“จั๋นต๊ะคาปู๋จี่” เรื่องนี้อุ๊ยเล่าหื้อเฮาฟัง
ยามหนาวหิงไฟ หัวใจ๋บ่หนาว หูต๋าแวววาว ถ้าฟังนิทาน
ม่วนงันสันเล้า อุ๊ยเฮาเล่าขาน ใจ๋จื้นใจ๋บาน อยู่หน้าก๋องไฟ
-------------------------------------------------------------------
- RTEmagicC_07a7e7dbc4_jpg.jpg (114.53 KiB) เปิดดู 10703 ครั้ง
ปัญญาสชาดกเรื่อง จันทคาธชาดก หรือ จันทคาปูจี่
จันธคาธชาดก ที่เป็นนิทานธรรมที่นิยมแพร่หลายทั้งในล้านนาและล้านช้าง โดยจันทคาธชาดกนี้ เป็นนิยายคติธรรมเก่าแก่อันดับที่ ๑๑ ในหนังสือ ปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค ชาวบ้านในภาคเหนือเรียกว่า ค่าวธรรม จันทคาชาดก เป็นนิทานธรรมที่สอนให้กุลบุตรและกุลธิดาเอาแบบอย่างจริยธรรมที่ดีงามเช่น การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ความกตัญญูกตเวที ความซื่อสัตย์สุจริต และความเมตตากรุณา
สุริยคราสกับจันทรคราส สองพี่น้องเกิดในครอบครัวที่ยากจนตั้งอยู่นอกเมืองจำปา มีพญาปันธุเป็นเจ้าเมือง ทั้งสองได้ช่วยงานพ่อแม่ด้วยการไปขุดปูมาทำอาหาร ความเป็นเด็กจึงไม่ได้แบ่งไว้ให้พ่อ แม่ ตอนเย็นพ่อกับแม่กลับมาจากไร่ไม่มีอาหารกิน ด้วยความโมโหจึงไล่ทั้งสองออกบ้าน
สองพี่น้องหลงอยู่ในป่า เห็นงูกับพังพอนสู้กัน แล้วผลัดกันเคี้ยวเปลือกไม้ใส่ปาก เมื่องูหรือพังพอนตาย ทำให้มันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นมันก็หายเข้าป่าไป สองพี่น้องจึงเก็บเปลือกไม้ไว้ พบฤษีนั่งบำเพ็ญตนและเห็นกานอนตายอยู่ สุริยคราสจึงลองเคี้ยวเปลือกไม้ใส่ปากของกา กาฟื้นและช่วยหาอาหาร ผลไม้ ให้กับสองพี่น้อง
เมื่ออาหารและผลไม้หมดป่า กาจึงหลอกสุริยคราสกับจันทรคราสเข้าไปในเมืองยักษ์ เพื่อเป็นอาหารในงานศพของเมียหัวหน้ายักษ์ สุริยคราสเข้าช่วยเหลือโดยเคี้ยวเปลือกไม้ใส่ปากเมียยักษ์ เมียยักษ์ฟื้นสำนึกในบุญคุณ จึงแอบพาสองพี่น้องมาที่เมืองกาสี และเศรษฐีใจบุญก็รับเลี้ยงดูสองคนนี้ไว้
พญาสุคะโต เจ้าเมืองกาสี มีธิดาชื่อนางสุจาติงสาถูกงูพิษกัดตาย สุริยคราสอาสาช่วยนางด้วยเปลือกไม้จนฟื้น พญาสุคะโต จึงยกธิดาและเมืองกาสีให้สุริยคราส ปกครองต่อจากพระองค์จันทรคราสอาศัยอยู่กับเศรษฐีและเดินทางไปค้าขายที่เมืองอินตะปะถะ มีพญาพรหมจักรเป็นเจ้าเมือง มีธิดาชื่อนางเตวธิสังกาได้ถูกเขี้ยวเสือของพระบิดาทิ่มเท้าเสียชีวิต จันทรคราสทราบข่าวจึงอาสาช่วยเหลือด้วยเปลือกไม้จนฟื้นพญาพรหมจักรได้จัดพิธีอภิเษกสมรสนางเตวธิสังกากับจันทรคราส และปกครองเมืองอินตะปะถะแทนพระองค์
จันทรคราสคิดถึงสุริยคราสจึงเดินทางไปเมืองกาสีพร้อมกับนางเตวธิสังกา ระหว่างการเดินทางเกิดพายุ เรือล่มกลางทะเล ทำให้จันทรคราสและนางเตวธิสังกา ต้องพลัดพรากจากกันนางเตวธิสังกาเดินร้องไห้เข้าในเมืองอนุปะมะ ซึ่งมีพญาสุตัสสะนะจักรเป็นเจ้าเมือง ได้พบกับยายปริสุทธิ นางพาไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน พญาสุตัสสะนะจักรทราบข่าวความงามของนางเตวธิสังกา จึงให้ขุนนางไปสู่ขอมาเป็นมเหสี ยายปริสุทธิจึงนำนางไปบวชชี
พญาสุตัสสะนะจักรผิดหวังจากนางเตวธิสังกา จึงให้ขุนนางไปสู่ขอนางพรหมจารีย์ ธิดาเจ้าเมืองอนุราธะ ทั้งสองอยู่ด้วยกันไม่นาน ทะเลาะกันบ่อย พญาสุตัสสะนะจักรโกรธสั่งให้ขุนนางนำนางพรหมจารีย์ใส่แพไปลอยน้ำ จันทรคราสเดินพลัดหลงเข้าไปในป่า เห็นครุฑจับงู ครุฑเห็นจันทรคราสก็ปล่อยงู งูตกลงมาตาย จันทรคราสรีบเคี้ยวเปลือกไม้ใส่ปากงู งูฟื้นและแปลงร่างเป็นเด็กน้อยมอบแก้ววิเศษที่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆให้ จันทรคราสเดินทางต่อไปพบกับพญาทอนที่ถูกทำร้าย นอนจมเลือดอยู่แต่เปลือกไม้ของจันทรคราสหมด พญาทอนจึงขอร้องให้จันทรคราสช่วยเผาศพพระองค์ด้วย ก่อนสิ้นใจได้มอบรองเท้าวิเศษสวมแล้วเหาะได้ และ ดาบเท้าวิเศษให้จันทรคราส
จันทรคราสเผาศพพญาทอนเรียบร้อยแล้ว สวมรองเท้าและสะพายดาบวิเศษเหาะไปหานางเตวธิสังกา ระหว่างทางได้พบกับสามพี่น้อง ชื่อ ปทุมมา ทิพย์โสดา และสุกัญทา นางทั้งสามเป็นลูกสาวเศรษฐีเมืองสังกัสสะนคร จันทรคราสจึงอาสานำสามพี่น้องไปส่งให้เศรษฐี
จันทรคราสเหาะมาถึงแม่น้ำจิระวดี ได้พบกับนางพรหมจารีย์ที่ถูกพญาสุตัสสะนะจักรพระสวามี สั่งให้ใส่แพลอยน้ำ ด้วยความสงสารจันทรคราสจึงได้พานางไปส่งที่เมืองอนุราธะ นางสุละโยธาแม่เลี้ยงของนางพรหมจารีย์จึงได้ถ่ายทอดวิชาอาคม คือเสกใบไม้ให้เป็นคน และเสกน้ำในมหาสมุทรท่วมเมืองได้ให้กับจันทรคราส
จันทรคราสเดินทางมาถึงเมืองอนุปะมะสอบถามผู้คนในเมืองนั้นไปหายายปริสุทธิ นางเตวธิสังกาทราบข่าวจึงขอลาสิกขากับอาจารย์ ด้วยความรักและพลัดพรากจากกันนาน เมื่อทั้งสองพบกัน ยายปริสุทธิจึงได้ผูกข้อมือให้อีกครั้งหนึ่ง พญาสุตัสสะนะจักรยังไม่เลิกรุกรานนางพรหมจารีย์ นางสุละโยธาแม่เลี้ยงนางพรหมจารีย์จึงยกทัพเข้าบุกตีเมืองอนุปะมะ และขอให้จันทรคราสช่วยออกรบในครั้งนี้ด้วย นางพรหมจารีย์สั่งทหารยิงปืนใหญ่ถล่มกำแพงเมืองจนพังทลาย แล้วสั่งให้ทหารนำพญาสุตัสสะนะจักรไปประหารชีวิต เมื่อเสร็จศึกนางจึงยกเมืองอนุปะมะให้จันทรคราสกับนางเตวธิสังกาปกครอง
เกิดศึกสงครามที่เมืองกันทะรัฐใกล้เมืองอนุปะมะ จันทรคราสช่วยออกรบและได้นางอุตตะมะธานีธิดาเจ้าเมืองกันทะรัฐเป็นมเหสีมีพระโอรสด้วยกันชื่อ ทุกขัติยะวงศา เมื่อศึกสงครามเสร็จสิ้นพระโอรสเติบโตเป็นหนุ่ม จันทรคราสจึงยกเมืองอนุปะมะให้ปกครอง ส่วนจันทรคราสกับนางเตวธิสังกากลับไปปกครองเมืองอินตะปะถะด้วยความสุข
ที่มา sawaan lanna