พระบรมราชานุสาวรีย์และศาลเจ้าพ่อขุนตาน เป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณพญาเบิก เจ้าผู้ครองนครลำปาง (เมืองเขลางค์นคร) อนุสาวรีย์สร้างจากหินอ่อนประดิษฐานอยู่เหนืออุโมงค์รถไฟขุนตานด้านทิศตะวันตก และศาลเจ้าพ่อขุนตานประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหน้าอุโมงค์รถไฟขุนตาน เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนและนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป
ประวัติเจ้าพ่อขุนตาน
ในปี พ.ศ. ๑๘๐๕ (จ.ศ. ๖๒๔) พญามังรายได้สร้างเมืองเชียงรายขึ้น และทรงเห็นว่าล้านนาแยกกันเป็นหลายวงศ์ ควรรวมกันเป็นแผ่นดินเดียวกันเสีย ดำริแล้วจึงยกทัพไปตีเมืองมอบไร เชียงคำ เชียงร้าง ฝาง เชียงของและเชิง ต่อมาจะตีเมืองลำพูน (หริภูญชัย) เพราะเป็นเมืองที่มั่งคั่ง แต่ขุนนางชื่อขุนฟ้า ค้านว่าเป็นการยากเพราะกำลังข้าศึกกำแหงนัก ควรใช้อุบายยุยงให้แตกแยกกันเสียก่อน ครั้นแล้วพญามังรายจึงทำอุบายเนรเทศขุนฟ้าออกจากเมืองฐานกบฏ ขุนฟ้าจึงได้ไปรับราชการอยู่กับพญายีบาเจ้าเมืองลำพูน นานถึง ๗ ปี และได้ทำอุบายต่างๆ ให้พญายีบากดขี่ราษฎร จนชาวเมืองเกลียดชังพญายีบา ครั้นแล้วพญามังรายก็ยกทัพไปตี เมืองลำพูนได้ โดยง่ายเมื่อ พ.ศ. ๑๘๒๔ (จ.ศ. ๖๔๓)
พญายีบาหนีมาอยู่กับพญาเบิกเจ้าเมืองลำปาง(เขลางค์) ผู้เป็นโอรส เวลาล่วงไป ๑๔ ปี พญาเบิก ทรงช้างชื่อปานแสนพล ยกทัพไปหมายจะตีเมืองลำพูนคืนให้พระบิดา พญามังรายให้เจ้าขุนสงครามทรงช้างชื่อแก้วไชยมงคลออกรับศึก ทั้งสองได้ทำยุทธหัตถีกัน ที่บ้านขัวมุงขุนช้างใกล้เมืองกุมกาม พญาเบิกถูกหอกแทงบาดเจ็บ และตีฝ่าวงล้อมออกมาได้ จึงมาตั้งรับอยู่ที่ตำบลแม่ตาล เขตเมืองลำปาง ได้สู้รบกันเป็นสามารถ ผล ที่สุดทัพลำปางแพ้ยับเยิน เจ้าขุนสงครามจับกุมตัวพญาเบิกแม่ทัพได้ และปลงพระชนม์เสียที่นี่ ดวงวิญญาณอันกล้าหาญเปี่ยมไปด้วยกตัญญูเวทิคุณนี้ จึงได้รับพระราชทานนามว่า "เจ้าพ่อขุนตาน" ซึ่งสถิตอยู่ศาลอันศักดิ์สิทธิ์ แห่งนี้
ศาลเจ้าพ่อขุนตานสร้างขึ้นเป็นที่สักการะแด่ดวงวิญญาณ การสร้างวีรกรรม และความกตัญญูกตเวทิตาของพญาเบิก โอรสพญายีบา แต่เดิมสร้างเป็นศาลเล็กๆ ต่อมามีการสร้างรูปหล่อเจ้าพ่อขุนตานและศาลขึ้นควบคู่กับศาลเดิม เพื่อให้ประชากรสักการบูชา กราบไหว้
ที่มา : จากพงศาวดารโยนก ฉบับหอสมุดแห่งชาติ
#มีการปรับแก้พระนามให้ถูกต้องตามพระนามจริงของกษัตริย์ล้านนา