฉลองอายุครบรอบของท่าน ที่คณะศิษย์ยานุศิษย์ตลอดจนผู้ที่เคารพเลื่อมใส จากทั่วทุกสารทิศ หลั่งไหลไปจัดงานขึ้น ผู้คนแน่นวัด มืดฟ้ามัวดิน รถราจอดเต็มดอยไปหมด หลวงปู่แหวนก็ไม่ยอมออกมาจากห้องให้สรงน้ำ หรือให้กราบสักการะ แจกของชำร่วย อย่างงานวันเกิดของพระเถระอื่นๆ

หลวงปู่แหวนยังคงเก็บตัวอยู่แต่ในห้องและหนีคนตามอุปนิสัยแต่เดิมของท่าน ท่านจะออกมาจากห้องเป็นปกติ ก็เฉพาะเวลาฉันเช้า และเจริญพระพุทธมนต์ตอนค่ำเท่านั้น

ทหารอากาศนายคนนี้ไปตอนเช้า พอได้เวลาหลวงปู่แหวน ออกจากห้องมาฉันอาหารเช้า ก็จ้องมองด้วยความตะลึง จำได้ทันทีว่า พระผู้เฒ่าองค์นี้จริงๆ ที่เขาพบบนก้อนเมฆขณะขับ เครื่องบินผ่านดอยแม่ปั๋งไป

เขาจึงแหวกผู้คนเช้าไปกราบนมัสการแทบเท้าหลวงปู่แหวน ด้วยความเคารพเลื่อมใส อย่างสูงสุด น้ำตาไหล ปลาบปลื้มใจ ตื้นตันใจ ที่ตนได้มีบุญได้พบเห็นตัวจริงของหลวงปู่แหวน

ที่มา คำบอกเล่าของ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ในหนังสือ พระธาตุปาฎิหาริย์ ของนิตยสารโลกทิพย์
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ร้อยเรื่องเมืองล้านนา

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 62 ท่าน

cron