มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

บทกวี โคลง กลอน ต่างๆ

มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย savaddee » เสาร์ 25 เม.ย. 2009 1:12 am

ตัวผมเองอยู่ กาญจนบุรี จึงขอนำเสนอในรูปแบบของ กาพย์ฉบัง ๑๖ นะครับ

เจดีย์สามองค์บอกแดน เขื่อนศรีฯใหญ่แสน
สุดที่จะพรรณา
น้ำตกไทรโยคน่าตา เพชรนิลจินดา
ของล้ำค่าเรามากมี
สถานที่โบราณคดี เมืองสิงห์ธานี
เก่าแก่แต่โบราณกาล
เห็ดโคนขึ้นชื่อขับขาน กรอบอร่อยหวาน
งานวันชาวเรือชาวแพ
สุสานสัมพันธมิตรแล สะพานข้ามน้ำแคว
เป็นศรีสง่าแก่เมือง
จังกวัดกาญจน์ฟูเฟื่อง เชิญเที่ยวตามเรื่อง
ของเรากาญจนบุรี

อยากได้คำติชมด้วยครับ
savaddee
นักเรียนหัดเขียน
นักเรียนหัดเขียน
 
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 25 เม.ย. 2009 12:58 am

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » เสาร์ 25 เม.ย. 2009 9:15 am

......นพบุรีศรีนครพิงค์มิ่งเมืองฟ้า

ศรีลานนาเลื่องลือชื่อเชียงใหม่

งามประเพณีวัฒนธรรมงามน้ำใจ

แหล่งท่องเที่ยวอันวิไลในแดนดิน

......ดอยสุเทพเขตครามน้ำศักดิ์สิทธิ์

ยังคงติดตรึงใจให้ถวิล

กราบพระธาตุใจสะอาดสิ้นมลทิน

ใจยังจำรวยรินกลิ่นเอื้องดอย

......อินทนนท์เสียดฟ้าเมืองสยาม

ภูพิงค์อันงดงามสูงสุดสอย

แม่ระมิงค์สายน้ำงามดังพลอย

มวลน้ำตกใหญ่น้อยละลานตา

......สาวเชียงใหม่ภาษาสยามงามดวงจิต

สู้ชีวิตตามแรงปรารถนา

อยู่กรุงเทพฯเปลี่ยวเหงาเศร้าวิญญาณ์

ยังคิดถึงแนวป่าบ้านเกิดเมืองนอน



f6.jpg
pasasiam
f6.jpg (9.39 KiB) เปิดดู 20871 ครั้ง
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย arunsuk » พุธ 29 เม.ย. 2009 8:48 am

สุโขทัย รุ่งอรุณแห่งความสุข

รูปภาพ

ขอนำพาหมู่พ้อง เพื่อน น้อง พี่
มาเยือนที่สุโขทัยวิไลสถาน
ราชธานีสยามเนาแต่เก่ากาล
ครั้งโบราณใช่น้อยแปดร้อยปี

ปฐมกษัตริย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
ทรงพิชิตขอมสบาดฯรั้งราชย์ศรี
สถาปนาสุโขทัยราชธานี
เป็นกรุงศรีฯสยามแคว้นเขตแดนไทย

รูปภาพ

พ่อขุนรามคำแหงฯทรงแกร่งกล้า
รั้งพาราผนวกแดนเป็นแคว้นใหญ่
พระบารมีลือเลื่องประเทืองไกล
จารึกในดวงจิตอยู่นิจกาล

สุโขทัยคือ อรุณอันอุ่นสุข
หรือ ไทยสุข เป็นนิยามตามเล่าขาน
ถิ่นอุดมข้าวปลามายาวนาน
ทั้งสืบสานศิลปกรรมอันล้ำเลอ

วันนี้ขอพาเที่ยวแก้เปลี่ยวจิต
เมืองอดีตฯ สุโขทัย ที่ได้เสนอ
แด่มวลมิตรฯชิดใกล้ที่ได้เจอ
ใช่พร่ำเพ้ออยู่ว่างมาอ้างอำ

รูปภาพ

อำเภอเมืองเรืองรุ่งเขตกรุงศรีฯ
ปราสาทมีวัด วัง ยังคมขำ
วัดมหาธาตุกลางเมืองประเทืองธรรม
ก็งามล้ำเลิศอยู่คู่ธานี

วัดศรีชุม ศรีสวาย พระพายหลวง
ทำนบพระร่วง ตระพังเงิน วัดสระศรี
ศาลพระแม่ย่า พุทธอุทยาน ก็นานปี
แต่ล้วนที่ศักดิ์สิทธิ์รวมจิตชน

อำเภอคีรีมาศวิลาศทัศน์
เขาหลวงจัดวางริ้วดั่งทิวสน
น้ำตกสายรุ้งล้ำฉ่ำกมล
ดึงผู้คนเที่ยวท้า..มายาวนาน

สวรรคโลกเมืองงามนามไพเราะ
แหล่งปลูกเพาะละมุดอันสุดหวาน
เมืองบางยม บางขลัง ครั้งเก่ากาล
เป็นเขตย่านด่านรั้งระวังภัย

ทุ่งแม่ระวิงอุทยานปานเนรมิต
รัฐสฤษดิ์ให้ประชาได้อาศัย
มาเที่ยวชมธรรมชาติพิลาสพิไล
มวลดอกไม้งดงามท่ามคีรี

รูปภาพ

ศรีสำโรงบ้านเก่าเคยเล่าไว้
นบพระใหญ่พระพุทธพิสุทธิ์ศรี
เชิญกราบกรานบูชาเสริมบารมี
ให้เปรมปรีดิ์สุขสันต์ทุกวันคืน

ถิ่นถั่วทอดสอดสร้อยใส่กลอยไว้
เช่นกลอยใจอยู่ร่วมกันทุกวันชื่น
หากขาดแล้วกลอยใจไม่หวนคืน
คงสะอื้นไห้หาอาลัยวอน

ศรีสัชนาลัยเมืองเก่าเกินเรานับ
ชะเลียง ศัพท์นามรั้งแต่ครั้งก่อน
มองปราสาท วัด วัง ให้สังวร
เกิด ขึ้น ย้อน ดับลงหาคงเนา

วัดพระศรีมหาธาตุพิลาสล้ำ
สถิตธรรม ศิลาฯมาแต่เก่า
อันพระปรางค์งามสล้างยังพร่างเพรา
จงนบเอาสิทธิศิรินิจนิรันดร์

รูปภาพ

วัดช้างล้อม นางพญา สง่าล้ำ
แทนศรัทธรรมอันสล้างที่สร้างสรรค์
อีกหลายวัดงามสง่ากว่าจำนรรจ์
ไม่ปิดกั้นเชิญบูชาเมื่อมาชม

เตาทุเรียงมีชื่อลือทั่วทิศ
ใช้ประดิษฐ์ถ้วยชามอันงามสม
สังคโลกโบราณมีนานนม
ศิลปะนิยมเลื่องชื่อฝีมือไทย

ทั้งผ้าทองามตาสง่าแคว้น
ผ้าซิ่นแดนศรีสัชฯพิพัฒน์ได้
ทองคำลายโบราณตระการใจ
เลื่องลือไกลหัตถศิลป์มายินยล

รูปภาพ

น้ำตกงามตาดเดือนดุจเดือนฉาย
ตาดดาวพรายละอองดั่งฟองฝน
เย็นชื่นฉ่ำน้ำใสหากได้ยล
ดั่งต้องมนต์ธรรมชาติวิลาสล้ำ

ทุ่งเสลี่ยมเมืองงามในยามนี้
เป็นถิ่นที่สุดแคว้นแดน เขา ถ้ำ
เฟอร์นิเจอร์ฝังหินเป็นถิ่นทำ
ทั้งงามล้ำเลิศค่าหลากอาราม

รูปภาพ

วัดทุ่งเสลี่ยมหลวงพ่อศิลานามปรากฏ
งามหมดจดพุทธลักษณะแห่งสยาม
ยี่สิบสองปีจากไทยลับไกลคาม
คืนอารามได้ประจักษ์เป็นหลักใจ

วัดพิพัฒน์มงคลน่ายลยิ่ง
พระพุทธรูปมิ่งขวัญทองสองสมัย
งดงามลักษณะตระการใจ
ควรกราบไหว้บูชาคราวมาเยือน

ที่ชวนมาเยี่ยมเยียนเปลี่ยนวิถี
อยากให้มีสุขล้นทุกคนเพื่อน
สุโขทัยงามตาเชิญมาเยือน
จะมิเลือนลบพรากไปจากใจ.
ภาพประจำตัวสมาชิก
arunsuk
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 05 ต.ค. 2008 8:54 pm

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย admin » พฤหัสฯ. 30 เม.ย. 2009 9:46 am



...... เมืองตำนานการต่อสู้กู้กรุงศรี

แหล่งอัญมณีเลอค่าน่าสะสม

เที่ยวน้ำตกธรรมชาติอภิรมย์

งามน่าชมท้องทะเลสีฟ้าคราม

......ควนคราบุรีเมืองเก่าตามตำนาน

เกินก่อนกาลจะมาเป็นเมืองสยาม

แม้นมิใช่เมืองใหญ่แต่ใจงาม

เฉิดฉันดูวาววามดังอัญมณี


ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย chomporn » อาทิตย์ 10 พ.ค. 2009 11:09 pm

เพลงลาสาวแม่กลองยังก้องหู
เร้าใจผู้อยู่ไกลให้ไปหา
เสน่ห์เมืองเลื่องชื่อเคยลือชา
สมสมญานามบ่งสมุทรสงคราม

ราชศิลปินจอมปราชญ์ราชสมภพ
เมืองนักรบพร้อมพรักพิทักษ์สยาม
เมืองฝาแฝดอินจันบันลือนาม
เมืองช้างเผือกเชือกงามเชิดความดี

เมืองหอยหลอดเมืองน้ำปลาเมืองยาจืด
ผลพันธุ์พืชฟูเฟื่องเมืองลิ้นจี่
เมืองละครสืบสานงานดนตรี
เมืองภาษีเมืองภาษาเมืองประมง

เมืองคนงามน้ำใจไม่เหือดแห้ง
เป็นเมืองแห่งศาสนาค่าสูงส่ง
ตลาดน้ำกลางน้ำยังดำรง
บ้านเรืองคงทรงงามตามแบบไทย

ทุกคุ้งน้ำอุ่นอกแม่ปกป้อง
ลูกแม่กลองเลือดเนื้อสืบเชื้อไข
ลูกหลวงพ่อบ้านแหลมแจ่มดวงใจ
เชิญท่านไปสัมผัสทัศนา

ถึงมิเทียบเมืองทองของประเทศ
แต่เป็นเขตแดนฝันแดนหรรษา
สมุทรสงครามนามชัดแจ้งสัจจา
ใครสัญญาว่าจะไปขอบใจเอย
chomporn
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 49
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 20 ส.ค. 2008 1:56 pm

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย admin » อังคาร 22 ก.พ. 2011 6:46 pm

...งงหนักหนา อาชมพร คนที่ไหน

นี่ไม่ใช่ หนุ่มหน้ามน ชาวนนท์หรือ

เห็นพูดถึง แม่กลอง นามระบือ

แล้วที่ลือ กันมา จะว่าไง

..........................
ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย chomporn » พฤหัสฯ. 24 ก.พ. 2011 2:31 pm

เกิดแม่กลอง ตายที่ไหน ยังไม่รู้
เมียเป็นครู อยู่นนท์...เข้าใจไหม
เลยย้ายถิ่น บินมา จากฟ้าไกล
พออาศัย ที่ซุกหัว...บางบัวทอง

ที่ไอ้ลือ ลืออะไร ช่วยไขด้วย
ลือว่ารวย ลือว่าบ้า ทะลึ่งบ้อง
ลืออะไร ลือให้ดี เถิดพี่น้อง
ลือว่าท้อง กับใคร อย่าได้ลือ!

:roll: :roll: :lol: :lol:
ไฟล์แนป
ชมพร444.jpg
ชมพร444.jpg (50.14 KiB) เปิดดู 20487 ครั้ง
chomporn
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 49
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 20 ส.ค. 2008 1:56 pm

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » พฤหัสฯ. 24 ก.พ. 2011 5:53 pm

ลือว่าหล่อ ว่ารวย หวยไม่เล่น
เหลือบไปเห็น รูปท้อง ต้องสงสัย
ไหนเขาว่า ผู้ชาย ท้องไม่ได้ไง
แล้วทำไม หนุ่มแม่กลอง ถึงท้องโต

งิงิ
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย chomporn » พฤหัสฯ. 24 ก.พ. 2011 6:14 pm

ท้องไม่โต เพราะผู้ใหญ่ ให้เรียกป่อง
กินฝอยทอง มาม่า ปาท่องโก๋
กินขาหมู ลำไย กินไมโล
กินแตงโม เป็ดไก่ กินไอติม :lol:
chomporn
นักเขียน VIP
นักเขียน VIP
 
โพสต์: 49
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 20 ส.ค. 2008 1:56 pm

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย สหาย พันจอก » อาทิตย์ 20 มี.ค. 2011 8:37 pm

ตำนานเจ้าแม่เขาสามมุก/บางแสน-ชลบุรี


ฟังเพลง แสนมุก โดยวงไซโล /ฝนจางเร็คคอร์ด-ชลบุรี

๏ เมืองน้ำเค็ม ชลบุรี ที่ลือเลื่อง
คนนองเนือง เที่ยวบางแสน แดนสุโข
สาร์ทสงกรานต์ คราใด ได้ไชโย
คนโอ้โห มากมาย อยู่หลายคืน

๏ เขาสามมุข เจ้าแม่ ยังแลเห็น
เรื่องเล่าเป็น ตำนาน ที่หวาน-ขื่น
รักของสาว ชื่อมุก มาพังครืน
เพราะหนุ่มแสน มีหญิงอื่น เกินทำใจ

๏ เรื่องเล่าว่า มีชาย ชื่อนายแสน
เกิดดินแดน อ่างศิลา ท่าเรือใหญ่
อีกหนึ่งสาว ชื่อมุก อยู่ไม่ไกล
เธออาศัย อยู่กับยาย ชายคีรี

๏ เมื่อวันหนึ่ง โชคชะตา ฟ้ากำหนด
ให้พบบท ความรัก อันสวยศรี
ว่าวปักเป้า หนุ่มแสน ขาดพอดี
ลอยตกที่ บ้านยาย ใกล้ใกล้เธอ

๏ หนุ่มกับสาว พบกัน พลันเกิดรัก
สุดห้ามหัก ห้วงใจ ฤทัยเผลอ
มีบ่อยครั้ง นัดกัน เพื่อมาเจอ
มั่นเสมอ ไม่ลืมกัน สัญญารัก

๏ เจ้าหนุ่มแสน ถอดแหวน วงหนึ่งให้
เพื่อแทนใจ สาวมุก เห็นประจักษ์
ทั้งคู่เพิ่ง คบกัน ไม่นานนัก
แสนถูกหัก ให้พราก จากสาวมุก

๏ กำนันบ่าย พ่อของแสน แกแค้นเหลือ
ห้ามไม่เชื่อ จึงจัดงาน ฉุกละหุก
ให้หนุ่มแสน แต่งงาน รีบเร่งรุก
ขบวนบุก ไปขอ ลูกพ่อค้า

๏ ถึงวันแต่ง ใหญ่โต โอ้ขันหมาก
ผู้คนหลาก มากมาย ได้หรรษา
แต่สาวมุก ขื่นขม ตรมอุรา
เธอแอบมา งานแต่ง ด้วยเช่นกัน

๏ แล้วถอดแหวน แทนน้ำสังข์ หลั่งให้แสน
ที่แน่นแฟ้น ก่อนนี้ เคยมีฉัน
อวยพรให้ แสนสุข* อยู่นิรันดร์
แล้วผลุนผลัน จากไป ในทันที

๏ เธอปล่อยร่าง ดิ่งร่วง ที่ห้วงผา
เพราะอุรา หมองหม่น อย่างป่นปี้
ส่วนหนุ่มแสน ตามมา เห็นพอดี
ปีนคีรี ถึงยอด กระโจนตาม

๏ ทั้งสองร่าง เคียงกัน ในวันโศก
เกิดวิโยค แห่งใจ คนไถ่ถาม
ตำนานรัก ไม่หลอนหลอก บอกนิยาม
ฉันฟังความ จึงเรียบเรียง ไว้เพียงนี้

๏ บังเกิดศาล เจ้าแม่ เขาสามมุก
เป็นที่พึ่ง ผู้ทุกข์ คนรักหนี
แม้แต่ สุนทรภู่ ครูกวี
ยังเอื้อนเอ่ย วจี เพื่อบนบาน

๏ เมื่อคราครั้ง เยี่ยมบิดา ที่เมืองแกลง
พายุแรง เกินไหว ใจยังหาญ
ท่านสุนทร ต้องทำใจ ในตำนาน
มือประสาน ให้พระคุณ มาจุนเจือ

๏"พี่แข็งขืน ฝืนภา-วนานิ่ง
แลตลิ่ง ไรไร ยังไกลเหลือ
เห็นเกินรอย บางปลาสร้อย* อยู่ท้ายเรือ
คลื่นก็เฝือ ฟูมฟอง คะนองพราย

เห็นจวนจน บนเจ้า เขาสำมุก*
จงช่วยทุกข์ ถึงที่ จะทำถวาย
พอขาดคำ น้ำขึ้น ทั้งคลื่นคลาย
ทั้งสามนาย หน้าชื่น ค่อยเฉื่อยมา๚"๏
♥จากนิราศเมืองแกลง-สุนทรภู่♥

๏ หากมาเที่ยว บางแสน แดนสวรรค์
เมื่อสุขสันต์ เปรมปรีดิ์ ที่หรรษา
จงอย่าลืม เขาสามมุก ควรแวะมา
กราบบูชา เจ้าแม่ เขาสามมุก.๚๛

สหาย พันจอก
20/03/54

*แสนสุข เป็นชื่อตำบล ที่ตั้งหาดบางแสน
*บางปลาสร้อย ชื่อตำบล เขต อ.เมือง ชลบุรี
*เขาสำมุก คาดว่าสุนทรภู่ น่าจะเข้าใจผิดเรียกสามมุกเป็นสำมุก
เนื่องจากสำเนียงคนพื้นเมืองชลบุรี ชอบพูดแบบกร่อนคำ
เช่น สามเป็นสำ สิบเอ็ด เป็นสิบเบ็ด เป็นต้น

****ฉันเขียนกลอนบทนี้ให้เธอคนหนึ่ง ซึ่งอยากจะไปเที่ยวเขาสามมุกกับสหาย พันจอกเหลือเกิน แต่สหาย พันจอกไม่เคยพาไป...ถึงวันนี้...ไม่แน่ใจว่า...เธอ จะมีโอกาสได้ไปอีกหรือไม่....*****ฉันขอให้เธอได้อ่านกลอนนี้ทดแทนก็แล้วกัน...******
แก้ไขล่าสุดโดย สหาย พันจอก เมื่อ อาทิตย์ 20 มี.ค. 2011 11:29 pm, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.
ร่ายอักษรกลอนศรี กวีเมา
http://yuthpa.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
สหาย พันจอก
นักอ่าน VIP
นักอ่าน VIP
 
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 15 มี.ค. 2011 2:56 am
ที่อยู่: ชลบุรี

Re: มาแต่งร้อยกรองนำเสนอจังหวัดบ้านเกิดกันเถอะ

โพสต์โดย ภาษาสยาม » อาทิตย์ 20 มี.ค. 2011 10:25 pm

สาวไหนกันหนอ ที่โชคดี
:P
บาดแผลเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ภาษาสยาม
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 1145
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:43 pm


ย้อนกลับไปยัง บทกวี

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 14 ท่าน

cron