วัดวังสิงห์คำ ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง เชียงใหม่
- f.jpg (114.54 KiB) เปิดดู 5885 ครั้ง
ในอดีตนั้นฝั่งตะวันออกลำน้ำปิงจะมีวัดร้างวังสิงห์คำ โรงเรียนชายวังสิงห์คำ และท่าน้ำวังสิงห์คำ(ใกล้ๆวัดศรีโขง) ในฝั่งตะวันตกก็มีการใช้ชื่อ วังสิงห์คำ เช่นเดียวกัน "วัดวังสิงห์คำ" ตำบลป่าแดด นั่นเอง
วัดวังสิงห์คำนี้แต่เดิมตั้งอยู่ ณ ที่ดินแปลงที่โรงเรียนวัดวังสิงห์คำตั้งอยู่ในปัจจุบันนี้ แต่เนื่องจากว่า อยู่ห่างไกลจากถนนและแม่น้ำ ไม่สะดวกแก่การคมนาคม ซึ่งในสมัยก่อนจะใช้การคมนาคมทางน้ำเป็นส่วนมาก ดังนั้นชาวบ้านจึงได้ย้ายวัดมาสร้าง ณ ที่ตั้งอยู่ในปัจจุบันนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ โดยมี ท้าวคำวงศ์ษา เป็นผู้มอบถวายที่ดินให้สร้างวัดที่ใช้ชื่อว่า วัดวังสิงห์คำ
ตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา แต่เดิมริมฝั่งน้ำบริเวณตรงที่ต้นจามจุรีมีพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นพุทธรูปทองคำประดิษฐานอยู่ พระพุทธรูปองค์นี้ได้แสดงอภินิหาร ติดเบ็ด ติดอวน ติดแหของชาวบ้านเมื่อมาถึงท่าน้ำหน้าวัดอยู่บ่อยครั้ง ชาวบ้านจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัด พอตกกลางคืนพระพุทธรูปองค์ก็แสดงอภินิหารกลับลงไปในแม่น้ำปิงตามเดิม และได้แสดงอภินิหารติดเบ็ด ติดอวนของชาวประมงสลับไปมา ปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ได้สาปสูญไป เข้าใจว่าคงจะประดิษฐานอยู่ในแม่น้ำปิงดังเดิม
ขอบคุณเจ้าของภาพ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
หนังสือพิมพ์สิริกิตติศัพท์ หนังสือพิมพ์ฉบับแรกในเชียงใหม่ จัดพิมพ์โดยคณะอเมริกัน เพรสไบทีเรียน มิชชั่น มิชชั่นลาว สถานีเชียงใหม่ ตามหน้าปกบรรยายว่า:
Sirikittisap คือรวมข่าวแลเรื่องต่างๆ (Lao Christian Newspaper and Sunday School Lessons)
- 126120_resize.jpg (140.94 KiB) เปิดดู 5874 ครั้ง
กำหนดออก- รายเดือน (ที่หอจดหมายเหตุ มหาวิทยาลัยพายัพมีตั้งแต่ปี 1906-1926)
ผู้จัดพิมพ์ - American Presbyterian Mission Press หรือโรงพิมพ์วังสิงห์คำ โดยมีบรรณาธิการหลายท่าน แต่ที่ปรากฏมากที่สุดคือนาง Laura B. McKean (ภรรยา นพ.แมคเคน)
ประวัติ - พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกในปี 1903 เป็นภาษาล้านนาเขียนโดยมิชชันนารีและครูชาวล้านนา ต่อมาจึงมีผู้เขียนจากส่วนกลางมาร่วมด้วย และเริ่มมีเนื้อหาภาษาสยามมาแทรก (พบเป็นครั้งแรกในฉบับเดือนมกราคม 1917) เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายการรวมประเทศเข้าส่วนกลาง
เนื้อหา - เป็นหนังสือรวมข่าวจากคริสตจักร ข่าวทั่วไปทั้งในประเทศ (เช่น ข่าวการสร้างทางรถไฟสายเหนือ) และข่าวต่างประเทศ (เช่น ข่าวสงครามโลกครั้งที่ 1 และในฉบับตามรูปเป็นรายงานการสำรวจขั้วโลกใต้) มีบทความที่ให้ความรู้ในด้านต่างๆ คำสอนทั้งของคริสตศาสนาและคำสอนแบบล้านนา มีนิทานและบทกวี มึภาพประกอบบ้างเล็กน้อย (คงจะพิมพ์ยาก) ท้ายเล่มเป็นบทเรียนรวีวารศึกษา สัปดาห์ละ 1 บทเรียน (เรื่องซกูลซะบาโต หรือ Sabbath School) มีขนาดประมาณ 36-44 หน้า
ผู้เขียนบทความ- นางแมคเคน บรรณาธิการ ครูคำอ้าย ไชยวัณณ์ ครูสีโหม้ วิชัย (สองท่านนี้เป็นครูโรงเรียนฝึกหัดพระคัมภีร์และเป็นผู้เตรียมบทเรียนรวีวารศึกษาด้วย)
ภายหลังมีผู้เขียนจากส่วนกลางมาร่วมเขียน เข่น อ.บุญมาก กิตติสาร ศ.เปลื้อง สุทธิคำ (ต่อมาเป็นประธานสภาคริสตจักรในสยามคนแรก) เป็นต้น
อนึ่ง ได้เกริ่นเรื่องการใช้ภาษาสยามในหนังสิอพิมพ์ล้านนานี้มาบ้างจึงขอเพิ่มเติมว่า หลังจากรัฐบาลสยามตั้งมณฑลลาวเฉียงในปี 1893 (2436) ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในล้านนามาตามลำดับ โดยในปี 1904 มีการจัดตั้งคณะกรรมการจัดการศึกษา มณฑลพายัพ พอถึงปี 1906 รร. ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยเริ่มใช้หลักสูตรกระทรวงธรรมการและในปี 1912 มีการยกเลิกการเรียนภาษาล้านนาในโรงเรียนนี้ พอถึงปี 1918 รัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ และที่สำคัญคือในปี 1921 รัฐบาลตราพระราชบัญญัติประถมศึกษา ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับ มีข้อหนึ่งคือผู้บริหารและเจ้าของโรงเรียนต้องมีสัญชาติไทยและจบชั้นมัธยมศึกษาบริบูรณ์เท่านั้น ทำให้โรงเรียนของคณะมิชชั่นในชนบทต้องพากันปิดไป (ที่จริงรัฐบาลออกมาเพื่อบังคับโรงเรียนจีน) และในปี 1936 มีการยกเลิกการใช้ภาษาล้านนาในโรงเรียนในภาคเหนือ
ขอเท้าความถึงประวัติหนังสือพิมพ์ในภาคเหนือเล็กน้อย คือเมื่อโรงพิมพ์อุปโยคินตั้งในปี ๒๔๖๗ และโรงพิมพ์อุปติพงศ์ตั้งในปี ๒๔๖๘ แล้ว หนังสือพิมพ์ดัดจริตที่อ้างว่าเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับแรกในภาคเหนือ จะตีพิมพ์ในปี ๒๔๕๓ ได้อย่างไร
(อ้างอิงจาก บุญเสริม สาตราภัย, ผู้รวบรวม. "หนังสิอพิมพ์ในเชียงใหม่สมัยก่อน" ไทยนิวส์, 4-11 พฤศจิกายน 2520/ Herbert R. Swanson. This Seed: Missionary Printing and Literature as Agents of Change in Northern Siam 1892-1926,[1988]/Vachara Sindhuprama. "Modern Education and Socio-Cultural Change in Northern Thailand" [Ph.D Dissertation, University of Hawaii, 1988]/ ประสิทธิ์ พงศ์อุดม. คริสเตียนกับการจัดการศึกษาในประเทศไทย, ไม่ทราบปีพิมพ์)