ทำไมน้ำฟ้าถึงชอบนุ่งผ้าเมือง ชอบโพสต์เรื่องราวของล้านนา
- 230905_resize.jpg (60.01 KiB) เปิดดู 79322 ครั้ง
#เรารัก คำว่ารักของเราคือมีความสุข อิ่มเอิบใจยามได้ทำ อยากเห็นสิ่งที่ตนเองรักคงอยู่ตราบกัลปาวสาน เราไม่ได้แต่งเพื่อให้เป็นจุดเด่น หรือแต่งเพื่อให้ใครขอถ่ายรูป แต่ทุกอย่างที่เราทำมีที่มา เอาละจงฟัง เราเกิดในครอบครัวคนล้านนาแท้ๆ อยู่ในเขตชนบทที่เป็นเมืองพุทธ มีเมืองเก่ามีกรุแตกอยู่ใกล้ๆ มีความเชื่อเรื่องผีสาง วัดที่บ้านเป็นวัดที่สร้างขึ้นร้อยกว่าปี และอยู่บนพื้นที่วัดโบราณ เราเติบโตมากับวัฒนธรรมประเพณีล้านนา ในวันสำคัญต่างๆชาวล้านนาจะใส่ชุดผ้าเมืองไปร่วมทำบุญ แต่ตอนนั้นเรายังไม่รู้สึกรัก ของแบบนี้มันต้องใช้การสั่งสม และอีกเหตุผลหนึ่งเพราะเราไม่รู้จักว่าล้านนาคืออะไร สมัยเรียนอยู่เชียงใหม่ไม่เคยมีสถาบันไหนสอนว่าเราเป็นคนล้านนา ล้านนามีกษัตริย์กี่พระองค์ พระองค์ใดบ้าง อิฐหินปูนทราย หรือแม้แต่กำแพงเมืองมีความสำคัญมากแค่ไหน เพราะเราไม่รู้เราจึงไม่เกิดความรักและหวงแหน อืม..ทุกอย่างมีเหตุมีผลในตัวเอง เราโชคดีที่เกิดมาชอบอ่านหนังสือ การอ่านทำให้เราเข้าถึงซอกหลืบลึกๆที่ไม่มีในหลักสูตร โห ตอนเด็กๆเราโกรธแทบตายที่พม่ามาเผาทำลายพระนครศรีอยุธยา โดยไม่รู้เลยว่านครล้านนาของเราก็ถูกทำลายจนย่อยยับ แล้วยังปกครองอยู่ยาวนานถึงสองร้อยกว่าปี และได้รู้รายละเอียดมากยิ่งขึ้นเมื่อศึกษาข้อมูลในการเขียนนิยายสัตยาภพ บุพนิวาส และตราบสิ้นอสงไขย ทั้งสามเรื่องเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ เราอ่านหนังสือเกี่ยวกับล้านนาเพื่อหาข้อมูลกลางไม่ต่ำกว่าสิบเล่ม บางเล่มมีหลายร้อยหน้า เวลาที่เราจะให้ข้อมูลต่างๆเราจึงมีเหตุผลประกอบไม่ได้กล่าวอ้างลอยๆ เริ่มต้นจากนิยายนี่แหละ สัตยาภพมีฉากเป็นเวียงกุมกาม เราจึงตัดสินใจไปดูสถานที่จริงเพื่อให้รู้ว่าส่วนไหนเราเขียนค้านกับความจริงบ้าง ทำให้เราได้เห็นเมืองโบราณที่อยู่ลึกจากใต้ดินร่วม ๒ เมตร ได้เห็นความกว้างใหญ่ไพศาลที่คนเชียงใหม่เคยเข้าใจว่ามีแค่ในตำนาน
จากสัตยาภพมาสู่บุพนิวาส เรื่องนี้เราแอบเขียนถึงภาพจากจินตนาการในสมัยที่วัดอินทขีล สะดือเมือง ยังไม่ถูกผ่าวัด (มีการตัดถนนผ่ากึ่งกลางวัด) ช่วงนั้นมีหลายอย่างตีบตัน จนคืนหนึ่งฝันว่า เจ้าดารารัศมีเข้ามาถามว่า “เป๋นจะไดพ่อง” ตรัสประมาณว่าให้อดทน เราแค่รู้ชื่อและประวัติคร่าวๆของพระองค์ หลังจากวันนั้นก็ไปหาข้อมูลเพิ่ม และไปไหว้กู่พระอัฐิที่กู่เจ้านายวัดสวนดอก เช่นเดียวกับที่ไปไหว้ขอพระราชทานอนุญาตจากพระเจ้าติโลกราชที่วัดเจ็ดยอด เนื่องจากตราบสิ้นอสงไขยกล่าวพาดพิงถึงการที่ท้าวบุญเรืองราชบุตรของพระองค์ถูกเจ้าจอมหอมุกใส่ร้ายจนถูกประหารชีวิต
แรกๆที่ใส่ชุดผ้าเมืองเพราะมีเหตุ เราเขียนนิยายล้านนา ก็อยากเอารูปที่ใส่ชุดผ้าเมืองไปใส่ในหนังสือนิยาย(ช่วงแรกๆจะใส่รูปนักเขียนไว้รองปกหลัง) เราต้องใส่ชุดผ้าเมืองไปเดินเวียงกุมกามหามุมถ่ายรูป ตามวัดต่างๆ บนหอพญามังรายก็เช่นกัน พอทำแล้วรู้สึกดี หลังจากนั้นเราก็ใส่เรื่อยๆ ไปงานสลากภัตวัดเบญฯกทม.ก็ใส่ ไปงานสำนักพิมพ์ก็ใส่ หลังๆก็รวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์ล้านนาลงเว็บภาษาสยามไว้ เพื่อเตรียมไว้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทำไมถึงทำ คือเราอ่านข้อมูลตามเว็บต่างๆแล้วหงุดหงิด บางทีเป็นหน่วยงานราชการก็ยังมีผิดพลาด บางคนหยิบโน่นผสมนี่มายำๆรวมกัน พิมพ์ผิด ใส่พ.ศ.ผิดยังพอว่า ความเข้าใจผิดใส่ข้อมูลผิดนี่สิ เห็นพระนามพญามังรายไหม แค่ชาวสยามมารับราชการเมืองเหนือ แล้วเอาพับสาใบลานไปแปลเป็นภาษาไทย ลงในหนังสือ พงศาวดารโยนก เขียนพระนาม “พญามังราย” เป็น “พ่อขุนเม็งราย” คนก็ใช้ตามทุกวันนี้ ชื่ออำเภอยังเป็นพ่อขุนเม็งรายเลย เพราะอะไรน่ะหรือ สมัยนั้นเขาห้ามใช้ภาษาล้านนา ห้ามเขียนตัวเมือง รุนแรงถึงขึ้นเผาพับสา ใบลาน ที่เกี่ยวข้องกับล้านนา ที่เหลือให้พวกเราศึกษานี่แค่ที่เขาซ่อนไว้ได้เท่านั้นแหละ เนี่ยแหละ...ทุกอย่างมันสั่งสมในใจเรื่อยๆ จนกลายเป็นความชอบ ความรัก ไม่ใช่อยู่ดีๆอยากใส่เพื่อให้เป็นเทรนด์ สร้างความเด่นดัง เราไม่รู้หรอกว่าในเชียงใหม่ใครเป็นไอดอลการแต่งกายหรือด้านอื่นๆ แต่เราชอบเขา เราชอบที่เขาสืบสานความเป็นล้านนา ทำเพื่ออะไรจะแยกแผ่นดินหรือ โธ่ มันเลยจุดนั้นมานานมากแล้ว เราเข้าใจความเปลี่ยนแปลงดี แต่เราทำเพื่อให้วัฒนธรรมประเพณีที่งดงามคงอยู่ อีกอย่างการที่ลูกหลานได้รู้จักอดีต เรียนรู้ความเป็นมานั้นจะทำให้เขารักและหวงแหนสมบัติของแผ่นดิน เพราะทุกวันนี้เขาก็เหมือนเราในอดีต ที่ไม่เคยรู้ประวัติศาสตร์ล้านนา แล้วเห็นโบราณสถานเก่าแก่เป็นแค่เศษอิฐ ทั้งๆที่นั่นคือเลือดเนื้อและดวงวิญญาณของบรรพชนของเรา