ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

เรื่องราวของอาณาจักรล้านนา

Re: ขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » ศุกร์ 04 พ.ค. 2018 10:54 am

๒๐ คำถามกับน้ำฟ้า กรณีบ้านป่าแหว่ง หรือ บ้านพักตุลาการ ภาค ๕ เชียงใหม่

45120_resize.jpg
45120_resize.jpg (112.4 KiB) เปิดดู 10307 ครั้ง


๑.ทำไมถึงมาร่วมเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ
ตอบ : เพราะดอยสุเทพคือศูนย์รวมใจ คือศรัทธา คือป่าไม้ ต้นน้ำ และธรรมชาติที่สมบูรณ์ อีกทั้งเราเป็นคนเชียงใหม่คงไม่สามารถปล่อยให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ เพราะถ้าผ่าน ต่อไปป่าจะถูกรุกรานอย่างถูกกฎหมายไปเรื่อยๆ โดยไม่มีใครทัดทานได้

๒.ใครเป็นผู้ชักชวนมา
ตอบ : มาเอง ไม่รู้จักเครือข่ายท่านใดมาก่อนเลย แฟนเพจมาเล่าให้ฟังว่ามีการประชุมกับทหารเมื่อปลายเดือนมีนาคม แล้วคนน้อย อยากให้แอดมินช่วย จึงไปคุยกับแอดมินเพจขอคืนฯ ขอเข้าร่วม บอกว่ามีเพจ สามารถช่วยประชาสัมพันธ์ได้ แฟนเพจมีอยู่แสนกว่า น่าจะช่วยได้พอสมควร น่าแปลกที่ทุกท่านไว้ใจ ดึงให้เข้ากลุ่มไลน์ ซึ่งในขณะนั้นเพจเราเป็นเครือข่าย องค์กรที่ ๑๙ องค์กรสุดท้ายขององค์กรรุ่นแรก

๓.มีการเมืองแอบแฝงหรือเปล่า
ตอบ : ไม่มี และเราไม่มีประวัติของการร่วมกับฝ่ายการเมืองใด หรือแม้แต่ในเฟซบุ๊กก็ไม่ได้แสดงออก มองทุกสีทุกฝ่ายด้วยเหตุผลของการกระทำในทุกๆเหตุการณ์ และมองว่าไม่ใช่เรื่องที่ดี ถ้าเราจะปล่อยให้แกนนำสีต่างๆมาชักจูง ให้เข้าข้างฝ่ายตนทุกเรื่อง ครั้งใดผิดก็ยังว่าแถเป็นถูก ประเทศจะพัฒนาได้อย่างไร ถ้าคนไทยยังยึดสี ไม่ยึดผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นหลัก

๔.ทราบหรือไม่ว่าตอนนี้มีคนนำเรื่องบ้านป่าแหว่งไปโยงการเมือง
ตอบ : ทราบดี ได้อ่านทุกๆข้อความ มีคนส่งมาให้อ่านตลอด แต่ไม่รู้สึกอะไร เป็นธรรมดาของโลกที่มีคนมองมุมต่าง พื้นฐานจิตใจ พื้นฐานความคิด บริบทของชีวิต และสังคม ทำให้แนวคิดของคนเราต่างกัน บางคนมองโลกอย่างเป็นกลาง เพราะสังคมรอบข้างดี และถูกสอนให้มีความเป็นธรรม บางคนมองโลกอย่างอคติ เพราะสังคมกล่อมเกลา อาจจะถูกสอนมาดีหรือไม่ดี แต่สำคัญที่สุด คือ เนื้อแท้จิตใจของเขา ซึ่งเราเชื่อว่าสังคมสามารถแยกแยะได้ เพราะกว่าจะมีวันนี้ ทุกคนในเครือข่ายก็มีการใช้ชีวิตในสังคมมา คนในสังคมย่อมได้รู้เห็นอย่างชัดเจน ว่าเป็นเหมือนที่ถูกกล่าวหาหรือไม่

๕.โกรธไหมที่เหมือนถูกใส่ร้ายป้ายสี
ตอบ : พยายามมองว่านี่ไม่ใช่การใส่ร้าย มันเป็นมุมมองของแต่ละคน และมุมมองนั้นก็เหมือนคำตอบข้อ ๔ มันมาจากบริบทชีวิตของเขา เขาอาจจะเห็น และเข้าใจแบบนั้น หรืออาจจะอ้างแบบนั้นเพื่อสร้างความชอบธรรมให้บ้านป่าแหว่ง แต่เราว่าจุดนี้ทำให้คนมองย้อนไปที่ผู้พูด(เขียน)นะ เพราะมันไม่สมเหตุสมผล เพราะถึงผู้คัดค้านจะใช่เสื้อสีหรือไม่ ก็มิได้ทำให้บ้านป่าแหว่งบริสุทธิ์ผุดผ่อง เหมาะสม ดีงามขึ้นมาได้ มองจุดนี้แล้วจะทำให้คนสงสัยในตรรกะการคิดว่า มีมุมมองเป็นกลางหรือไม่

๖.ถ้าไม่ใช่สีเสื้อแล้วทำไมถึงไม่บอกว่าใครเป็นผู้อนุมัติโครงการ
ตอบ : มักมีคำถามว่า 'เอาแต่จะรื้อๆ ทำไมไม่ยอมหาคนอนุมัติมารับโทษ' แล้วหาว่าเราทำเพราะการเมือง ตามหลักความจริงมันต้องทำทีละอย่าง อย่าเอาแต่ใจ เปรียบเทียบนะ ถ้าไฟกำลังไหม้บ้าน คุณจะดับไฟก่อน หรือปล่อยไฟไหม้แล้ววิ่งไปตามหาคนวางเพลิงก่อน บ้านป่าแหว่งก็เช่นเดียวกัน เราต้องรื้อบ้าน ถ้ารื้อแล้วอย่างอื่นมันจะตามมาเอง ค่อนข้างเบื่อพวกโยงการเมือง พูดจาสาดโคลนโดยไม่มองหลักความจริง สติปัญญาบิ่นหรือ จึงมองโลกได้หยาบกระด้างนัก

๗.ถ้าทุบบ้านพักศาลแล้วจะทราบใช่ไหมว่าใครผิด
ตอบ : แน่นอน ไม่เพียงแค่ใครอนุมัติ สิ่งที่ตามมา คือ การก่อสร้างมีคุณภาพสมราคาไหม ต้นไม้หายไปไหน ฯลฯ แต่ทุกอย่างมีช่วงเวลาของมัน การขอคืนพื้นที่สุ่มเสี่ยง เราไม่ต้องการสร้างความแตกแยก เพราะคนที่พยายามฉวยโอกาสจากการแบ่งแยกสีเสื้อมีเยอะ ทุกคนโตแล้วต้องรู้จักรอเวลาที่เหมาะสม

๘.เรื่องใครเป็นคนผิด เป็นคนที่ต้องรับผิดชอบ อยากบอกอะไรเพิ่มไหม
ตอบ : อยากบอกว่า เรื่องนี้ละเอียดอ่อน เวลามองต้องค่อยๆวิเคราะห์ คุณต้องแยกออกเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนของการอนุมัติงบประมาณการก่อสร้าง ส่วนนี้เป็นส่วนของรัฐบาลที่อนุมัติ เราไม่ได้มีปัญหา เพราะเข้าใจระบบดีว่า จะต้องให้สวัสดิการท่านในระดับดีเยี่ยมอยู่แล้ว เราติดใจในส่วนที่สอง คือการอนุมัติพื้นที่ ซึ่งส่วนนี้หน่วยงานที่จะใช้ที่ดิน สามารถทำเรื่องไปยังธนารักษ์จังหวัด ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดและธนารักษ์ให้ผ่านก็สามารถใช้พื้นที่ได้เลย ถ้าจะให้เหมาะสมต้องแจ้งการใช้พื้นที่ต่อหน่วยผู้ดูแลเช่น อบต.ดอนแก้ว หรือทำประชาพิจารณ์เสียก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา แต่เคสนี้ไม่มีการทำประชาพิจารณ์ และไม่มีการแจ้งหน่วยงานท้องถิ่นใดๆ จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นภายหลัง เมื่อเป็นดังนี้เราจึงไม่ใส่ใจคำถามที่ว่า “ทำไมไม่บอกว่าใครอนุมัติงบ” เรามองว่า คำถามนี้แค่พวกสีเสื้อจะเอามาเกทับกันเองเท่านั้น ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องมาตอบ ผู้ถามคำถามนี้ยังตีโจทย์ไม่แตกนะ ยังไม่แยกงบประมาณทั่วไป ออกจากการอนุมัติพื้นที่

๙.แล้วทำไมเครือข่ายขอคืนพื้นที่ฯจึงเพิ่งมาคัดค้านตอนสร้างใกล้จะเสร็จ
ตอบ : คำถามนี้เป็นคำถามของคนที่ไม่รู้จักหาข้อมูล ถ้าเข้ากูเกิ้ลเป็นจะทราบว่ามีการคัดค้านมาหลายปีแล้ว มีหลักฐานเป็นคลิปที่ศาลให้สัมภาษณ์ แถลงการณ์คัดค้านของมูลนิธิสืบฯ หรือแม้แต่หนังสือคัดค้านของคนเชียงใหม่ก็แชร์กันให้เกลื่อนไปหมด ลองอ่านบทความของอดีตผู้พิพากษาเชียงใหม่ดูค่ะ https://www.facebook.com/NamfarRamink/p ... 0784285949

45322_resize.jpg
45322_resize.jpg (96.52 KiB) เปิดดู 10307 ครั้ง


๑๐. รู้สึกอย่างไรต่อศาลในเวลานี้
ตอบ : ก็ยังเชื่อว่าผู้พิพากษาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย และยังศรัทธาศาลอยู่เสมอ การก่อสร้างนี้มันเป็นสวัสดิการ ท่านไม่ได้อยากได้เอง และเชื่อว่าท่านเองก็ไม่สบายใจหรอก ที่จะเข้าไปอยู่ เพราะมีข้อมูลความอันตราย และเสียงสาปแช่งดังขนาดนี้

๑๑. รู้สึกอย่างไรต่อรัฐบาล
ตอบ : ถ้าในมุมป่าแหว่ง ก็คาดหวังว่าท่านจะเข้าใจ มองอย่างละเอียดอ่อน และแก้ปัญหาอย่างถูกจุด ถ้ามองในมุมของประชาชนทั่วในเรื่องการบริหารประเทศก็เป็นปกติ ถ้าทำดีเราก็ชม มุมไหนไม่เห็นด้วยเราก็พูด แต่น้อยนะ เพราะไม่ชอบวิจารณ์การเมือง ไม่ได้สนใจขนาดนั้น ในสังคมเรามีเรื่องอื่นน่าสนใจกว่านี้เยอะ การเมืองใกล้ตัวแต่เราทำอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่ได้บริหาร จึงถือเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมด ดังนั้นการตัดสินใจทุกเรื่องในชีวิตเรา จึงมีการเมืองเข้ามามีบทบาทน้อยมาก

๑๒.เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าเข้าใจกันดีหรือไม่
ตอบ : เข้าใจกันดี เราคุยกันแบบพี่น้อง แนะนำกันตรงไปตรงมา ไม่โกรธกัน ทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข

๑๓.เพจเครือข่ายมีการแถลงว่าไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลผู้หนึ่ง ทั้งๆที่เคยโพสต์กิจกรรมของบุคคลผู้นี้
ตอบ : ในการดำเนินการเราไม่เกี่ยวข้องกันจริงๆ แต่เราก็พร้อมที่จะสนันสนุนทุกๆโครงการที่ทำเพื่อขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพจากบ้านพักศาล เราจึงคอยแชร์ข่าวช่วยอยู่ตลอด พี่เขามีบทบาทครั้งแรกตอนที่เราไปค่ายกาวิละ เราไม่รู้จักกัน จู่ๆพี่เขาก็ให้สัมภาษณ์ว่าจะเดินไปหาลุงตู่ ทางทหารก็ประสานมาว่าไม่อยากให้เดิน เราเตือนไปแล้ว พี่เขาจึงแจ้งว่าเราไม่เกี่ยว เขาไม่ใช่ลูกน้องใคร เขาจะทำ เพราะเขาคิดดีแล้ว ถ้าสังเกตจะพบว่าแกนนำเครือข่ายไม่เคยไปร่วมกิจกรรมที่พี่เขาจัดเลยสักครั้ง

๑๔.มองกิจกรรมของบุคคลนี้อย่างไร
ตอบ : เมื่อเราไม่สามารถมองเห็นความคิด จิตใจใครได้ เราควรจะมองในแง่ดีก่อน คิดว่าทุกคนพยายามช่วยกันเอาป่าคืนมา เพียงแต่บางกิจกรรมมันยังไม่รอบคอบ ไม่เหมาะสม ดังนั้นเมื่อมุมมอง แนวคิด และวิธีการต่างกันก็ควรแยกกันให้ชัดเจน แต่เรายังเป็นพี่เป็นน้องกันได้ ไม่มีปัญหา เฟซบุ๊กไม่ใช่เครื่องวัดความสัมพันธ์คน

๑๕. ทำหน้าที่อะไรในเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ
ตอบ : ใครใช้อะไรก็ทำหมด ช่วยเรียบเรียงข้อมูล ช่วยประชาสัมพันธ์ ร่วมกิจกรรม เขียนสคริปต์ ช่วยคิด และแสดงความคิดเห็น จริงๆเป็นคนที่ไว้ตัวนะ มีความเป็นผู้นำสูง ปกติไม่ค่อยมีใครกล้าใช้อะไร แต่กับงานนี้ยินดีทำมากๆ เราทุกคนต้องเสียสละ เรามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะมันคือบรรทัดฐานของการใช้พื้นที่ของหน่วยงานราชการในอนาคต ถ้าประชาชนเข้มแข็ง หน่วยงานราชการจะได้ยำเกรง และทำงานอย่างมีคุณภาพ

๑๖. ว่างหรือ วันๆเห็นทำแต่กิจกรรมของเครือข่าย
ตอบ : งานส่วนตัวเร่งมาก ช่วงนี้เป็นตัววัดอนาคตก็ว่าได้ เพราะกำลังทำผลงานเลื่อนตำแหน่ง ถ้าโดยทั่วไปก็เรียกว่า ซี ๘ แต่ก็วัดดวงเอานะ เพราะเมื่อบวกลบคูณหารแล้ว ดอยสุเทพสำคัญกว่า เรื่องตำแหน่ง ถ้าทำไม่ทันอีก ๓ ปีทำใหม่ได้ จริงๆตอนแรกก็ไม่คิดจะทำหรอก ถูกผู้ใหญ่ดุว่าควรทำได้แล้ว และคุณภาพผลงานก็น่าจะผ่านได้ แต่ไม่ยอมทำสักที จึงตัดสินใจทำ รับปากเด็กๆไว้ด้วย ว่าจะพยายามให้เสร็จ เด็กๆเป็นห่วงเพราะครูดูไม่สนใจที่จะทำผลงานเลย ถึงขั้นขอว่าถ้าพวกเขาคว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศมาได้ ครูจะต้องทำผลงาน แล้วเขาก็ทำได้ถึง ๓ รายการซ้อน พอทำเสร็จก็มาทวงสัญญาทันที ไม่เคยลืมสัจจะที่ให้ไว้นะ ตอนนี้กลับมาทำแล้ว จะพยายามอย่างที่สุดให้เสร็จทัน เป็นกำลังใจให้ก็แล้วกันค่ะ

๑๗. ทำไมจึงยืนยันว่าต้องรื้อเท่านั้น
ตอบ : อย่างแรกเลยเพราะมันอันตรายต่อผู้ที่จะเข้าไปอยู่ จึงควรคืนผืนป่า ฟื้นฟูระบบนิเวศน์ ไม่เพิ่มมลพิษทางสิ่งแวดล้อม จากเหตุการณ์ก่อสร้างบ้านพักบนพื้นที่ไม่เหมาะสม บนพื้นที่ลาดชัน ทำลายป่าและต้นไม้หวงห้าม เปลี่ยนแปลงทางน้ำ ถมแหล่งน้ำ ทำลายโขดหิน เปิดหน้าดิน สร้างมลพิษทั้งทางน้ำ เสียง ความสั่นสะเทือน แสงไฟสว่างต่อสัตว์ป่า มีความเสี่ยงน้ำท่วม ดินถล่ม ไฟป่า กระทบต่อน้ำดิบในการทำประปาของคนเชียงใหม่ รวมถึงที่แห่งนี้มีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติสูง ทั้งเรื่องไฟป่า น้ำป่า และดินสไลด์ เนื่องจากการก่อสร้างขวางลำห้วยถึง ๓ สาย เป็นการกระทำที่เป็นการขีดแนวการก่อสร้างล้ำเข้าไปในป่าเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้หน่วยงานและประชาชนอื่นที่ไม่มีจริยธรรมทางสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเป็นเหตุให้เกิดความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ความเสื่อมในศรัทธาต่อฝ่ายตุลาการจะคงอยู่อย่างน่าเศร้าเสียใจ สร้างความขัดแย้งของประชาชนต่อข้าราชการตุลาการ และที่สำคัญสุด คือ มิให้กระทบต่อความรู้สึกของชาวล้านนาที่มีต่อดอยสุเทพ ดอยอันศักดิ์สิทธิที่พวกเรานับถือมาอย่างยาวนานเกินกว่าพันปี พวกเราจึงไม่มีวันที่จะยอมรับได้

๑๘.การชุมนุมวันที่ ๒๙ เมษายนที่ผ่านมา หน่วยงานราชการรายงานผู้บังคับบัญชาว่ามีคนมาชุมนุมประมาณ ๑,๐๐๐ – ๑,๒๐๐ คน
ตอบ : ได้อ่านแล้ว คิดว่าคงคำนวณผิด เพราะนักข่าวแต่ละสำนักข่าวให้ข้อมูลตรงกันว่าไม่ต่ำกว่าห้าพันคน เท่าที่อ่านรายละเอียด ข้อมูลคลาดเคลื่อนไปมาก จำได้ว่า รายงานว่ามี มอเตอร์ไซค์ ๕๐ คัน แต่จริงๆ มี ๒๐๐ คัน แกนนำเครือข่าย ๒๐๐ คน มากเกินไป เครือข่ายจริงๆมีไม่ถึง ๑๐๐ คน ประชาชน ๒๐๐ คน มันใช่หรือ ดูด้วยตาเปล่าก็รู้ ที่เขาบอกว่าแกนนำเครือข่ายมี ๒๐๐ คน คงจะนับศิลปิน คนดังๆที่มาร่วมกิจกรรมด้วยกระมัง จริงๆท่านเหล่านั้นมาด้วยใจ ไม่ได้เป็นแกนนำค่ะ ท่านมาช่วยนำกิจกรรมต่างๆเท่านั้นเอง แกนนำจริงๆมีประมาณ ๕๐ มาจากหลากหลายองค์กร และหลากหลายองค์ความรู้ ที่เหลือคือประชาชนที่มาด้วยใจทั้งหมด

๑๙.คิดอย่างไรกับประโยคที่ว่า “ยิ่งรณรงค์ยิ่งจ๋อย”
ตอบ : เฉยๆ คำพูดไม่มีผลต่อจิตใจ เพราะทุกอย่างวัดกันที่เหตุการณ์จริงมากกว่า

๒๐. อยากฝากอะไรถึงคนเชียงใหม่
ตอบ : ขอให้ท่านมีสติในการเสพข้อมูล ปัจจุบันมีข่าว IO เยอะมาก ถ้าเราเชื่อโดยไม่หาข้อมูลไม่วิเคราะห์อาจถูกโน้มน้าวไปในทางที่ผิด และบางอย่างมันละเอียดอ่อน อย่าเพิ่งด่า ว่า และฟันธง ถ้ายังมีข้อมูลไม่มากพอ ถึงมีข้อมูลมากพอก็ไม่ควรเที่ยวไปด่าในเฟซบุ๊กของคนที่เห็นต่าง เราต้องรักษามารยาท สนทนากับคนในเฟซบุ๊กเหมือนในสังคมทั่วไป และที่สำคัญให้มองไปถึงอนาคตร้อยปีพันปี อย่ามองแค่วันนี้พรุ่งนี้ แล้ววัดใจว่า อีกร้อยปีคุณอยากให้ที่บ้านป่าแหว่งเป็นบ้านพักข้าราชการ หรือต้องการให้เป็นตาน้ำ ป่า ลำห้วย และที่อยู่ของสรรพสัตว์ ถามใจคุณดูเถิด

#คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่เป็นคอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก เก็บมารวมๆกันให้ จะได้ชัดเจนขึ้น
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: ขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » ศุกร์ 04 พ.ค. 2018 12:19 pm

๒๙ เมษายน ๒๕๖๑ คนเชียงใหม่ขอแสดงจุดยืน ด้วยมิตรภาพ รอยยิ้ม และน้ำใจ บรรยากาศ‘คนเชียงใหม่’กว่า ๕,๐๐๐ คนชุมนุมใหญ่ทวงคืนป่า’ดอยสุเทพ’ ตะโกน’รื้อบ้านพักตุลาการ’

ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: ขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » อาทิตย์ 06 พ.ค. 2018 3:59 pm

การหารือ “บ้านพักตุลาการ” ระหว่างเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา จ.เชียงใหม่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ สรุปว่า ชาวเชียงใหม่จะได้ป่าดั้งเดิมกลับคืนมา เริ่มแรกนี้ ท่านขอเปลี่ยนคีย์เวิร์ด จาก " รื้อ" เป็น การจัดการดำเนินการกับสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้ฟังแล้วรู้สึกดี สวยงาม และไม่มีปัญหาทางกฎหมาย วิธีการจัดการคือ จะไม่มีผู้อยู่อาศัย อาคารชุด ๙ หลัง บ้านพัก ๔๕ หลัง จะมีการรางวัดเขตให้แน่นอน ให้กรมธนารักษ์เข้าไปรางวัดอย่างเร่งด่วน และทำให้ป่าพื้นนี้กลับคืนเป็นป่าสมบูรณ์

S__2826255_resize.jpg
S__2826255_resize.jpg (115.92 KiB) เปิดดู 10236 ครั้ง


ในวันจันทร์ ที่ ๗ พฤษภาคมนี้ ผู้ว่าราชการ และรองผู้ว่าฯ จะเชิญเครือข่ายเข้าประชุม เพื่อทำการรังวัด และดำเนินงานขั้นตอนอื่นๆตามลำดับ ปลายทางจะมีการคืนพื้นที่ให้แก่ธนารักษ์จังหวัด ธนารักษ์คืนพื้นที่ให้แก่อุทยาน ท่านรัฐมนตรีกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้คือบทเรียน ที่จะทำให้หน่วยงานของรัฐรับฟังประชาชนมากขึ้น นี่คือบทเรียนที่เราทุกคนต้องจดจำ

สรุปได้เป็นประเด็นใหญ่ๆ ๓ ข้อ ดังนี้

๑. ทางศาลได้ประกาศจะไม่อยู่บ้านพักที่มีปัญหาแล้ว โดยให้มีการก่อสร้างและส่งมอบเสร็จให้เรียบร้อยตามสัญญาเพื่อไม่ให้มีการฟ้องร้อง

๒. ประกาศพื้นที่เป็น no mans land คือไม่มีผู้อยู่อาศัย ให้รังวัดแนวเขต/แบ่งพื้นที่ให้ชัดเจนระหว่างอาคารสำนักงาน และแนวเขตที่จะส่งคืนพื้นที่ให้กับธนารักษ์ เพื่อให้ส่วนราชการที่จะนำไปใช้ประโยชน์ หรือจะผนวกเป็นเขตของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา โดยธนารักษ์จะต้องประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆเช่น วิศวกรรม โยธาธิการ และผังเมือง กระทรวงทรัพย์ฯ ฯลฯ เพื่อหาทางแนวร่วมกัน

๓. ตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแล และดำเนินการเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้าง และฟื้นฟูป่าให้กลับมาเป็นป่าที่สมบูรณ์ ( โดยหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่ารื้อ เพราะจะมีผลด้านกฏหมาย คณะกรรมการอาจถูกฟ้องร้องและจะทำให้ทุกอย่างไม่สามารถเดินหน้าต่อได้)

492019_resize.jpg
492019_resize.jpg (70.86 KiB) เปิดดู 10236 ครั้ง


ในส่วนของท่านที่เป็นห่วงว่าจะมีการยื้อระยะเวลา หรือไม่เป็นไปตามข้อตกลง ขอให้ท่านรับทราบว่า หากไม่เป็นดังที่กล่าวไว้ คนเชียงใหม่จะออกมาคัดค้านอีกครั้ง ให้ดังกว่าเดิม แต่เราค่อนข้างเชื่อมั่นว่า "เชื่อถือได้" อย่าลืมว่าการพูดในห้องประชุมจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าการให้สัมภาษณ์นักข่าวด้านนอก ซึ่งเราสามารถใช้วิจารณญาณวิเคราะห์ได้ว่าน่าจะเป็นไปในทิศทางใด
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: ขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » อาทิตย์ 06 พ.ค. 2018 4:11 pm

บทสรุป ณ วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑

364798_resize.jpg
364798_resize.jpg (114.73 KiB) เปิดดู 10157 ครั้ง



...ผู้รับเหมาดำเนินการให้เสร็จในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๑ เพื่อไม่ให้มีการฟ้องร้อง
...เป็นพื้นที่ที่ไม่มีคนอยู่ในพื้นที่ ๔๕ + ๙ หลัง
...จะมีการรังวัดโดยมอบให้กรมธนารักษ์
...รัฐจะฟื้นฟูป่าร่วมกับประชาชน ทำทันที
...ให้คืนสภาพป่าดั้งเดิมที่สมบูรณ์คืนมา
...ตั้งกรรมการร่วมดำเนินการสิ่งปลูกสร้างเพื่อให้คืนเป็นธรรมชาติดั้งเดิม
...รัฐจะหาที่สร้างใหม่ให้กับตุลาการ
...กรมทรัพย์ฯทำแผนฟื้นฟูร่วมกับภาคประชาชน
...จะประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ

เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพยังไม่สลายตัว เราจะรอจนกว่าข้อตกลงสัมฤทธิ์ผล ขอให้ทุกคนช่วยกันติดตาม

100917_resize.jpg
100917_resize.jpg (141.3 KiB) เปิดดู 10178 ครั้ง
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: ขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย น้ำฟ้า » อังคาร 08 พ.ค. 2018 6:07 am

คำถามยอดฮิต เหตุใดคนเชียงใหม่จึงเพิ่งมาคัดค้านการก่อสร้างบ้านพักศาลตุลาการภาค ๕

ภาพเริ่มก่อสร้างในปี ๒๕๕๘
o8j6bpx5vLe6sYuBhG5-o.jpg
o8j6bpx5vLe6sYuBhG5-o.jpg (28.05 KiB) เปิดดู 9695 ครั้ง


คำถามนี้เกิดจากความไม่เข้าใจในเรื่องพื้นที่ และบริบทของเรื่องราวต่างๆ มาจะเล่าให้ฟัง การคัดค้านการก่อสร้างบ้านพักศาลตุลาการดำเนินการครั้งแรกตั้งแต่มีการอนุมัติพื้นที่ใหม่ๆ ในปี ๒๕๔๗ ทุกอย่างเงียบไป จนมีการอนุมัติงบประมาณ และเริ่มเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างในปี ๒๕๕๗ ข้อมูลจากอดีตผู้พิพากษาเชียงใหม่กล่าวว่า มีหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานทำหนังสือคัดค้านในปี ๒๕๕๗ ในปี ๒๕๕๘ กลุ่มร่มบินได้เห็นการตัดไม้ และก่อสร้างในบริเวณดังกล่าวจึงมีการร้องเรียน ติดตาม และสืบข้อมูล แต่สำหรับประชาชนทั่วไปนั้น ในการก่อสร้างช่วงแรกๆยังมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรกับพื้นที่บริเวณนั้น เนื่องจากบริเวณก่อสร้างอยู่ด้านหลังบ้านพักทหาร ไม่สามารถเข้าไปได้ ผู้ที่เห็นการก่อสร้างในช่วงนั้นจึงเป็นกลุ่มร่มบิน กลุ่มจักรยาน และเมื่อเครื่องบินเปลี่ยนทิศทางการบินผู้ที่นั่งอยู่บนเครื่องบินจึงมองเห็น และถ่ายภาพมาโพสต์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ต่อมาในปี ๒๕๕๙ ศาลได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ขอใช้พื้นที่จากธนารักษ์อย่างถูกต้อง หากมีการพาดพิงใดๆให้เสียหายจะเอาผิดผู้พาดพิง ทำให้นักข่าวไม่กล้าติดตามข่าวนี้ รวมถึงประชาชนก็ไม่กล้าแสดงออก ด้วยเกรงกลัวกฎหมาย ประกอบกับขณะนั้นการเมืองยังไม่เข้าที่ การรวมกลุ่มทำกิจกรรมเป็นไปได้ยาก ต่อมาในหลวง ร.๙ สวรรคต การคัดค้านบ้านพักแห่งนี้จึงต้องชะงัก เพราะทุกคนต่างก็โศกเศร้า และกลุ่มคัดค้านไม่ต้องการให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แต่ก็ยังมีการติดตามการก่อสร้างอยู่เรื่อยๆ เมื่อเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีเผาพระบรมศพ ปี ๒๕๖๐ การคัดค้านจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้มีการรวมกลุ่มของหน่วยงาน องค์กรต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่ ๑๖ องค์กร เพิ่มเป็น ๔๔ องค์กรในเดือนเมษายน และเพิ่มเป็น ๕๒ องค์กรในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๑

ภาพการก่อสร้างในปี ๒๕๕๙
o91o81yfxFYrIx4e3ma-o.jpg
o91o81yfxFYrIx4e3ma-o.jpg (234.67 KiB) เปิดดู 9695 ครั้ง


เพจสมาคมคนเหนือเข้าร่วมเครือข่ายครั้งแรกปลายเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ ขณะนั้นพบว่าเพจเครือข่ายมีสมาชิกแฟนเพจจำนวนประมาณ ๒- ๓ พันคน การทำความเข้าใจ และประชาสัมพันธ์ต่างๆจึงเข้าถึงประชาชนได้ยาก เพจสมาคมคนเหนือจึงช่วยในการประชาสัมพันธ์ เพราะเป็นเพจใหญ่มีแฟนเพจจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นกว่าคน กิจกรรมต่างๆจึงค่อยๆดำเนินไปอย่างราบรื่น มีผู้คน และมีองค์กรต่างๆ เข้าร่วมมากขึ้น การทำความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญมาก แรกๆคนกลัวตุลาการ เพราะเป็นผู้ตัดสินคดีต่างๆ ประกอบกับศาลให้ข่าวว่าขอใช้พื้นที่ถูกต้อง ประชาชนจึงไม่มีใครกล้าคัดค้าน ต่อมานักกฎหมายเริ่มให้ข้อมูลในส่วนของรัฐธรรมนูญ และพรบ.ต่างๆที่ให้สิทธิประชาชนเกี่ยวกับการก่อสร้างของรัฐ ข้อมูลดังกล่าวทำให้ประชาชนเข้าใจ และกล้าแสดงออกมากขึ้น


การคัดค้านของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากศาลเป็นหน่วยงานสังคมให้ความนับถือ ศรัทธา ยังมีกลุ่มที่ขัดแย้งทางการเมือง พยายามฉกฉวยโอกาสนี้แอบอ้างโจมตีทางการเมือง จึงยอมให้ทหารเป็นตัวกลางในการเจรจากับศาลหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากศาลไม่เคยเข้าร่วมการเจรจา (มีการโทรศัพท์มายกเลิกกะทันหันตลอด แต่ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้รับหนังสือบ้าง ไม่ได้รับเชิญบ้าง) ทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพจึงแสดงออกโดยการแสดงจุดยืนการขอคืนพื้นที่ "รื้อถอน" สิ่งก่อสร้าง เพื่อฟื้นฟูป่า และคืนพื้นที่ให้ป่าสงวน เท่านั้น กิจกรรมต่างๆได้แก่ การบวชป่า ในวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๑ สงกรานต์สีเขียว ดำหัวครูอาจารย์ คนเฒ่าคนแก่ล้านนา และไหว้สาครูบาศรีวิชัย การชุมนุมแสดงจุดยืน ๒๙ เมษายน ฯลฯ
ไฟล์แนป
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 26 ส.ค. 2018 2:50 pm

39846822_1014952985332208_5068867415727669248_n_resize.jpg
39846822_1014952985332208_5068867415727669248_n_resize.jpg (111.47 KiB) เปิดดู 9520 ครั้ง


เตขว้างๆๆๆ จะกี่ร้อยวันพันปีเราไม่มีวันลืม..อย่ายื้อ..เพราะถ้าไม่รื้อไม่จบ


แม่น้ำร้อยสายไหลรวมเป็นหนึ่ง บรรยากาศ ณ ข่วงประตูท่าแพ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๑

ทิศเหนือ-ประตูช้างเผือก (แม่น้ำแม่งัด แม่แตง แม่สา แม่ข่า ห้วยชะเยือง ห้วยหยวก-ตึงเฒ่า แม่แตง แม่กก แม่โขง)

ทิศใต้ -ลานประตูเชียงใหม่
(แม่ขาน น้ำแม่แจ่ม ห้วยแม่ตาช้าง)

ทิศตะวันออก - สวนสาธารณะริมแม่น้ำปิง ตรงข้ามคริสตจักรที่ ๑ (แม่กวง แม่โจ้ แม่ลาว แม่ยม สาละวิน)

ทิศตะวันตก-ลานประตูสวนดอก
(ห้วยแก้ว ห้วยช่างเคี่ยน ห้วยแม่เหียะ)

ห้วยและน้ำแม่จากทุกทิศไหลรวมเป็นแม่น้ำปิง สายน้ำแห่งชิวิตของชาวเชียงใหม่

ขอบคุณพี่น้องอีสาน กลาง และใต้ที่มารวมพลังกับชาวเชียงใหม่มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

18581.jpg
18581.jpg (52.38 KiB) เปิดดู 9520 ครั้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 26 ส.ค. 2018 2:51 pm

แม่น้ำร้อยสายไหลรวมเป็นหนึ่ง ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๑ ณ ข่วงประตูท่าแพ

18580_resize.jpg
18580_resize.jpg (72.37 KiB) เปิดดู 9520 ครั้ง


170873_resize.jpg
170873_resize.jpg (100.08 KiB) เปิดดู 9520 ครั้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 26 ส.ค. 2018 3:02 pm

เตขว้างๆๆๆ จะกี่ร้อยวันพันปีเราไม่มีวันลืม..อย่ายื้อ..เพราะถ้าไม่รื้อไม่จบ


แม่น้ำร้อยสายไหลรวมเป็นหนึ่ง บรรยากาศ ณ ข่วงประตูท่าแพ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๑

33147_resize.jpg
33147_resize.jpg (99.6 KiB) เปิดดู 9520 ครั้ง


ทิศเหนือ-ประตูช้างเผือก (แม่น้ำแม่งัด แม่แตง แม่สา แม่ข่า ห้วยชะเยือง ห้วยหยวก-ตึงเฒ่า แม่แตง แม่กก แม่โขง)

ทิศใต้ -ลานประตูเชียงใหม่
(แม่ขาน น้ำแม่แจ่ม ห้วยแม่ตาช้าง)

ทิศตะวันออก - สวนสาธารณะริมแม่น้ำปิง ตรงข้ามคริสตจักรที่ ๑ (แม่กวง แม่โจ้ แม่ลาว แม่ยม สาละวิน)

ทิศตะวันตก-ลานประตูสวนดอก
(ห้วยแก้ว ห้วยช่างเคี่ยน ห้วยแม่เหียะ)

ห้วยและน้ำแม่จากทุกทิศไหลรวมเป็นแม่น้ำปิง สายน้ำแห่งชิวิตของชาวเชียงใหม่

ขอบคุณพี่น้องอีสาน กลาง และใต้ที่มารวมพลังกับชาวเชียงใหม่มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

549829_resize.jpg
549829_resize.jpg (71.78 KiB) เปิดดู 9520 ครั้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 26 ส.ค. 2018 3:05 pm

ทิศตะวันตก จุดวัดสวนดอกเป็นพี่น้องชาติพันธุ์ น่ารักและเข้มแข็งมากค่ะ
33184_resize.jpg
33184_resize.jpg (111.43 KiB) เปิดดู 9519 ครั้ง


33155_resize.jpg
33155_resize.jpg (108.52 KiB) เปิดดู 9519 ครั้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 26 ส.ค. 2018 3:07 pm

พลังมวลชนคนไม่เอาป่าแหว่ง

33167_resize.jpg
33167_resize.jpg (122.35 KiB) เปิดดู 9519 ครั้ง


33165_resize.jpg
33165_resize.jpg (112.48 KiB) เปิดดู 9519 ครั้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 26 ส.ค. 2018 3:11 pm

เตขว้างๆๆๆ จะกี่ร้อยวันพันปีเราไม่มีวันลืม..อย่ายื้อ..เพราะถ้าไม่รื้อไม่จบ

33171_resize.jpg
33171_resize.jpg (112.73 KiB) เปิดดู 9510 ครั้ง


แม่น้ำร้อยสายไหลรวมเป็นหนึ่ง บรรยากาศ ณ ข่วงประตูท่าแพ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๑


ทิศเหนือ-ประตูช้างเผือก (แม่น้ำแม่งัด แม่แตง แม่สา แม่ข่า ห้วยชะเยือง ห้วยหยวก-ตึงเฒ่า แม่แตง แม่กก แม่โขง)

ทิศใต้ -ลานประตูเชียงใหม่
(แม่ขาน น้ำแม่แจ่ม ห้วยแม่ตาช้าง)

ทิศตะวันออก - สวนสาธารณะริมแม่น้ำปิง ตรงข้ามคริสตจักรที่ ๑ (แม่กวง แม่โจ้ แม่ลาว แม่ยม สาละวิน)

ทิศตะวันตก-ลานประตูสวนดอก
(ห้วยแก้ว ห้วยช่างเคี่ยน ห้วยแม่เหียะ)

ห้วยและน้ำแม่จากทุกทิศไหลรวมเป็นแม่น้ำปิง สายน้ำแห่งชิวิตของชาวเชียงใหม่

ขอบคุณพี่น้องอีสาน กลาง และใต้ที่มารวมพลังกับชาวเชียงใหม่มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

33181_resize.jpg
33181_resize.jpg (96.5 KiB) เปิดดู 9510 ครั้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 26 ส.ค. 2018 3:13 pm

33272_resize.jpg
33272_resize.jpg (116.51 KiB) เปิดดู 9510 ครั้ง


33183_resize.jpg
33183_resize.jpg (105.98 KiB) เปิดดู 9510 ครั้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ร้อยเรื่องเมืองล้านนา

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 55 ท่าน

cron