ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

เรื่องราวของอาณาจักรล้านนา

ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:30 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:31 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:33 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:34 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:34 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:35 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:36 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:37 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:38 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย admin » อาทิตย์ 07 ส.ค. 2011 11:41 am

ภาษาสยาม "งดงามความเป็นไทย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
admin
Administrator
Administrator
 
โพสต์: 309
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 06 ก.ค. 2008 9:28 pm

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย น้ำฟ้า » ศุกร์ 11 ต.ค. 2013 6:49 am

575444_535683676477867_106233500_n.jpg
575444_535683676477867_106233500_n.jpg (85.29 KiB) เปิดดู 14478 ครั้ง


ในสมัยก่อน การขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพนั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบากเหลือเกิน เพราะไม่มีถนนสะดวกสบายเหมือนปัจจุบัน ทางเดินก็แคบๆ และ ไม่ราบเรียบ ต้องผ่านป่าเขาลำเนาไพร และปีนเขาต้องใช้เวลายาวนานถึง ๕ ชั่วโมงกว่า จนมีคำกล่าวขานกันทั่วไปในสมัยนั้นว่า ถ้าไม่มีพลังบุญและศรัทธาเลื่อมใสจริงๆ ก็จะไม่มีโอกาสได้กราบไหว้พระธาตุดอยสุเทพ
ในปี พ.ศ.๒๔๗๗ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย มาจากวัดบ้านปาง จังหวัดลำพูน เป็นผู้เริ่มดำเนินการสร้างถนนขึ้นสู่พระธาตุดอยสุเทพ โดยมีเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่สมัยนั้น เป็นผู้เริ่มขุดดินด้วยจอบเป็นปฐมฤกษ์ ตรงที่หน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ปัจจุบัน ใกล้ๆ กับบริเวณน้ำตกห้วยแก้ว โดยเริ่มสร้างวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๔๗๗
ครูบาศรีวิชัย เจ้าแก้วนวรัฐและพระภิกษุสงฆ์ ประชาชน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่บันใดนาค เมื่อ ๓๐เมษายน ๒๔๗๘ เมื่อข่าวการสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพได้แพร่สะพัดไปยังจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ ชาวพุทธผู้เลื่อมใสในครูบาศรีวิชัย ต่างทยอยกันมาจากทั่วสารทิศจนเต็มบริเวณเชิงดอยหมด เพื่อมาร่วมสละแรงงานช่วยสร้างถนน โดยไม่มีค่าจ้างใดๆ ทั้งสิ้น วันๆ หนึ่งจะมีประชาชนมาร่วมสร้างถนนประมาณ ๓-๔ พันคนจากทั่วทุกจังหวัดภาคเหนือ รวมไปถึงอุตรดิตถ์-พิษณุโลก ปริมาณคนงานที่มาช่วยมีมากเกินความต้องการครูบาศรีวิชัยจึงได้กำหนดให้สร้างถนนหมู่บ้านละ ๑๐ วาเท่านั้น และต่อมายังได้ลดลงอีกเหลือประมาณหมู่บ้านละ ๒ วา ๓ วา เพราะมีคนมาขอร่วมแรงงานสร้างมากขึ้นเรื่อยๆ
นับเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มากที่การสร้างถนนบนภูเขายาวถึง ๑๑ กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง ๕ เดือนกับอีก ๒๒ วัน ทั้งๆ ที่อุปกรณ์การสร้างทางมี เพียงจอบ และเสียม เท่านั้น อุปกรณ์ทันสมัย เช่นในปัจจุบันยังไม่มี

พิธีเปิดใช้ถนนใหม่ได้เริ่มเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๗๘ โดยแปะโหง ศรัทธาวัดคนสำคัญได้ขับรถนำท่านครูบาศรีวิชัยนั่งรถยนต์ขึ้นดอยสุเทพเป็นคนแรกเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ นับแต่นั้น..จึงเรียกถนนเส้นนั้นว่า "ถนนศรีวิชัย"

ข้อมูล : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

Re: ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา

โพสต์โดย น้ำฟ้า » เสาร์ 19 ต.ค. 2013 9:16 pm

2.jpg
2.jpg (51.07 KiB) เปิดดู 14465 ครั้ง


พระธาตุครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดสันติธรรมได้รับจากทันตแพทย์ท่านหนึ่ง ซึ่่งได้ไปขอมาจากวัดบ้านปาง องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นเศษอัฐิแปรสภาพเป็นผลึกหินปูน

ประวัติครูบาศรีวิชัย (นักบุญแห่งล้านนาไทย)

ความหมายของคำว่าครูบา คำว่า "ครูบา" เป็นภาษาบาลี มาจากคำว่า "ครุปิ อาจาริโย " แปลว่าเป็นทั้งครูและอาจารย์ มาจากคำว่า"ครุปา" และเพี้ยนเป็น "ครูบา" ในที่สุด เป็นคำที่พบว่า ใช้กันเฉพาะในวัฒนธรรมล้านนาเท่านั้น เป็นตำแหน่งทางสังคมของสงฆ์ หมายถึงการยกย่องเชิดชูพระสงฆ์ผู้ได้รับ การยกย่องและ นับถือศรัทธา จากประชาชน หรือมีผลงานปรากฎแก่ชุมชน โดยจะใช้คำว่า ครูบานี้ เป็นสรรพนามนำหน้า ภิกษุสงฆ์รูปนั้นๆ พระสงฆ์ทั่วๆไปไม่มีสิทธิ์แต่งตั้งตัวเองเป็นครูบา ปัจจุบันตำแหน่งดังกล่าวยังคงมีการใช้อยู่โดยทั่วไป เช่น ครูบาวงค์ (ไชยวงค์ศาพัฒนา ) วัดพระบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ครูบาคำปาน วัดหัวขัว ตำบลทุ่งหัวช้าง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นต้น สำหรับครูบาศรีวิชัย เป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่ได้รับยกย่องว่าเป็น ครูบา เพราะท่านมีมีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด และเป็นที่เคารพและศรัทธาของประชาชนทั่วภาคเหนือ ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าท่านเป็นตนบุญซึ่งเป็นตำแหน่งที่เกิดจากศรัทธาของ ชุมชนและเป็นตำแหน่ง ที่อยู่ในฐานะของการเป็นศูนย์รวมของพลังศรัทธาประชาชนอย่างแท้จริง


ครูบาศรีวิชัย พระผู้ทรงคุณประโยชน์ทางด้านการศาสนา กำเนิดที่บ้านปาง ต.แม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน เมื่อวันอังคารที่ ๑๑ มิ.ย.๒๔๒๑ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีขาล เวลา ๑๘.๐๐ น. บิดามารดาของท่าน คือ นายควาย และนางอุสา มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด ๕ คน คือ
๑. นายอินทร์ไหว
๒. นางอวน
๓. นายอินทร์เฟือน (ครูบาศรีวิชัย)
๔. นางแว่น
๕. นายทา
เริ่มการศึกษาเมื่ออายุ ๑๗ ปี โดยได้ศึกษาอักษรไทยล้านนากับท่านครูบาขัตติยะ ต่อมาเมื่ออายุ ๑๘ ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยพระครูบาขัตติยะเป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับสมญานามว่า “สามเณรศรีวิชัย”
เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๒ สามเณรศรีวิชัย ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบ้านโฮ่งหลวง อ. บ้านโฮ่ง จ. ลำพูน โดยมีพระครูบาสมณะเจ้าอาวาส วัดบ้านโฮ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายานามว่า “สิริวิชะโยภิกขุ”
เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๓ หลังอุปสมบทได้ ๑ ปี ท่านได้ขอลาไปศึกษา กัมมัฏฐานและวิชาอาคมกับพระครูบาอุปละ (อุบล) วัดดอยแต อ.แม่ทา จ.ลำพูน หลังจากได้ศึกษากัมมัฏฐานกับพระครูบาอุปละได้ ๑ พรรษา ก็ได้อำลามาสู่วัดบ้านปาง จนถึงพรรษาที่ ๖ จึงได้รับเป็นเจ้าอาวาส วัดบ้านปาง

ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ทรงศีลจริยวัตรปฏิบัติบำเพ็ญสมถะและวิปัสสนา กัมมัฏฐานอย่างเคร่งครัด มุ่งมั่นปฏิบัติธรรมเจริญรอยตามพระบรมศาสดา ท่านจะคอย แนะนำอบรมสั่งสอนพระเณรเด็กวัดและแนะนำศรัทธาญาติโยมสาธุชนที่เคารพเลื่อมใส ให้ตั้งมั่นในศีลในธรรมช่วยกันบำรุงบวรพุทธศาสนา ไม่ให้ทอดทิ้งประเพณีอันดีงาม กิตติศัพท์การครองวัตรอันเคร่งครัดของท่านได้เลื่องลือไปทั่ว ผู้คนเกิดศรัทธาทำบุญถวาย ทักขินาทานมากขึ้นตามลำดับบรรดาพระภิกษุ สามเณร ตามวัดต่างๆ ต่างตำบล ต่างอำเภอ ได้พากันมาขอฝากตัวเป็นสานุศิษย์ด้วยเป็นอันมากและได้มีกุลบุตรจำนวนมากมาขอ บรรพชาและอุปสมบทอยู่ในสำนักบ้านปาง


ครูบาศรีวิชัย ได้ใช้ความศรัทธาของประชาชน และสานุศิษย์ ชักชวนให้ก่อสร้างพัฒนาวัดวาอาราม พระธาตุ พระบาท พระเจดีย์ ศาสนสถานรวม ๑๐๖ แห่ง ใน ๕ จังหวัด คือ จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ลำปาง และจ.ลำพูน ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่ประชาชน ชาวไทยยกย่องไม่รู้ลืมก็คือเป็นองค์ประธานในการสร้างพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยสร้างทางขึ้นระยะทาง ๑๒ กม. ใช้เวลา ๕ เดือน ๒๒ วัน คือเริ่มสร้างเมื่อ ๙ พ.ย.๒๔๗๗ และเปิดใช้ทางขึ้นดอยสุเทพครั้งแรกเมื่อ ๓๐ เม.ย.๒๔๗๘ ค่าก่อสร้างประมาณ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (ยี่สิบล้านบาท) โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐบาล


เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๙ - ๒๔๗๑ พระครูบาศรีวิชัยได้รวบรวมสังคายนาพระไตรปิฏก ฉบับล้านนาที่ถูกทอดทิ้งอยู่ตามวัดต่างๆ ตำบล อำเภอ และจังหวัดต่างๆ เก็บมารวบรวมจารลงในใบลานขึ้นมาใหม่


ครูบามรณภาพ เมื่อวันอังคารที่ ๒๑ ก.พ. ๒๔๘๑ รวมสิริอายุได้ ๖๑ ปี ๕ เดือน ๙ วัน ณ วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน ข่าวการ มรณภาพของครูบาเจ้ายังความเศร้าสลด อาลัยนักบุญผู้ทรงศีล จึงพากันหลั่งไหลมายังวัดบ้านปางมากมาย สรีระสังขารของท่าน ตั้งบำเพ็ญ กุศลให้ผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสกราบสักการะเป็นเวลา ๒ ปี จึงเคลื่อนศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดจามเทวีนานถึง ๗ ปี และได้กำหนด พิธีพระราชทานเพลิงศพของท่านในวันที่ ๒๒ มี.ค. ๒๔๘๙ โดยมีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และประชาชนเหล่านั้น ได้เข้าแย่งชิงอัฐิธาตุของครูบาศรีวิชัยตั้งแต่ไฟยังไม่มอดสนิท แม้แต่แผ่นดินตรงที่เผาสรีระสังขาร ก็ยังมีผู้ขุดเอาไปสักการะบูชา อัฐิธาตุของท่านที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมได้ได้ถูกแบ่งออกเป็น ๗ ส่วน แบ่งไปบรรจุตามสถานที่ต่างๆ ดังนี้

๑. ส่วนที่ ๑ บรรจุที่ วัดจามเทวี จ.ลำพูน
๒. ส่วนที่ ๒ บรรจุที่ วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่
๓. ส่วนที่ ๓ บรรจุที่ วัดพระแก้วดอนเต้า จ.ลำปาง
๔. ส่วนที่ ๔ บรรจุที่ วัดศรีโคมคำ จ.พะเยา
๕. ส่วนที่ ๕ บรรจุที่ วัดพระธาตุช่อแฮ จ.แพร่
๖. ส่วนที่ ๖ บรรจุที่ วัดน้ำออกรู จ.แม่ฮ่องสอน
๗. ส่วนที่ ๗ บรรจุที่ วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน


ปัจจุบัน วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน ได้จัดสร้าง พิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ของครูบาศรีวิชัย เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้ศึกษา กราบไหว้บูชาและยึดถือครูบาศรีวิชัยเป็นแบบอย่างในด้านปฏิบัติอันดีงามต่อไป


ขอบคุณข้อมูลจาก วัดสันติธรรม
ผู้หญิงธรรมดา..แต่ใจมันด้านชาผู้ชาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำฟ้า
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 886
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 11 ก.ค. 2008 10:19 am

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ร้อยเรื่องเมืองล้านนา

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 63 ท่าน

cron