เที่ยวอำเภอพร้าว เชียงใหม่ ที่พัก อาหาร สถานที่น่าสนใจ

เสวนาภาษาไทย

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 11:51 am

น้ำตกห้วยป่าพลู บ้านสันฮกฟ้า หมู่ ๑๑ ตำบลสันทราย อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
น้ำตกห้วยป่าพลู เป็นธารน้ำตกอยู่กลางระหว่างภูเขา มีแบ่งเป็นชั้นๆ สงบ และเต็มไปด้วยความงดงามตามระบบนิเวศ
ห้วยป่าปู1_resize.jpg
ห้วยป่าปู1_resize.jpg (127.45 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


ห้วยป่าปู3.jpg
ห้วยป่าปู3.jpg (210.34 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


ห้วยป่าปู2_resize.jpg
ห้วยป่าปู2_resize.jpg (178.49 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 12:01 pm

ถ้ำหลากลาน [ถ้ำหลักลาน]

ถ้ำหลากลาน3.jpg
ถ้ำหลากลาน3.jpg (33.63 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


ถ้ำหลากลาน เป็นถ้ำปิด ซึ่งตามตำนานเดิมเป็นถ้ำเปิด เป็นที่เก็บสมบัติ สิ่งของเครื่องใช้โบราณ แต่มีคนเข้ามาขโมยสมบัติเหล่านั้นออกไปจากถ้ำ จึงมีเหตุให้หินถล่มปิดปากถ้ำ บริเวณด้านล่างปากทางเข้าถ้ำจะมี น้ำบ่อทิพย์ เป็นน้ำบ่อขนาดเล็กที่มีน้ำซึมออกตลอดทั้งปี ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีประเพณีสรงน้ำถ้าหลากลาน ประมาณเดือนมิถุนายน ของทุกปี

ถ้ำหลากลาน4.jpg
ถ้ำหลากลาน4.jpg (14.62 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


การเดินทาง : ห่างจากที่ว่าการอำเภอพร้าว ประมาณ ๑๑ กม. ตามเส้นทางหลวง ๑๑๕๐ (สายพร้าว - เวียงป่าเป้า) ถึงสี่แยกบ้านต้นกออก เลี้ยวซ้าย ผ่านบ้านต้นรุง บ้านทุ่งกู่ บ้านสหกรณ์แปลงห้า ซึ่งเป็นถนน คสล. ระยะทางประมาณ ๔ กม. จากนั้นไปตามเส้นทางถนนเลียบลำห้วยแม่ธาตุ(ลูกรัง) ระยะทางประมาณ ๓ กม. และต้องเดินเท้าขึ้นบริเวณถ้ำประมาณ ๓๐๐ ม.
ถ้ำหลากลาน1_resize.jpg
ถ้ำหลากลาน1_resize.jpg (103.83 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


ถ้ำหลากลาน2_resize.jpg
ถ้ำหลากลาน2_resize.jpg (110.06 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


ภาพ : ไทยตำบล.คอม , ผู้หญิง กินเหล้า
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 12:24 pm

ถ้ำผาแดง ตั้งอยู่หมู่บ้านผาแดง หมู่ที่ ๑๔ ตำบลสันทราย อำเภอพร้าว เป็นถ้ำที่ลึก และภายในถ้ำกว้างใหญ่ถึงขนาดที่ว่าสามารถเล่นฟุตบอลภายในถ้ำได้ และยังมีหินย้อยหินงอกที่สวยงามเรียงรายอยู่มากมาย
ผาแดง1_resize.jpg
ผาแดง1_resize.jpg (131.03 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


486677_resize.jpg
486677_resize.jpg (114.6 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


1525096752280_resize.jpg
1525096752280_resize.jpg (77.15 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 12:43 pm

บ่อน้ำร้อนบ้านโป่งบัวบาน

โป่งบัวบาน1_resize.jpg
โป่งบัวบาน1_resize.jpg (68.14 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


ตั้งอยู่หมู่บ้านโป่งบัวบ้าน หมู่ที่ ๑๑ ตำบลแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ (เส้นทางถนนเชียงใหม่-พร้าว) เป็นสถานที่ที่มีบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นบ่อน้ำอุ่นเกิดจากร่องห้วย ลักษณะมีน้ำใส พบแร่คาร์บอเนต ก๊าซผุดขึ้นมากับน้ำร้อนอยู่บ้าง กลิ่นกำมะถันเจือจาง ไม่รุนแรง ชาวบ้านใช้น้ำจากบ่อน้ำร้อนอาบน้ำในหน้าหนาว

cm15_resize.jpg
cm15_resize.jpg (103.48 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง


ภาพ : Wongnai Team,กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ไฟล์แนป
โป่งบัวบาน2_resize.jpg
โป่งบัวบาน2_resize.jpg (62.67 KiB) เปิดดู 45545 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 9:52 pm

วัดพระธาตุขุนโก๋น วัดพระธาตุขุนโก๋น บ.ตีนธาตุ ม.๔ ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

ขุนโก๋น_resize.jpg
ขุนโก๋น_resize.jpg (41.25 KiB) เปิดดู 46523 ครั้ง


วัดพระธาตุขุนโก๋นเป็นพระธาตุเก่าแก่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองพร้าว พระธาตุแห่งนี้มีมานานจนไม่สามารถทราบได้ว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง มีข้อมูลเพียงว่าในอดีตพระธาตุขุนโก๋นมีชื่อว่า พระธาตุเจ้าหัวเมือง เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมืองเคารพนับถือกันมาก หากปีใดฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เจ้าเมืองพร้าวจะนิมนต์พระตามวัดต่างๆ และเป็นผู้นำชาวเมืองพร้าวขึ้นไปขอฝน หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ และ
พระอาจารย์เนียมเคยมาธุดงค์และภาวนาอยู่ที่นี่ ในปี พ.ศ.๒๔๘๑ ซึ่งได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นที่วิหารด้านหน้าพระบรมธาตุเจดีย์
วัดถ้ำดอกคำ เป็นวัดที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตได้ใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญเพียร จากนั้นหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ,หลวงปู่สาร,หลวงปู่เทสก์,หลวงปู่อ่อนสี ก็ได้มาร่วมบำเพ็ญเพียรด้วยระยะหนึ่ง ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ พระอาจารย์มั่นได้บรรลุธรรมชั้นสูงสุด ณ วัดแห่งนี้ ก่อนที่ท่านจะเดินทางไปธุดงค์ยังดอยมะโน

ขุนโก๋น2_resize.jpg
ขุนโก๋น2_resize.jpg (142.23 KiB) เปิดดู 46523 ครั้ง


ขุนโก๋น3_resize.jpg
ขุนโก๋น3_resize.jpg (73 KiB) เปิดดู 46523 ครั้ง

(ภาพ : pimnuttapa แดนนิพพาน)
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 10:35 pm

วัดพระเจ้าตนหลวง (พระเจ้านั่งช้าง)วัดพระเจ้าตนหลวง บ.สบปั๋ง ม.๔ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

ตนหลวง3.jpg
ตนหลวง3.jpg (70.92 KiB) เปิดดู 46523 ครั้ง


สร้างในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย รัชกาลที่ ๖ เจ้าผู้ครองเชียงใหม่ (พ.ศ.๑๙๑๐-๑๙๓๑) ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าผายู ระหว่าง พ.ศ.๑๙๒๘ พระเจ้ากือนาธรรมิกราชได้เสด็จขึ้นมาที่เวียงพร้าววังหินโดยทางสถลมารค นำขบวนช้าง ขบวนม้า ขบวนเดินเท้านับหลายหมื่นคนขึ้นมา โดยมีช้างเผือกเชือกหนึ่งได้บรรทุกพระธรรมคัมภีร์และพระพุทธรูปสำคัญมาด้วย โดยที่พระองค์มอบหมายให้ เจ้าน้อยจันต๊ะ (จันทา) เป็นผู้ควบคุมดูแลและทำหน้าที่อัญเชิญพระพุทธรูป

เมื่อไพร่พลโยธาเดินทางมาถึงหมู่บ้านสบปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ จึงได้หยุดพัก ณ สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นเชิงเขา ช้างเผือกที่บรรทุกพระธรรมคัมภีร์และพระพุทธรูปองค์สำคัญนั้น ได้มานั่งคุกเข่าหมอบลง ไม่ยอมเดินทางต่อไป พระเจ้ากือนาธรรมิกราชจึงโปรดให้สร้างวัดขึ้น โดยให้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย ประทับอยู่บนหลังช้างประดิษฐานไว้ ซึ่งต่อมาเรียกว่า วัดพระเจ้าตนหลวง หรือชาวบ้านสมัยก่อนเรียกว่า พระเจ้านั่งช้าง เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสืบต่อมา

ในปีพ.ศ.๒๕๔๒ ได้รับรองสภาพวัดและขึ้นทะเบียนเป็นวัดที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ หลังจากสภาพวัดที่ถูกร้างมาหลายร้อยปี โดยมีพระอาจารย์สมเพชร สุทธจิตโต เจ้าอาวาสวัดพระเจ้าตนหลวงในปัจจุบัน

ตนหลวง2.jpg
ตนหลวง2.jpg (126.42 KiB) เปิดดู 46523 ครั้ง


ส่วนตำนานพระเจ้าเลียบโลก กล่าวว่า

“...เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาถึงบ้านสบปั๋ง เจ้าน้อยจันต๊ะ ได้อาราธนานิมนต์ให้นั่งบนหลังช้าง บรรดาประชาชนมีจิตศรัทธาได้นำเอามะพร้าวมาถวายองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นพระองค์เสวยเสร็จแล้ว ได้โยนกะลามะพร้าว หรือที่ชาวล้านนาพาเรียกว่า กะหลัง ขึ้นบนเขาลูกหนึ่งทางทิศตะวันออก ต่อมาจึงมีชื่อว่า “ดอยกะหลัง” พร้อมทั้งทรงประทานพระเกศาธาตุไว้ ต่อมามีผู้สร้างพระเจดีย์ครอบไว้บนนั้นเรียกว่า พระธาตุดอยกะหลัง อีกชื่อหนึ่ง

เมื่อมีผู้มาร่วมสรงน้ำพระธาตุ มักจะมีการทำบุญทำทานด้วยข้าวก้อนให้แก่นกกา ซึ่งในขณะนั้นมีกาเป็นจำนวนมากอาศัยอยู่ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ากาเหล่านั้นไม่สามารถลงจิกกินข้าวที่ให้ทานได้ มีแต่ว่าบินวนเวียนไปมา ชาวบ้านจึงพูดกันว่ามันคงจะหลงทางหรือหลงทิศ ต่อมาพระธาตุดอยกะหลังนี้ จึงเรียกเพี้ยนมาเป็น “พระธาตุดอยกาหลง” จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ส่วนเมืองนี้ก็มีชื่อว่า เวียงพร้าว เพราะเหตุที่พระพุทธเจ้าเสวยผล “มะพร้าว” ณ สถานที่นี้นั่นเอง”

ภาพ : แดนนิพพาน
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 11:04 pm

วัดพระธาตุม่วงเนิ้ง ม.๕ ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (พระเกศาธาตุ)
ตำนานพระธาตุม่วงเนิ้ง จากตำนานพระเจ้าเลียบโลก กล่าวว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับนั่งฉันภัตตาหารเพล ณ ที่สถานที่แห่งนี้ คำว่า “ม่วงเนิ้ง” มาจากพระพุทธเจ้าทรงนำบาตรไปแขวนกับต้นมะม่วง เนื่องจากบาตรหนักทำให้กิ่งมะม่วงโน้มลงมา ต้นมะม่วงดั้งเดิมสูงใหญ่มาก (มีต้นมะม่วงอยู่หน้าวิหารปรากฏให้เห็นจนถึงปัจจุบัน) เมื่อพระพุทธเจ้าฉันภัตตาหารเพลเรียบร้อยแล้ว ได้เทข้าวที่เหลือกองไว้ แล้วพระพุทธองค์ทรงลูบพระเกศาวางไว้บนกองข้าว ต่อมาได้สร้างเจดีย์ครอบไว้

ม่วงเนิ้ง3.jpg
ม่วงเนิ้ง3.jpg (123.3 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง



พระธาตุแห่งนี้ ถือว่าเป็นพระธาตุที่อยู่ทางใต้สุดของเมืองก็ว่าได้ โดยมี พระธาตุนางแล อยู่ทางเหนือสุดของพื้นที่

พระธาตุม่วงเนิ้งโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอพร้าว มีผู้คนนับถือกราบไหว้มานานหลายชั่วอายุคน เล่ากันว่าน่าจะมีอายุนานนับพันปีมาแล้ว ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๗ หลังจากครูบาศรีวิชัยมาทำการบูรณะซ่อมแซมวัดพระธาตุกลลางใจเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนขากลับท่านพร้อมด้วยคณะศิษย์ที่เป็นภิกษุสามเณรและอุบาสกอุบาสิกา ก็ได้เดินทางกลับสู่วัดพระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แต่ในระหว่างทาง ท่านได้แวะขึ้นไปนมัสการองค์พระธาตุม่วงเนิ้งในเวลาบ่ายมากแล้ว หลังจากท่านไหว้พระธาตุเสร็จเรียบร้อยแล้วได้ยืนทัศนารอบๆ บริเวณผืนแผ่นดินในตำนานโหล่งขอดแล้วพูดว่า “มีของดีอยู่ในองค์พระธาตุม่วงเนิ้งไม่มาก ขนาดเท่าฝ่ามือนี้” ว่าแล้วท่านก็ทำอุ้งมือเป็นรูปเรือให้ดู แล้วยังชี้นิ้วมือไปที่ภูเขาอีก ๒ ลูก พร้อมกับพูดว่า

“ยังมีพระธาตุอีก ๒ ดวงในเขตนี้ คือที่ ดอยเวียง (ชาวเวียงเรียก “ดอยคูเมือง”) และที่ ดอยสามเหลี่ยม วันเวลาใดที่พระธาตุ ๓ วงนี้ลุกเรื่อเรืองขึ้นมาเมื่อใด ชาวโหล่งขอดจะได้ยะนา (ทำนา) ข้าวสาร”


คำว่า “ทำนาข้าวสาร” หมายถึงอะไร ยังคงเป็นปริศนาของชาวบ้านมาจนถึงวันนี้ แต่ที่เป็นความจริงก็คือว่าท่านคิดจะบูรณะพระธาตุม่วงเนิ้งตามนิมนต์ของชาวบ้านนี้เหมือนกัน แต่อาชญาทางบ้านเมืองแจ้งให้ท่านรีบกลับวัดพระสิงห์โดยด่วนเพื่อแก้ข้อกล่าวหาอธิกรณ์กับทางคณะสงฆ์

เมื่อท่านกลับไป ๒ เดือน ต่อมาท่านได้จัดส่ง พระหน่อคำ มาเป็นตัวแทนของท่านเพื่อทำการซ่อมแซมพระธาตุม่วงเนิ้งจนแล้วเสร็จ สถานที่นี้จึงเป็นที่มาของประวัติเมืองพร้าว โดยพ่อเฒ่าคนหนึ่งในหมู่บ้านเล่าว่า


“ในสมัยพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดสัตว์ที่เรียกกันว่า “พระเจ้าเลียบโลก” เข้ามาสู่เขตล้านนาไทย พระองค์ได้เสด็จบิณฑบาตมาถึงหมู่บ้านเขตนี้ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร มีผู้คนทำบุญใส่บาตรกันมากจนข้าวล้นบาตรหนักอึ้ง จนต้อง “ปาวบาตร”


องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปาวบาตรมายั้งพักที่ป๋างแห่งหนึ่ง (คำว่า “ป๋าง” คือ ที่พักชั่วคราวของคนเดินทาง “ปาง” ก็เรียก) ต่อมาสถานที่นั้นก็มีผู้คนเรียกว่า “แม่ป๋าง” แล้วเพี้ยนมาเป็น “แม่ปั๋ง” จนทุกวันนี้…”

ม่วงเนิ้ง2.jpg
ม่วงเนิ้ง2.jpg (101.05 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ต่อมาพระพุทธองค์เสด็จมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีทิวเขาเป็นเสมือนกำแพงล้อมรอบ สายสนุกบาตรเกิดขาด เพราะทนทานต่อน้ำหนักของข้าวในบาตรไม่ได้ จึงใช้ให้พุทธอุปัฏฐากคือ พระอานนท์ ไปหาด้ายมาเย็บสายสนุกบาตร พระอานนท์จึงได้เดินย้อนกลับไปหาด้ายจากที่พักริมทางเดินที่ผ่านมาแล้วนั้น เป็นด้ายสีม่วง ภาษาล้านนาเรียกสีม่วงว่า “สีปั๋ง” นี่คือเป็นที่มาของคำว่า “แม่ปั๋ง” อีกเช่นกัน


ขณะที่สายบาตรของพระพุทธองค์ขาดและยังหาด้ายมาเย็บต่อไม่ได้นั้น พระพุทธเจ้าทรงทำการ “ขอดสายบาตร” (หมายถึงขมวดสายบาตร) นี้จึงเป็นที่มาของคำว่า “โหล่งขอด” (คำว่า “โหล่ง” หมายถึง แผ่นดินที่เป็นที่ราบและมีภูเขาล้อมรอบ)


พระพุทธองค์ได้นำบาตรไปคล้องไว้กับมะม่วงต้นหนึ่งบนภูเขา มะม่วงต้นนั้นไม่สามารถจะทานน้ำหนักของบาตรที่มีข้าวเต็มอยู่ได้ก็โน้มยอดลงมา (คำว่า “โน้ม” เรียกตามภาษาชาวเหนือว่า “เนิ้ง”)


หลังจากเสร็จภัตกิจแล้ว ข้าวในบาตรของพระพุทธเจ้าและของพระอานนท์ยังเหลืออยู่มากมาย พระพุทธองค์จึงทรงบัญชาให้พระอานนท์เทข้าวออกจากบาตร แล้วก่อเป็นเจดีย์ข้าวสุกไว้ที่ริมต้นมะม่วงที่โน้มกิ่งนั้นไว้ คนทั้งหลายก็พากันเรียกว่า พระธาตุม่วงเนิ้ง จนตราบเท่าทุกวันนี้


ท่านผู้เฒ่าเล่าต่อไปอีกว่า เดิมทีนั้นมะม่วงคำ (ทอง) ต้นนั้นมีปลายโน้มเอียงปกคลุมหลังคาวิหารอยู่คล้ายจะล้มทับองค์พระธาตุ แต่ต่อมาก็มีลมพัดอย่างแรง จึงทำให้มะม่วงต้นนั้นล้มลงไปทางภูเขา ไม่เป็นอันตรายกับองค์พระธาตุเลย จนเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจมาก



มะม่วงต้นนั้นไม่ปรากฏร่องรอยให้เห็นอีกแล้ว แต่มีต้นมะม่วงอีกต้นหนึ่ง ที่มีลักษณะลำต้นใหญ่โตมาก มีอายุนับ ๑๐๐ ปี ขึ้นอยู่หน้าวิหารทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ แผ่สาขาร่มเงาเป็นที่ร่มเย็นแก่ผู้ที่ขึ้นไปนมัสการพระธาตุตราบเท่าทุกวันนี้”

อ้างอิง

พระชัยวัฒน์ อชิโต สำนักงานธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี. (๒๕๔๙, ๙ กรกฎาคม). ตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๒ (พิมพ์ครั้งที่ ๑). กรุงเทพฯ: เยลโล่การพิมพ์


ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม. พระธาตุม่วงเนิ้ง. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://www.m-culture.in.th/album/71995. (วันที่ค้นข้อมูล : ๓ ธันวาคม ๒๕๕๒)

ภาพ : pimnuttapa แดนนิพพาน
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 11:14 pm

พระธาตุตาลเปี้ย วัดสันยาว ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
วัดสันยาว_resize.jpg
วัดสันยาว_resize.jpg (131 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ตาลเปี้ย2_resize.jpg
ตาลเปี้ย2_resize.jpg (75.25 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ตาลเปี้ย1_resize.jpg
ตาลเปี้ย1_resize.jpg (88.58 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ภาพ : วัดสันยาว ต.ป่าไหน่ พระธาตุตาลเปี้ย
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 11:34 pm

พระธาตุดอยกาหลง ม.๔ บ้านสบปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
ดอยกาหลง1_resize.jpg
ดอยกาหลง1_resize.jpg (69.24 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


สำนักปฏิบัติธรรมพระธาตุดอยกาหลง เดิมเป็นวัดที่สร้างในปี พ.ศ.๑๙๒๘ โดยพระยากือนาธรรมมิกราช เจ้าเมืองเชียงใหม่ เมื่อครั้งเสด็จมายังเมืองพร้าววังหินโดยขบวนช้าง ม้าและเดินเท้า โดยมีช้างเผือกบรรทุกคัมภีร์และพระพุทธรูป พอเดินทางมาถึงหมู่บ้านสบปั๋ง ช้างเผือกหยุดไม่ยอมเดินต่อ พระยากือนาจึงได้สร้างวัด ณ บริเวณนั้น และได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดพระเจ้าตนหลวง

ดอยกาหลง2_resize.jpg
ดอยกาหลง2_resize.jpg (67.44 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


สำหรับพระธาตุกาหลง เป็นส่วนหนึ่งของวัดพระเจ้าตนหลวงแต่แยกไปตั้งอยู่บนดอยอีกลูกหนึ่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มีตำนานกล่าวไว้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงบ้านสบปั๋ง เจ้าน้อยจั๋นต๊ะ ชาวบ้านสบปั๋งได้อาราธนานิมนต์ให้นั่งบนหลังช้าง โดยมีชาวบ้านนำเอามะพร้าวมาถวาย เมื่อพระองค์ทรงเสวยแล้วได้โยนกะลามะพร้าว ซึ่งภาษาล้านนาเรียกว่า”กะโหล้ง”ขึ้นบนเขาลูกหนึ่งทางทิศตะวันออก ต่อมาจึงเรียกเขาลูกนั้นว่า “ดอยกะโหล้ง” และพระราชทานเกศาไว้ ภายหลังมีผู้สร้างเจดีย์ครอบพระเกศา เรียกว่า”พระธาตุดอยกะโหล้ง”

ดอยกาหลง4_resize.jpg
ดอยกาหลง4_resize.jpg (103.86 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


อีกตำนานกล่าวว่า เมื่อมีการสรงน้ำพระธาตุ จะมีการทำบุญข้าวก้อนใหญ่แก่นกกา แต่กาไม่สามารถลงมาจิกกินข้าวนั้นได้ บินวนเวียนเหมือนหลงทิศ จึงเรียกซื่อเปลี่ยนไปจาก”พระธาตุดอยกะโหล้ง” เป็น”พระธาตุดอยกาหลง” จากเดิมไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่จึงไม่สามารถที่จะขึ้นทะเบียนเป็นวัดได้อย่างสมบูรณ์ จึงเป็นเพียงสำนักปฏิบัติธรรมพระธาตุดอยกาหลง

ดอยกาหลง3_resize.jpg
ดอยกาหลง3_resize.jpg (42.69 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ภาพ : pimnuttapa แดนนิพพาน,เชียงใหม่นิวส์
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » เสาร์ 31 ส.ค. 2019 11:41 pm

วัดหนองอ้อ หรือวัดศรีดอนชัยทรายมูล หมู่ ๕ ตำบลเวียง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ วัดราษฎร์ มหานิกาย ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด พ.ศ.๒๔๑๔ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๕

หนองอ้อ.jpg
หนองอ้อ.jpg (29.84 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ชุมชนบ้านหนองอ้อ เป็นหมู่บ้านแต่ดั้งเดิม เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพญาเขื่องเมืองที่มาปกครองแขวงเมืองพร้าว มีน้ำแม่สระรวมเป็นเขตกั้น เล่ากันว่าในราวพ.ศ.๒๔๖๐-๒๔๗๐ มีขุนนางตำแหน่งที่ “ขุนเวียงรักษาเหตุ”อาศัยอยู่ในชุมชนนี้ สาเหตุที่ชื่อว่า “บ้านหนองอ้อ”เป็นเพราะว่ามีหนองน้ำและมีต้นอ้อขึ้นเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่มาอาศัยอยู่จึงตั้งชื่อว่า “บ้านหนองอ้อ” ปัจจุบันต้นอ้อดังกล่าวได้ถูกแผ้วถางไปหมดกลายเป็นที่อยู่อาศัยและบางส่วนทำเป็นเรือกสวนไร่นา ทางทิศใต้ของชุมชนบ้านหนองอ้อติดกับบ้านสันมะนะ ตำบลทุ่งหลวง มีหย่อมบ้านด้านตะวันตกของหมู่บ้านชื่อว่า บ้านหัวฝาย เนื่องจากท้ายหมู่บ้านเป็นเหมืองฝายกั้นน้ำแม่สระรวมเพื่อแบ่งปันสายน้ำสู่ทุ่งนาและสวนในเขตตำบลเวียงและตำบลทุ่งหลวง ชุมชนบ้านหนองอ้อมีเส้นทางติดต่อกับบ้านช่างคำ บ้านดอยใต้และบ้านสันมะนะ มีวัดหนองอ้อ ( เดิมชื่อว่าวัดศรีดอนชัยทรายมูล) เป็นศาสนสถานประจำหมู่บ้านประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญ คือ พระเจ้าฝนแสนห่า ได้มาจากวัดร้างสันป่าเหียง (บริเวณบ้านทุ่งน้อย ต.บ้านโป่ง)

เมืองพร้าว_resize.jpg
เมืองพร้าว_resize.jpg (115.25 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 01 ก.ย. 2019 12:10 am

น้ำตกม่อนหินไหล หมู่๙ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว. จ.เชียงใหม่
download_resize.jpg
download_resize.jpg (88.3 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติศรีลานนา ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ ๖๐ กิโลเมตร บนดอยม่อนหินไหลซึ่งเป็นสภาพภูเขาที่สูงสลับซับซ้อนสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๑,๒๐๐-๑,๗๐๐ เมตร เป็นน้ำตก ๙ ชั้น สามารถชมทิวทัศน์ของอำเภอพร้าวได้ชัดเจน จะมีปริมาณน้ำมากในเดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม มีความสวยงามทางธรรมชาติ มีความหลากหลายทางพรรณพืชและสัตว์ป่า บรรยากาศร่มเย็นและเงียบสงบน่าท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ถ้าโชคดีอาจเห็นนกเขนหัวขาวท้ายแดงอยู่บริเวณน้ำตก

ม่อนหินไหล_resize.jpg
ม่อนหินไหล_resize.jpg (140.54 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

น้ำตกผาตั้ง และวังชมภู หมู่๑๑ ต.ป่าตุ้ม อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

ผาตั้ง2.jpg
ผาตั้ง2.jpg (10.04 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง

(น้ำตกผาตั้ง)

น้ำตกผาตั้ง เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยแม่สะรวม สูง ๑ ชั้น ประมาณ ๒๐ เมตร ช่วงด้านบนน้ำตกผาตั้งเป็นน้ำตกเล็กๆ จำนวน ๒ แห่ง ตลอดทางน้ำตกจะมีโขดหินขนาดใหญ่ มีเกาะแก่งสามารถเล่นน้ำได้ตลอดสาย มีปริมาณน้ำมากในช่วงฤดูฝน เป็นน้ำตกที่มีแหล่งน้ำที่เดียวกับน้ำตกผาลาด แต่อยู่เลยขึ้นไปประมาณ ๕๐๐ เมตร ลักษณะของน้ำตกจะเป็นเนินผาตั้งขึ้นข้างบน เป็นบริเวณเล็กๆ เป็นธารน้ำรองไหลลงไปยังน้ำตกผาลาดซึ่งรองรับอยู่ด้านล่าง

วังชมภู.jpg
วังชมภู.jpg (30.3 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง

(น้ำตกวังชมภู)

อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพร้าว ประมาณ ๑๑ กม. ตามเส้นทางหลวง ๑๑๕๐ (สายพร้าว - เวียงป่าเป้า) ถึงสี่แยกบ้านต้นกออก เลี้ยวซ้าย ผ่านบ้านต้นรุง บ้านทุ่งกู่ บ้านสหกรณ์แปลงห้า ซึ่งเป็นถนน คสล. ระยะทางประมาณ ๔ กม. จากนั้นไปตามเส้นทางถนนลูกรังสายบ้านปางฟาน ระยะทางประมาณ ๘ กม.
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

Re: ที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียง

โพสต์โดย น้ำฝน ทะกลกิจ » อาทิตย์ 01 ก.ย. 2019 12:33 am

น้ำตกตาดยาว หมู่ ๙ ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
ตาดยาว4_resize.jpg
ตาดยาว4_resize.jpg (111.67 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


น้ำตกตาดยาว เกิดจากต้นน้ำตาดยาว ไหล่เป็นทางเข้าผ่านพื้นที่การเกษตร เส้นทางการเดินจากถนนหมายเลข ๑๐๐๑ สายเชียงใหม่-พร้าว ระยะทางจากองค์การบริหารส่วนตำบลแม่แวนถึงประตูผา ประมาณ ๙ กิโลเมตร

ตาดยาว2_resize.jpg
ตาดยาว2_resize.jpg (126.7 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ภาพ : Yothin Pothima

น้ำตกผาลาด ตั้งอยู่ ณ บ้านสหกรณ์แปลงห้า หมู่ ๑๑ ต.ป่าตุ้ม อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

ผาลาด1_resize.jpg
ผาลาด1_resize.jpg (154.92 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ลักษณะของน้ำตกจะเป็นเนินผาลาดลงมาข้างล่าง เป็นบริเวณกว้าง มีแอ่งน้ำรองรับด้านล่างให้ลงเล่นน้ำได้อย่างสบาย ประกอบกับบริเวณรอบๆ เป็นป่าสมบูรณ์มีต้นไม้นานาพันธุ์ขึ้นอยู่มากมาย เหมาะที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง

ผาลาด2_resize.jpg
ผาลาด2_resize.jpg (183.91 KiB) เปิดดู 46054 ครั้ง


ภาพ : อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
น้ำฝน ทะกลกิจ
นักเขียนแห่งปี
นักเขียนแห่งปี
 
โพสต์: 1111
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 30 ก.ย. 2018 1:00 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง สนทนากับคนภาษาไทย

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน

cron