ภาษาสยามเว็บบอร์ด

โรงเรียนดรุณศึกษา เชียงราย ไม่ทราบ ปี พ.ศ.
ภาพ : 'คม ชาครีย์


สาวช่างฟ้อน

วัดพระพุทธบาทตากผ้า อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
ขอบคุณเจ้าของภาพ

เจ้าสายสกุล ณ ลำปาง ในคุ้มหลวงลำปาง
ภาพถ่ายฟิล์มกระจกฝีมือหลวงอนุสารสุนทร ฉ่าย ณ คุ้มเจ้าหลวงนครลำปาง บุคคลในภาพ ประทับนั่งกลาง : เจ้าหลวงบุญวาทย์วงศ์มานิตย์ / เจ้านายบุรุษยืนหลัง : เจ้าอุปราชทิพจักร , เจ้าราชวงศ์แก้วปราบเมรุ ,เจ้าราชบุตรแก้วเมืองพรวน , เจ้าราชสัมพันธวงษ์ ,เจ้าไชยสงคราม // เจ้านายสตรีนั่งเก้าอี้ : เจ้าหญิงอ้ม ,เจ้าหญิงสำเภาแก้ว ,เจ้าหญิงดาวบิน ,เจ้าหญิงศรีนวล// เจ้านายองค์เล็ก : เจ้าหญิงสร้อยแก้ว , เจ้าหญิงฟองสมุทร , เจ้าวงเกษม , เจ้าทิพวรรณ
ภาพ : หลวงอนุสารสุนทร

งานวันเด็ก พ.ศ.๒๕๐๐ จัดโดยพุทธสมาคมแห่งจังหวัดเชียงราย
ภาพ : นิตยสารล้อล้านนา

วัดพระแก้วดอนเต้า ลำปาง

บันไดนาคทางขึ้นวัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน

ภาพผู้คนยืนพูดคุย บนข่วงหน้าวัด ในงานปอยหลวง วัดศรีโคมคำ พระเจ้าตนหลวง เมืองพะเยา ราวๆ พ.ศ.๒๔๘๐
ภาพ : วิฆเณศ ทองเกล็ด

คนหละปูนมาแอ่วน้ำตกห้วยแก้ว เจียงใหม่

ในอดีตชาวเมืองลำพูนชอบท่องเที่ยวกันไปเป็นหมู่คณะ โดยมากมักจะไปเช้าเย็นกลับ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมักจะเป็นวัด และธรรมชาติ

ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวข้ามจังหวัดก็คงไม่พ้นจังหวัดเชียงใหม่ ภาพเก่าที่ถ่ายไว้ถ้าเป็นวัดคงจะไม่มีใครเกินวัดพระธาตุดอยสุเทพ และจุดถ่ายสุดฮิตก็ต้องบริเวณหัวนาคบันไดทางขึ้นของวัด ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาตินั้นภาพถ่ายของชาวลำพูนที่ถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกมากที่สุดคือ น้ำตกห้วยแก้ว

น้ำตกห้วยแก้ว เป็นน้ำตกขนาดเล็กชั้นเดียว สูงประมาณ ๑๐ เมตร เกิดในลำน้ำ ห้วยแก้ว ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากยอดดอยปุย แอ่งน้ำและธารน้ำ ของน้ำตกหลายจุดสามารถลงเล่นน้ำได้ จัดว่าเป็นน้ำตกธรรมชาติ ที่อยู่ใกล้เมืองลำพูนมากที่สุดแห่งหนึ่ง ที่นี่จึงไม่เคยเงียบเหงาจากการ มาเยือนของผู้คน เกิดจากลำน้ำห้วยแก้ว มีลำน้ำไหลลงมายาวประมาณ ๑๐๐ เมตร ซึ่งเป็นแอ่งน้ำให้สามารถเล่นน้ำตกได้ มีแอ่งน้ำและลานหินขนาดใหญ่ คือ วังบัวบาน และมีธรณีสัณฐานเป็นหน้าผา คือ ผาเงิบ

ที่มา : ภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองลำพูน,หมายเหตุหริภุญไชย

บ้านผาปัง อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ประมาณ พ.ศ.๒๔๙๐ - ๒๕๐๐
ที่มา : อุเทน จินะสะทุ่ง

บ้านผาปัง อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ประมาณ พ.ศ.๒๔๙๐ - ๒๕๐๐
ที่มา : อุเทน จินะสะทุ่ง

เจดีย์เชียงยัน วัดเชียงยัน เมืองลำพูน

มีเจดีย์องค์หนึ่งถ้าไม่ตั้งใจไปชมจริงๆจะไม่ได้เห็นเพราะอยู่ในจุดที่ลับสายตาจากนักท่องเที่ยว เจดีย์องค์นี้มีชื่อเรียกกันว่า เจดีย์เชียงยัน ตั้งอยู่ในเขตสังฆาวาส ด้านทิศเหนือของพระธาตุหริภุญชัย เจดีย์องค์นี้มีตำนานท้องถิ่นเล่าว่า สร้างโดยพ่อครัวและแม่ครัวที่ทำอาหารเลี้ยงช่างที่มาก่อสร้างองค์พระธาตุหริภุญชัย จึงมีชื่อท้องถิ่นว่าเจดีย์แม่ครัวลักษณะเป็นเจดีย์ก่ออิฐทรงปราสาท ๕ ยอด
นักประวัติศาสตร์ศิลปะหลายท่านกำหนดอายุของเจดีย์นี้ว้าในราวพุทธสตวรรษที่ ๑๙ ส่วนประติมากรรมปูนปั้นประดับองค์เจดีย์นั้นสันนิฐานว่าน่าจะเป็นงานซ่อมในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑ และน่าจะเกิดขึ้นพร้อมกับการปฎิสังขรณ์องค์พระธาตุหริภุญชัย เพราะมีรูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรมอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
เจดีย์เชียงยันองค์นี้อยู่ในพื้นที่ของวัดเชียงยันครั้งหนึ่งครูบาเจ้าศรีวิชัยจึงถูกกักบริเวณไว้เป็นเวลา ๑ ปี วัดเชียงยัน(ปัจจุบันคือคณะเชียงยัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัดพระธาตุหริภุญชัยและข้อมูลโดยมากมักจะกล่าวว่าครูบาศรีวิชัยถูกกักบริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัย)เนื่องจากในช่วงเวลาดั่งกล่าวในบันทึกของพระครูศรีวิราชวชิรปัญญา เจ้าคณะแขวงเมืองพะเยามีจดหมายโต้ตอบกับครูบาเจ้าศรีวิชัยเรื่องขอนิมนต์ครูบาศรีวิชัยไปบูรณะปฎิสังขรณ์วัดพระเจ้าตนหลวง ส่งมาถึงครูบาศรีวิชัยที่วัดเชียงยันถึง ๓ ครั้ง
มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๒๒ เล่ม ๙๖ ตอนที่ ๑๘๔

สำเนาภาพจากคุณณรัศมิน ขัติยะวรา

ที่มา : หมายเหตุหริภุญไชย,ภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองลำพูน

ฟ้อนถวายเจดีย์เชียงยัน วัดพระธาตุหริภุญชัย ประมาณปี พ.ศ.๒๔๙๐
ภาพ : ณรัศมิน ขัติยะวรา