Re: เกร็ดล้านนาและภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองเหนือ โดย น้ำฟ้า
เมื่อ: เสาร์ 16 ก.พ. 2019 9:59 pm
เรือนมิชชันนารีแพร่
ร่องรอยอดีตที่ยังคงหลงเหลืออยู่
ภาพนี้ถ่ายบริเวณหน้าบ้านพักเรือนไม้สักหลังที่ย้ายมาใหม่จากฝั่งซ้ายแม่น้ำยมของคณะมิชชันนารีแพร่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ จะเห็นว่าชาวต่างชาติกำลังเล่นกีฬา “โปโล” หน้าลานโล่งหน้าเรือนพักหลังใหญ่ที่มองเห็นอยู่ด้านหลัง
จาก The Laos News (July ๑๙๑๓, p. ๕๖-๕๗) นายแมคมัลลินได้บันทึกเหตุการณ์ในตอนนั้นไว้ในบทความ “Twenty Years after in Pre” (ยี่สิบปีให้หลังในแพร่) ดังนี้ “วันที่ ๕ พฤษภาคม (พ.ศ. ๒๔๕๖) ยี่สิบปีหลังจากที่นายแพทย์บริกส์และนางบริกส์ได้เปิดศูนย์ฯ แพร่ นายแพทย์และนาง อี.ซี. คอร์ท และนายเอ.บี. แมคมัลลิน ซึ่งเป็นมิชชั่นนารีประจำศูนย์ฯ แพร่ ได้ย้ายจากที่ตั้งเดิมที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำยมมาที่ที่ตั้งใหม่ของศูนย์ฯ ซึ่งอยู่ที่ ถ. ท่าอิฐ เชื่อมกับสถานีรถไฟซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ ๑๕ ไมล์
การย้ายครั้งนี้เป็นเรื่องจำเป็นเพราะศูนย์ฯ เก่าถูกน้ำกัดเซาะตลิ่ง ที่ตั้งศูนย์ฯ แห่งใหม่อยู่บนถนนที่มีคนสัญจรไปมามากที่สุดของจังหวัดแพร่ มุ่งไปสู่จังหวัดอุตรดิตถ์ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการขนส่งสินค้าทางเรือไปยังตอนใต้ของประเทศจีน หัวเมืองลาว และกรุงเทพฯ ที่ตั้งของศูนย์ฯ อยู่ใกล้กับตลาดที่คึกคักที่สุดของแพร่ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับการดำเนินกิจกรรมของคริสตจักร เมื่อเราซื้อที่ผืนนี้ มีอาคารไม้เก่าอยู่แล้วหลังหนึ่ง เราได้ดัดแปลงอาคารนี้เป็นโรงเรียนสตรี หอพักสำหรับนักเรียนบ้านไกลและครู ตอนนี้เราใช้อาคารนี้เป็นทั้งโบสถ์ โรงเรียน และอาคารอเนกประสงค์
สพาพของบ้านเป็นเรือนไม้สัก ใต้ถุนสูง หลังคาทรงจั่วมุงด้วยกระเบื้องว่าว ตกแต่งช่องลมประตูด้วยลายฉลุขนมปังขิง ลูกบิด กลอนประตูเป็นเหล็กหล่อมาจากยุโรป เรือนไม้หลังนี้มีขนาดใหญ่ แบ่งเป็น ๑๐ ห้อง มีห้องใต้หลังคาขนาดใหญ่สันนิษฐานว่า คงเป็นห้องนอนของลูกๆ มีหน้าต่างบานสูง ระบายอากาศได้ดีทำให้บ้านเย็น เป็นสถาปัตยกรรมของตะวันตกนำมาใช้ออกแบบโครงสร้างก่อสร้างอาคาร
ก่อนหน้านั้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖ (ค.ศ.๑๘๙๓) หมอบริกส์ และหมอพีเพิลส์ จึงได้ซื้อที่ดินที่ริมฝั่งแม่น้ำยม บริเวณบ้านเชตะวัน ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ ในราคา ๓๐๐ รูปี เดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน หมอบริกส์และครอบครัว ซึ่งเป็นมิชชั่นนารีครอบครัวแรกของจังหวัดแพร่ ก็ย้ายมาประจำที่ศูนย์มิชชั่นแห่งนี้ ได้ให้บริการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั่วไป จึงถือได้ว่าเป็นสถานพยาบาลแผนปัจจุบันแห่งแรกของจังหวัดแพร่ และได้รับการอนุญาตให้ตั้งเป็นศูนย์มิชชั่นได้อย่างเป็นทางการ จากจดหมายของหมอบริกส์ ระบุว่า ศูนย์มิชชั่นแพร่ ที่ บ้านเชตะวัน ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ ระยะแรกประกอบด้วยบ้านพักของมิชชั่นนารี อาคารพยาบาล ห้องเก็บของ โบสถ์ บ้านพักคนงาน ยุ้งข้าว
ปัจจุบันเรือนไม้สักมิชชันนารีหลังนี้ได้รับการปรับปรุงให้มีสภาพแข็งแรง พร้อมนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการศึกษา โดย กศน.จังหวัดแพร่.
ภาพ : Heitage Observatory
หอหลวงสีป้อ
ร่องรอยอดีตที่ยังคงหลงเหลืออยู่
ภาพนี้ถ่ายบริเวณหน้าบ้านพักเรือนไม้สักหลังที่ย้ายมาใหม่จากฝั่งซ้ายแม่น้ำยมของคณะมิชชันนารีแพร่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ จะเห็นว่าชาวต่างชาติกำลังเล่นกีฬา “โปโล” หน้าลานโล่งหน้าเรือนพักหลังใหญ่ที่มองเห็นอยู่ด้านหลัง
จาก The Laos News (July ๑๙๑๓, p. ๕๖-๕๗) นายแมคมัลลินได้บันทึกเหตุการณ์ในตอนนั้นไว้ในบทความ “Twenty Years after in Pre” (ยี่สิบปีให้หลังในแพร่) ดังนี้ “วันที่ ๕ พฤษภาคม (พ.ศ. ๒๔๕๖) ยี่สิบปีหลังจากที่นายแพทย์บริกส์และนางบริกส์ได้เปิดศูนย์ฯ แพร่ นายแพทย์และนาง อี.ซี. คอร์ท และนายเอ.บี. แมคมัลลิน ซึ่งเป็นมิชชั่นนารีประจำศูนย์ฯ แพร่ ได้ย้ายจากที่ตั้งเดิมที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำยมมาที่ที่ตั้งใหม่ของศูนย์ฯ ซึ่งอยู่ที่ ถ. ท่าอิฐ เชื่อมกับสถานีรถไฟซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ ๑๕ ไมล์
การย้ายครั้งนี้เป็นเรื่องจำเป็นเพราะศูนย์ฯ เก่าถูกน้ำกัดเซาะตลิ่ง ที่ตั้งศูนย์ฯ แห่งใหม่อยู่บนถนนที่มีคนสัญจรไปมามากที่สุดของจังหวัดแพร่ มุ่งไปสู่จังหวัดอุตรดิตถ์ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการขนส่งสินค้าทางเรือไปยังตอนใต้ของประเทศจีน หัวเมืองลาว และกรุงเทพฯ ที่ตั้งของศูนย์ฯ อยู่ใกล้กับตลาดที่คึกคักที่สุดของแพร่ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับการดำเนินกิจกรรมของคริสตจักร เมื่อเราซื้อที่ผืนนี้ มีอาคารไม้เก่าอยู่แล้วหลังหนึ่ง เราได้ดัดแปลงอาคารนี้เป็นโรงเรียนสตรี หอพักสำหรับนักเรียนบ้านไกลและครู ตอนนี้เราใช้อาคารนี้เป็นทั้งโบสถ์ โรงเรียน และอาคารอเนกประสงค์
สพาพของบ้านเป็นเรือนไม้สัก ใต้ถุนสูง หลังคาทรงจั่วมุงด้วยกระเบื้องว่าว ตกแต่งช่องลมประตูด้วยลายฉลุขนมปังขิง ลูกบิด กลอนประตูเป็นเหล็กหล่อมาจากยุโรป เรือนไม้หลังนี้มีขนาดใหญ่ แบ่งเป็น ๑๐ ห้อง มีห้องใต้หลังคาขนาดใหญ่สันนิษฐานว่า คงเป็นห้องนอนของลูกๆ มีหน้าต่างบานสูง ระบายอากาศได้ดีทำให้บ้านเย็น เป็นสถาปัตยกรรมของตะวันตกนำมาใช้ออกแบบโครงสร้างก่อสร้างอาคาร
ก่อนหน้านั้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖ (ค.ศ.๑๘๙๓) หมอบริกส์ และหมอพีเพิลส์ จึงได้ซื้อที่ดินที่ริมฝั่งแม่น้ำยม บริเวณบ้านเชตะวัน ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ ในราคา ๓๐๐ รูปี เดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน หมอบริกส์และครอบครัว ซึ่งเป็นมิชชั่นนารีครอบครัวแรกของจังหวัดแพร่ ก็ย้ายมาประจำที่ศูนย์มิชชั่นแห่งนี้ ได้ให้บริการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั่วไป จึงถือได้ว่าเป็นสถานพยาบาลแผนปัจจุบันแห่งแรกของจังหวัดแพร่ และได้รับการอนุญาตให้ตั้งเป็นศูนย์มิชชั่นได้อย่างเป็นทางการ จากจดหมายของหมอบริกส์ ระบุว่า ศูนย์มิชชั่นแพร่ ที่ บ้านเชตะวัน ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ ระยะแรกประกอบด้วยบ้านพักของมิชชั่นนารี อาคารพยาบาล ห้องเก็บของ โบสถ์ บ้านพักคนงาน ยุ้งข้าว
ปัจจุบันเรือนไม้สักมิชชันนารีหลังนี้ได้รับการปรับปรุงให้มีสภาพแข็งแรง พร้อมนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการศึกษา โดย กศน.จังหวัดแพร่.
ภาพ : Heitage Observatory
หอหลวงสีป้อ