พาทัวร์โรงพยาบาลในเครือคริสเตียนภาคเหนือ
- 155956.jpg (47.81 KiB) เปิดดู 8724 ครั้ง
โรงพยาบาลโอเวอร์บรู๊ค เชียงราย เป็นสถานที่ทำงานแรกหลังแต่งงาน โต๊ะที่เรารับประทานอาหารก็อยู่ในครัวนั่นแหละ โต๊ะ เก้าอี้ คือ โลงเก่าๆที่ใช้กับทหาร พวกเราก็รับประทานอย่างสนิทใจ แม่ครัวมาทำงานตั้งแต่ตีห้าก็ไม่มีใครกลัว บ้านพักผู้อำนวยการ คือ ตึกที่สวยและสง่าที่สุดหลังหนึ่งอยู่ติดแม่น้ำกก (จึงมีชื่อ Overbrook )
เรามีคนสวนซึ่งเป็นกุ๊กของหมอบริกส์ นานๆเราก็จะขอให้เขามาทำอาหารฝรั่งให้รับประทาน มีอยู่ครั้งหนึ่งอยากกินขนมคัสตาร์ตน้ำตาลไหม้ ออกเสียงไป เขาว่าไม่เคยทำ ต้องออกเสียงฝรั่งแบบเต็มยศถึงได้กิน (คุณแม่เราทำขนมคัสตาร์ตบ่อยมากค่ะ)
กิจการของโรงพยาบาลเป็นไปด้วยดี บังเอิญคุณหมอเสม พริ้งพวงแก้ว ซึ่งอยู่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ไปศึกษาเพิ่มเติมที่อเมริกา หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ เริ่มตื่นตัวกับสถานพยาบาลสมัยใหม่ โรงพยาบาลต่างจังหวัดสมัยนั้นหมอต้องรักษาโรคได้ทุกโรค ตั้งแต่ทางยาไปจนถึงผ่าตัด
เป็นช่างไฟฟ้า ช่างก่อสร้าง อยู่ในตัว ต่างกับสมัยนี้ที่เป็นหมอเฉพาะทาง
โรงพยาบาลโอเวอร์บรู๊คเป็นโรงพยาบาลขนาด ๓๐ เตียงแต่บางทีต้องเพิ่มเตียง OPD เปิดตั้งแต่ ๐๘.๐๐ น. ที่โรงพยาบาลจะมีหอระฆังเสียงกังวานตีเตือนตั้งแต่ ๗ โมง เพื่อให้ชาวบ้านและพนักงานเตรียมตัว ก่อนเริ่มทำงานทุกคนจะร่วมนมัสการพระเจ้า คุณหมอบริกส์วางรากฐานไว้ดี คนเก่าที่เคยทำงานกับหมอบริกส์มีระเบียบวินัยมาก โรงพยาบาลนี้ไม่มีรถไปรับคนไข้จากต่างอำเภอไกลๆ ต้องยืมรถจากอาจารย์ทาวาเย่ซึ่งท่านใช้ประกาศศาสนา วันอาทิตย์จะเดินไปโบสถ์
- 155958.jpg (37.06 KiB) เปิดดู 8724 ครั้ง
โรงเรียนของสภาคริสตจักรอยู่ไม่ไกลโรงพยาบาลเป็นสหศึกษา การสอนอยู่ในเกณฑ์ดี คุณหมอรัศมี ทำงานอยู่ที่เชียงรายเกือบ ๒ ปี เกิดกบฏก๊กมินตั๋งเข้ามาที่อำเภอรอบนอกของเชียงราย ดิฉันเป็นโรคกลัวสงครามจึงขอย้ายไปลำปาง ขณะนั้นมี คุณหมอตวงคำ สุริยะคำ แต่ท่านมีโรงพยาบาลส่วนตัวไม่ได้อยู่ประจำที่แวนแซนวูร์ด คุณหมอรัศมีจึงขอย้ายไปเป็นผู้อำนวยการที่นั่น เราย้ายมาลำปางร่วม ๑๗ ปี
โรงพยาบาลแวนแซนด์วูร์ดเป็นตึกใหญ่กว้างขวาง เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ เสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายเหนือได้เสด็จเยี่ยมเยือนที่นี่พร้อมพระราชทานตู้ยาและอุปกรณ์บางอย่าง เมื่อพวกเรามาประจำสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีได้เสด็จมา เพราะเคยเสด็จมาแล้วครั้งหนึ่งพร้อมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ พระองค์พระราชทานเงิน ๒,๐๐๐ บาทแก่โรงพยาบาล ที่โรงพยาบาลแวนแซนด์วูร์ด มี corner stone เป็นกล่องแคร็กเกอร์บรรจุรูปและเอกสารประวัติบัดกรีปิดสนิทใส่ลงไปในกล่องทองเหลืองอีกที แล้วเทซีเมนต์ปิด
ทางภาคเหนือมีโรงพยาบาลที่ก่อตั้งโดยมิชชันนารีหลายแห่ง เชียงใหม่ชื่อแมคคอร์มิค ลำปาง แวนแซนด์วูร์ด เชียงรายโอเวอร์บรู๊ค แพร่คริสเตียน น่านคริสเตียน มิชชันนารีที่มาทำงานท่านมีความเสียสละจริงๆ จากการปลูกฝี แจกยาควินินรักษามาเลเรีย และให้การศึกษา
Dr.E C Cort เคยเล่าว่า ตอนที่ท่านนั่งเรือมาจากกรุงเทพฯ ครั้งแรก พอมาถึงระแหงท่านเห็นชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่งแก้มบวม ท่านเลยสั่งให้เตรียมมีดผ่าตัดเพื่อผ่าฝีที่แก้ม พอให้เขาอ้าปาก ปรากฏว่าไม่ได้เป็นฝี แต่อมเมี่ยงจนแก้มตุ่ย
หมอคอร์ตเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี พอเห็นคนไข้ที่เคยมาแล้วก็จะทักทายทันที ทำให้คนรู้สึกเป็นกันเอง ไม่กลัวหมอ ท่านมีความคุ้นเคยกับสมเด็จพระราชบิดา (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกใน รัชกาลที่ ๘ และ ๙) ถึงกับเสด็จมาทรงงานระยะหนึ่ง) แม่เล่าว่าตอนที่เป็นนักเรียนพยาบาล สมเด็จพระราชบิดาเป็นแพทย์จริงๆ
มีการตรวจ lab จากนักเรียนพยาบาล เป็นการตรวจอุจาระหาไข่พยาธิ แน่ละ แม่ก็ต้องโดนด้วย บางครั้งท่านมากรุงเทพฯ และให้คำแนะนำการรักษามาเลเรียด้วยการกินยาควินิน เพราะทางกรุงเทพไม่ค่อยมีใครเป็นไม่เหมือนเมืองเหนือที่เป็นกันมาก
พวกมิชชันนารีมักเดินทางมาทางเรือ ถ้ามาลำปางต้องขึ้นที่ท่าตลาดจีน (กาดกองต้าปัจจุบัน) ดังนั้นครอบครัวคนจีนจะอยู่แถวนั้นและทำการค้าขาย แหม่มแฮนนาซึ่งเป็นมิชชันนารีคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ครอบครัวเธอมาถึงจะอาศัยต้นมะขามใหญ่เป็นที่พักพิง แล้วมาสร้างบ้านทีหลัง หลังจากที่เธอกลับมาเยี่ยมลำปางอีกครั้ง เธอเล่าให้ฟังและขอเด็กๆที่ข้าพเจ้ารับเลี้ยงไปยืนรอบๆต้นไม้นี้ได้ถึง ๑๒ คน เธอเป็นคนที่ชอบต้นไม้สวยๆ เวลาไปต่างประเทศมักจะเก็บเมล็ดดอกไม้ติดมือมาปลูกที่ลำปาง
- 155957.jpg (26.88 KiB) เปิดดู 8724 ครั้ง
แถมท้ายเรื่องโรงเรียนคริสเตียนที่ลำปาง โรงเรียนเคนเน็ต แมคเคนวี เป็นโรงเรียนชายล้วน ส่วนวิชชานารีเป็นโรงเรียนหญิงล้วน แหม่มลูซี่ สตาลิงค์ ท่านรักเมืองลำปางมาก ท่านรับเด็กชายหญิงมาเลี้ยงและให้การศึกษาจนบางคนจบมหาวิทยาลัย นักเรียนเก่าที่ผ่านมามีชื่อเสียงหลายท่าน เช่นคุณนวลจันทร์ ธนะรัชต์ , ท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจร , คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร (ส่วนแม่นกแก้วจบป. ๖ ค่ะ)
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทหารอเมริกันมาบอมบ์ทางภาคเหนือ แหม่มสตาลิงค์ซึ่งเป็นคนอเมริกันได้เข้าประชุมเกี้ยวกับสงคราม เมื่อทราบว่าเครื่องบินจะมาบอมบ์สะพานรัษฎา ท่านจึงขอร้องว่าอย่าบอมบ์เลย เพราะมีโรงเรียนวิชชานารี และโรงพยาบาลแวนแซนด์วูร์อยู่บนถนนสายนั้น จึงรอดมาได้
อ้างอิง: จากบันทึกของคุณอัมพร สุทธิคำ โดย แม่นกแก้ว เรียบเรียง