อาคารเรียนหลังแรกของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (วิทยาลัยครูเชียงใหม่) ขณะนั้นใช้ชื่อ "โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมประจำมณฑลพายัพ" มีลักษณะเป็นเรือนไม้ไผ่ ถ่าย พ.ศ.๒๔๖๗ ซึ่งเป็นปีที่ก่อตั้งสถาบัน
- 40329.jpg (56.22 KiB) เปิดดู 5404 ครั้ง
- 40331.jpg (18.95 KiB) เปิดดู 5404 ครั้ง
ดร. ริชาร์ดสัน เข้าเฝ้าเจ้าหลวงเเผ่นดินเย็น ณ คุ้มหลวงเมืองเชียงใหม่
" เช้าวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๓๗๗ นายทหารจากราชสำนักเชียงใหม่ และคนกลุ่มหนึ่งถือถาดเงินมา สำหรับวางจดหมายของผู้ว่าราชการจังหวัดตะนาวศรี พร้อมนำทางข้าพเจ้าไปเข้าเฝ้าเจ้าหลวง (พระยาพุทธวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๔ -ผู้แปล)
คณะผู้เดินนำหน้าและตามหลังมีจำนวน ๔๐ คน ล้วนนุ่งผ้านุ่งสีสันสดใสมาก ทหาร ๑๓ นายถือปืนคาบศิลา เมื่อมาถึง ข้าพเจ้าไม่เห็นปะรำต้อนรับ แต่เข้าไปในเรือน (หรือ คุ้ม) เจ้าราชบุตร (หนานธนัญไชย?) เจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงและเจ้านายอื่นๆ เดินออกมารับ
พนักงานถือจดหมายของผู้ว่าราชการจังหวัดตะนาวศรีนำหน้า (ส่วนของถวายนั้นให้หยุดรออยู่ที่หน้าประตูเรือน ) ข้าพเจ้าโค้งคำนับแล้วไปนั่งทางขวามือของเจ้าหลวง
พระองค์ประทับบนยาซะปะหล่างหรือบัลลังก์ทอง สูง ๒.๕ หรือ ๓ ฟุต บรรดาเจ้านายคนอื่นนั่งบนพื้นปูพรมข้างหน้า อิงหมอนผาที่หน้าหมอนปักดิ้นเงินและดิ้นทอง เมื่อเรานั่งกันเรียบร้อยแล้ว คนก็ยกของถวายมาตั้งเบื้องหน้า
พระองค์ถามคำถามทั่วไป เกี่ยวกับกษัตริย์แห่งอังกฤษ ,ผู้สำเร็จราชการ ระยะเวลาในการเดินทาง และความยากลำบากต่างๆ จากนั้นกล่าวถึงโอรส และนัดดาของพระองค์ที่เสียชีวิตไปแล้วด้วยความอาลัย สุดท้ายจึงกล่าวถึงมิตรไมตรีที่มีต่อเรา
ที่จริงไม่มีสิ่งใดเป็นมิตรไมตรีและอบอุ่นเท่ากับการต้อนรับเราอีกแล้ว บรรยากาศดูจริงใจมาก ถึงแม้ประชวรก็ยังออกมาพบ พระองค์ผ่ายผอมและดูอ่อนเเอมาก
ข้าพเจ้านั่งหน้าประตูที่เข้าคุ้มชั้นใน ซึ่งบรรดาผู้หญิงและเด็ก ทยอยยกผลไม้มาเลี้ยง คราวนี้ไม่มีฟ้อนรำเหมือนเมื่อมาเยือนครั้งแรก แต่ช่างซอผู้ชาย ๑ คนและผู้หญิง ๒ คน ขับซออยู่ที่ห้องชั้นใน
บทซอพรรณนาถึงประวัติ ๗ พี่น้อง ซึ่งพี่ชายคนใหญ่ชื่อ กาวิละ เป็นผู้ฟื้นม่าน ขับไล่พม่าได้เมื่อ ๖๐ ปีก่อน จากนั้นจึงซอถึงการกวาดต้อนผู้คนมาจากเมืองเชียงแสน เชียงตุงและเมืองยอง
เสียงของช่างซอนั้นอ่อนหวานไพเราะกว่านักร้องทุกคนที่ได้ยินมาจากดินแดนตะวันตก ผ่านไป ๔๐ นาที พระองค์จึงลุกออกไป พระบาทบวม ขณะเดินเข้าประตูก็ซวนเซจวนล้ม เมื่อสนทนากับบรรดาเจ้านายสักครู่หนึ่ง จึงลากลับและตั้งใจไปพบเจ้าหอหน้าเมืองเชียงใหม่ ในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อเจรจาธุรกิจ
คุ้มหรือหอคำเมืองเชียงใหม่ตั้งอยู่เกือบใจกลางเมือง มีรั้วเพนียดล้อมรอบและมีสวนหรือลานกว้างล้อมรอบอีกชั้น
ห้องโถงไม้ที่รับรองเรานั้น ยาว ๖๐ ฟุต กว้าง ๓๐ ฟุต เครื่องเรือนมีโคมจีนห้อยเพดานสามดวง เครื่องประดับจิปาถะจากจีน กระจกเงาจากอินเดีย และตะเกียงจีน บ้างเป็นแก้วและกระดาษ ภาพวาดพระเจดีย์แห่งย่างกุ้ง ภาพวาดเทพเจ้าจีน และภาพเหมือนบุคคลที่คล้ายคลึงกับเชื้อพระวงศ์อังกฤษ
ของประดับตกแต่งที่มีค่ามากที่สุดคือปืนคาบศิลาที่ข้าพเจ้าเห็นตั้งแต่ครั้งก่อน ดาบสั้นดาบยาวเหมือนของจีนหุ้มเงิน ส่วนเศวตฉัตรนั้นยังมิได้กางออก
บนพื้นหน้าบัลลังก์ลาดพรมและตั้งหมอนอิงสำหรับบรรดาเจ้านายน้อยใหญ่ ซึ่งเข้าเฝ้าได้ ด้วยท่าทีสง่างามสมชาย มากกว่าเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่กรุงเทพฯ ฯลฯ
สุทธิศักดิ์ ถอดความ
Journal of the Asiatic Society of Bengal.1836