ภาพของพญาคำพิจิตรธุระราษฎร์และครอบครัว ใน พ.ศ.๒๔๖๐
พญาคำพิจิตรคือผู้สร้างเหมืองพญาคำแห่งลำน้ำปิง ต้นตระกูลท่านเป็นชาวเชียงแสนถูกกวาดต้อนมาในสมัยพระเจ้ากาวิละ ท่านเป็นคนที่มีความรู้ด้านกฎหมาย และรับราชการอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอีกด้วย
ภาพ : อนุ เนินหาด
- 65487.jpg (54.66 KiB) เปิดดู 5867 ครั้ง
ขบวนศพพญาคำพิจิตรธุระราษฎร์ พ.ศ.๒๔๘๑
- 65488.jpg (77.52 KiB) เปิดดู 5867 ครั้ง
ฝายพญาคำเป็นฝายหินทิ้งกั้นลำน้ำปิงบริเวณบ้านท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่เลยค่ายกาวิละไปทางใต้เล็กน้อย ตัวฝายมีอายุกว่า๑๐๐ ปี สร้างในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ โดยพญาคำ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านได้นำชาวบ้านสร้างฝายดังกล่าวและขุดลำเหมืองขึ้น
- travel_chiangmai_64_4_resize.jpg (93.38 KiB) เปิดดู 5660 ครั้ง
พญาคำเป็นคหบดีและกำนัน มีชื่อบรรดาศักดิ์เต็มว่า พญาคำวิจิตรธุระราษฎร์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็น "กรมนา" ในสมัยรัชกาลที่ ๕ และผลจากการที่พญาคำได้นำชาวบ้านสร้างฝายและขุดลำเหมืองดังกล่าวขึ้นมา หลังจากนั้นจึงมีการเรียกฝายแห่งนี้ว่า ฝายพญาคำ มาจนกระทั่งทุกวันนี้
พญาคำ เป็นผู้หนึ่งที่ทำงานในคุ้มหลวงเชียงใหม่ ในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๗ และเป็นพระบิดาของพระราชาชายาเจ้าดารารัศมีในรัชกาลที่ ๕ ในปี พ.ศ. ๒๔๑๓ ถึง พ.ศ. ๒๔๔๐ ในสมัยนั้นมีการแต่งตั้งยศ ให้แก่ผู้ที่มีความดีความชอบ ในการทำงานช่วยประเทศชาติบ้านเมือง อาทิเช่น ยศ หมื่น ขุน ท้าว พญา เป็นต้น แล้วแต่ความดี ความชอบ พญาคำ ก็เป็นอีกท่านหนึ่ง ที่ทำงานด้วยความเสียสละ ซื่อสัตย์ จริงจัง มานะอดทน ในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยตลอด จึงมีความดี ความชอบ ได้รับการแต่งตั้งยศ จากพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เป็นพญาคำ เวลาต่อมาองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๕) ได้จัดการปกครองแบบเดิม ให้เป็นการปกครองแบบจตุสดมภ์ คือแบบ เวียง วัง คลัง นา ให้เป็นสัดส่วนในการปฏิบัติ ดังนั้น พระเจ้าอินทวิชยานนท์ จึงได้จัดกรมทั้งสี่ขึ้น มีกรมเวียง กรมวัง กรมคลัง และกรมนา เมื่อจัดตั้งเสร็จแล้ว จึงแต่งตั้งให้พญาคำท่านหนึ่งเป็นกรมนา มีหน้าที่จัดให้ราษฎรเบิกนา ทำเหมืองและฝาย เพื่อนำน้ำไปทำนา ทำสวน เท่าที่ทราบในอำเภอสารภี ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรมนา มีหมื่นกอบการ ประชาชอบ (พ่อหมื่นรินทร์) บ้านสันป่าสัก หมู่ ๒ ตำบลหนองแฝก ท้าวด้วง (ไม่ทราบนามสกุล) บ้านหนองแฝก หมู่ ๕ ตำบลหนองแฝก และพ่อเจ้าหลวง ธรรมปัญญา บ้านกู่แดง ตำบลหนองแฝก หมู่ ๗ ต่อมาพญาคำได้นำราษฎร ขุดลำเหมืองตั้งแต่ตำบลชมพู ขึ้นมาถึงตำบลไชยสถาน ตำบลหนองผึ้งฟากตะวันออกขึ้นไปผ่านตำบลหนองหอย ผ่านหน้าที่ทำการไฟฟ้าภูมิภาคบ้านเด่น ฟากตะวันออกถนนเชียงใหม่ลำพูนแล้วก็จัดสร้างฝายกั้นน้ำแม่ปิงตรงท่าศาลา เพื่อนนำน้ำไปใช้ทำนา ทำสวน ในตำบลหนองผึ้งฟากตะวันออกตลอดไปจนถึงตำบลไชยสถาน ตำบลป่าบงบางส่วน และตำบลชำภู ไปจนสุดเขต ส่วนตำบลหนองผึ้งด้านล่าง ตำบลยางเนิ้ง ตำบลหนองแฝกฟากตะวันออก ตำบลสารภี ไปบรรจบกับน้ำล้องสามปันทางตะวันออกของบ้านสันป่าเดื่อ ตำบลหนองแฝก พญาคำ จึงมอบให้หมื่นกอบการประชาเชื่อ (พ่อหมื่นรินทร์) นำราษฎรไปขุดลำเหมืองแยกจากที่พญาคำขุดที่ตำบลหนองผึ้งผ่านตำบลยางเนิ้ง หนองแฝก สารภี ดังนั้นจึงเรียกฝายที่ท่าศาลาว่า ฝายพญาคำ (บางคนยังเรียกฝายท่าศาลาตามท่าน้ำเดิม)
ส่วนลำเหมืองที่พญาคำเป็นผู้ขุดก็ดี หรือลำเหมืองที่หมื่นกอบประชาเชื่อนำราษฎรขุดก็ดีก็ยังมีชื่อว่าเหมืองพญาคำ ทั้งสองลำเหมือง มาจนกระทั่งทุกวันนี้ ส่วนลำเหมืองล้อมสามปันที่น้ำจากลำเหมืองพญาคำฟากตะวันตก อำเภอสารภีไหลไปบรรจบนั้น นำราษฎรขุดโดยพ่อท้าวด้วง และพ่อเจ้าหลวงธรรมปัญญา ซึ่งท่านทั่งสองทำงานเป็นกรมนา เช่นเดียวกัน เริ่มขุดตั้งแต่สุดเขตตำบลท่าวังตาล สุดเขตบ้านบวกครกใต้ ลงมาใต้สุดเขตตำบลหนองแฝกใต้บ้านสันป่าเดื่อ ตำบลหนองแฝก เป็นระยะ ๓,๐๐๐ วา ประมาณ ๖ กิโลเมตร จึงมีชื่อเรียกมาถึงทุกวันนี้ว่า ล้องสามปัน
อ้างอิง : นายสมบูรณ์ บุญชู.
http://lek-prapai.org/