และแล้วในเดือนกรกฎาคม เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในเมืองลาว เจ้าหลวงเมืองละคอร ออกคำสั่งจับตัวเงี้ยว ๕ คน พวกเขาถูกจับ นำตัวมาสอบสวน และรับสารภาพซัดทอดไปถึงเงี้ยวหลายคน ซึ่งทำงานในเหมืองอัญมณีที่เมืองลอง เจ้าหลวงสั่งให้จับตัวพวกเขาทันที แต่เมื่อไปถึง ชาวเงี้ยวขัดขืน ต่อต้านทหาร ทหารสู้ไม่ได้จึงหนีกลับละคอร จับผู้ร้ายไม่ได้สักคนเดียว
- 96058.jpg (43.14 KiB) เปิดดู 5616 ครั้ง
ชาวเงี้ยวได้รับชัยชนะ จึงลำพองใจ ยกพลไปเมืองแพร่ ที่อยู่ใกล้เหมืองนั้น พวกเขาเข่นฆ่าคนสยามจำนวนมาก ปล้นสะดม ยึดทรัพย์เจ้าหลวง และปกครองเมืองแพร่อยู่ระยะเวลาหนึ่ง อีกทั้งบังคับเจ้าหลวงเมืองแพร่ให้เข้าร่วมก่อจลาจลในครั้งนี้ด้วย
เงี้ยวประกาศให้ผู้เผยแผ่ศาสนาชาวอมริกัน ชาวตะวันตกและชาวลาวพื้นเมืองรู้ว่า ตราบใดที่ไม่ช่วยเหลือคนสยาม ทรัพย์สมบัติพวกเขาจะปลอดภัย และจะมีชีวิตอยู่ หากไม่ต่อต้านเงี้ยว
คนบาดเจ็บจากการสู้รบหลายคน อยู่ในความดูแลของคุณหมอ เจ เอส โธมัส ผู้เผยแผ่ศาสนาและผู้เชี่ยวชาญการแพทย์คนอเมริกัน
ไม่นานนัก ข่าวก็ไปถึงเมืองละคอร และตลอดทั้งหัวเมืองลาว ทั่วทั้งเมืองตกตะลึง ไม่คิดว่าคนเงี้ยวหรือไทใหญ่ผู้อ่อนน้อม จะก่อจลาจลขึ้นมาในบัดดล ทุกฝ่ายเตรียมสู้รบและรับมืออย่างทันที เพราะคิดว่าอาจถูกโจมตีได้ทุกเมื่อ
คุ้มเจ้าหลวงและคลังเก็บสมบัติ ก็จัดเวรยามดูแลอย่างใกล้ชิด ชาวตะวันตกรวบรวมผู้คนและเก็บทรัพย์สิน มาอยู่รวมกันในที่โล่ง ก่อกำแพงดินและปักรั้วไม้ล้อมรอบ เวลาตัดสินใจมีน้อยเต็มที
ไม่นานนักเงี้ยวก็เดินทางเข้าเมืองละคอร แต่ต้องพบกับร้อยเอก ฮันเซน นายทหารประจำกองทัพสยาม ซึ่งขับไล่ทัพเงี้ยวออกไปได้ ทั้งที่ตนเองก็มีกองกำลังน้อย
เงี้ยวผิดหวังและคับแค้นใจมาก สาบานว่า ต้องมาตีเมืองละคอรให้แตกจงได้ บรรดาผู้เผยแผ่ศาสนาผู้หญิงอยากอยู่ต่อ แต่บรรดาสหายผู้ชายหรือสามีต่างเกรงเงี้ยวจะกลับมาอีกครั้ง จึงยืนยันให้หนีออกจากเมืองไปทันที บางคนนั่งเรือหนี บางคนเดินทางไกล ๓๐ ไมล์ ไปสถานที่ปลอดภัย
เจ้าหลวงเกรงภัยจะมาถึงคนในครอบครัว จึงพาหนีไปเชียงใหม่ที่ซึ่งคิดว่าจะปลอดภัย โชคไม่ดี ข่าวการหนีของเจ้าหลวงเมืองละคอรทำให้ชาวเมืองขวัญหนีดีฝ่อ อีกทั้งเกิดข่าวลือว่าเมืองละคอรใกล้แตกแล้ว ชาวเมืองชั้นล่างสุดจึงออกมาครองเมือง เข้าไปฆ่านักโทษเงี้ยวในคุก ตัดหัวไปทิ้งกลางถนนเพื่อข่มขวัญ เที่ยวปล้นสะดม เผาอาคารสถานที่หลายแห่ง ซึ่งหาข้อมูลไม่ได้ แต่โชคดี เจ้าหลวงกลับมา พร้อมด้วยทัพสยาม จึงควบคุมสถานการณ์ได้ภายในสองสามวัน
ขณะเกิดเหตุขึ้นที่เมืองละคอร ชาวลาวเมืองอื่นๆ ต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน ในหัวเมืองทางเหนือเกิดข่าวลือต่างๆ นานา ด้วยเงี้ยวตัดสายโทรเลข จึงสื่อสารถึงกันไม่ได้ ชาวเมืองตกใจ ต่างก็พูดกันไปว่า "ละคอรแตกแล้ว" ตอนนี้เงี้ยวจำนวนมากเดินทางขึ้นเหนือ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสยามเพิ่งมาใหม่ ไม่รู้จะรับมืออย่างไรดี จึงรวมตัวกันไปขอคำปรึกษาจากหมอบริกส์ ที่เมืองเชียงราย ฯลฯ
สุทธิศักดิ์ ถอดความ
Facing deadly perils in Siam
Christian herald 11 Feb 1903 , Newyork
ชาวรัฐฉานบางคนบอกว่าเงี้ยวเพี้ยนมาจาก คำว่า สยาม แต่ในหนังสือ กบฎเงี้ยว บอกว่าเป็นผู้อพยพ ที่โดนขับไล่มาจากเมืองจีน คนจีนเรียกว่า ชาน ชัน ที่แปลว่า ภูเขา แต่พม่าเรียก ฉาน เงี้ยว ไม่น่าจะเหมารวม ว่าเป็นคน ไตขืน หรือเขิน นะครับเพราะคนไต ขืน จะเรียกกลุ่มฉาน ที่อพยพเข้ามาใหม่ ว่าเงี้ยวหัวหัว จ็อก
ภาพถ่ายวิถีชีวิตของแม่ค้าหาบของขายที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ เมื่อปีพ.ศ.๒๔๗๑
- 96147.jpg (46.87 KiB) เปิดดู 5616 ครั้ง