นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาได้ยินเสียงประตูอย่างไม่สบายใจนะ ลูอัสเป็นห่วงเขาเขารู้สึกได้ลูอัสไม่อยากให้เขาต้องลำบาก แต่เสียใจด้วยลูอัสเพื่อให้นายมีความสุขแม้ต้องลำบากฉันก็อดทนได้
“ เอาล่ะ “ ฟรีดต้องไปยังห้องๆหนึ่ง เขารู้ดีนี่คือความท้าทายแต่เพื่อลูอัส เขาเคาะประตู
“ ท่านพ่อ ผมฟรีดเองครับ “ ใช่ นี่คือห้องทำงานของท่านพ่อของเขา
“ มีอะไรหรือฟรีด เข้ามาสิ “ ท่านพ่อเอ่ยจบฟรีดเปิดประตูเข้าไปในห้องท่านพ่อของเขาตอนนี้นั่งอยู่โต๊ะที่มีกองเอกสารจำนวนมากอยู่เขาตรงไปยืนอยู่ข้างหน้า
“ ว่าไงฟรีดลูกมีอะไรจะคุย “ ท่าพ่อเอ่ยโดยที่ตายังมองที่เอกสารในมือ
“ ผมจะมาพูดถึงเรื่องลูอัสหน่ะครับ “ ฟรีดเอ่ยเรื่องสำคัญดีอ้อนถึงกับวางเอกสารในมือลงและจ้องไปมองที่ฟรีด
“ ผมอยากขอลูอัสจากท่านพ่อ “ ฟรีดเอ่ยจบดีอ้อนทำสีหน้าจริงจังและเข้มขรึม
“ ลูกจะมาขอลูอัส ลูกรู้รึเปล่าว่าลูกกำลังพูดอะไร “ ตอนนี้น้ำเสียงของดีอ้อนเริ่มน่ากลัวขึ้น
“ ก็อย่างที่พูดไปครับท่านพ่อ ผมจะขอลูอัส “ ฟรีดเอ่ยเน้นอีกรอบแก่ท่านพ่อของตน
“ ฟรีด แกทำให้พ่ออารมณ์ไม่ดีแล้วนะ “ ดีอ้อนถึงขีดสุดเข้าทุบโต๊ะเสียงดังสนั่น
“ ท่านพ่อพอเถอะทำแบบนี้ลูอัสไม่ความสุขหรอกนะครับ “ ฟรีดพูดกล่อมให้ท่านพ่อของตนใจเย็นลง
“ ไม่มีความสุขแก่หมายถึงอย่างไง? “ ดีอ้อนถึงกลับกระชากคอเสื้อของฟรีด
“ ท่านพ่อทั้งกักขังเขาไว้และยังเห็นเขาเป็นตัวแทนท่านโซเฟียอีก! “ ฟรีดเขาเองก็พูดสิ่งที่อยู่ในใจมาตลอด
“ ฟรีด! “ ดีอ้อนแทบอยากชกลูกชายตัวเอง
“ ท่านพ่อพอเถอะ “ ฟรีดยังคงพูดกล่อมพ่อของตนอีกครั้ง
“ หึ ได้ถ้าแกอยากโดนตัดหางปล่อยวัดขนาดนั้นแต่ขอบอกไว้ก่อนอย่างไงก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน “ ดีอ้อนปล่อนมือจากคอเสื้อของฟรีดและนั่งด้วยท่าสบาย ทำให้ฟรีดรู้สึกกังวลเช่นกัน
“ แกรู้จักพวกผิวเหลืองแถบตะวันออกไหม? “ ดีอ้อนนั่งจ้องเอกสารในมือ
“ ท่านพ่อ หรือว่า.. “ ฟรีดตอนนี้กำลังเคร่งเครียด
“ ฉันอยากให้แกไปติดต่อการค้ากับพวกนั้น “ ดีอ้อนเอ่ยข้อแลกเปลี่ยนที่ทำให้ฟรีดถึงกับเครียดจัด
“ ได้ครับ ถ้านั้นคือสิ่งที่ทำให้ลูอัสมีความสุข “ ฟรีดเอ่ยรับคับแม้ว่ามันยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหนก็ตาม
“ และมีอีกอย่างหนึ่งที่แกต้องทำ “
.
.
. .
.
“ ท่านพี่จะไปจริงๆเหรอคะ? “ ชาร็อตเต้ถามผู้เป็นพี่ชายด้วยเป็นห่วง
“ อืม พี่ตัดสินใจไว้แล้ว “ ฟรีดเอ่ยยืนยัน
“ งั้นดูแลตัวเองด้วยนะครับ “ คาทันเรียลเอ่ยแสดงความเป็นห่วง
“ พี่จะดูแลตัวเอง พี่สัญญา “ ฟรีดกอดลาน้องทั้งสองแล้วมองไปยังเอริซาเบ็ธและลูคัสแม้ว่าสองคนนั้นจะได้เอ่ยกล่าวอะไรแต่เขารู้ดีว่าสองคนนั้นเป็นห่วงเช่นกัน
“ งั้นพี่ไปแล้วนะ “ ฟรีดเดินตรงไปยังรถที่เขาต้องใช้เดินทางไปยังท่าเรือแต่ก็ยังเหลือบมองไปยังห้องของผู้เป็นพ่อและห้องสีขาวที่เขามักจะไป แม้จะไม่ได้กลับมาที่นี้อีกนานแต่เขาก็ไม่ได้กล่าวลากับลูอัสเลย ฟรีดเข้าไปนั่งในรถเขาพร้อมแล้วสำหรับการเดินทาง
“ นายนี่มันบ้าจริงๆเลยฟรีด “ และการเดินทางครั้งนี้เขาไม่ได้ไปเพียงคนเดียว
“ ก็ฉันเป็นอย่างงี้แต่ไหนแต่ไรแล้ว ‘ โลกิ ’ “ ฟรีดเอ่ยตอบแก่โลกิ
โลกิเป็นเพื่อนสนิทของเขาอายุรุ่นราวคร่าวเดียวกัน โลกิเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นทำให้มีผิวที่ขาว ผมสีเทาหม่นยาวถึงกลางหลังแต่รวบผมครึ่งหนึ่ง ตาสีฟ้าสดใส รูปร่างเรียกว่าดีกว่าเขาเยอะเพราะเจ้าตัวชอบเล่นกีฬา เขาตัดสินใจขอให้โลกิช่วยเขาเรื่องนี้เพราะโลกิเติบโตในครอบครับพ่อค้าทำให้เขาเชี่ยวชาญด้านนี้มากกว่าเขาและโลกิก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือเขา ที่จริงคนส่วนใหญ่ที่มาเป็นเพื่อนเขามักจะหวังผลประโยชน์กันทั้งนั้นมีแต่โลกิที่บ้าๆบอๆนี่แหละที่เขาคิดว่าเจ้าตัวเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด อีกอย่างที่หมอนี้ไปด้วยก็คงไปเหล่สาวๆตามเคย
“ นายคิดได้ไงไปเจรจาพวกผิวเหลืองแถบตะวันออก ถึงพวกนั้นจะเก่งเรื่องการค้าเป็นผลดีของเราที่จะขยายส่งเสริมการค้าเช่นกัน แต่พวกนี้คงหยิ่งแถมพูดยากต่างหาก ถ้าไม่เห็นว่าทำเพื่อนลูอัสฉันจะไม่ช่วยนายเลย “ ฟรีดต้องนั่งฟังบ่นในรถจนถึงท่าเรือที่ต้องใช้เดินทางไปแถบตะวันออก เรือนี้เป็นเรือสำเภาขนาดใหญ่ที่เอาไว้ค้าขายและเจรจา ฟรีดยืนรับลมพลางนึกถึงลูอัส
“ คิดถึงจังเลย “ ฟรีดเอ่ยด้วยความคิดถึง
“ แล้วทำไมไม่ลาเจ้าตัวก่อนมาล่ะ นายก็รู้อีกอีกกี่ปีกว่าเราจะเจรจาได้ “ โลกิยังคงบ่นฟรีดไม่หยุด
“ ห้ามแกเจอกับลูอัสจนกว่าแกจะทำภารกิจนี่เสร็จ “
คำประกาศกร้าวของท่านพ่อทำให้เขาต้องทำแม้ไม่อยากทำก็ตาม มันรู้สึกเจ็บป่วยแต่ก็ต้องทน
“ รอฉันก่อนนะลูอัส... “