Re: หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
เมื่อ: ศุกร์ 30 ต.ค. 2015 4:40 pm
ขอขอบพระคุณผู้จัดทำสารคดีชุดนี้ที่ได้นำมาเผยแพร่ให้ได้รับชมกันค่ะ
สารคดีชีวประวัติหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ พระอริยสงฆ์แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ พระสงฆ์องค์แรกในประเทศไทยที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงส่ง และนอกจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระบรมราชินีนาถแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ได้ทรงพระกรุณา เสด็จเยี่ยมหลวงปู่อยู่เนืองๆ
นับแต่โบราณกาลมาจนถึงยุคปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า ยังไม่มีพระคณาจารย์รูปใดที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เท่าหลวงปู่แหวน ในระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ในหลวงท่านเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแต่ละครั้ง ตั้งแต่บ่ายสองโมง จนถึงหนึ่งทุ่มสองทุ่มเป็นประจำ การเสด็จมาวัดดอยแม่ปั๋งแต่ละครั้ง ถือเป็นการส่วนตัวพระองค์เอง
นอกเหนือจากการเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดดอยแม่ปั๋ง เพื่อนมัสการและสนทนาธรรม กับหลวงปู่หลายครั้งหลายครา แล้วยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จัดสร้างสิ่งมงคล โดยใช้รูปของหลวงปู่ นำมาแจกในพระราชพิธีสำคัญ
ข้าราชบริพารผู้หนึ่ง ได้เปิดเผยถึงหลวงปู่กับล้นเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ภายหลังจากที่ข่าวพระองค์ทรงประชวรและประทับที่เชียงใหม่แล้ว หลังจากนั้น ก็เสด็จดอยแม่ปั๋ง หลวงปู่แหวนได้กราบบังคมทูลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตอนหนึ่งว่า
" พระองค์นั้นมัวแต่ห่วงคนอื่น ไม่ห่วงพระองค์เองเลย"
เมื่อได้ฟังหลวงปู่กล่าวเช่นนั้น ล้นเกล้าฯ ทรงพระสรวลด้วยความพอพระทัย
มีข่าวอีกครั้งหนึ่งว่า สมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวรและประทับรักษาพระองค์ที่เชียงใหม่นั้น ข้าราชบริพาร ได้นำเฮลิคอบเตอร์มานิมนต์หลวงปู่ให้ไปที่พระตำหนักเพื่อแผ่พลังจิต ช่วยรักษาอาการประชวรของพระองค์ท่าน
หลวงปู่ท่านปฎิเสธการนิมนต์ และได้บอกว่า “อยู่ที่ไหน ฮาก็ส่งใจไปถึงพระองค์ได้ ก็ส่งไป ทุกวันอยู่แล้ว”
หลวง ปู่แหวน ท่านตั้งสัจจธิษฐานว่า แม้ท่านจะเจ็บป่วยก็ไม่ยอมไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ในช่วงท้ายของชีวิต เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอาราธนา ท่านจึงยอมทำตาม และบอกว่า ในฐานะประชาชน หลวงปู่จึงไม่กล้าขัดพระราชประสงค์ได้
ต่อมาเมื่อหลวงปู่แหวนอาพาธหนัก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้อาราธนาให้ หลวงปู่แหวนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ ตึกสุจิณฺโณ ในหลวงท่านได้รับเอาหลวงปู่ไว้เป็นคนไข้ของพระองค์เอง จนในวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ หลวงปู่แหวนท่านก็ได้ละขันธ์อย่างสงบนิ่ง ในเวลา ๒๑.๕๓ น.
ข่าวการมรณภาพของหลวงปู่แหวน ซึ่งตรงกับวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๘ ก็ได้ทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราและพระบรมราชินีนาถ เหมือนกับว่าดินฟ้าถล่มไปทั่วเมืองไทย ในหลวงก็ได้พระราชทานโกศหลวง และรดน้ำอาบศพ ที่สถานพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้นก็ได้มี บุคคลทั่วทิศานุทิศ ไปเคารพศพหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็ได้นำศพของหลวงปู่แหวนมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดดอยแม่ปั๋ง ตามเดิม
สิริอายุหลวงปู่แหวนได้ ๙๙ ปี ในหลวงท่านขออายุหลวงปู่แหวนให้ได้ ๑๒๐ ปี แต่หลวงปู่ก็พูดกับในหลวงว่า เอาเพียง ๙๙ ปี ก็พอเถอะ มันลำบากผู้อยู่ แล้วก็ได้ ๙๙ ปี ตามที่ว่าเอาไว้จริงๆ อันนี้คือพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามธรรมวินัยของพระพุทธศาสนาแท้จริง ขอให้พวกเราทุกๆ คน จงนำเอาเป็นตัวอย่างของหลวงปู่แหวนนี้ ไว้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ศาสนาของเราจะได้เจริญรุ่งเรืองสืบไป
ที่มา คัดบางตอนมาจาก : หนังสือชีวประวัติหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต