ฝากเรื่องสั้นขนาดยาว(มากกกก)ด้วยนะคะ
+ + + + + + + + + +
๑
ฉันส่งวงค้อนไปให้คนที่ยืนหมุนซ้ายหมุนขวาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องตั้งแต่สิบห้านาทีที่แล้วด้วยความหมั่นไส้ปนขำ
...ดาว...เพื่อนรักของฉันอยู่ในชุดกระโปรงสั้นแค่เข่าผ้าเนื้อบางพลิ้วสีน้ำตาลลายดอกไม้เล็กๆ สีเหลือง เสื้อแขนกุดสีขาวมีระบายเล็กๆ ตรงสาบเสื้อ มือหนึ่งดาวถือเสื้อสูทสีน้ำตาลเข้มเกือบดำไว้
“สวยแล้วย่ะ แม่คุณ ถามจริงๆ จะไปสัมภาษณ์งานหรือไปออกเดทกันแน่ยะ ถึงได้ห่วงสวยขนาดนี้น่ะ” และเมื่อไม่เห็นทีท่าว่าดาวจะถอยออกจากหน้ากระจก ฉันก็อดร้องแซวไม่ได้
ดาวหันมายิ้มด้วยดวงตาเป็นประกายแห่งความหวัง ก่อนจะย่นจมูกด้วยท่าทีเป็นกังวลเห็นได้ชัด
“ก็ตื่นเต้นนี่หว่า คิดดูนะ ฉันไม่เคยสัมภาษณ์งานมาตั้งนาน กลัวจะไปทำเปิ่นหรือแต่งตัวเสล่อให้คนสัมภาษณ์หัวเราะเอาน่ะสิ” พูดจบดาวก็เดินเอาเสื้อสูทไปวางพาดบนเตียงนอน แล้วจึงจัดการถอดชุดที่ใส่อยู่ออก
และเพราะคบกันมาปีนี้เป็นปีที่ 9 ฉันกับดาวจึงเลิกอายกันในทุกเรื่องไปแล้ว ดาวจึงกล้าที่จะถอดเสื้อผ้าต่อหน้าฉัน เหมือนที่ฉันก็สามารถใส่ชุดชั้นในเดินไปเดินมาในห้องได้โดยไม่รู้สึกอะไรนั่นแหละ
ฉันกับดาวคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน ครั้นเรียนจบ ก็เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ พร้อมกันและเช่าหออยู่ด้วยกัน ฉันได้งานเป็นฝ่ายพิสูจน์อักษรในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ส่วนดาวเลือกทำงานด้านบัญชีตามวิชาโทที่เรียนมาและก็ทำที่นั่นมาตลอด ในขณะที่ฉันเปลี่ยนงานไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่แล้ว งานที่ดูเหมือนจะมั่นคงของดาวก็สั่นคลอน เมื่อดาวถูกหัวหน้าผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งหมั่นไส้มันมานานแล้ว (เรื่องแฟนของหัวหน้าที่มักมาก้อร่อก้อติกกับมัน) กลั่นแกล้งโดยการโยนเผือกร้อนมาให้ดาวจัดการ และเมื่อมันทำไม่ได้ก็ไล่ออกเสีย ดาวตกงานอยู่สองเดือน ถึงมีบริษัทมาเรียกไปสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้
“นึกว่าอะไร นี่แกไม่รู้ตัวเลยหรือว่า แกน่ะ เสล่อมานานแล้ว”
“นังแอ๋ม” ดาวหันมาถลึงตาใส่ฉันแบบไม่จริงจังนัก
“ฮะฮะ...ล้อเล่นเว้ย ฉันกลัวแต่ว่า คนสัมภาษณ์เขาจะเอ๋อเพราะตะลึงในความสวยของแกละไม่ว่า”
คราวนี้ดาวยักไหล่ทำนองว่า มันแน่นอนอยู่แล้ว แล้วเราก็หัวเราะกันขำๆ
ดาวไม่ใช่คนสวยจัด แต่มีเสน่ห์ด้วยบุคลิกที่ดูมั่นใจในตัวเอง ขณะเดียวกันก็ดูเรียบร้อยอยู่ในที เรียบร้อยในที่นี้ไม่ใช่หมายความว่าเป็นคนนุ่มนิ่ม ทำอะไรเชื่องช้านะ มันเป็นคนไม่ค่อยเที่ยวกลางคืน ไม่กินเหล้า ใช้ชีวิตเรียบง่ายและมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองมี เป็นเด็กดีของพ่อแม่ว่างั้นเถอะ บวกกับหุ่นที่สมส่วนด้วยแล้ว มันก็เป็นผู้หญิงที่น่ามอง น่าสนใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
วันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันหยุดของฉัน ดาวออกไปสัมภาษณ์งานแต่เช้าและกลับมาด้วยดวงตาที่เป็นประกายสดใสและสีหน้าที่เบิกบานที่สุดในรอบสองเดือนที่ผ่านมา
เย็นนั้น เราออกไปฉลองด้วยส้มตำเจ้าอร่อยหน้าปากซอย โดยมีฉันเป็นเจ้ามือ
ครั้งหนึ่ง ระหว่างที่เราคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กันอย่างออกรสเพราะเมาน้ำปลาร้า ดาวก็เอ่ยขึ้นว่า
“เออ ลืมเล่าให้ฟัง วันนี้ตอนที่ฉันนั่งรอสัมภาษณ์อยู่ มีผู้ชายคนหนึ่งมานั่งมองฉันใหญ่เลยว่ะ โคตรรำคาญเลย แล้วอะไรรู้มั้ย แก พอฉันสัมภาษณ์เรียบร้อย เดินออกจากบริษัท เขาก็ให้ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเอาเบอร์โทรฯ มาให้ฉันด้วยอ่ะ”
“ว้าว เสน่ห์แรงจริง เพื่อนฉัน แค่วันแรกก็เข้าตากรรมการซะแล้ว”
“แกอย่ามาทำเสียงแบบนี้นะเว้ย ฉันไม่ชอบ” ดาวส่งเสียงแหลมปรี๊ด “พี่แกมั่นใจในตัวเองเกินไปหรือเปล่า คิดว่าผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะโทรฯ ไปหาวะ แล้วขอโทษ ไม่ได้หล่ออะไรเล้ย แหวะ”
“ฮื่อ ประเภทไม่หล่อแต่เร้าใจป่าว...ว่าแต่ไม่เป็คเลยเหรอ”
ดาวสั่นหน้าด้วยท่าทีออกไปทางขยะแขยงจนฉันอดหัวเราะไม่ได้
นี่เป็นนิสัยอย่างหนึ่งที่ฉันกับดาวคล้ายกันและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราคบกันมาได้ยาวนาน คือ แม้เราสองคนจะอายุพอสมควรแล้วและอยากมีแฟน อยากแต่งงาน อยากมีลูก แต่เราก็จะไม่รีบตะครุบผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามา เราจะเลือกผู้ชายในแบบที่เราชอบ หรืออย่างน้อยก็มีบางอย่างบางส่วนในความเป็นเขาที่เราชอบ ไม่ใช่ว่า พอใครก้าวเข้ามาก็ต้องรีบคว้าไว้โดยไม่สนว่าจะเป็นใคร เป็นยังไง ใครจะว่าเราใจแคบ ไม่ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้หรือศึกษาก็ช่าง (ซึ่งเพราะเหตุนี้ละกระมังที่ทำให้เราสองคนโสดสนิทมาตั้งแต่สมัยเรียน แม้จะมีหนุ่มๆ มาด้อมๆ มองๆ บ้าง โดยเฉพาะดาว แต่เราก็ถือครองความโสดไว้ได้อย่างเหนียวแน่น)
และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเรื่องผู้ชายคนนั้นจากดาว
หลังจากดาวเข้าไปทำงานที่นั่นได้เดือนกว่าๆ ฉันก็ได้ยินเรื่องของเขาอีกครั้งผ่านน้ำเสียงและสีหน้าแบบเดิมเปี๊ยบ ที่เพิ่มมาคือความรำคาญที่ปิดไม่มิด
“ชอบมานั่งมองฉันตาปรอย บ้าหรือเปล่า ไร้ฟอร์มอะไรขนาดนั้นวะ แกเคยเห็นมั้ย คนเจ้าชู้แต่ไม่มีเสน่ห์เลย” ดาวลากเสียงยาวตอนท้าย
“ก็คุยกับเขาไปตรงๆ สิวะ ว่าแกไม่ชอบ”
“นึกว่าฉันไม่อยากคุยหรือไง แต่เขาไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาจีบฉันเลยนี่สิ ที่ทำให้ฉันกลุ้มใจ จะไปพูดไปว่าอะไรมากก็ไม่ได้...พี่แกเล่นเอาแต่นั่งมองอ่ะ แล้วฉันก็โคตรเซ็ง ตรงที่เพื่อนร่วมงานก็ตั้งหน้าตั้งตาล้อกันจั๊ง เฮ้อ”
อย่างไรก็ตามฉันก็ยังเชื่อมั่นว่า ดาวจะสามารถปัดรังควานนี้ออกไปได้แน่นอน ไม่ใช่เพราะว่ามีคนมาจีบเยอะจนช่ำชองในการจัดการกับผู้ชายที่ไม่พึงใจหรอกนะ แต่ดาวเป็นคนตรงไปตรงมาและชัดเจนในความรู้สึกของตัวเองเสมอ ไม่เคยมีประวัติว่า จะร้อยผู้ชายเอาไว้ใช้หรือเป็นตัวสำรอง ถ้าไม่ก็คือไม่ และดาวก็จะมีวิธีพูดที่ทำให้ผู้ชายที่มาจีบยอมฟังและยอมรับการปฏิเสธจากมันได้ในที่สุด
เพียงแต่คราวนี้...ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ไม่เหมือนครั้งไหน
ไม่เหมือนเลย