ช่วงเริ่มต้นของการเป็นบรรณาธิการในสำนักพิมพ์เลิฟไลน์บุ๊คส์เป็นช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เพราะนอกจากซันดาจะต้องศึกษาแนวทางการทำงานของสำนักพิมพ์แล้วก็ยังต้องเตรียมงานที่จะทำในอนาคตอีกด้วย เช่นเดียวกับปรัชญ์ที่ต้องรีบเคลียร์งานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทอนันต์คอนสตรัคชั่นตามที่ได้รับมอบหมายจากบิดา ระหว่างปรัชญ์กับซันดาจึงไม่มีการเผชิญหน้ากันมากนัก ทำให้ฝ่ายหลังรู้สึกสบายใจมาก ยิ่งเธอตัดสินใจไปร่วมงานสังสรรค์ชาวหนังสือในวันนี้แล้วไม่พบปรัชญ์บนรถซึ่งมารับถึงสำนักพิมพ์ก็ยิ่งโล่งใจมากเป็นพิเศษ คงเป็นเรื่องที่อึดอัดใจไม่น้อยหากต้องเห็นหน้าเขาตลอดทริปยาวนานถึง 3 วัน การที่เขาเงียบหายไปจึงเป็นเรื่องอันพึงปรารถนามากที่สุดในเวลานี้
“พี่ซันมานั่งกับเก๋นะคะ เดี๋ยวให้วิชไปนั่งคู่กับคุณเอเธ็นส์แทน” สิยาพรตบเบาะข้างตัวเบาๆ พลางกวักมือเรียกบรรณาธิการพี่เลี้ยงของตนหยอยๆ
ซันดายิ้มแล้วจึงส่งกระเป๋าให้พนักงานประจำรถก่อนเดินขึ้นไปนั่งตามคำชวนของสาวรุ่นน้อง
ไม่นานรถก็เคลื่อนออกจากสำนักพิมพ์ ภายในรถเต็มไปด้วยเสียงจอแจ ทั้งเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม หนุ่มสาวที่เปล่งเสียงร้องเพลง และกลุ่มที่สนุกสนานกับการเล่นไพ่ฆ่าเวลา ส่วนซันดากับสิยาพรนั้นเลือกที่จะร้องเพลงคลอไปพร้อมกับดูมิวสิควีดีโอจากโทรทัศน์เครื่องเล็กประจำรถ
ภาพที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในจอเป็นภาพความรักของหนุ่มนักแข่งรถวิบากกับสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน เมื่อภาพในประสาทตาปลุกความทรงจำวันเก่าให้ฟื้นคืน หญิงสาวจึงเบือนหน้าหนีจากจอสี่เหลี่ยมมองออกไปนอกตัวรถ สายตามองเห็นตึกสูง แต่เธอกลับนึกถึงสนามแข่งรถซึ่งเป็นถนนลูกรังสีน้ำตาลแคบๆเต็มไปด้วยเนินกระโดดราวกับภูเขาเตี้ยๆ ซันดาชอบการแข่งรถมอเตอร์ไซค์วิบากมาตั้งแต่เรียนมัธยม เพราะเคยตามไปเชียร์ชนพลรุ่นพี่ข้างบ้านซึ่งเป็นนักแข่งรถอยู่บ่อยๆ แม้เธอจะตั้งใจไปเชียร์ชนพลก็จริงแต่ในระยะหลังหญิงสาวก็แอบเชียร์นักแข่งหนุ่ม ปรัชญ์ อนันต์วงศา ที่ทั้งเก่งและหล่อละลายจนเป็นที่เล่าลือกันในวงการแข่งรถอีกด้วย
ครั้งแรกที่เธอได้พบหน้าปรัชญ์แบบจังๆ คืองานเลี้ยงสมาคมนักแข่งรถโมโตครอสของจังหวัดที่ชนพลชวนเธอไปร่วมงานด้วย งานในวันนั้นค่อนข้างเป็นกันเอง มีเพียงช่วงพิธีการไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นอกนั้นก็เป็นการเฮฮาปาร์ตี้กันตามปกติ ระหว่างที่ซันดากำลังนั่งฟังนักแข่งหนุ่มคุยกันอย่างออกรส รุ่นพี่คนหนึ่งก็พาปรัชญ์และนักแข่งรถหน้าใหม่อีกสองคนมาแนะนำกับชนพล ซันดาจึงพลอยได้ทำความรู้จักกับทุกๆคนในที่นั้นไปด้วย แต่คนที่โดดเด่นมากที่สุดในสายตาเธอมีเพียงคนเดียว...
ปรัชญ์ในวันนั้นยังเป็นหนุ่มนักศึกษาปี1 รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตา และมีดีกรีเป็นถึงนายแบบขวัญใจวัยรุ่น แต่ที่ทำให้ซันดาสะดุดใจมากที่สุดคือรอยยิ้มเก๋ไก๋แสนอ่อนโยนของเขา หลังจากนั้นเธอจึงแอบมองเขาอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอด จะทำอย่างไรได้เล่า เธอเป็นเพียงสาวแว่นที่ดูเหมือนจะห้าวแต่จริงๆแล้วเป็นคนขี้อายมาก และถึงหน้าตาเธอจะหมดจดสดใสแต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเป็นดาวคณะ ซึ่งส่วนหนึ่งคงเพราะบุคลิกที่ค่อนข้างเรียบง่าย และแว่นตาหน้าเตอะสีน้ำตาลของเธอกระมังที่บดบังความสะสวยจากสายตาคนมองจนมิด แล้วอย่างนี้จะริอ่านไปตีสนิทเดือนมหาวิทยาลัยอย่างปรัชญ์ได้อย่างไร กระนั้นซันดาก็เข้าใจและยอมรับความจริงได้ว่าทางเดินของเธอกับเขาคงบรรจบกันได้ยาก จวบจนแพรวาเข้ามาเป็นเฟรซชี่และเป็นน้องรหัสของซันดา ปรัชญ์จึงเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเธออีกครั้ง เนื่องจากเขากับแพรวาสนิทกันเสมือนพี่น้อง เพราะแม่ของทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน ปรัชญ์จึงได้รับคำสั่งให้คอยดูแลน้องสาวที่ต้องออกไปอยู่ไกลบ้านเป็นครั้งแรก
แพรวาเป็นน้องที่ติดพี่รหัสแจจึงทำให้ปรัชญ์และซันดาได้พบกันบ่อยๆ รวมไปถึงหลายครั้งที่ต้องไปกินข้าวหรือไปทำธุระด้วยกัน นานวันเข้าซันดาจึงรู้ว่าภาพที่เธอมองปรัชญ์นั้นผิดถนัด เธอเคยมองว่าเขาเป็นคนหยิ่งและพูดน้อย ทั้งที่เขาเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย คุยสนุก และมนุษยสัมพันธ์ดี ยกเว้นกับคนที่ไม่สนิท ปรัชญ์จะสงวนท่าทีจนดูเหมือนไว้ตัวดังที่เขาแสดงกับเธอในช่วงแรกๆที่รู้จักกันนั่นแหละ แต่พอสนิทสนมกันมากขึ้น เธอก็เริ่มประทับใจในตัวเขาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และเหมือนแพรวาจะมองออก สาวรุ่นน้องจึงพยายามสร้างสถานการณ์ให้ทั้งคู่ได้พบกัน รวมไปถึงคอยกีดกันสาวคนอื่นอีกด้วย ซันดาจำได้ว่าน้องรหัสของเธอเริ่มปฏิบัติการสื่อรักโดยที่เธอเองก็ไม่ทันรู้ตัว...
“อะไรของแพรเนี่ย ให้พี่ใส่คอนแท็คเลนส์แทนแว่นตา แล้วยังพาพี่มาเปลี่ยนทรงผมอีก” ซันดาบ่นอุบหลังเดินออกมาจากร้านเสริมสวย ถึงแม้จะเห็นว่าตอนนี้ตนเองสวยขึ้นจริงๆก็เถอะ เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าวันนี้มีความพิเศษอย่างไร สาวน้อยจึงลุกขึ้นมาปรับลุคส์ให้กับเธอแบบนี้
แพรวาหัวเราะ เอียงคอมองพี่รหัสตรงๆ “แพรสังเกตหลายทีละว่า ถ้าพี่ซันแต่งตัวหน่อยก็คงจะสวยมาก วันนี้แพรได้พิสูจน์แล้ว ว่าสายตาแพรคมกริ๊บ”
“พี่ไม่เห็นอยากเปลี่ยนตัวเองเลย”
“ไม่ได้ค่ะ พี่ซันของแพรจะต้องสวย เพราะจริงๆพี่ซันเป็นคนหน้าเก๋ แถมยังหุ่นนางแบบขนาดนี้อีก เราจะซ่อนความสวยไว้ในรูปเงาะทำไมล่ะคะ”
“แล้วทำไมจะมาจำเพาะต้องสวยในวันนี้ด้วยล่ะ” ซันดาซัก เธอเริ่มรู้สึกแปลกๆตั้งแต่แพรวาขอให้เธอออกมาจากบ้านแล้ว ปกติสาวน้อยจะรู้ดีว่าซันดาต้องดูแลฟาร์มผีเสื้อและกล้วยไม้ของครอบครัวในวันหยุดจึงไม่เคยชวนไปไหน
คนถูกถามยกมือขึ้นเสยผมที่ระหน้าก่อนตอบด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ “แพรมีเรื่องให้พี่ซันช่วยค่ะ”
“ช่วยอะไร” ซันดาถามด้วยลางสังหรณ์แปลกๆ ท่าทางของแพรวาวันนี้ดูมีพิรุธมากจริงๆ
คนตอบยกนิ้วชี้ขึ้นชี้ไปทางรถสปอร์ตสีแดงสดที่จอดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน ซึ่งปรัชญ์กำลังลงจากรถคันนั้นแล้วเดินมายังจุดที่เธอทั้งสองยืนอยู่
“แพรอยากให้พี่ซันเป็นแฟนพี่ปรัชญ์สักหนึ่งวัน”
“อะไรนะ!” ซันดาร้องเสียงหลง
จริงอยู่ เธอแอบชอบปรัชญ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมเป็นแฟนปลอมๆของเขาแบบที่แพรวาต้องการได้ง่ายๆนะ ความรักของเธอมันบริสุทธิ์เกินกว่าจะทำเป็นเรื่องเล่นๆ
“พี่ปรัชญ์เขาอยากให้สาวเลิกตามตื๊อ แต่แม่นั่นไม่ยอมสักที แพรก็เลยวางแผนว่าจะให้พี่ซันแกล้งเป็นแฟนกับพี่ปรัชญ์ดีกว่า” เมื่อเล่าแผนจบสาวน้อยก็ยิ้มหวานจ๋อย
“ไม่เอา” ซันดาปฏิเสธก่อนจะหันหลังเดินออกไปทันที แต่ช้ากว่ามือของหนุ่มคณะวิศวะที่คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้
“เดี๋ยวสิซัน” เขาร้องเรียกพลางจ้ำอ้าวมาขวางเธอเอาไว้ “ช่วยผมหน่อยนะๆๆๆ แล้วจะไม่ลืมพระคุณเลย”
ซันดายกสองแขนขึ้นกอดอก จ้องหน้าหนุ่มหน้าหล่อที่กำลังขอร้องเธอตรงๆ “แค่นี้จัดการเองไม่ได้แล้วริเจ้าชู้ทำไม”
ชายหนุ่มชูสามนิ้วก่อนตอบเสียงอ่อย “ผมไม่เคยจีบคนนี้เลยนะสาบานได้ แต่แม่เจ้าประคุณ โอ๊ย ตื๊อสุดๆ พูดตรงๆก็แล้ว ไล่ก็แล้ว ยังมาดักอยู่หน้าตึกคณะทุกวัน แถมยังบอกอีกว่าถ้าผมยังไม่มีแฟนเธอก็ยังมีสิทธิ์”
ซันดาพยักหน้า “อืม งี้ก็ให้แพรทำหน้าที่นี้ได้เลยสิ”
แพรวาโบกไม้โบกมือให้วุ่น “ไม่ได้หรอกค่ะ แม่นั่นรู้จักแพร แล้วก็รู้ว่าแพรกับพี่ปรัชญ์เป็นแค่พี่น้องกัน พี่ซันช่วยหน่อยนะคะ ถือว่าช่วยลูกนกลูกกาตาดำๆ”
“ลูกเสือลูกตะเข้สิไม่ว่า ทำตัวเป็นเสือผู้หญิงแล้วเอาตัวไม่รอดแบบนี้ไม่ได้เรื่อง”ซันดาตำหนิอีกฝ่ายซึ่งๆหน้า
“จะด่ายังไงก็ยอมแล้วคร้าบ ถ้าซันยอมช่วยผมวันนี้ ผมจะถือว่าติดหนี้บุญคุณซัน 1 ครั้ง ซันจะขออะไรผมก็ได้ ผมขอสัญญาต่อหน้าเสาไฟเลยอะ” เขาอ้อนวอนด้วยสีหน้ากวนๆ ‘รู้หรอกว่าซันดาไม่ใช่คนใจร้าย’
คนถูกอ้อนหัวเราะหึๆในลำคอ “แน่ใจนะว่าอะไรก็ได้”
ปรัชญ์ยิ้มร่า “แน่ใจสิ ยกเว้นดาวกับเดือนเท่านั้นแหละ”
ซันดายิ้มมุมปาก “ตกลง”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++