หน้า 2 จากทั้งหมด 22

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:15 am
โดย น้ำฟ้า
ณ มุมหนึ่งของคูเมืองเจียงใหม่
428692_337191912988626_100000934611880_905715_534823160_n.jpg
428692_337191912988626_100000934611880_905715_534823160_n.jpg (46.39 KiB) เปิดดู 14001 ครั้ง

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:17 am
โดย น้ำฟ้า
สมัยก่อนหมออนามัยเปิ้นมีหน้าที่แป๋งส้วมหื้อจาวบ้านเจ้า
389931_278559608851857_1864499212_n.jpg
389931_278559608851857_1864499212_n.jpg (54.65 KiB) เปิดดู 14001 ครั้ง

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:18 am
โดย น้ำฟ้า
วัดอุปคุตม่าน(พม่า)สมัยก่อนวัดอุปคุตจะมีทั้งของไทยและพม่าเจ้า
429628_348780801829737_100000934611880_934560_224723146_n.jpg
429628_348780801829737_100000934611880_934560_224723146_n.jpg (100.75 KiB) เปิดดู 13944 ครั้ง

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:22 am
โดย น้ำฟ้า
แม่ก๊าแมขาย
432110_337190559655428_100000934611880_905709_1362098739_n.jpg
432110_337190559655428_100000934611880_905709_1362098739_n.jpg (124.65 KiB) เปิดดู 13944 ครั้ง

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:25 am
โดย น้ำฟ้า
รูปนี้น่าจะมุมสูงวัดสวนดอกเจ้า
241422114_0196.jpg
241422114_0196.jpg (82.11 KiB) เปิดดู 13966 ครั้ง

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:28 am
โดย น้ำฟ้า
1210606894.jpg
1210606894.jpg (60.61 KiB) เปิดดู 13966 ครั้ง

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:31 am
โดย น้ำฟ้า
ภาพนี้ฮู้สึกจะเป๋นเวียงกุมกามเจ้า

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:35 am
โดย น้ำฟ้า
ภาพนี้เป็นนิยามของคำว่า "แอ่ว"

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:40 am
โดย น้ำฟ้า
พิธีเปิดโรงเรียนอะไรสักอย่าง...

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: จันทร์ 09 ก.ค. 2012 6:44 am
โดย น้ำฟ้า
คาราวานงัวล้อ

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: อาทิตย์ 23 ก.ย. 2012 12:54 pm
โดย ภาษาสยาม
คอลัมน์ คนกับป่าเมืองเชียงใหม่
เรื่อง: ยามหนึ่ง อนาคาริก ภาพ: จุฑาพร อินทวงค์
คุก ภาษาคำเมืองล้านนาเรียกว่า คอก หมายถึงที่คุมขังจองจำนักโทษ ที่จำกัดอิสรภาพ สืบเนื่องจากพื้นที่ ๑๗ ไร่ ๒ งาน ๖๑ ตารางวาของคุกหญิงเชียงใหม่ อยู่ในเขตตัวเมืองเก่าเชียงใหม่ บริเวณนั้นมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง เคยเป็นที่ตั้งของคุ้มหลวง หอคำ วัด โรงช้าง โรงม้า ฉางข้าว บ้านเรือน ผ่านระยะเวลามา ๗๐๐ กว่าปี

คุ้ม ภาษาล้านนาหมายถึงที่ประทับของกษัตริย์ที่อยู่ของเจ้านาย พื้นที่คุกหญิงเชียงใหม่แต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งของคุ้มหลวงเวียงแก้ว ซึ่งมีอยู่แต่ในภาพ เชื่อกันว่าเป็นคุ้มในสมัยพระเจ้ากาวิละ(พ.ศ ๒๓๒๕-๒๓๕๘)

คุ้มหลวงกลายเป็นคุกในสมัยพระยานริศราชกิจ(สาย โชติกเสถียร) โดยครั้งแรกทำเป็นรั้วไม้สัก ปี พ.ศ .๒๔๔๕ สมัยเจ้าพระยาสุรสีห์ วิศิษฐศักดิ์(เชย กัลยาณมิตร) ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลพายัพ หลังปราบกลุ่มขบถเงี้ยว นักโทษมีจำนวนมากขึ้น จึงก่อกำแพงเป็นอิฐ พร้อมสร้างอาคารให้แข็งแรงตั้งแต่นั้นมา

สถานที่แห่งนี้ใช้เป็นคุกทั้งชายหญิงเรื่อยมา ต่อมาศูนย์ราชการเชียงใหม่ ย้ายออกไปอยู่เขตนอกเมือง คุกชายจึงย้ายออกไปด้วย คงเหลือแต่คุกหญิง กระทั่งปี ๒๕๔๔ เทศบาลนครเชียงใหม่ได้ทำหนังสือขอใช้ประโยชน์พื้นที่แห่งนั้น เพื่อปรับปรุงสภาพพื้นที่ให้เป็นสีเขียวของเมือง เป็นสถานที่สาธารณะประโยชน์ เป็นสวนสาธารณะและวัฒนธรรมของเชียงใหม่ พร้อมกับขอย้ายคุกหญิงออกไปอยู่นอกเมือง

ในปีเดียวกันนั้น กลุ่มองค์กรเอกชน ๑๒ องค์กร ก็รวมตัวกันตั้งสถาบันล้านนา และขอให้ย้ายคุกหญิงไปอยู่นอกเมือง นำพื้นที่นั้นมาทำสวนสาธารณะ

เมื่อคุกหญิงแห่งใหม่ใกล้จะเสร็จ จึงเกิดความเคลื่อนไหวในกลุ่มต่างๆ เพื่อหาทางออกกันว่า พื้นที่ทางประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น จะนำไปเกิดประโยชน์เรื่องใดได้มากที่สุด และต้องทำอย่างไรต่อไป การระดมความคิดของภาคเอกชนที่อยากเห็นพื้นที่สีเขียวกลางเมืองก็มีหลากหลาย

เพราะเป็นพื้นที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางเมือง เชื่อมโยงต่อเนื่องกับสถานที่กลุ่มอาคารเก่าแก่สำคัญอีกหลายแห่ง อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ตกทอดกันมา กลุ่มอาคาร ๖ หลังในคุก มีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปี เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งหาหาดูชมได้ยาก

ขณะเดียวกัน ก็ยังมีกลุ่มความคิดที่อยากจะเห็นคุ้มเวียงแก้ว อันเป็นเสมือนจิตวิญญาณเมือง ได้ถูกรื้อฟื้นสร้างขึ้นมาใหม่ตามแบบที่พบเห็นอยู่ในรูปถ่าย

การปรับปรุงพื้นที่ตรงนั้น ยังอยู่ในความเข้าใจของคนไม่มากนัก เมื่อต้องระดมความเห็นว่าจะจัดการกับพื้นที่ ๑๗ ไร่ ๒ งาน ๖๑ ตารางวากันอย่างไร

เพราะอดีตเคยเป็นคุ้ม และคุ้มก็กลายเป็นคุก จึงมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ บ้างก็ว่าควรทุบตึกเก่าออกไป ลบความเป็นคุกอันน่าหดหู่ออกไป สร้างคุ้มขึ้นมาใหม่ สร้างสวนสีเขียวขึ้นมาแทน บ้างก็ว่าให้เป็นพื้นที่สีเขียวทั้งหมด บ้างก็บอกเหลือตึกไว้บางส่วน นอกนั้นให้เป็นพื้นที่สีเขียวกับลานกิจกรรม สถานที่แสดงศิลปะและวัฒนธรรมของเมือง

ส่วนบางกลุ่มก็บอกว่า สถานที่เคยเป็นคุก ก็น่าจะเป็นโรงแรมแบบคุกๆหรือเปล่า หรือไม่ก็เป็นพิพิธภัณฑ์สถานจัดแสดงเกี่ยวกับคนคุก เก็บเงินกับนักท่องเที่ยวที่จะผ่านเข้าไปดู หรือไม่ก็ให้เป็นพื้นที่สวนสาธารณะ ลานแสดงดนตรี วัฒนธรรม หอศิลปะ ที่สามารถหมุนเวียนจัดงานต่อเนื่องกันได้ทั้งปี

แบบสอบถามให้เลือกจะทุบตึกทิ้งทั้งหมด หรือทุบตึกบางส่วน หรือคงสภาพเดิมไว้ ทุบกำแพงทิ้ง คงไว้บางส่วน หรือทุบกำแพงทิ้งทั้งหมด เป็นสวนต้นไม้ สนามหญ้าอย่างเดียว หรือเป็นสวนป่าไม้ยืนต้น สร้างคุ้มหลวงเก่า หรือลานกิจกรรม ที่รวมต้นไม้หายากในล้านนา

ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนระดมความเห็น ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกจากใคร กลุ่มองค์กรใด พูดง่ายๆว่ายังต้องถามประชาชนชาวเมืองกันว่า จะเอาพื้นที่กลางเมืองประกอบกิจกรรมใดที่เกิดประโยชน์สูงสุด ได้ทั้งการอนุรักษ์ ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่ดี และช่วยเติมคุณภาพชีวิต

จากคุกเป็นพื้นที่สีเขียวกลางเมือง ดูจะมีแนวโน้มไปทางนั้น เพียงแต่ว่าจะเป็นสีเขียวอย่างเดียว หรือสีเขียวผสมอาคาร ปราศจากกำแพงหรือทุบกำแพง และใครมีหน้าที่จัดการดูแลประโยชน์ให้ได้รับการจัดสรรเป็นของส่วนรวมอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม กรณีคุกเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นตัวอย่างหนึ่งสำหรับการจัดการที่สาธารณะ ให้เกิดบรรยากาศของสาธารณะชนอย่างแท้จริง ซึ่งกลุ่มใดๆจะเข้ามาตัดสินหยิบไปใช้ประโยชน์โดยไม่คิดหน้าคิดหลังก่อนไม่ได้

พื้นที่มีความเป็นมา บ้านเมืองมีศิลปวัฒนธรรม มรดกทางปัญญามีที่มา และประวัติศาสตร์ผืนดินไม่อาจบิดเบือนเป็นอื่น จะหลอมของใหม่กับของเก่าให้กลมกลืนกันไปได้ สานต่อให้ยืนยาวไปถึงลูกถึงหลานนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมองให้เห็นถึงประโยชน์ต่อชีวิต วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม

ไม่ใช่ใครหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นึกจะเนรมิตทำได้ตามใจง่ายๆ ไม่เคยถามประชาชนในพื้นที่ว่าเห็นชอบด้วยหรือไม่ บทเรียนจากการก่อสร้างสถานที่ใหญ่โตโอฬารที่ผ่านมา เพื่อดึงเม็ดเงินใส่กระเป๋าบางกลุ่มบางคนนั้น วูบวาบช่วงสั้นๆเท่านั้น นับวันจะก่อปัญหา ไม่ยืนยาวไม่ก่อประโยชน์ที่จรรโลงจิตใจ ความรู้ ความดีงาม และภูมิทัศน์ที่เสริมส่งปัญญาอย่างแท้จริง

Re: เชียงใหม่ในอดีต..ภาพเก่าเล่าความหลัง

โพสต์เมื่อ: อาทิตย์ 28 ต.ค. 2012 10:28 am
โดย ภาษาสยาม
หน้าที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มในอดีต
552169_458309280874454_626557872_n.jpg
552169_458309280874454_626557872_n.jpg (29.49 KiB) เปิดดู 13980 ครั้ง