ในยุคที่ครูบาศรีวิชัยยังไม่ถึงแก่มรณภาพนั้น ผู้ที่ทำบุญกับครูบาศรีวิชัยจะได้รับความอิ่มใจที่ได้ทำบุญกับท่านเท่านั้น ส่วนการสร้างวัตถุมงคลนั้น ระยะแรก พวกลูกศิษย์ที่นับถือครูบาศรีวิชัยได้จัดทำพระเครื่องคล้ายพระรอดหรือพระคงของลำพูน โดยเมื่อครูบาปลงผมในวันโกน ก็จะเก็บเอาเส้นผมนั้นมาผสมกับมุกมีส่วนผสมกับน้ำรักกดลงในแบบพิมพ์ดินเผา แล้วแจกกันไปโดยไม่ต้องเช่าในระหว่างศิษย์ กล่าวกันว่าเพื่อป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ซึ่งก็ลือกันว่ามีอิทธิฤทธิ์เป็นที่น่าอัศจรรย์
- โกศครูบาเจ้า.jpg (80.78 KiB) เปิดดู 7753 ครั้ง
ส่วนเหรียญโลหะรูปครูบาศรีวิชัยนั้น พระครูวิมลญาณประยุต (สุดใจ วิกสิตฺโต) ชาวจังหวัดอ่างทองได้ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดลำพูนสร้างขึ้นให้เช่าเพื่อนำเงินมาช่วยในการปลงศพครูบาศรีวิชัย โดยให้เช่าในราคาเหรียญละ ๕ สตางค์ ทั้งนี้ สิงฆะ วรรณสัย ยืนยันจากประสบการณ์ที่ท่านรู้จักครูบาดีและได้คลุกคลีกับเรื่องพระเครื่องมาตั้งแต่ครูบายังไม่มรณภาพนั้นระบุว่าไม่มีเหรียญรุ่นดอยสุเทพ ไม่มีเหรียญที่ครูบาศรีวิชัยสร้าง หรือวัตถุมงคลอื่นใดที่ครูบาจะสร้างขึ้น นอกจากการให้พรและความอิ่มใจในการทำบุญกับท่านเท่านั้น แต่ในระยะหลังก็พบว่ามีการสร้างวัตถุมงคลของครูบาอยู่เป็นจำนวนมาก ในรูปแบบต่างๆ โดยผู้ที่ครอบครองวัตถุมงคลเหล่านั้นมีความศรัทธาในความดีของ "ตนบุญ" เป็นสำคัญ
หลังจากการทำบุญฉลองวัดพระสิงห์แล้ว ท่านพระครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชโย ท่านก็ยังมองเห็นความสำคัญของพระไตรปิฎกฉบับลานนาไทยอันเป็นพระธรรม คำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บรรดาฑิตเมธีท่านได้สังคายนา จารลงในใบลานในครั้งอดีต ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามวัดต่างๆ ในภาคเหนือ ท่านเกรงว่าพระธรรมคำสอนต่างๆ จะถูกทำลายไปตามกาลเวลา ดังนั้นนับตั้งแต่ ปีพุทธศักราช ๒๔๖๙-๒๔๗๑ ท่านพระครูบาศรีวิชัย พร้อมด้วยบรรดาสานุศิษย์ได้รวบรวมพระไตรปิฎกที่ถูกทอดทิ้งอยู่ตามวัดต่างๆ จากตำบล อำเภอ และจังหวัดอื่นๆ แล้วรวมกันจัดให้เป็นหมวดหมู่เป็นธัมมขันธ์ ทำการสังคายนาจารลงใบลานขึ้นมาใหม่ เพื่อไว้เป็นหลักฐานการศึกษา ค้นคว้าหาแนวทางประพฤติพระธรรมวินัย สืบอายุบวรพระพุทธศาสนาต่อไป ตามจำนวนดังนี้
๑. พระวินัยทั้ง ๕ จำนวน ๑๐ มัด รวม ๑๗๐ ผูก
๒. นิกาย ๕ จำนวน ๕ มัด รวม ๖๙ ผูก
๓. อภิธรรม ๗ คัมภีร์ จำนวน ๗ มัด รวม ๑๔๕ ผูก
๔. ธรรมบท จำนวน ๒๑ มัด รวม ๑๔๕ ผูก
๕. สุตตสังคหะ จำนวน ๗ มัด รวม ๗๖ ผูก
๖. สมันตปาสาทิกา จำนวน ๔ มัด รวม ๔๕ผูก
๗. วิสุทธิมรรค ๓ มัด รวม ๗๖ ผูก
๘. ธรรมสวนะชาดก จำนวน ๑๒๖ มัด รวม ๑,๒๓๒ ผูก
๙. ธรรมโตนาที่คัดไว้เป็นกัปป์และผูก รวม ๑๔๒ ผูก
๑๐. สัททาทั้ง ๕ จำนวน ๘ มัด รวม ๓๘ ผูก
๑๑. กัมมวาจา จำนวน ๖ มัด รวม ๑๐๔ ผูก
๑๒. กัมมวาจา จำนวน ๑ มัด รวม ๑๐๘ ผูก
๑๓. มหาวรรค จำนวน ๑๓๕ มัด รวม ๒,๗๒๖ ผูก
๑๔. ธรรมตำนานและชาดก จำนวน ๑ มัด รวม ๑๗๒ ผูก
๑๕. ธรรมบารมี จำนวน ๑๐ มัด รวม ๑๒๒ ผูก
รวมทั้งหมดมี ๓๔๔ มัด รวมผูกทั้งหมดมี ๕,๔๐๘ ผูก
รวมค่าใช้จ่ายการสร้างพระไตรปิฎก ค่าจ้างเขียนลงใบลาน ค่าทองคำเปลวติดขอบใบลานและค่าใช้จ่ายตอนทำพิธีถวายพระไตรปิฎก รวมทั้งหมด ๔,๒๓๒ รูปี
ผลงานจัดทำสังคายนาพระไตรปิฎกฉบับลานนาไทยของท่านพระครูบาศรีวิชัยในครั้งนี้ นับว่าเป็นหลักฐานประกาศถึงความเป็นผู้ทรงความรู้ทางด้านพระไตรปิฎก ทั้งสามารถรวบรวมจัดเป็นหมวดหมู่ขึ้นใหม่ได้นี้ มิใช่เป็นเรื่องธรรมดา นี่แสดงว่าท่านคือบัณฑิตผู้ทรงความรู้ท่านหนึ่ง อีกทั้งท่านยังมีปฏิปทาในข้อวัตรปฏิบัติ เป็นสงฆ์องค์อริยะอันเป็นแบบอย่างที่ดียิ่ง
บางคนไม่รู้ซึ้งหรือรู้เพียงผิวเผิน ก็เข้าใจว่าท่านพระครูบาเจ้า ท่านไม่ค่อยรู้หลักธรรมวินัย เป็นพระบ้านนอกบ้านป่า แต่หากลองนึกพิจารณาด้วยจิตอันสุขุม จะเห็นได้ว่า ท่านพระครูบาเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์มีแต่ความบริสุทธิ์ ท่านไม่ยอมค้อมหัวให้กิเลส ใครจะบังคับหรือขู่เข็นอย่างไร ในการที่จะรับเอาสิ่งที่ไม่ใช่ธรรมวินัย อย่าพึงหวัง...
เครื่องประดับขัตติยะนารีทั้งหลาย มีแก้วแหวนเงินทอง เป็นตัณหากามคุณ เหมือนดั่งน้ำผึ้งแช่ยาพิษ สำหรับนำความทุกข์มาใส่ตัวโดยบ่มีประโยชน์สิ่งใดเลย แม่น้ำคงคา ยมุนา อิรวดี มหิ มหาสรพู ซึ่งเป็นแม่น้ำใหญ่ทั้ง ๕ แม่น้ำนี้ แม้นจักเอามาอาบให้หมดทั้ง ๕ แม่นี้ ก็บ่ อาจจะล้างบาป คือความเดือดร้อนภายในให้หายได้ ลมฝนลูกเห็บ แม้นจะตกลงมาหลายห่า เย็นและหนาวสักปานใด ก็บ่อาจเย็นเข้าไปถึงภายในให้หายจากความทุกขเวทนาได้ ศีล ๕ เป็นอริยทรัพย์ เป็นต้นเหตุแห่งความบริสุทธิ์ เป็นน้ำทิพย์สำหรับล้างบาป คือความเดือดร้อนภายในให้หายได้ เมื่อศีลบริสุทธิ์แล้ว สมาธิ ความตั้งมั่นก็จะมีมา แล้วให้ปลุกปัญญา ปัญญาก็จักเกิดมีขึ้นได้ คือ ให้หมั่นรำลึกถึงตัวตนอยู่เสมอ ว่า บ่ใช่ตัว บ่ใช่ตน จนเห็นแจ้งด้วย ปัญญาของตน จึงเป็นสมุทเฉทประหานกิเลส หมดแล้ว จิตเป็นวิมุติ หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวลได้
ครูบาศรีวิชัยซึ่งเป็นคนร่างเล็กผอมบางผิวขาว ไม่ใช่คนแข็งแรง แม้ท่านจะไม่ต้องทำงานประเภทใช้แรงงาน แต่การที่ต้องนั่งคอยต้อนรับและให้พรแก่ผู้มาทำบุญกับท่านนั้น ท่านจะต้อง "นั่งหนัก" อยู่ตลอดทั้งวัน ด้วยเหตุนี้ท่านจึงอาพาธด้วยโรคริดสีดวงทวารซึ่งสะสมมาแต่ครั้งการตระเวนก่อสร้างบูรณะวัดในเขตล้านนา และการอาพาธได้กำเริบขณะที่สร้างสะพานข้ามแม่น้ำปิง
ครูบาศรีวิชัยถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ที่วัดบ้านปาง ขณะมีอายุได้ ๖๐ ปี ๙ เดือน ๑๑ วัน และตั้งศพไว้ที่วัดบ้านปางเป็นเวลา ๑ ปี บางท่านก็ว่า ๓ ปี จากนั้นได้เคลื่อนศพมาตั้งไว้ที่วัดจามเทวี ลำพูน จนถึงวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ จึงได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่องานพระราชทานเพลิงศพเสร็จสิ้น จึงได้มีการแบ่งอัฐิของท่านไปบรรจุไว้ตามที่ต่าง ๆ เช่น ที่วัดจามเทวีจังหวัดลำพูน วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระแก้วดอนเต้า จังหวัดลำปาง วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ และที่วัดบ้านปาง จังหวัดลำพูนอันเป็นวัดดั้งเดิมของท่าน เป็นต้น
ข้อมูล อ้างอิง...
หนังสือ ประวัติของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งลานนาไทย ที่ระลึกในงานฉลองพิพิธภัณฑ์พระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน วันที่ ๒๑ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗
นิตยสาร อภินิหารและพระเครื่อง ฉบับที่ ๔๘ ประจำเดือนกรกฎาคม
นิตยสารโลกทิพย์ ธรรมสมาธิ ฉบับที่ ๑๐ ปีที่ ๒ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๒๖
ประวัติครูบาศรีวิชัยร่วมกับหลวงศรีประกาศ ตอนสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ของ ส.สุภาภา ๑๐ พ.ศ. ๒๕๑๘
สารประวัติครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งลานนาไทย ของสิงฆะ วรรณสัย ศูนย์หนังสือเชียงใหม่ พฤศจิกายน ๒๕๒๒
ตำนานครูบาศรีวิชัยแบบพิสดาร และตำนานวัดสวนดอก สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ๒๕๓๗
บทความ “ศูนย์รวมการถ่ายทอดจิตวิญญาณล้านนา” ในหนังสือ สืบสานล้านนา สืบต่อลมหายใจของแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๔๒ วิลักษณ์ ศรีป่าซาง สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตภาคพายัพ)